จังหวัดฟุคุชิมะ อีกหนึ่งเพชรเม็ดงามของภูมิภาคโทโฮขุ จังหวัดนี้ยังมีสถานที่สวยๆ ที่น่าสนใจให้เราออกเดินทางไปค้นพบอีกมากมาย อย่างที่เราทราบกันดีว่า แม้ฟุคุชิมะจะประสบกับภัยพิบัติสึนามิและแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง แต่คนที่นี่บอกกับเราว่าพวกเค้ากำลังฟื้นตัวและพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
วันนี้เราอยากจะแบ่งปันจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่นอกจากจะมีทัศนียภาพที่สวยงามแล้ว ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีหลักอย่างสถานี Koriyama อีกด้วย
สวน Nanko Park
สวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นหรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่ากันว่า “สวนสน” ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมความงดงามของธรรมชาติได้แทบจะทุกฤดู โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ทัศนียภาพของสวนแห่งนี้จะถูกเปลี่ยนไปเป็นสีส้ม แดงสลับกันไปของต้นเมเปิ้ล และอีกสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเยือนที่สวนแห่งนี้ก็คือ การได้มาลิ้มรส “นังโกะดังโงะ” แสนอร่อยที่เป็นอีกหนึ่งของขึ้นชื่อของเมืองนี้
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Koriyama นั่งชิงกันเซ็นมาลงที่สถานี Shin-Shirakawa ก่อนต่อรถ JR Bus จาก Shinshirakawa-eki Bus Stop ไปลงที่ Nanko Kouen ใช้เวลา 7 นาที ค่ารถบัส 175 เยนต่อเที่ยว (ผู้โดยสารที่ถือบัตร JR Pass ขึ้นฟรี) >> พิกัด
ปราสาท Komine
ปราสาท Komine ตั้งอยู่ที่เมืองชิราคาวะ (Shirakawa) ปราสาทเก่าแก่แห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1340 เพื่อเป็นที่อยู่ไดเมียวในสมัยก่อนมาเป็นเวลากว่า 7 ตระกูล ภายหลังตกอยู่ใต้การควบคุมของรัฐบาลโชกุนก่อนเกิดสงครามโบชิน ทำให้ปราสาทแห่งนี้ถูกทำลายลงในปีค.ศ. 1868 จากนั้นได้มีการบูรณะหอคอยสามชั้นและประตูมาเอโกะขึ้นมาใหม่โดยใช้ภาพวาดสมัยเอโดะเป็นต้นแบบในการสร้าง จนกระทั่งในปีค.ศ. 2010 สิ่งก่อสร้างนี้ได้รับการประกาศให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Koriyama โดยสารรถไฟสาย JR Tohoku ลงที่สถานี Shirakawa และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที >> พิกัด
หมู่บ้านน้ำพุร้อน Bandai Atami Onsen
หมู่บ้านน้ำพุร้อน Bandai Atami Onsen โด่งดังและมีชื่อเสียงมาจากตำนานของเจ้าหญิงฮากิ ผู้พลิกฟื้นจากโรคที่รักษาไม่หายจนกระทั่งอาการดีขึ้น ด้วยการแช่อนเซนที่ Bandai Atami onsen ด้วยคุณสมบัติจากน้ำแร่ธรรมชาติ ที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวให้อ่อนนุ่ม ผ่อนคลายจากความเมื่อยล้า และยังรักษาโรคต่างๆได้อีกมากมาย
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Koriyama โดยสารรถไฟสาย JR Ban-estu ลงที่สถานี Bandai Atami ใช้เวลาประมาณ 13 นาที >> พิกัด
สวนรอบบริเวณซากปราสาท Nihommatsu
สวนรอบบริเวณซากปราสาท Nihommatsu หรือมีอีกชื่อเรียกว่าปราสาท Kasumiga ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางค.ศ.1600 ซึ่งสร้างขึ้นมาจากปราสาทหลังเก่า ได้รับการบันทึกให้เป็นหนึ่งในปราสาท 100 ปราสาทที่สวยงามของญี่ปุ่น สวนสวยแห่งนี้ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะมีต้นซากุระเบ่งบานทั่วทั้งเขา แต่ถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะได้เจอกับฝูงต้นโมมิจิหรือเมเปิล สลับสีสันแดงส้มเหลือง ที่เห็นแล้วรับรองต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Koriyama โดยสารรถไฟมาลงสถานี Nihommatsu จากนั้นต่อรถบัสหน้าสถานี Nihommatsu ไปลง Kasukigajo Kouen (ค่ารถบัส 220 เยนต่อเที่ยว สามารถสอบถามและรับตารางเวลารถบัสได้ที่ Tourist Information Center ภายในสถานี Nihommatsu) หรือแท๊กซี่ (ราคาประมาณ 690 เยน) อีกประมาณ 5 นาที >> พิกัด
สวน Janohana Park
เมืองประวัติศาสตร์ Janohana อีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยม ที่บรรดานักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาชมความสวยงามได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน สถานที่แห่งนี้ก็พร้อมจะต้อนรับทุกคนด้วยดอกไม้ พรรณไม้นานาชนิดหลากหลายสายพันธุ์ และอีกหนึ่งช่วงที่ได้รับความนิยมที่สุด คงจะหนีไม่พ้นฤดูใบไม้ร่วงหรือใบไม้เปลี่ยนสีนั่นเอง โดยความพิเศษของสวนแห่งนี้ คือราคาค่าเข้าชมสวนเพียง 700 เยน แต่สามารถเดินทางมาชมสวนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งภายใน 1 ปี
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Koriyama โดยสารรถไฟมาลงสถานี Motomiya จากนั้นนั่งแท็กซี่อีก 8 นาที (ค่ารถแท็กซี่ประมาณ 1230 เยน) >> พิกัด
