ภูมิภาคโทโฮขุ กำลังเป็นที่สนใจในหมู่ของนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่มองหาสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ ในฐานะที่เราเป็นผู้หนึ่งที่เดินทางไปเยือนภูมิภาคนี้หลายครั้ง มนต์เสน่ห์ของภูมิภาคโทโฮขุไม่เคยจางหายไปเลย ความสวยงามจะแตกต่างกันไปก็แค่เพียงแต่ละช่วงเวลาเท่านั้น อีกทั้งยังสะดวกสบายด้วยเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพสู่ภูมิภาคโทโฮขุ ทำให้การเดินทางยิ่งง่ายขึ้นไปอีก

kazuno-hachimantai

สำหรับทริปนี้เราเดินทางมาเปิดประสบการณ์ใหม่กันที่ จังหวัดอะกิตะ (Akita) และ จังหวัดอิวะเตะ (Iwate) เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่มีโอกาสมาท่องเที่ยวที่จังหวัดนี้ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป เพราะเราจะไปตะลุยกับพื้นที่ใหม่ ที่แปลกและแตกต่างไปมากๆ นั่นก็คือพื้นที่ เมืองคะซุโนะ (Kazuno) จังหวัดอะกิตะ และ เมืองฮาจิมันไต (Hachimantai) จังหวัดอิวะเตะ

การเดินทาง: จากสนามบินฮาเนดะ มีเที่ยวบินของ ANA บินตรงไปลง สนามบิน Odate-Noshiro ที่จังหวัดอะคิตะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

Kazuno-Hachimantai 02


แนะนำ 16 สถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองคะซุโนะ (Kazuno) และเมืองฮาจิมันไต (Hachimantai)

[1] จุดแวะพักจอดรถ Kazuno Antler Roadside Station, เมืองคะซุโนะ จังหวัดอะกิตะ

จุดแวะพักจอดรถที่ประกอบด้วยแหล่งช้อปปิ้งของพื้นเมือง ศูนย์ทำกิจกรรมและพิพิธภัณฑ์แสดงรถเกี้ยวที่ใช้ในงานเทศกาลฮะนะวะบะยะชิ (Hanawa Bayashi)

Kazuno Antler Roadside Station 03

Kazuno Antler Roadside Station 06

แน่นอนว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง มาถึงจังหวัดอะกิตะทั้งที ห้ามพลาดมาลองทำพร้อมชิม “คิริทันโปะ” (Kiritanpo) อาหารชื่อดังที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองนี้ เป็นอาหารพื้นถิ่น นิยมทานกันในช่วงฤดูหนาว

วิธีการทานมีสองแบบคือทานคู่กับนาเบะหม้อไฟโดยใส่ลงในหม้อต้มเป็นซุป และอีกหนึ่งวิธีคือ ทานโดยการนำไปปิ้ง แล้วทาด้วยซอสมิโซะ เป็นอาหารว่าง วิธีการทำคือ นำข้าวไปตให้ละเอียดประมาณ 60 เปอร์เซน เพื่อเพิ่มความเหนียวของข้าวเจ้า ในสมัยก่อนเป็นอาหารที่นำไปทานเวลาไปหาของป่า เมื่อย่างได้ที่ แล้วนำไปทามิโซะ จากนั้นปิ้งต่ออีกประมาณ 10 วินาที อาหารชนิดนี้มีชื่อเรียกชื่อว่า มิโซะทันโปะ

Kazuno Antler Roadside Station 02

Kazuno Antler Roadside Station 01

ทานมื้อเที่ยงกันที่ห้องอาหารของ Kazuno Antler Roadside Station เมนูวันนี้มีชื่อว่า “ฮิไนจิโดริ (Hinaijidori)” ที่ติด 1 ใน 3 ของอาหารประเภทไก่ที่ขึ้นชื่อของประเทศ เป็นข้าวอบทานคู่กับซอสโชยุรสหวาน ทำจากเหล้ามิริน

Kazuno Antler Roadside Station 04

Kazuno Antler Roadside Station 05

ทานอิ่มแล้วแวะชม พิพิธภัณฑ์แสดงเกี้ยวที่ใช้ในการจัดงานมหรสพ Hanawa Bayashi งานเทศกาลที่มีประวัติเก่าแก่ ก่อตั้งมากว่า 1000 ปี อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยองค์กรยูเนสโก้ ภายในจัดแสดงเกี้ยวที่มีนำหนักประมาน 2 ตัน ใช้แรงคน 30 คนในการลาก ด้านในเกี้ยวจะมีนักดนตรีบรรเลงเพลงซึ่งแต่ละตำบลจะมีเกี้ยวแห่เป็นของตัวเอง

โดยที่เมืองคะซุโนะ งานเทศกาลจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 19-20 สิงหาคม ถือเป็น 1 ใน 3 สุดยอดมหรสพดนตรีระดับประเทศ รองจากเทศกาล Kanda Bayashi ที่โตเกียว และ Gion Bayashi ที่เกียวโต

Kazuno Antler Roadside Station 07

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : เดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน เวลา 9.00 – 18.00 น. / เดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม เวลา 09.00-17.00 น.
  • วันหยุด : เปิดให้บริการทุกวันตลอดทั้งปี
  • ค่าเข้าชม : ไม่มี / ค่าร่วมกิจกรรมทำคิริทันโปะ คนละ 300 เยน
  • การเดินทาง : โดยสารรถแท็กซี่จากสถานี Kazuno Hanawa  ใช้เวลาประมาณ 3 นาที
  • เว็บไซต์

[2] โรงแรมยุเซะ (Yuze Hotel), เมืองคะซุโนะ จังหวัดอะกิตะ

โรงแรมยุเซะ (Yuze Hotel) ตั้งอยู่ในเมืองคะซุโนะ (Kazuno) ในจังหวัดอะกิตะ ตกแต่งในสไต์ญี่ปุ่น เป็นที่พักที่เหมาะเจาะลงตัวสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวชมเมืองคะซุโนะและเมืองใกล้เคียง ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ผู้เข้าพักจึงสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ของเมืองได้โดยง่าย เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยไม่ว่าจะเป็นห้องอาหาร สปาสำหรับแช่น้ำแร่อนเซน และร้านขายของฝาก

Yuze Hotel 01

Yuze Hotel 02

Yuze Hotel 03

Yuze Hotel 04

Yuze Hotel 05

Yuze Hotel 06

Yuze Hotel 07
ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง
  • วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
  • ค่าใช้จ่าย : ราคาห้องพักเร่ิมต้น 9,800 เยน
  • การเดินทาง : จากสถานี Yuzeonsen โดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 10 นาที
  • เว็บไซต์

[3] โบราณสถานเหมืองทองคำโบราณ Osarizawa Mine, เมืองคะซุโนะ จังหวัดอะกิตะ

เหมืองทองอันมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ที่สร้างความร่ำรวยให้กับคนในพื้นที่ก่อนที่จะปิดตัวลงในปีค.ศ. 1978 โดยในสมัยก่อนชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่มีอาชีพจากการขุดเหมืองทอง เหมืองทอง Osarizawa Mine เกิดขึ้นจาก การทับถมของหิน แร่ธาตุต่างๆ น้ำและความเย็น มากกว่า 9 พันล้านปี ทำให้เกิดสายแร่ นอกจากทองคำแล้ว ภายในถ้ำเหมืองทองยังใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาไวน์และสาเก เนื่องจากภายในเหมืองมีความเย็นคงที่ตลอดทั้งปี เฉลี่ยประมาณ 13 องศา

Osarizawa Mine 01

Osarizawa Mine 02

Osarizawa Mine 03

Osarizawa Mine 04

Osarizawa Mine 05

Osarizawa Mine 06

Osarizawa Mine 07

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม เวลา 09.00 – 17.00 น. / เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม เวลา 09.00-15.30 น.
  • วันหยุด : เปิดตลอดทั้งปี
  • ค่าเข้าชม : 1000 เยน ไม่รวมค่าทำกิจกรรมหลังจากการเดินชมเหมือง
  • การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Morioka โดยสารรถบัสที่วิ่งตรงมายังเมือง Odate ลงที่ป้ายจุดจอด Kazuno-hanawa จากนั้นโดยสารรถแท๊กซี่อีก 10 นาที
  • เว็บไซต์

[4] เส้นทางธรรมชาติบ่อโคลนเดือดและบ่อน้ำพุร้อน Goshogake Onsen, เมืองคะซุโนะ จังหวัดอะกิตะ

เส้นทางธรรมชาติบ่อน้ำพุร้อนโกโชกะเคะอนเซ็น (Goshogake Onsen) ตั้งอยู่บนที่ราบสูงฮาจิมันไต (Hachimantai) ในเขตของจังหวัดอะกิตะ ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Towada-Hachimantai ที่เกิดจากการประทุของโคลนภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่ยังคงมีการระเบิดของภูเขาไฟทุกๆหลายปี  ทำให้เกิดเป็นบ่อโคลนเดือดและบ่อน้ำพุร้อน

โดยชื่อของพื้นที่ Goshogake Onsen มีความหมายว่า การละทิ้งหลังชีวิตความตาย มีที่มาจากตำนานของผู้หญิงสองคนที่มีความเกี่ยวพันกับผู้ชายคนเดียวกัน ทำให้เกิดการหึงหวง จนทำให้เกิดโศกนาฎกรรมการกระโดดลงไปในหุบเขาแห่งนรก นอกจากบ่อโคลนเดือดและบ่อน้ำพุร้อน นักท่องเที่ยวสามารถเดินเทร็กกิ้งตามเส้นทางธรรมชาติพร้อมศึกษาพันธุ์ไม้แปลกๆ ที่มีเฉพาะบนพื้นที่ราบสูงอีกหลายชนิด

Goshogake Onsen 03

Goshogake Onsen 01

Goshogake Onsen 02

Goshogake Onsen 04

Goshogake Onsen 06

Goshogake Onsen 07

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 09.00 – 16.00 น. (เข้าชมก่อนเวลา 15.00 น.)
  • วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน ยกเว้นช่วงที่เกิดการประทุของภูเขาไฟ
  • ค่าเข้าชม : 600 เยน
  • การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kazuno-Hanawa โดยสารรถบัสลงที่ป้าย Asupite Iriguchi จากนั้นเปลี่ยนรถบัสมาลงที่ Goshogake Onsen หรือจากสถานีรถไฟ Tazawako สามารถโดยสารรถบัสเพียงต่อเดียวมาลงที่ Goshogake Onsen ใช้เวลาประมาณ 110 นาที ราคา 1,840 เยน ** โดยรถบัสจะให้บริการในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์และในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ระหว่างกลางเดือนเมษายนไปถึงช่วงสิ้นเดือนตุลาคมเท่านั้น
  • เว็บไซต์

[5] สวนผลไม้ซาโตะ ชูกะ เอน (Sato Shuka – en Fruit Park), เมืองคะซุโนะ จังหวัดอะกิตะ

แวะเก็บแอ๊ปเปิ้ลสด พร้อมรับประทานกันภายในสวนผลไม้ซาโตะ ชูกะ เอน ความพิเศษของที่นี่คือ สวนแห่งนี้ได้รับการคัดเลือกจากเมืองคะซุโนะ ให้นำแอ้ปเปิ้ลของสวนนี้เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับผู้ที่ตั้งใจบริจาคภาษีท้องถิ่นให้กับเมืองนี้

Kazuno - Sato Shukaen Fruit Park 01

โดยแอ๊ปเปิ้ลของสวนแห่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ฟูจิ ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ภายในสวนยังมีแอ้ปเปิ้ลอีกหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ชินาโนะ สวีท, สายพันธุ์โอริงและสายพันธุ์โออิราเสะ โดยการเด็ดแอ้ปเปิ้ลที่ถูกวิธีนั้น มีวิธีคือการจับแล้วหักขั้วลง ห้ามหมุนหรือดึงเด็ดขาดเพราะจะทำให้ต้นเสียหาย หลักจากรับประทานเสร็จแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกแพกเกจนำผลไม้กลับบ้านไปเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย

Kazuno - Sato Shukaen Fruit Park 02

Kazuno - Sato Shukaen Fruit Park 03

Kazuno - Sato Shukaen Fruit Park 05

Kazuno - Sato Shukaen Fruit Park 04

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 08.00 -16.30 น.
  • วันหยุด : เปิดทุกวันในช่วงที่เปิดให้บริการ
  • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม / ค่าเก็บผลไม้กลับบ้านได้ 2 ผล 500 เยน 4 ผล 1000 เยน
  • การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Towada Minami โดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 5 นาที

[6] จุดแวะพักจอดรถ Yunoeki Oyu Roadside Station

จุดแวะพักจอดรถ ที่รูปร่างหน้าตาสวยงามคล้ายกับแกลอรี่แสดงงานศิลปะ ออกแบบโดย Mr. Kengo Kuma ใช้ไม้เป็นส่วนประกอบหลัก ภายในประกอบด้วย พื้นที่สันทนาการ ร้านอาหาร และร้านขายของฝากและของที่ระลึกที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนของบ่ออนเซนสำหรับแช่เท้า พร้อมวิวสนามหญ้ากว้างขวางไว้คอยให้บริการฟรีแก่นักท่องเที่ยว เพื่อใช้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจาการขับรถ

Kazuno - Oyu Roadside Station 01

Oyu Roadside Station 02

Oyu Roadside Station 04

Oyu Roadside Station 05


[7] โรงแรม Kazuno Hotel, เมืองคะซุโนะ จังหวัดอะกิตะ

ตรงข้ามกันยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมคะซุโนะ เป็นโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่ ภายในตกแต่งด้วยสวนสวย พร้อมบ่อแช่น้ำพุร้อนไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

Kazuno Hotel 01

Kazuno Hotel 04

Kazuno Hotel 02

Kazuno Hotel 03

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 09.00-18.00 น.
  • วันหยุด : เปิดตลอดทั้งปี
  • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
  • การเดินทาง : จากสถานี JR Oodate โดยสารรถไฟสาย JR Hanawa มาลงที่สถานี JR Towada Minami จากนั้นโดยสารรถแท้กซี่ มาที่โรงแรมใช้เวลาประมาณ 12 นาที
  • เว็บไซต์

[8] สตูดิโอ Appi Urushi, เมืองฮาจิมันไต จังหวัดอิวะเตะ

สตูดิโอผลิตชิ้นงานศิลปะเครื่องเขินญี่ปุ่น หรือมีชื่อเรียกว่า “อุรุชิ” (Urushi) ภายในสตูดิโอจัดแสดงขั้นตอนการผลิตเครื่องเขินญี่ปุ่น โดยการใช้ยางของต้นอุระชิ ซึ่งจะมีมากในพื้นที่ทางภาคเหนือของจังหวัดอะกิตะและในจังหวัดอิวะเตะ

Kazuno Appi Studio 09

Kazuno Appi Studio 01

ต้นยางที่จะนำน้ำยางมาใช้ได้นั้น จะต้องมีอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป โดยหนึ่งต้นยางนั้นสามารถนำน้ำยางมาใช้ได้เพียงต้นละ 180 มิลลิลิตรเท่านั้น ขั้นตอนการทำคือ นำภาชนะที่ขึ้นรูปด้วยไม้เคลือบด้วยสีเบงการะผสมกับน้ำยาง จากนั้นเคลือบเป็นจำนวน 6 ครั้ง โดยจะเคลือบแล้วปล่อยให้แห้งไปเอง ใช้เวลา 2-3 เดือนในการสร้างสรรค์แต่ละชิ้นงาน โดยที่จะไม่มีการวาดภาพใดๆ เพื่อให้เกิดความสวยงามตามธรรมชาติขึ้นเอง เสน่ห์ของเครื่องเคลือบชนิดนี้เมื่อตอนแรกพื้นผิวจะเป็นเนื้อด้าน แต่เมื่อใช้ไปเรื่อยๆพื้นผิวจะเกิดความเงาขึ้นเองตามธรรมชาติ

Kazuno Appi Studio 02

Kazuno Appi Studio 03

Kazuno Appi Studio 06

Kazuno Appi Studio 05

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 09.30 – 17.00 น.
  • วันหยุด : ปิดทุกวันจันทร์
  • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม / กิจกรรมเพ้นท์สี เริ่มต้น 2700 เยน
  • การเดินทาง : จากสถานี JR Morioka ฝั่ง West Gate โดยสารรถบัสประจำทางมุ่งหน้าไปที่สถานี Odate Ekimae ลงที่ป้าย Teletrack Ashiro ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นเดินต่อประมาณ 10-15 นาที
  • เว็บไซต์

[9] น้ำตกฟุโดะ (Fudo Waterfalls), เมืองฮาจิมันไต จังหวัดอิวะเตะ

น้ำตกฟุโดะ ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น โดยตัวน้ำตกจะตั้งอยู่ด้านหลังของศาลเจ้า Sakuramatsu Shrine ซึ่งมีความเชื่อว่าที่นี่เป็นศาลเจ้าและน้ำตกที่ผู้คนมักจะมาขอคู่ เนื่องมาจากบริเวณด้านหน้าทางเข้าของศาลเจ้านั้น เป็นที่ตั้งของต้นไม้สองต้นที่ขึ้นอยู่ใกล้ๆกันแล้วรวมกันจนเป็นหนึ่งเดียว น้ำตกแห่งนี้ยังได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ภายในน้ำตกจะพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม แดง ตามลำดับ

Kazuno Fudo 01

Kazuno Fudo 02

Kazuno Fudo 03

Kazuno Fudo 04

Kazuno Fudo 05

Kazuno Fudo 06

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : เปิดตลอดเวลา
  • วันหยุด : เปิดตลอดทั้งปี
  • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
  • การเดินทาง : จากสถานี JR Arayashimmachi โดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 15 นาที
  • เว็บไซต์

[10] ร้านเต้าหู้ Fusetsuka, เมืองฮาจิมันไต จังหวัดอิวะเตะ

ร้านขายเต้าหู้แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1999 ผลิตสินค้ามากมายที่ทำมากจากถั่ว โดยผลิตภัณฑ์หลักๆของร้านจะเป็นเต้าหู้สด ซึ่งผลิตแบบสดใหม่กันทุกๆวัน นอกจากนั้นยังมี น้ำเต้าหู้เชค ไอศกรีมน้ำเต้าหู้ พุดดิ้งเต้าหู้ และเบเกอรี่ที่ทำจากเต้าหู้ไม่ว่าจะเป็นวาฟเฟิลและโดนัท

Fusetsuka 01

Fusetsuka 02

Fusetsuka 03

Fusetsuka 04

Fusetsuka 05

Fusetsuka 06

Fusetsuka 07

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 10.00 – 18.00 น.(ช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์) และ 10.00 – 17.30 น.(ตลอดปี)
  • วันหยุด : เปิดทุกวัน
  • ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
  • การเดินทาง : จากสถานี Morioka โดยสารรถไฟสาย Iwate Ginga Tetsudo ลงที่สถานี Koma จากนั้นโดยสารรถไฟสาย JR Hanawa มาลงที่สถานี Koyanohata เดินต่อประมาณ 3-5 นาที
  • เว็บไซต์

[11] โรงเรียนธรรมชาติ Appi และโรงแรม Appi Grand, เมืองฮาจิมันไต จังหวัดอิวะเตะ

พื้นที่ขนาดใหญ่ท่ามกลางธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรงแรม Appi Grand ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมมากมายของโรงแรมได้ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมตีกอล์ฟ เล่นสกี เดินเทร็คกิ้งศึกษาธรรมชาติ นั่งกระเช้ากอนโดล่าไปชมใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมชมทะเลหมอกยามเช้า หรือจะแช่น้ำพุร้อนอนเซนที่ส่วนของสปาที่โรงแรม

Kazuno Appi 07

โรงแรม Appi Grand ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 1000 ห้อง รวมทั้งสิ้น 6 อาคาร อีกทั้งยังมีลานสกี 31 จุดเล่นสกี และลิฟท์กระเช้าสำหรับเล่นสกีให้บริการถึง 24 ตัว ข้อดีของลานสกีแห่งนี้คือคุณภาพหิมะที่มีความละเอียดมากเหมาะสมกับการเล่นสกี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม เดินสโนว์ชูส์ สโนว์โมบิลสำหรับผู้ใหญ่และคอร์สสั้นๆ

Kazuno Appi 04

Kazuno Appi 05

สำหรับใครเป็นสายรักธรรมชาติแนะนำว่าห้ามพลาดกิจกรรมเดินชมป่าต้น Beech จัดโดยโรงเรียนธรรมชาติ Appi นอกจากจะได้ความเพลิดเพลินยังได้ศึกษาธรรมชาติของพื้นที่ราบสูง ไม่ว่าจะเป็นพืชพันธุ์ไม้นานาชนิด รวมถึงสัตว์ต่างๆอีกด้วย อาทิตัว Tohoku Salamander ซึ่งจะสามารถพบเห็นได้ในบริเวณพื้นที่นี้เท่านั้น

Kazuno Appi 02

Kazuno Appi 01

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : กระเช้ากอนโดล่า เปิดทำการเวลา 06.30 – 07.45 น.ในช่วงเช้า โดยจะให้บริการช่วงวันที่ 29 เมษายน – 5 พฤศจิกายน
  • วันหยุด : เปิดให้บริการทุกวันช่วงวันที่ 29 เมษายน – 5 พฤศจิกายน
  • ค่าเข้าชม : 1,000 -1,500 เยน (สำรองที่นั่งล่วงหน้า 1 วันก่อนเวลา 17.00 น.)
  • การเดินทาง : จากสถานี Morioka นั่งรถไฟสาย JR Hanawa ลงสถานี Appi Kogen ประมาณ 1 ชั่วโมง (จากสถานี Appi Kogen จะมีรถรับส่งของโรงแรมฟรี แต่ต้องจองล่วงหน้า)
  • เว็บไซต์

[12] สตูดิโอย้อมผ้า Hachimantai Geothermal Dyeing, เมืองฮาจิมันไต จังหวัดอิวะเตะ

สตูดิโอย้อมผ้าบาติก ที่ใช้ทักษะการผสมสีโดยใช้หลักของแม่สี เป็นความสนุกสนานอีกอย่างในการย้อมผ้า โดยแต่ละครั้ง ในการจุ่มผ้าลงไปในสีแต่ละสี ผู้ทำจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าชิ้นงานของตนจะออกมาเป็นรูปแบบใด หลังจากขั้นตอนการผสมสีเรียบร้อย จะนำไปอบด้วยความไอร้อน 100 องศา เป็นเวลา 20 นาที โดยกรรมวิธีการย้อมสีผ้าแบบ Geothermal Dyeing ที่มีเพียงสตูดิโอแห่งนี้ที่เดียวในโลก ที่ใช้กรรมวิธีเปลี่ยนพลังงานความร้อนจากใต้พื้นพิภพมาใช้เป็นตัวกลางในการย้อมผ้า

Hachimantai - Geothermal Dyeing 01

Hachimantai - Geothermal Dyeing 02

Hachimantai - Geothermal Dyeing 03

Hachimantai - Geothermal Dyeing 04

Hachimantai - Geothermal Dyeing 05

โดยคุณ Kazuyuki Takahashi ตัวศิลปินผู้ย้อมผ้านั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและสิ่งต่างๆรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ ต้นไม้ สัตว์ หรือจะเป็นฤดูกาล นำมารังสรรค์ผลงานบนผืนผ้าให้เกิดเป็นงานศิลปะ

Hachimantai - Geothermal Dyeing 06

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : 08.30 – 17.30 น.
  • วันหยุด : เช็คได้จากหน้าเว็บเพจและทางเว็บไซต์
  • ค่าเข้าชม : กิจกรรมย้อมผ้า เซทผ้าเช็ดหน้า ราคา 2,500 เยน (ไม่รวมภาษี) / เซทผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ + ผืนเล็ก 3,500 เยน (ไม่รวมภาษี)
  • การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Morioka ฝั่ง East Gate โดยสารรถบัสประจำทางสาย A12 มุ่งหน้าไป Matsukawa Onsen ลงที่ป้าย Shofusou-guchi ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที  จากนั้นเดินต่อประมาณ 2-5 นาที
  • เว็บไซต์
  • ติดต่อเข้าร่วมกิจกรรมล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 1 วัน ทาง Facebook : @geocolor.hachimantai / Email : geocolor@basil.ocn.ne.jp

[13] ร้านอาหาร LAMP, เมืองฮาจิมันไต จังหวัดอิวะเตะ

แวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน LAMP ร้านอาหารขนาดเล็ก แต่อัดแน่นไปด้วยเมนูมากมายหลากหลาย ตั้งแต่สเต็ก สปาเก็ตตี้ ข้าวแกงกะหรี่ เซทอาหารกลางวัน แต่ที่พลาดไม่ได้ แนะนำว่าชีสเค้กสดของร้านนี้ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

Hachimantai -Lamp 01

Hachimantai -Lamp 02

Hachimantai -Lamp 03

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : เปิดให้บริการเป็นสองช่วงเวลา โดยมื้อกลางวันจะเริ่มตั้งแต่เวลา 11.00 – 14.30 น. และมื้อเย็นจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.30 – 20.30 น.
  • วันหยุด : ปิดวันอาทิตย์เฉพาะช่วงเย็น
  • ค่าใช้จ่าย : อาหารเริ่มต้นที่ 1000 เยน
  • การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Morioka ฝั่ง East Gate โดยสารรถบัสประจำทางสาย A12 มุ่งหน้าไปที่ Matsukawa Onsen ลงที่ป้าย Kashiwadai ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที  จากนั้นเดินต่อประมาณ 2-5 นาที
  • เว็บไซต์

[14] เส้นทางขับรถชมวิว Hachimantai Aspite Line, เมืองฮาจิมันไต จังหวัดอิวะเตะ

เส้นทางขับรถชมวิว Hachimantai Aspite Line นี้มีความยาวกว่า 47.2 กม.ทอดผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติ Towada-Hachimantai ในจังหวัดอะกิตะและจังหวัดอิวะเตะ และช่วงปลายเดือนเมษายนเป็นต้นไป พื้นที่บริเวณนี้จะเปิดเป็นจุดชมวิวกำแพงหิมะที่ความยาวกว่า 9.8 กม. ส่วนช่วงฤดูกาลอื่นๆ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมทัศนียภาพอันสวยงามของเส้นทาง Hachimantai Aspite Line แตกต่างไปตามแต่ฤดูกาล

Kazuno Hachimantai Aspite Line 01

Kazuno Hachimantai Aspite Line 02

Kazuno Hachimantai Aspite Line 03

Kazuno Hachimantai Aspite Line 04

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : เปิดตลอดเวลา ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
  • วันหยุด : ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนเมษายน
  • ค่าเข้าชม : ไม่มี
  • การเดินทาง :
    – จากสถานีรถไฟ Tazawako โดยสารรถบัส ราคา 2,050 เยนต่อเที่ยว เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน โดยรถบัสอาจจะมีการหยุดให้บริการได้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ สามารถตรวจสอบก่อนเดินทางได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเทียวที่สถานีรถไฟ Tazawako
    – จากสถานีรถไฟ Morioka บริเวณฝั่ง East Exit หมายเลข 3 โดยสารรถบัสสาย Morioka-Hachimantai Line (หยุดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป) ลงที่ป้าย Hachimantai Chojo ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที
  • เว็บไซต์

[15] ธารลาวาบนภูเขา Iwate “Yakehashiri” Lava flow, เมืองฮาจิมันไต จังหวัดอิวะเตะ

ภูเขาอิวะเตะ (Mt.Iwate) มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Ganju-san มีรูปทรงคล้ายกับภูเขา ไฟฟูจิ หรือ Kofuji “Little Fuji” ตั้งอยู่บริเวณทางตอนเหนือของเทือกเขาโออุ (Ou) อีกทั้งยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ของภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น บนระดับความสูง 2038 เมตรเหนือจากระดับน้ำทะเล

Yakehashiri Lava flow 05

Yakehashiri Lava flow 04

ในช่วงระหว่าง ปีค.ศ.1686 -1934 ภูเขาอิวะเตะเกิดระเบิดขึ้นหลายครั้ง แต่ความแตกต่างของการระเบิดนั้น เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟด้านข้าง ซึ่งเป็นภูเขาไฟขนาดเล็กที่ติดอยู่กับของภูเขาไฟหลักทำให้เกิดเป็นธารลาวาของภูเขาอิวะเตะ “Yakehashiri” ทำให้เกิดเป็นลานหินสีดำ แผ่ปกคลุมออกไปเป็นบริเวณกว้าง กว่า 1 กิโลเมตรและมีความยาวถึง 3 กิโลเมตร

Yakehashiri Lava flow 01

Yakehashiri Lava flow 02

ที่ราบสูงหินขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อภูเขาอิวาเตะเกิดการปะทุ และลาวาเผาไหม้กลายเป็นบริเวณกว้างที่ด้านข้างของภูเขา ถูกตั้งให้เป็นอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติพิเศษของประเทศญี่ปุ่น ธารลาวานี้มีความสูง 550 – 1200 เมตรเหนือจากระดับน้ำทะเล  นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม Yakehashiri ได้ตลอดทั้งปี ยกเว้นในช่วงฤดูหิมะ

Yakehashiri Lava flow 03

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : เปิดตลอดเวลา
  • วันหยุด : เปิดทุกวันตลอดทั้งปี ยกเว้นช่วงฤดูหิมะ
  • ค่าเข้าชม : ไม่มี
  • การเดินทาง :
    -โดยสารรถไฟสาย JR Hanawa ลงที่สถานี Obuke จากนั้นโดยสารรถแท๊กซี่ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
    – จากสถานีรถไฟ Morioka บริเวณฝั่ง East Exit หมายเลข 3 โดยสารรถบัสสาย Morioka-Hachimantai Line (หยุดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป) ลงที่สถานี Obuke ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นโดยสารรถแท้กซี่ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
  • เว็บไซต์

[16] Salad Farm, เมืองฮาจิมันไต จังหวัดอิวะเตะ

แวะทานอาหารกลางวันกันที่ Salad Farm ฟาร์มขนาดใหญ่ ตั้งโดดเด่นโดยมีเทือกเขาอิวาเตะเป็นฉากหลัง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับสวนดอกไม้ เล่นกับสัตว์น่ารัก อาทิ อัลปาก้าและกระต่าย อีกทั้งยังมีกิจกรรมนั่งรถวิบากสุดระทึก ภายในฟาร์มมีทั้งร้านอาหารและร้านขายของฝากและอุปกรณ์ทำสวน โดยเมนูส่วนใหญ่ของร้านอาหารจะมาจากไข่ออแกนิก ในช่วงตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน นักท่องเที่ยวยังสามารถสนุกสนานไปกับเก็บผลสตรอเบอร์รี่ หรือจะช้อปปิ้งซื้อของฝากที่ระลึกได้อีกด้วย

Salad Farm 01

Salad Farm 02

Salad Farm 03

Salad Farm 04

Salad Farm 05

Salad Farm 06

Salad Farm 07

Salad Farm 08

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เวลาทำการ : ตั้งแต่ 08.00 – 17.00 น. ให้บริการตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน – ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
  • วันหยุด : ปิดทำการตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายนเป็นต้นไปในช่วงฤดูหนาวจนถึงต้นเดือนเมษายน
  • ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็กต่ำกว่ามัธยมต้น  ไม่เสียค่าเข้าชม
  • การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Morioka ฝั่ง East โดยสารรถบัสประจำทางสาย A13 มุ่งหน้าไปที่ Hachimantai Mountain Hotel ลงที่ป้าย OOBUKE Bus Stop ใช้เวลาประมาณ 50 นาที  จากนั้นโดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 10 นาที
  • เว็บไซต์