สำหรับรีวิวที่สอง ต่อจากคราวที่แล้วที่เราได้แนะนำหมู่บ้านออนเซนในเมือง Kaga ไปแล้ว วันนี้จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของเมืองแห่งนี้กันบ้าง ตามไปเที่ยวด้วยกันเลยครับ
Ishikawa – Kaga Onsen เมืองน้ำพุร้อนศักดิ์สิทธิ์ ใกล้เมือง Kanazawa
วิธีการเดินทาง จากโตเกียว สามารถเดินทางไปได้สะดวกมากขึ้น ด้วยรถไฟชิงคังเซ็นสายใหม่ล่าสุด Hokuriku Shinkansen ตั้งต้นที่สถานี Tokyo มาลงที่สถานี JR Kanazawa หลังจากนั้นต่อรถไฟ Limited Express Shirasagi ไปยังสถานี JR Kagaonsen รวมใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง
หรือหากใครจะเดินทางมาจากโอซาก้า สามารถขึ้นรถไฟ JR ขบวน Limited Express Thunderbird วิ่งตรงมายังสถานี Kagaonsen ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเศษเท่านั้น
สำหรับการเดินทางภายในเมือง Kaga นั้น มีรถ CANBUS ให้บริการ โดยจะวิ่งวนเป็นทางเดียวไปตามเส้นทางที่มีแหล่งท่องเที่ยวของเมืองตั้งอยู่ เริ่มต้นที่สถานี JR Kaga Onsen/ Abio City Kaga/ Kaga City Art Museum และวนมาจบที่สถานีเดิม แบ่งเส้นการเดินทางรถเป็นสองเส้นด้วยกัน คือ Interior Route และ Coastal Route โดยจะมีอีกหนึ่งเส้นพิเศษที่เดินทางมาจากสนามบิน Komatsu
ตั๋วโดยสารเป็นแบบ 1 day pass ราคา 1000 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 500 เยน สำหรับเด็ก และ 2 day pass ราคา 1200 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 600 เยน สำหรับเด็ก นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นลงรถกี่เที่ยวก็ได้
เริ่มต้นทริปของวันด้วยการไปเยี่ยมชม ศูนย์จัดแสดงเครื่องสังคโลกโบราณที่ Kutaniyaki Kamaato Tenjikan ซึ่งยังคงมีการผลิตต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ณ ที่แห่งนี้เองเป็นที่ตั้งของเตาเผาเครื่องสังคโลกโบราณขนาดใหญ่มีอายุมากกว่า 180 ปีมาแล้ว ภายในแบ่งการจัดแสดงเป็นหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นโซนเตาเผาอายุกว่า 180 ปี และ ห้องจัดแสดงเครื่องถ้วยชามต่างๆ
นอกจากทำการจัดแสดงถ้วยชามโบราณต่างๆมากกว่า 1,000 ชิ้น ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมเวิร์คช้อปผลิตถ้วยชาม และสามารถนำ กลับบ้านเป็นที่ระลึกอีกด้วย
วิธีการเดินทาง : นั่ง CANBUS สาย Interior Route ลงที่ป้าย 6a Ancient Kutani Kiln Exhibition Center
เวลาทำการ : 09.00-17.00 (last entry 16.30) ปิดทุกวันอังคาร และวันที่ 31 ธ.ค. และ 1 ม.ค.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 310 เยน ผู้สูงอายุ (อายุ 75 ปีขึ้นไป) 150 เยน เด็กเข้าใช้บริการฟรี
เว็บไซต์เพิ่มเติม : http://www.kagacable.ne.jp/kamaato/
สถานที่ต่อไปเป็นสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจมากเนื่องจากเป็นประเพณีที่มีเฉพาะในเมือง Kaga แห่งนี้ที่เดียวเท่านั้น คือการได้เข้าชมประเพณีการล่าเป็ดป่าสายพันธุ์ “Sakaami-gamo” โดยใช้วิธีการล่าแบบโบราณที่ตกทอดกันมาหลายชั่วอายุคนเรียกว่า “Sakaami-ryo” โดยเกมการล่าเป็ดป่า ณ บึง Katano-Kamoike นี้ได้รับการบันทึกใน The Ramsar Convention List ว่าเป็น “เกมการล่า” ที่ยอดเยี่ยมที่สุด
วิธีการล่าเป็ดป่าสายพันธุ์ Sakaami-gamo เป็นประเพณีการล่าที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ ได้รับการเล่าขานว่าเป็นวิธีการฝึกทดสอบของเหล่าบรรดาซามูไรในอดีต โดยใช้เพียงแค่เครื่องมือการจับรูปร่างสามเหลี่ยมเหวี่ยงออกไปเพื่อจับเป็ด ผู้ที่จะจับได้ต้องอาศัยประสบการณ์และความรู้ในการล่าอย่างมาก
ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมการล่าที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกหาที่ใดเหมือน เป็ดป่าจะถูกล่าในช่วงเช้าตรู่ก่อนที่เป็ดจะไปหาอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้มีการตกค้างของอาหารภายในระบบย่อยของเป็ดหรือมีการย่อยอาหารภายในระบบอวัยวะ ซึ่งวิธีการล่าแบบนี้มีความพิเศษที่จะล่าโดยที่เป็ดไม่เกิดอาการบาดเจ็บและมีเลือดออกเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งจะทำให้เนื้อของเป็ดไม่เหนียวและมีกลิ่นคาวของเลือด ซึ่งไม่เหมือนวิธีการล่าเป็ดด้วยปืนไรเฟิล
วิธีการล่าแบบนี้จะจำกัดพื้นที่และช่วงเวลาการล่าเพียง 3 เดือนในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น และจะมีการจำกัดจำนวนเพียง 200 ตัวเท่านั้น จึงเป็นเหตุผลที่เนื้อเป็ดป่าสายพันธุ์ Sakaami-gamo จึงหายากเป็นที่ต้องการบริโภคและมีราคาที่สูงมาก
ในเมือง Kaga แห่งนี้ปัจจุบันมีเพียง 2 ภัตตาคารเท่านั้น ที่มีความสามารถพิเศษในการปรุงอาหารโดยใช้เนื้อเป็ดชนิดนี้
ซึ่งทางแอดมินได้มีโอกาสได้รับเชิญให้ไปดูการล่าเป็ด ซึ่งมีข้อปฎิบัติในการเข้าชมดังนี้ คือ
– ต้องสวมเสื้อสีมืดเท่านั้น
– ห้ามใส่น้ำหอมหรือสเปรย์ฉีดผมต่างๆที่มีกลิ่นฉุนรุนแรง
– งดใช้แฟลชในการถ่ายภาพ และ งดเว้นการใช้อุปกรณ์ที่ทำให้เกิดแสงและเสียง
– ขณะเข้าชมต้องสวมรองเท้าบูทที่จัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น
วิธีการเดินทาง : นั่ง CANBUS สาย Coastal Route ลงที่ป้าย 17 Kamoike Observation Center
เวลาทำการ : 09.00-17.00 (last entry 16.30)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 310 เยน ผู้สูงอายุ (อายุ 75 ปีขึ้นไป) 150 เยน เด็กเข้าใช้บริการฟรี
เว็บไซต์ : http://www.wbsj.org/sanctuary/Kamoike/index.html
หลังจากชมการล่าเป็ดป่าเรียบร้อย เราเดินทางกันไปต่อที่ พิพิธภัณฑ์ Nakaya Ukichiro Museum of Snow and Ice สร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับหิมะและน้ำแข็ง Nakaya Ukichiro ผู้มีความหลงใหลในความสวยงามของหิมะและน้ำแข็ง
ด้อกเตอร์ Nakaya เริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับผลึกของหิมะที่มหาวิทยาลัยฮอกไกโด จนกระทั่งสามารถผลิตผลึกหิมะเทียม และเป็นผู้ศึกษาและค้นพบเกี่ยวกับรูปร่างและรูปทรงต่างๆของผลึกหิมะอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบไปด้วยห้องฉายหนัง ภาพถ่าย ห้องจัดแสดงผลงานของท่านด้อกเตอร์ Nakaya ตัวอย่างรูปแบบของผลึกหิมะ รวมถึงห้องแล็ปผลิตผลึกหิมะเทียม
วิธีการเดินทาง : นั่ง CANBUS สาย Coastal Route
ลงที่ป้าย 24 Nakaya Ukichiro Museum of Snow and Ice
เวลาทำการ : 09.00-17.00 (last entry 16.30) ปิดทำการทุกวันพุธ และวันหยุดช่วงปีใหม่
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน ผู้สูงอายุ (อายุ 70 ปีขึ้นไป) 250 เยน เด็กเข้าใช้บริการฟรี
เว็บไซต์ : http://kagashi-ss.co.jp/yuki-mus/yuki_home/
จากนั้นไปกันต่อที่ Yamanaga Lacquerware สถานที่ผลิตข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ผลิตด้วยไม้และลงแล็กเกอร์หลังจากนั้นวาดลวดลายเพื่อให้เกิดเป็นศิลปะมีลวดลายที่สวยงามด้วยมือ มีประวัติการผลิตที่ยาวนานมากว่า 450 ปีหรือในช่วงยุคสมัย เอโดะ (1603-1867) หรือในสมัยช่วงศตวรรษที่ 16
โดยมีขั้นตอนการผลิต 4 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
– Wooden Bases คือขั้นตอนการเหลาไม้ให้เป็นรูปทรงภาชนะต่างๆตามต้องการ
– Priming คือขั้นตอนการเตรียมภาชนะให้เกลี้ยงเกลาเพื่อไปสู่ขั้นตอนต่อไป
– Coating คือขั้นตอนการลงสีภาชนะเก็บรายละเอียดต่าง
– Lacquer Painting คือขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญมากคือการวาดลวดลาย ลงเส้นสีต่างๆเพื่อให้เกิดความสวยงามและสร้างมูลค่าให้กับภาชนะ
วิธีการเดินทาง : นั่ง CANBUS สาย Interior Route ลงที่ป้าย 1 Yamanaka Urushi-za
เวลาทำการ : 09.00-17.00 (last entry 16.30) ปิดทำการช่วงเทศกาลปีใหม่
ค่าเข้าชม : ฟรี
เว็บไซต์ : http://www.kaga-tv.com/yamanaka
เครดิตภาพ : http://www.jpn-concierge.com/discovery/3347
สำหรับสถานที่สุดท้ายสำหรับวันนี้ที่เราได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตสาเกชื่อดังของเมือง Kaga ที่โรงงาน Jyokigen โรงงานผลิตสาเกแห่งนี้ก่อตั้งแต่ปี 1819 เริ่มต้นโดยก่อตั้งเป็นกิจการนายหน้าค้าขายข้าวและชาเขียว และหลังจากนั้นหนึ่งปีก็เริ่มผลิตสาเกภายใต้ชื่อ Jyokiken ผลิตสาเกที่มีคุณภาพ
โดยมีผลิตภัณฑ์สาเกจากข้าว 100%, Kaga Gohyakumangoku, Yamadanishiki, Miyamanishiki และน้ำแร่บริสุทธิ์จากเทือกเขา Mt.Hakusan ในตำนาน ซึ่งสาเก “Well of Hakusui” ได้รับรางวัลอันดับที่ 1 ของการประกวด National New Sake Awards อีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติม >> Jokigen