การเดินทางไปเยือนคันไซในครั้งนี้ จะเน้นอยู่ที่ เมืองโทโยโอกะ (Toyooka) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) โดยจะเป็นการท่องเที่ยวไปในเมืองย่อยทั้ง 3 เมือง คือ คันนะเบะ (Kannabe), อิซุชิ (Izushi) และ คิโนซะกิอนเซ็น (Kinosaki Onsen) ใช้เวลาทั้งหมด 4 วัน 3 คืน ตั้งต้นการเดินทางจากโอซาก้า
สำหรับการเดินทางที่สะดวกที่สุดก็คือ รถไฟ JR ที่มีรถไฟขบวนด่วนพิเศษ วิ่งตรงจากสถานี Osaka ถึงสถานี Kinosaki Onsen ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง 45 นาที และสามารถใช้พาสรถไฟเฉพาะภูมิภาคอย่าง Kansai Wide Area Pass ได้ จากนั้นจึงค่อยเที่ยวจากในตัวเมืองคิโนซะกิ ไปยังเมืองข้างๆได้อย่างง่ายดายด้วยบริการรถบัส หรือทัวร์เช้าเย็นกลับ สามารถดูข้อมูลได้ที่นี่ >> SOZORO
สำหรับคนที่ไปตั้งต้นจากคิโนซะกิอนเซ็น ให้ติดต่อที่ Sozoro Tourist Information ที่ด้านหน้าสถานี จะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำและช่วยจัดการจองทุกอย่างให้เสร็จสรรพ ทั้งรถโดยสาร ที่พัก ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ปู ในราคาปกติ (ไม่มีบวกเพิ่ม)
สำหรับจุดหมายแรกของเราในวันนี้คือ คันนะเบะ (Kannabe) เมืองที่ราบสูง ที่ชื่อไม่คุ้นหูและยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก แต่เสน่ห์ของที่นี่คือความเป็นธรรมชาติอันสมบูรณ์แบบ เงียบสงบ เต็มไปด้วยกิจกรรมกลางแจ้ง และเป็นสถานที่พักผ่อนของชาวญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมในหมู่เด็กๆตามโรงเรียนในเมืองมักจะมาตั้งแคมป์ เล่นกีฬา และกิจกรรมท้าทายมากมายที่นี่ จึงเรียกได้ว่า ถ้ามาเที่ยวที่เมืองนี้ จะได้เพลิดเพลินไปกับความเป็นญี่ปุ่นได้เช่นกัน
เริ่มต้นการเดินทางวันแรกจาก Hankyu Highyway Bus Osaka-Umeda Terminal โดยสาร รถบัสเซ็นตัน (Zentan Bus) ปลายทาง ลงที่ Kinosaki onsen แต่เราจะลงก่อนที่ป้ายรถบัสใก้ล้กับสถานี Ebara เพื่อเดินทางไปเที่ยวคันนะเบะกัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง (ค่าโดยสารประหยัดกว่ารถไฟประมาณเกือบครึ่ง)
ตรวจสอบตารางรถบัสได้ที่นี่ >> Osaka-Kinosaki Onsen (ภาษาญี่ปุ่น)
รถบัสของเซ็นตัน เอกลักษณ์คือ แถบสีเขียว-แสด คันนี้ปลายทางไปลงที่ Kinosaki Onsen ได้เลย
จุดลงรถบัส สามารถเดินไปสถานีรถไฟ Ebara ได้
เนื่องจากเมืองคันนะเบะมีลักษณะเป็นที่ราบสูง จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากตามไปด้วย ในฤดูหนาวที่นี่ยังเป็นลานสกีที่ได้รับความนิบมในหมู่ชาวญี่ปุ่น ส่วนฤดูร้อนก็ยังได้รับความนิยมในด้านของกิจกรรมลุยๆแนวแอดเวนเจอร์
และสำหรับสถานที่เที่ยวแรกที่เราแวะกันก็คือ ทางเดินป่าที่เกิดจากลาวาคิโยตะกิ (Kiyotaki Lava walking) หรือเรียกเป็นชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า Kiyotaki youganryu เป็นส่วนหนึ่งของ San’in Kaigan Geopark ตั้งอยู่บนเขาคันนะเบะ (Mount Kannabe) เกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อ 25,000 ปีก่อน ลาวาไหลลงมาจนทำให้เกิดน้ำตกและแม่น้ำตามธรรมชาติ มีรูปทรงของหินที่เกิดจากการแข็งตัวหลังจากโดนลาวาหลอมละลาย
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกคอร์สเดินเทรกกิ้ง ได้ 2 แบบคือ คอร์สยาว 90 นาที (ระยะทาง 2.7 ก.ม.) และ คอร์สสั้น 30-40 นาที โดยมีจุดหมายเดียวคือ น้ำตกฮัตตัน (Hattandaki) ที่อยู่ปลายทาง
การเดินทาง จากสถานี Ebaraโดยสารรถบัสท้องถิ่นลงที่ป้าย Seseragi-guchi สำหรับเทรกกิ้ง หรือลงที่ป้าย Hattandaki สำหรับคนที่ไม่อยากเดิน และต้องการชมเฉพาะน้ำตก
หลังจากเรียกเหงื่อกันแต่เช้า ก็ได้เวลามาพักทานมื้อเที่ยงกันที่ Agri Garden คาเฟ่เล็กๆ ที่มีบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง และใช้วัตถุดิบโดยเฉพาะผักผลไม้ที่ปลูกเองจากสวน
เวลาทำการ: 11.00-15.00 (L.O.14.30) หยุดวันพฤหัสบดี / เข้าสู่เว็บไซต์ >> ที่นี่
ชุดเมนูอาหารกลางวัน Pasta Lunch set 1300 เยน (+200 เพิ่มขนาด) จะมี สลัด, ซุป, เครื่องดื่ม และขนมหวานให้ด้วย สำหรับเมนูที่แนะนำคือ Ebi Avocado Mentaiko Cream Pasta และ Agri Yasai Tomato Pasta ส่วนขนมหวานเป็น Blueburry cheesecake, Chocola cheesecake, Sumi (ถ่าน) Shiffon
มีให้บริการห้องพักด้วย Pension Kitamura ペンショネキタムラ
ด้านหลังเป็นลานสกีของ Up Kannabe Ski resort บนภูเขาไฟพอดี หน้าร้อนเล่นสกีหญ้าได้ (กระเช้าเปิดให้บริการเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์)
ฝาท่อเมืองคันนะเบะ
อาคารเอนกประสงค์ประจำเมืองมีรูปทรงแปลกตา
Homestay Nashikisou (Minshuku) เข้าพักในบ้านเก่าอายุ 50 ปี จองได้ทางอีเมลผ่านเว็บ Visit Kinosaki
ภายในมีขนาดกง้างขวาง รองรับคณะใหญ่ๆได้ ปกติจะมีกลุ่มนักเรียนที่มาทัศนศึกษาเข้าพักอยู่เป็นประจำ
บรรยากาศชนบทของญี่ปุ่นช่างสงบสุขจริงๆ เปิดหน้าต่างออกมา จะได้ยินแต่เสียงธรรมชาติ
กิจกรรมลำดับต่อมา จะมีความลุยไม่แพ้กัน แต่จะสนุกกว่าด้วยเครื่องเล่นที่เอาใจคนรักการผจญภัยโดยเฉพาะที่ Forest Adventure Oku Kannabe ถ้าหากสนใจ จองล่วงหน้าได้ >> ที่นี่
มี Adventure course ทั้งหมด 5 เส้นทางใช้เวลาทั้งหมด 2.5-3 ชม. ค่าเล่น 3,600 เยน เล่นได้ไม่จำกัด ต้องเล่นเอง ไม่มี instructor มากำกับ ยกเว้น Briefing course จะเป็นคอร์สเทรนเบื้องต้นให้ทดลองเล่นก่อน แต่ถ้าต้องการให้มีครูฝึกประกบ สามารถเลือกคอร์ส Guide pack ได้ในราคา 5,200 เยน (แนะนำสำหรับผู้เล่นอายุ 10 ปีขึ้นไป และมีส่วนสูง 140 ซม.ขึ้นไป)
เข้าสู่เว็บไซต์ที่นี่ >> FOREST ADVENTURE OKU KANNABE (ภาษาญี่ปุ่น)
บรรยากาศระหว่างทาง ธรรมชาติแบบดิบๆ ยามค่ำคืน สามารถออกมาชมหิ่งห้อยได้ด้วย ซึ่งหาได้ยากแล้วในปัจจุบัน
ภายในเมืองมีลานสกีหลายแห่ง ซึ่งจะเปิดให้บริการในฤดูร้อน สำหรับเล่นสกีหญ้า ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
อยากกินปูซูไว แบบไม่อั้น ต้องไปที่ คันนะเบะ!! ตัวใหญ่ อร่อย เนื้อแน่น ราคาเบา!!
หลายคนคงรู้จักว่า ที่ญี่ปุ่นมีปูเกรดดีหลายระดับ และหนึ่งในนั้นคือ ปูซูไว หรือ ปูหิมะ ที่มีแหล่งจับได้มากที่สุดอยู่ที่เมือง โทโยโอกะ แห่งนี้นั่นเอง! ปกติปูซูไว หรือที่เรียกกันว่า ปูมัตสึบะ ที่มีราคาสูง จะจับได้เฉพาะช่วงหน้าหนาว เฉพาะฝั่งทะเลญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ถ้ามาในช่วงฤดูอื่นก็ยังสามารถลองชิมได้ เพราะเค้ามีเทคนิคในการรักษาความสดและคุณภาพปูไว้ได้อย่างดี ที่สำคัญ กินที่คันนะเบะถูกกว่าในคิโนซะกิเป็นเท่าตัว
และในเมื่อเรามาถึงแหล่งแล้ว ก็ต้องไปกินให้ถูกที่ด้วย งานนี้เจ้าบ้านพาเราไปชิมกันถึงบ้านเกิดที่ คันนะเบะ นี่เอง เรียกได้ว่า เค้าขายในราคาต้นทุน เห็นราคาแล้วตกใจ ว่าเรากินได้ไม่อั้นในราคานี้ได้จริงๆหรือ
สำหรับร้านที่เรามาชิมปูซูไวกันในครั้งนี้ มีชื่อร้านว่า Waraku สนนราคาต่อหัวอยู่ที่ 13,500 เยน ซึ่งราคานี้ถ้าไปกินในคิโนซะกิอนเซ็นอาจจะต้องจ่ายแพงกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว และการมาเที่ยวเมืองนี้ เหมาะกับการพักค้างแรม ทางร้านจึงจัดแพกเกจราคาสุดพิเศษ มีห้องพัก+บุฟเฟ่ต์ปูซูไว+อาหารเช้า ในราคาเพียง 18,000 เยนต่อคนเท่านั้น
จองล่วงหน้าได้ >> ที่นี่ / เข้าดูเว็บไซต์ได้ที่นี่ >> Kannabe Waraku
รายการเมนูที่เสิร์ฟในชุดกินไม่อั้น
Zuwai crab ชุดปูซูไว
Yakigani set ชุดปูย่าง
Kaninabe ชุดปูชาบู
Kora-karaage ตัวปู
Yomogimanju โมจิไส้หมูต้มกับผัก เห็ดชิเมจิ
Kanizosui ข้าวต้มปู
จานใหญ่มากๆจริงๆ
Kannabe Sansou ที่พักของเราในค่ำคืนนี้ ที่จองคู่กับชุดบุฟเฟ่ต์
ห้องพักเรียบง่าย น่ารัก
มื้อเช้าถูกจัดไว้ในห้องพิเศษ อย่างสวยงาม
หลังจากนี้เราจะมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไป มาขึ้นรถบัสท้องถิ่นที่จุดขึ้น-ลงรถบัส Kannabe-Kougen มีให้ข้อมูลท่องเที่ยว และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ทั้งของสด และของที่ระลึกมากมาย