Huis Ten Bosch ハウステンボス (อ่านว่า เฮาส เทน บอช) เป็นภาษาดัตช์ มีความหมายว่า House In The Forest เป็น Holland-Style Theme Park หลายคนคงมีคำถามว่า ทำไมต้องเป็นฮอลแลนด์? และทำไมต้องที่นางาซากิ? ถ้างั้นเราไปเที่ยวพร้อมกับหาคำตอบไปด้วยกันเลยดีกว่า
Huis Ten Bosch ตั้งอยู่ในเมือง Sasebo จังหวัด Nagasaki สามารถเดินทางได้โดยตรงทั้งจากสถานี Hakata และสถานี Nagasaki โดยถ้าจะเดินทางจากสถานี Hakata ขึ้นรถไฟสาย JR Limited Express “Huis Ten Bosch” ใช้เวลาประมาณ 1.40 ช.ม. จากสถานี Nagasaki ขึ้นรถไฟสาย JR Express “Seaside Liner” ใช้เวลลา 1.30 ช.ม. หรือสามารถนั่งเรือ High Speed Ferry มาได้ถ้าเดินทางมาจากสนามบิน Nagasaki ใช้เวลา 50 นาที
จากประวัติศาสตร์ของเมืองที่เราพอจะรู้กันมาบ้างว่า ญี่ปุ่นปิดประเทศ และ ให้นางาซากิเป็นเมืองเดียวที่เปิดทำการค้ากับชาวต่างชาติ และชาวดัตช์เองก็มีบทบาททางการค้าอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 16-17 นางาซากิในสมัยนั้นจึง รุ่งเรืองสูงสุดในยุคสมัยเมจิ ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงความสัมพันธ์ที่ดี ของทั้งสองประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และด้วยแรงสนับสนุน จากรัฐบาลของทัั้งสองฝ่าย จึงทำให้เกิด Project สร้างที่แห่งนี้ขึ้ เมื่อ 25 มีนาคม 1992 ในช่วงแรกได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ต่อมาด้วยจำนวนคนที่เข้าชมลดลง ทำให้ปิดตัวไปในปี 2003 และ กลับมาดูแลโดยนายทุนรายใหม่ อัดฉีดเงินทำการปรับปรุงครั้งใหญ่ถึง 2 พันล้านเยน ทำให้ HTB แห่งนี้กลับมามีชีวิต และเปิดให้บริการอีกครั้งในปี 2010 ที่ผ่านมา
| ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) | ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) | เด็กนักเรียน | เด็กเล็ก (4 – 6 ขวบ) |
---|---|---|---|---|
| 5,900 เยน | 6,400 เยน | 5,400 เยน | 4,000 เยน |
| 4,300 เยน | 4,800 เยน | 4,000 เยน | 3,100 เยน |
วิธีการเที่ยวที่นี่ คือ การเดินชมวิวที่ทำให้รู้สึกว่าราวกับอยู่ในยุโรปจริงๆ ทุกอย่างสร้างไว้อย่างเนี้ยบมาก ตึกแต่ละตึกที่จัดโชว์ก็รวบรวมของสวยๆมาไว้มากมาย มีของสะสมน่ารักๆอย่าง Teddy Bear Museum ที่รวบรวมเจ้าหมีเทดดี้สุดน่ารักมากกว่า 1,500 ตัว บางตัวมีอายุเป็นร้อยปีเลย หรือใครที่ชอบงาน Glasswork ก็สามารถชม Chandelier ที่มีความงดงามติดระดับโลกได้ที่ Glass Museum
กังหันลมอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของที่ Huis Ten Bsch คู่กับ Hotel Okura JR Huis Ten Bosch อยากลองมาพักที่นี่สักครั้ง~
ดอกทิวลิปกำลังเบ่งบานอย่างเต็มที่ ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูเหมือนอยู่ที่เนเธอร์แลนด์มากขึ้น ^^
บรรยากาศโดยรอบๆ
ยังมีอีกหลายจุดที่ควรแวะ ไม่ว่าจะเป็น 5D Miracle Tour, IFX Theatre Kirara, ชึ้นชิงช้าสวรรค์ที่ CLARTE White Ferris Wheel, หรือจะนั่งเรือล่องแม่น้ำชมวิวทั่วทั้งธีมพาร์ค ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาของแต่ละคน เพราะเวลาการแสดงของแต่ละจุด จะมีรอบที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา อันไหนที่เปิดให้เข้าชมพอดี ให้เข้าไปดูอันนั้นก่อน แล้วค่อยกลับมาตามดูอันที่เราต้องการ ไม่อย่างนั้นเสียเวลารอนานเป็น 15-20 นาที
เดินชมดอกทิวลิปที่ Dome Tower สามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ แต่คนต่อคิวค่อนข้างเยอะ ต้องเผื่อเวลาหน่อย
(หลังจากนี้เราก็ไปล่องเรือโจรสลัด ONEPIECE ‘Thousand Sunny’ กัน ตามไปอ่านในอีกรีวิวกันได้)
เผลอแป้บเดียว เวลาก็ผ่านไปไว จนตอนนี้ฟ้าใกล้มืดแล้ว ยังเหลืออีกหนึ่งโซนที่ยังไม่ได้เดิน นั่นก็คือ Thriller Zone บ้านผีสิงสไตล์ฝรั่งผสมญี่ปุ่น จะน่ากลัวแค่ไหน เก็บเอาไว้ลอง ตอนดึกๆแบบนี้ก็ให้บรรยากาศขนลุกดี ตอนแรกคิดว่าจะน่ากลัวแบบเบาะๆ เพราะเห็นว่าให้เด็กเข้าไปเล่น แต่เอาจริงๆแล้ว น่ากลัวสุดๆเลย บรื๋อ~
สรุปความคุ้มค่า Huis ten Bosch ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ตื่นตา ไม่ขัดกับบรรยากาศยุโรปๆแต่อยู่ในญี่ปุ่น ควรมีเวลามากกว่า 1 วันถ้าจะเที่ยวให้ครบทุกที่ สามารถพักโรงแรมที่อยู่ด้านในธีมพาร์ค หรือ จะพักที่โรงแรมด้านนอกของ JR ก็ได้ หรือถ้ามีเวลาแค่วันเดียวจริงๆ ควรมาตั้งแต่เช้า เช้าได้เท่าไหร่นิ่งดี แล้วอยู่ทั้งวันจนมืด จะได้ดูขบวนพาเหรดตอนกลางคืน ที่สำคัญอย่าเที่ยวเพลินจนลืมดูเวลารถไฟรอบสุดท้าย ไม่งั้นจะกลับเข้าเมืองไม่ทัน พยายามเลือกขบวนที่วิ่งตรงไม่ต้องไปต่อที่สถานีไหนอีก จะได้นอนยาวพักผ่อนบนรถไฟไปด้วยเลย ~
(คลิกเพื่อดูโรงแรมใน Huis Ten Bosch)