จังหวัดอาคิตะ (Akita) มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอยู่หลายแห่ง ซึ่งในบทความนี้เราได้คัดเลือกสถานที่สำหรับไปเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวมาทั้งหมด 11 แห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น แหล่งน้ำพุร้อน ทิวทัศน์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเสน่ห์
สำหรับจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีของอาคิตะ จะสามารถเริ่มชมได้ตั้งแต่ปลายเดือนก.ย.จนถึงต้นเดือนพ.ย.ขึ้นอยู่กับระดับความสูงของแต่ละพื้นที่ และถ้าพูดถึงฤดูหนาวในอาคิตะ จะต้องนึกถึงภาพทิวทัศน์ขาวโพลนที่เต็มไปด้วยหิมะปกคลุม รวมไปถึงเทศกาลฤดูหนาวที่ใครๆก็ต่างตั้งตารอคอย! จะมีที่ไหนกันบ้างตามไปชมกันเลย~
จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีของอาคิตะ
1. เมืองอะคิตะ : สวนเซ็นชู ปราสาทคุโบตะ
2. เมืองมิซาโตะ : คฤหาสน์โทกะคุซะคะโมะโตะ
3. เมืองคะซุโนะ : สวนผลไม้ซาโตชูกะเอ็น
4. เมืองเซ็มโบคุ : นิวโตออนเซ็น
5. เมืองคะซุโนะ : โกโชกะเคะออนเซ็น
จุดชมวิวหิมะของอาคิตะ
6. เมืองเซ็มโบคุ : ลานสกีทาซาวะโกะ
7. เมืองคิตะอะคิตะ : ปีศาจหิมะแห่งภูเขาโมริโยชิ
8. เมืองโยโคเตะ : เทศกาลโยโคเตะคะมะคุระ
9. เมืองโอกะ : เทศกาลนามะฮาเกะเซโดะ
10. เมืองยูซาวะ : เทศกาลอินุกโกะ
[Bonus] 11. เมืองโอกะ : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกะ GAO
สวนเซ็นชูปราสาทคุโบตะ
เมืองอะคิตะ
สวนเซ็นชู (Senshu Park) สวนญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นบนที่ตั้งของอดีตปราสาทคุโบตะ (Kubota Castle) บริเวณใจกลางเมืองอะคิตะ ซึ่งเป็นที่พำนักของตระกูลซาทาเกะที่ครองแคว้นอะคิตะมายาวนาน ไฮไลท์ของสวนคือประตูด้านหน้าของปราสาทคุโบตะ และหอคอยมิสุมิของปราสาท ซึ่งได้มีการบูรณะและสร้างห้องชมวิวบนชั้นสองของหอคอยที่สามารถมองเห็นเมืองอะคิตะได้
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงราวปลายเดือนต.ค. ภายในสวนมีต้นเมเปิ้ลหลากหลายสายพันธุ์เปลี่ยนสีกันอย่างงดงามโอบล้อมประตูด้านหน้าและร่องรอยปราสาทที่ยังหลงเหลืออยู่ เป็นภาพที่สวยงามแปลกตา
เวลาทำการ: 9.00-16.30 น.
ปิดทำการ: 1 ธันวาคม – 31 มีนาคมของปีถัดไป
ค่าเข้าชม: 100 เยน / นักเรียนมัธยมหรือต่ำกว่า: ฟรี
การเดินทาง: จากสถานี Akita เดินประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์
คฤหาสน์โทกะคุซะคะโมะโตะ
เมืองมิซาโตะ
คฤหาสน์โทกะคุซะคะโมะโตะ (Togaku Sakamoto Residence) คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยสวนสไตล์ญี่ปุ่นแห่งนี้ คือสมบัติที่ดินของตระกูลซากาโมโตะมอบให้เป็นของกำนัลแก่เมืองมิซาโตะ (Misato) สร้างขึ้นหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ซันริคุในปีค.ศ.1896 ปัจจุบันมีพื้นที่บางส่วนได้ถูกรื้อทิ้งออกไป แต่ยังคงสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของตระกูลนี้ได้
สวนญี่ปุ่นถูกสร้างขึ้นโดยนักออกแบบสวนจากเกียวโต ได้รับการดูแลอย่างดีพร้อมกับคฤหาสน์ ในฤดูใบไม้ร่วงจะได้ผ่อนคลายไปกับใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม เพลิดเพลินกับทัศนียภาพจากห้องเสื่อทาทามิที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการชมคือตั้งแต่กลางเดือนต.ค.ถึงต้นเดือนพ.ย.
เวลาทำการ 9.00-17.00 น.
ช่วงเวลาเปิด: ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 พฤศจิกายน
วันหยุด: ทุกวันจันทร์ (หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะปิดในวันถัดไป)
ค่าเข้าชม: 300 เยน
การเดินทาง: จากสถานี Omagari นั่งรถประจำทาง ลงที่ป้าย Senhata Shogakko-mae ใช้เวลา 30 นาที
เว็บไซต์
สวนผลไม้ซาโตชูกะเอ็น
เมืองคะซุโนะ
สวนผลไม้ซาโตชูกะเอ็น (Sato Shuka-en Fruit Park) ตั้งอยู่ที่เมืองคะซุโนะ (Kazuno) ที่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมเก็บผลไม้หวานอร่อยจากสวนได้ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แวะเก็บแอ๊ปเปิ้ลสดจากต้นและทานภายในสวนได้ โดยในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.จะมีแอ๊ปเปิ้ลหลากสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น คะซุโนะริงโกะ และ สายพันธุ์ฟูจิ
โดยการเด็ดแอ๊ปเปิ้ลที่ถูกวิธีนั้น มีวิธีคือการจับแล้วหักขั้วลง ห้ามหมุนหรือดึงเด็ดขาดเพราะจะทำให้ต้นเสียหาย ทานในสวนกันอิ่มแล้ว ยังสามารถเลือกแพกเกจนำผลไม้กลับบ้านไปเป็นของฝากได้อีกด้วย
เวลาทำการ : 8.00 -16.00 น. (เก็บแอปเปิ้ลได้ตั้งแต่ต้นต.ค.-ถึงกลางพ.ย. *ตรวจสอบล่วงหน้าทุกครั้ง)
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม / ค่าเก็บผลไม้กลับบ้านได้ 2 ผล 500 เยน 4 ผล 1,000 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Towada Minami ขึ้นรถแท็กซี่ประมาณ 5 นาที
นิวโตออนเซ็น
เมืองเซ็มโบคุ
หมู่บ้านน้ำพุร้อนนิวโต (Nyuto Onsenkyo) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Towada-Hachimantai ซึ่งเป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนลับที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ล้อมรอบด้วยป่าบีชธรรมชาติ ซึ่งจะเริ่มเปลี่ยนสีใบต้นเดือนต.ค.และสวยที่สุดในช่วงกลางเดือนต.ค. เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีในขณะที่แช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง
โดยมี ทสุรุโนะยู (Tsurunoyu) เรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดา 7 ออนเซ็นของหมู่บ้านน้ำพุร้อนนิวโต ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี น้ำพุร้อนของที่นี่จะมีสีขาวขุ่นอุดมไปด้วยแร่ธาตุและกำมะถัน ที่ช่วยในเรื่องขับผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศของบ่อน้ำพุร้อนลึกลับที่อยู่มานานนับร้อยปี ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สวยงามราวกับภาพวาด
เวลาทำการ : บ่อน้ำพุร้อน 10.00-15.00 น. สำหรับแขกที่ไม่ได้เข้าพัก
ค่าใช้จ่าย : สำหรับแขกที่ไม่ได้เข้าพักค่าบริการออนเซ็น 520-800 เยน / ค่าที่พัก เริ่มต้น 9,830-19,950 เยน
*เวลาทำการและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปทำสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของแต่ละปี ที่พักบ้างแหล่งตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงจนเมษายนอาจจะมีการเก็บค่าทำความร้อนเพิ่ม กรุณาตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บของที่พัก
การเดินทาง : จากสถานี Tazawako ขึ้นรถประจำทางสาย Nyuto ลงที่ป้าย Arupa Komakusa จากนั้นโดยสารรถของทางเรียวกัง
เว็บไซต์ | RYOKAN STORY
โกโชกะเคะออนเซ็น
เมืองคะซุโนะ
โกโชกะเคะออนเซ็น (Goshogake Onsen) ตั้งอยู่บนถนนสาย Hachimantai Aspite Line บนเชิงเขาฮะจิมันไต ที่สุงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร เป็นที่พักที่มีประวัติศาสตร์กว่า 300 ปี ต้นน้ำของน้ำพุร้อนเป็นน้ำแร่ธรรมชาติจากโคลนร้อนที่ปะทุอยู่ใต้ดิน ขึ้นชื่อในเรื่องของพลังงานที่ท่วมท้นจากภูเขาไฟ มีคำพูดที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ในอดีตว่า “เดินทางมาด้วยม้า เดินทางกลับด้วยเท้าเปล่า”
เสน่ห์ของที่พักแห่งนี้คือจะได้เพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนในบ่ออาบน้ำรวมขนาดใหญ่ที่มีทั้งหมด 7 แห่งแบบไม่เหมือนใคร ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “Hakomushi” ตู้อบซาวน่าที่ใช้ไอน้ำธรรมชาติและให้ความอุ่นจนถึงช่วงคอจากกล่องไม้ เป็นวิธีอาบน้ำแบบดั้งเดิมของโกโชกะเคะออนเซ็น
รอบๆบริเวณกลุ่มไอควันสีขาวที่พวยพุ่งจากบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ในช่วงต้นเดือนต.ค.จะได้ชมทัศนียภาพของใบไม้เปลี่ยนสีที่โอบล้อมอยู่อย่างสวยงาม สามารถออกไปเดินชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่แตกต่างกันในแต่ละระดับความสูงได้ด้วย
[แจ้งเพื่อทราบ] เนื่องจากมีการซ่อมแซมห้องอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ จึงไม่สามารถใช้บริการห้องอาบน้ำรวมได้ในขณะนี้ ตารางการซ่อมแซมห้องอาบน้ำรวมขนาดใหญ่: 20 ตุลาคม 2564 จนถึงช่วงประมาณต้นถึงกลางเดือนเมษายน 2565 หากทราบวันเปิดทำการแล้วทางที่พักจะทำการประกาศแจ้งให้ทราบบนเว็บไซต์ทันที
เวลาทำการ : บ่อน้ำพุร้อน 9.00-15.00 น. สำหรับแขกที่ไม่ได้เข้าพัก (เข้าได้รอบสุดท้ายเวลา 14.30 น.)
ค่าใช้จ่าย : ค่าบริการออนเซ็น 600 เยน / ค่าที่พัก เริ่มต้น 11,550 เยนต่อคน
การเดินทาง : จากด้านหน้าสถานี Kazuno Hanawa ขึ้นรถรับส่งของทางที่พัก ใช้เวลา 55 นาที (มีวันละ 1 รอบ เหมาะกับผู้ที่ค้างแรม)
เว็บไซต์
ลานสกีทาซาวะโกะ
เมืองเซ็มโบคุ
ลานสกีทาซาวะโกะ (Tazawako Ski Resort) ตั้งอยู่บนภูเขาที่มองลงไปเห็นวิวของทะเลสาบทาซาวะ ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสกีรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมอย่างมากของญี่ปุ่น เมื่อมาที่นี่จะได้สัมผัสคุณภาพของหิมะที่ยอดเยี่ยมละเอียดนุ่ม ราวกับเป็นสวรรค์ของพาวเดอร์สโนว์ที่แท้จริง มีคอร์สให้เลือกเล่นมากถึง 13 เส้นทาง เหมาะสำหรับครอบครัว รวมทั้งมือใหม่หัดเล่น ไปจนถึงระดับมือโปร เดินทางสะดวกจากสถานี Tazawako ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง
เวลาทำการ : ลิฟท์ 9.00-16.00 / จุดเช่าอุปกรณ์ 9.00-16.00
ค่าใช้จ่าย : ค่าลิฟท์ เริ่มต้น 3,200 เยน อุปกรณ์ชุดสกี เริ่มต้น 3,600 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Tazawako โดยสารรถบัสมุ่งหน้าไป Kogen Onsen / Nyuto Onsen ลงที่ป้าย Tazawako Ski-jo Mae ใช้เวลา 30 นาที
เว็บไซต์
ปีศาจหิมะแห่งภูเขาโมริโยชิ
เมืองคิตะอะคิตะ
ภูเขาโมริโยชิ (Mt.Moriyoshi) ในฤดูหนาวนั้นมีทิวทัศน์ที่น่าทึ่งมาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. ด้วยสภาพแวดล้อมเฉพาะตัว ทำให้ปีศาจหิมะหรือที่เรียกกันว่า Snow Monster ปรากฎกายบนภูเขาแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 3 ปีศาจหิมะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เทียบเคียงกับที่ ซะโอ จ.ยะมะกะตะ และ ฮักโกดะ จ.อะโอโมริ
เพียงขึ้น Ani Gondola สู่สถานียอดเขา เดินเพียง 5 นาทีก็จะได้ชมความยิ่งใหญ่ของปีศาจหิมะ และไม่ไกลจากสถานีด้านบน ในช่วงที่สามารถชมปีศาจหิมะแห่งภูเขาโมริโยชิได้นั้นหากต้องการเดินชมบริเวณต้นไม้ปีศาจหิมะบริเวณนั้นสามารถยืมรองเท้าได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพียงแค่บอกกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้น (รองเท้ามีจำนวนจำกัด) ต้องหาโอกาสมาสัมผัสความงดงามท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่กันสักครั้ง
เวลาทำการ : กอนโดล่า 9.00-16.00 น. (ขาขึ้นรอบสุดท้าย 15.00 น. / ขาลงรอบสุดท้าย 15.30 น.)
ค่าใช้จ่าย : กอนโดล่า ผู้ใหญ่ 1,800 เยน เด็กประถม 800 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Aniai โดยสารรถแท๊กซี่ไปยัง Ani Ski Resort ใช้เวลา 20 นาที
ในฤดูหนาวมีรถบัส Moriyoshi Montor Free Bus ให้บริการจากสถานี Morioka, Akita, Odate ได้ เช็คตารางได้ >> ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
เว็บไซต์
เทศกาลโยโคเตะคะมะคุระ
เมืองโยโคเตะ
เทศกาลหิมะโยโคเตะ (Yokote Snow Festival) จัดขึ้นวันที่ 15-16 ก.พ. เป็นประจำทุกปีที่เมืองโยโคเตะ ซึ่งเป็นเมืองมีปริมาณหิมะตกมากในบรรดาเมืองต่างๆของจังหวัดอะคิตะ ภายในงานจะมีการจัดแสดงกระท่อมหิมะที่เรียกว่า คะมะคุระ (Kamakura) สูง 3 เมตร ที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือของชาวเมืองและเด็กๆ กว่า 100 หลังอยู่ทั่วเมือง เพลิดเพลินไปกับคะมะคุระแห่งโยโคเตะในงานประเพณีที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 450 ปี
เพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพที่มีเสน่ห์ของคะมะคุระท่ามกลางบรรยากาศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทโยโคเตะ หรือ บ้านพื้นเมืองโบราณ อีกทั้งยังมีให้สัมผัสประสบการณ์ที่สามารถเข้าไปด้านในคะมะคุระ ดื่มอามะสาเกและทานโมจิกัน นอกจากนี้ยังร่วมกิจกรรมสร้างคะมะคุระของตัวเองที่งานได้อีกด้วย
บริเวณรอบๆยังมีคะมะคุระไซส์มินิกว่า 2,000 หลัง ที่ชาวเมืองและเด็กๆร่วมแรงร่วมใจกันทำ เมื่อถึงเวลากลางคืน เทียนไขที่ใส่ไว้ด้านในจะถูกจุดขึ้นและส่องแสงสร้างบรรยากาศสุดอัศจรรย์
ระยะเวลาจัดงาน: 15-16 ก.พ. เป็นประจำทุกปี
การเดินทาง: จากสถานี Yokote เดินประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์
เทศกาลนามะฮาเกะเซโดะ
เมืองโอกะ
เทศกาลนามะฮาเกะเซโดะ (Namahage Sedo Festival) 1 ใน 5 งานเทศกาลหิมะที่สำคัญ Michinoku Godai Snow Festival เป็นเทศกาลฤดูหนาวที่เป็นตัวแทนฤดูหนาวของศาลเจ้าชินซัน (Shinzan Shrine) ที่เมืองโอกะ (Oga) จัดขึ้นทุกปีในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่สองของเดือนก.พ. ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สำคัญของชาติ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก
เทศกาลฤดูหนาวที่ผสานพิธีกรรมทางศาสนาชินโต ไซโตไซ (Saitousai) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี จัดขึ้นที่ศาลเจ้าชินซันในวันที่ 3 ม.ค.ของทุกปี และกิจกรรมพื้นบ้านนามะฮาเกะ (Namahage) เข้าไว้ด้วยกัน ท่วงท่าในการร่ายรำของนามะฮาเกะดูกล้าหาญและทรงพลังภายใต้กองไฟที่ส่องสว่างในบริเวณศาลเจ้าชินซันเป็นภาพบรรยากาศที่น่าหลงใหล
การปรากฏตัวของนามะฮาเกะถือคบเพลิงที่เดินลงมาจากภูเขาหิมะเป็นช่วงที่น่าตื่นเต้น เมื่อขบวนนามะฮาเกะเคลื่อนตัวผ่านบริเวณที่เต็มไปด้วยผู้ชม นักบวชอุทิศโกมะโมจิให้กับนามะฮาเกะ และพวกเขาก็กลับไปหาพระเจ้าที่อยู่ลึกเข้าไปในภูเขา
เนื่องจากผลกระทบของโควิด 19 อาจมีการจำกัดจำนวนคนเข้าชม ซึ่งอาจมีการเก็บค่าสนับสนุนกิจกรรม(เข้าชม) 1,000 เยนต่อคน (ฟรีสำหรับนักเรียนมัธยมปลายหรือต่ำกว่า) รับเฉพาะเงินสดเท่านั้น
ระยะเวลาจัดงาน: ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ (3 วัน) สัปดาห์ที่สองเดือนก.พ. เป็นประจำทุกปี
การเดินทาง: จากสถานี Akita ขึ้นรถไฟ JR สาย Oga ลงสถานี Oga ใช้เวลา 55 นาที จากนั้นขึ้นรถบัสไปยังสถานที่จัดงาน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที (หรือขึ้นรถบัสจาก Oga Onsenkyo)
เว็บไซต์
เทศกาลอินุกโกะ
เมืองยูซาวะ
เทศกาลอินุกโกะ (Inukko Festival) เป็นประเพณีพื้นบ้านที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี จัดขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์ที่สองของเดือนก.พ. เป็นประจำทุกปี ที่เมืองยูซาวะ (Yuzawa) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหิมะ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณหิมะมาก และมีจำนวนวันที่หิมะตกอย่างน้อย 100 วัน
จุดเด่นของเทศกาลอินุกโกะ คือเมื่อฟ้าเริ่มมืดลง แสงสว่างของเทียนจะช่วยสร้างบรรยากาศที่มีสีสันและความมีชีวิตชีวาให้กับตัวเมือง ราวกับอยูในดินแดนแฟนตาซี เติมเต็มด้วยความสดใสของเหล่าเด็กน้อยที่สวมชุดเด็กสาวหิมะ
ภายในงานยังมี ศาลเจ้าอินุกโกะ ที่สร้างขึ้นจากหิมะ ไว้สำหรับคนรักสุนัขที่พาสุนัขมาเดินเล่นที่งาน และขอพรสำหรับเพื่อนคู่ใจได้ นอกจากนี้ยังมีโซนสนุกๆอย่าง ลานวิ่งของน้องหมา และ คาเฟ่ของน้องหมา ให้เพลิดเพลิน ซึ่งถือว่าเป็นอีกงานที่เราจะได้เจอกับน้องหมามารวมตัวกันเยอะที่สุดอีกด้วย
ระยะเวลาจัดงาน: เสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์ที่สองของเดือนก.พ. เป็นประจำทุกปี
การเดินทาง: จากสถานี Yuzawa โดยสารรถชัทเทิลบัสมาที่งาน ประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกะ GAO
เมืองโอกะ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกะ GAO (Oga Aquarium GAO) เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งเดียวในจังหวัดอาคิตะ ที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ยอดเยี่ยมที่สามารถมองเห็นทะเลญี่ปุ่นได้ สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลประมาณ 10,000 ตัวที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งของคาบสมุทรโอกะ รวมถึงปลา “ฮาตาฮาตะ” ของเมืองโอกะที่จัดแสดงตลอดทั้งปี
ภายในมีแท๊งก์น้ำยักษ์ที่จำลองสภาพแวดล้อมของทะเลโอกะ มีปริมาณน้ำบรรจุไว้ 815 ตัน และมีปลาอาศัยอยู่กว่า 40 ชนิดมากถึง 2,000 ตัวที่แหวกว่ายอยู่ด้านในสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจผ่านกระจกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ให้เพลิดเพลินกันได้ไม่ว่าจะเป็น Touch Pool ที่สามารถเรียนรู้ผ่านการสัมผัสกับสัตว์ทะเลได้โดยตรง และ 3D Theater ที่จะได้เห็นปลาที่เราออกแบบเองว่ายน้ำได้เสมือนจริง
เวลาทำการ : 9.00-17.00 น. (พ.ย.-ก.พ. ปิด 16.00 น.)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,100 เยน เด็ก 400 เยน
การเดินทาง: จากสถานี Oga โดยสารรถแท๊กซี่ Namahage Shuttle ประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง
เว็บไซต์