ทริปนี้ออกเดินทางไปฟุกุชิมะ ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอีกครั้ง ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน จะว่าไปเราก็เดินทางมาฟุกุชิมะหลายครั้งมาก ทุกครั้งที่มาก็จะได้ไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไปเยือนเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เราไปอัพเดทสถานที่เที่ยวสวยๆ เน้นไปที่พื้นที่ไอสึ รวมถึงมุมใหม่ๆใน อินะวะชิโระ อุระบันได และ สึจิยุออนเซ็น จะมีที่เที่ยวไหนน่าสนใจบ้าง ใครมีแผนจะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ฟุกุชิมะครั้งหน้า ตามไปชมกันได้เลย

สำหรับรีวิวตอนแรก เราจะเจาะลึกโซน โอคุไอสึ (Oku-Aizu) และ ไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu) ไปสถานที่ตามด้านล่างนี้

  • หมู่บ้านโบราณโออุจิจูคุ (Ouchi-juku)
  • รร.ประถมคุอิมารุโช (Kuimarusho)
  • จุดชมวิวสะพานไดอิจิเคียวเรียว (Tadami River First Bridge Viewpoint)
  • ร้านขนมโคอิเคะ (Koike Confectionery Store)
  • ปราสาทสึรุงะ (Tsurugajo Castle)
  • ภูเขาอีโมริ (Mt.Iimori)
  • ร้านเค้กผลไม้ Fruits Peaks
  • สถานีนานุคะมาจิ (Nanukamachi Station)
  • หมู่บ้านโบราณโออุจิจูคุ (Ouchi-juku)
  • โรงแรม On-Yado Toho

อ่านรีวิวตอนสองที่นี่ >> Fukushima: เที่ยวฟุกุชิมะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี โซน Inawashiro – Urabandai – Tsuchiyu Onsen


หมู่บ้านโบราณโออุจิจูคุ (Ouchi-juku)

พบกับบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนา ลักษณะเดียวกับหมู่บ้านชิราคาวะโก เรียงรายกันสองฝั่งประมาณ 40-50 หลัง ตลอดระยะทางประมาณ 500 เมตร เมื่อราวปี ค.ศ.1981 หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น เขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันบ้านโบราณหลายหลังในหมู่บ้านได้รับการบูรณะใหม่ ให้กลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักแบบญี่ปุ่น แนะนำให้เดินไปจนสุดทางของหมู่บ้านจะมีทางแยกเป็นบันไดขึ้นบนภูเขา จุดนี้จะเป็นบันไดที่นักท่องเที่ยว สามารถเดินขึ้นไปชมทัศนียภาพมุมสูงของหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ได้อย่างทั่วถึง

  • การเดินทาง: จากสถานี Yunokami Onsen โดยสารรถบัสนำเที่ยวย้อนยุคโบราณ สายซารุยูโก (Saruyugo) ไป–กลับ ราคา 1,100 เยน หรือสามารถนั่งแท็กซี่ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
  • เวลาทำการ: 9.00-16.00 น. (แตกต่างกันไปในแต่ละร้าน)
  • ค่าเข้าชม: ไม่เสียค่าใช้จ่าย
  • เว็บไซต์
  • พิกัด

ไม่อยากให้พลาดลองชิม โซบะต้นหอมยักษ์ (Negi-Soba) คือเมนูเส้นโซบะโรยหน้าด้วยหัวไชเท้าขูดและปลาโอแห้งขูดฝอย แต่ความแปลกที่ไม่เหมือนที่ไหนคือเวลารับประทาน จะใช้ต้นหอมยักษ์ (Negi) แทนตะเกียบ ทำหน้าที่เกี่ยวเส้นโซบะขึ้นมาทาน ในขณะที่ทานก็จะกัดต้นหอมไปในเวลาเดียวกันทำให้ได้รสชาติที่อร่อยไม่เหมือนที่ไหนเลย ครั้งนี้มาลองกินที่ร้าน Yamagataya


รร.ประถมคุอิมารุโช (Kuimarusho)

อดีตรร.ประถมของหมู่บ้านอายุเก่าแก่กว่า 86 ปี ที่ยังคงรักษากลิ่นอายของวันวานในยุคโชวะไว้ได้อย่างดี ในปี ค.ศ. 2018 ตัวอาคารได้ปรับปรุงให้มีชีวิตอีกครั้ง เป็นสำนักงานของชุมชน มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ รวมถึงคาเฟ่ ห้องเรียนยังมีโต๊ะและเก้าอี้เรียงอยู่ให้ได้ชมบรรยากาศห้องเรียนญี่ปุ่นทำให้นึกถึงการ์ตูนที่อ่านตอนเด็ก ด้านหน้าอาคารมีต้นแปะก๊วยเก่าแก่อายุกว่า 120 ปี สูง 20 เมตร อยู่สองต้น โดยต้นที่อยู่ใกล้กับอาคารจะเริ่มเปลี่ยนสีและร่วงก่อนอีกต้น

ช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นแปะก๊วยพากันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่าม ต้นที่ใกล้กับอาคารจะเปลี่ยนสีก่อน ส่วนตอนนี้จะเป็นช่วงของต้นที่อยู่ด้านหน้าทางเข้า ในตอนกลางคืนก็มีแสงไฟจากสปอตไลท์ส่องให้ต้นแปะก๊วยยิ่งดูโดดเด่น

  • การเดินทาง: จากสถานี JR Aizu Kawaguchi โดยสารรถบัส Aizu Bus หรือ Showa Mura Aizu Machi Bus ลงป้ายรถบัส Kuimarushimo
  • เวลาทำการ : 9.00-17.00 น. (หยุด วันอังคาร, วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ)
  • ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


จุดชมวิวสะพานไดอิจิเคียวเรียว (Tadami River First Bridge Viewpoint)

จุดตั้งต้นสำหรับการเดินไปชมวิวนี้ จะอยู่ที่จุดจอดพักรถ Michi no eki Ozekaido Mishima-juku และสามารถเดินขึ้นไปยัง viewpoint ได้เพียง 5 นาที มีจุดชมทั้งหมด  4 จุด A, B, C, D ก็จะได้มุมภาพต่างกัน

  • การเดินทาง: สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ Aizu Miyashita มีรถบัสมายังจุดจอดพักรถ ใช้เวลา 5 นาที หรือเดินมาได้ใช้เวลา 40 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


ร้านขนมโคอิเคะ (Koike Confectionery Store)

ซาลาเปาอาวะมันจู (Awamanju) ของขึ้นชื่อประจำเมืองไอสึ ยานาอิสุ (Aizu-Yanaizu) ซึ่งถือกำเนิดมานานกว่า 190 ปีแล้ว โดยมีเรื่องราวเล่าต่อกันมาว่า ในครั้งนั้นได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่านเจ้าอาวาสวัดเอ็นโซจิจึงได้ให้ร้านขนมที่อยู่ด้านหน้าวัดทำซาลาเปาอาวะมันจูขึ้นมา โดยอธิษฐานขอให้ไม่เกิดอัคคีภัยอีกตามชื่อเรียก (อาวะไน แปลว่า ไม่เกิดขึ้น) แล้วนำไปสักการะ จึงเป็นที่มา

ตัวขนมด้านนอกเป็นแป้งสีเหลืองทำมาจากข้าวฟ่าง เวลาเคี้ยวจะมีความกรุบจากข้าว และสอดไส้ถั่วแดง สามารถหาซื้อทานได้ที่ร้านขนมโคอิเคะ (Koike Confectionery Store) แนะนำว่าต้องทานตอนเสร็จใหม่ๆ จะให้รสสัมผัสที่ทั้งนุ่มและอุ่น อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทดลองทำด้วยตัวเองได้อีกด้วย

  • การเดินทาง: จากสถานี Aizu Wakamatsu ขึ้นรถไฟสาย Tadami ลงสถานี Aizu-Yanaizu ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเดินประมาณ 10 นาที
  • ค่าใช้จ่าย: กิจกรรมทำอาวะมันจู 1,200 เยนต่อคน
  • เวลาทำการ: 8.00-20.00 น. (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด)
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


เมืองไอสึ วากามัตสึ (Aizu Wakamatsu)

พื้นที่ตอนกลางของเขตไอสึ เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่ขับเคลื่อนประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของ ปราสาทสึรุงะ ที่ขึ้นชื่อว่าเข้าพิชิตยาก มีตำนานยาวนานกว่า 600 ปี อีกทั้งยังสามารถเรียนรู้เรื่องราวของซามูไรได้เป็นอย่างดี สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะมาชมซากุระ ใบไม้เปลี่ยนสี หรือหิมะ

การเดินทาง จากสถานี Koriyama ขึ้นรถไฟสาย Ban-etsu West ลงสถานี Aizu Wakamatsu ใช้เวลา 1 ชั่วโมง

ปราสาทสึรุงะ (Tsurugajo Castle)

สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1384 และได้ถูกทำลายในช่วงสงครามโบชิน ตัวปราสาทได้มีการสร้างขึ้นใหม่ เสริมคอนกรีตในช่วงปี ค.ศ. 1960 และเปลี่ยนจากหลังคาสีเทาเป็นสีแดงให้มีความโดดเด่นมากขึ้น ด้านในตัวปราสาทได้จัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ แต่ละชั้นจะเล่าถึงประวัติความเป็นมา รวมถึงประวัติของเหล่า 19 ซามูไรเสือขาว (Byakkotai) แห่งยอดเขาอีโมริ พร้อมแสดงยุทโธปกรณ์ สมบัติล้ำค่าในอดีต สามารถขึ้นไปบนยอดปราสาท ชมวิวของเมืองรอบๆ รวมถึงสวนที่อยู่รอบปราสาทด้วย

  • การเดินทาง: โดยสารรถ Aizu Loops Bus ลงป้าย Tsurugajo Kitaguchi เดินประมาณ 5 นาที
  • เวลาเปิดทำการ: 8.30-17.00 น. (เข้าชมก่อน 16.30น.)
  • ค่าเข้าชม: 410 เยน
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


ภูเขาอีโมริ (Mt.Iimori)

เชื่อกันว่าภูเขาแห่งนี้คอยปกป้องคุ้มครองพื้นที่ไอสึมาอย่างยาวนานกว่า 1,600 ปี มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับเทพเจ้าเบ็นไซเท็น หนึ่งในเทพแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด รวมถึงประวัติอันน่าเศร้าของเหล่า 19 ซามูไรเสือขาวเบียคโคไต (Byakkotai) ที่จบชีวิตตัวเองในช่วงสงครามโบชินบนเขาแห่งนี้

เหล่าซามูไรหนุ่มผู้ซื่อสัตย์ที่สิ้นหวัง เบียคโคไตเป็นหน่วยกองกำลังทหารประกอบด้วยชายหนุ่มกว่า 300 คนซึ่งมีอายุระหว่าง 16-17 ปี ส่วนใหญ่เป็นบุตรชายของซามูไร มีการตั้งอนุสรณ์สถานในบริเวณที่นักรบหนุ่ม 19 นายประกอบพิธีฆ่าตัวตาย (เซ็ปปาคุ) หลังจากที่พวกเขาเห็นปราสาทสึรุงะกำลังไหม้อยู่ในกองเพลิง แต่น่าเศร้าที่พวกเขาเข้าใจผิดว่าเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในเมืองนั้น เป็นการเผาทำลายปราสาทจากฝีมือกองทัพของศัตรู

จากจุดตั้งต้นสามารถเดินขึ้นบันได หรือใช้ทางเลื่อนขึ้นไปได้ ด้านบนจะเป็นที่ตั้งของวัดไอสึซาซะเอโดะ (Aizu Sazaedo Temple) เป็นเจดีย์ไม้ทรงสูง 16.5 เมตร ที่มีบันไดเกลียววนไปถึงด้านบน แนะนำให้ลองเดินเข้าไป เพราะเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก เพราะมีเพียงหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น (ถ้ามาถึงช่วงเย็น ภายในจะค่อนข้างมืด)

  • การเดินทาง: จากสถานี Aizu Wakamatsu โดยสารรถบัส Haikara-san ลงป้าย Iimori Yamashita ใช้เวลา 15 นาที แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
  • เวลาทำการ: 8.15 น. – พระอาทิตย์ตกดิน (ฤดูหนาว ธ.ค.-มี.ค. 9.00-16.00 น.)
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 200 เยน
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


Fruits Peaks

มากินเค้กผลไม้ที่ร้านดัง ที่มีประวัติยาวนานเกือบ 100 ปี จุดเด่นของที่ร้านนี้คือผลไม้ประจำฤดูกาล ที่นำมาทำเป็นขนมหวาน ทั้งเค้ก ทาร์ต และ พาร์เฟ่ต์ เมนูจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆทั้งปี อย่างช่วงนี้ที่เราไปได้กินทั้งองุ่นไชน์มัสคัต เมลอน แอปเปิ้ล สตรอเบอร์รี่ ลูกพลับ แนะนำว่าอย่าลืมสั่งเมนูพาร์เฟ่ต์ผลไม้ด้วยนะ ในฟุกุชิมะมีหลายสาขา สาขาหลักอยู่ที่โคริยามะ ส่วนวันนี้มาลองที่สาขาไอสึ

เมนูที่สั่ง Shine Muscat Zuccotto, Apple Pie Pomme Pomme, Aizu Kaki & Chocola Cream Tart, Fruits Parfeit

  • การเดินทาง: จากสถานี Aizu Wakamatsu ขึ้นรถบัส Akabe ลงป้าย Keizan และเดินต่อ 8 นาที
  • เวลาทำการ: 10.00-18.00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 17.00 น.)
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


สถานีนานุคะมาจิ (Nanukamachi Station)

สถานีนานุคะมาจิ เป็นหนึ่งในสถานีที่รถไฟสายทาดามิวิ่งผ่าน ตั้งอยู่ใกล้กับย่านเมืองเก่าถนนนานุคะมาจิใจกลางของเมืองไอสึ วากามัตสึ อาคารสถานีสไตล์เรโทร ไม่มีเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋ว ก่อนจะเข้าไปยังชานชาลารถไฟจะต้องกดรับตั๋วที่ตู้อัตโนมัติและจ่ายค่าโดยสารเมื่อถึงสถานีปลายทาง ภายในสถานีมีคาเฟ่น่ารัก และขายของที่ระลึกด้วย

  • การเดินทาง: จากสถานี Aizu Wakamatsu ขึ้นรถไฟสาย Tadami ใช้เวลา 3 นาที
  • เวลาทำการ: 9.00-18.00 น.
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


โรงแรม On-Yado Toho

โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเขาทางเข้าสู่ย่านไอสึฮิกาชิยามะออนเซ็น (Aizu-Higashiyama Onsen) จุดเด่นของที่นี่คือบ่อออนเซ็นกลางแจ้งทั้ง 2 แห่งคือ บ่อโซระและบ่อทานะกุโมะ มีพื้นที่ที่กว้างขวาง ดื่มด่ำทิวทัศน์จากบ่อออนเซ็นในยามเช้าพลางชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือสัมผัสความสงบของธรรมชาติและดวงดาวในยามกลางคืนได้อย่างเต็มที่

ห้องพักมีหลากหลายแบบในบรรดาทั้ง 3 อาคารของโรงแรม มีทั้งห้องสไตล์ญี่ปุ่น สไตล์ตะวันตก รวม 160 ห้อง  อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดไม่ได้คือ มื้ออาหารบุฟแฟ่ต์ที่มีให้เลือกถึง 70 ชนิดรวมถึงอาหารท้องถิ่นของที่นี่ และมุมขนมหวานที่มีให้เลือกเหมือนกับอยู่ในคาเฟ่ ห้องพักระดับพรีเมียม “อิโระโดริ” เพิ่งปรับปรุงแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2016 ทิวทัศน์จากบ่อออนเซ็นในยามเช้ามานอนแช่น้ำออนเซ็นพลางชมพระอาทิตย์ขึ้น ตอนกลางวันชมบ้านเรือนในเมืองไอสึ วากามัตสึ และในยามเย็นมองท้องฟ้าชมดวงดาวยามค่ำคืน

  • การเดินทาง: จากสถานี JR Aizu Wakamatsu โดยรถบัส Akabe Bus มุ่งหน้าไป Higashiyama Onsen ลงป้าย Higashiyama Onsen Iriguchi(Takinoyu-mae)  ใช้เวลา 16 นาที และเดินต่อประมาณ 10 นาที (700 เมตร)
  • ราคาเริ่มต้น 18,000 เยน สำหรับห้องพักเดี่ยว และ 24,000 เยน สำหรับห้องพักคู่ รวมอาหาร 2 มื้อ
  • เว็บไซต์
  • พิกัด