จังหวัดยะมะงะตะ (Yamagata) อีกหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายนักในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย แต่ถ้าพูดถึงชื่อของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดอย่าง “กินซังอนเซน” หรือจะเป็นชื่อของตัวละครดังอย่าง “โอชิน” ก็น่าจะร้องอ๋อกันเลยทีเดียว แต่รอบนี้เราไม่ได้จะพามาเที่ยวสถานที่ที่ใครๆ ก็รู้จักแล้ว ขึ้นชื่อว่าเที่ยวญี่ปุ่นดอทคอมแล้ว แน่นอนว่าต้องนำเสนอความแตกต่าง สดใหม่ อยากให้ทุกๆคนได้ลองเก็บกระเป๋า ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆด้วยกันพร้อมเราเลยครับ
จังหวัดยะมะงะตะ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของภูมิภาคโทโฮะคุ ติดกับทะเลญี่ปุ่น มีอาณาเขตติดกับจังหวัดนีงะตะทางทิศตะวันตก จังหวัดฟูกูชิมะทางทิศใต้ จังหวัดมิยะงิทางทิศตะวันออก และจังหวัดอะกิตะทางทิศเหนือ วิธีการเดินทางนั้นก็ง่ายมากๆ โดยสารรถไฟชินกันเซ็นเพียง 2 ชั่วโมงจากโตเกียวก็มาถึงแล้ว
วิธีการเดินทางมายังเขต Okitama โดยเริ่มต้นการเดินทางจาก สถานี Akayu ในจังหวัดยะมะงะตะ
โดยเครื่องบิน – เดินทางโดยเที่ยวบินในประเทศจากสนามบินนาริตะหรือสนามบินฮาเนดะ มาลงที่สนามบินเซนได จากนั้นโดยสารรถไฟสาย Sendai Airport Access Line for SENDAI มาลงที่สถานี JR Sendai จากนั้นโดยสารรถไฟสาย JR Senzan Line Rapid for YAMAGATA มาลงที่สถานี Yamagata แล้วโดยสารรถไฟสาย JR YAMAGATA LINE for YONEZAWA มาลงที่สถานี Akayu ใช้เวลาประมาณ 138 นาที
โดยรถไฟชินกันเซ็น – จากสถานี Tokyo โดยสารไฟชินกันเซ็น มาลงที่สถานี Akayu ใช้เวลาประมาณ 145 นาที
ทริปนี้เราจะพาไปตะลุยท่องเที่ยวกันที่ เขตโอคิทะมะ (Okitama) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัด นอกจากธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ อาหารการกินอร่อยไม่แพ้ที่ไหน แถมยังเป็นที่ตั้งของน้ำพุร้อนธรรมชาติมากมาย แถมกิจกรรมอีกมากมายให้เลือกกันได้ตามอัธยาศัย โดยเฉพาะช่วงที่เรามาเยือนนั้น กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดของคนเมืองร้อนอย่างเราๆ ก็คือการไปลองเล่นสกีหิมะซักครั้ง
ขบวนรถไฟสาย Yamagata Flower Nagai
เปิดประสบการณ์โดยสารรถไฟสาย Flower Nagai สายรถไฟขบวนน่ารัก ตกแต่งด้านนอกด้วยลวดลายดอกไม้ สีสันสดใสขบวนนี้บริหารงานโดยบริษัทการเดินรถไฟของเอกชน Yamagata Railway ทำการวิ่งระหว่างสถานี Akayu ไปสิ้นสุดที่สถานี Arato เป็นระยะทางกว่า 30.5 กิโลเมตร โดยใช้เวลาประมาณ 54 นาที
เริ่มต้นตั้งแต่สถานี Akayu
ภายในขบวนรถไฟ
แต่ช่วงที่น่าสนใจก็คือในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่เราจะได้ชมความงามของเหล่าดอกไม้มากมายหลายสายพันธุ์ รวมไปถึงต้นซากุระเรียงรายตลอดสองข้างทาง ต้นซากุระในบริเวณนี้มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ บางต้นมีอายุกว่า 1,200 ปี ครอบคลุมพื้นที่เมือง Nagai, เมือง Nanyo และเมือง Shirataka โดยช่วงฤดูใบไม้ผลิ นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานขี่ชมซากุระตามจุดต่างๆ กว่า 20 จุดบนเส้นทาง
Credit : เว็บไซต์ http://flower-liner.jp/en/
ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาทำการ : ตามรอบเวลารถไฟ โดยเริ่มต้นตั้งแต่รอบแรก 07.07 น. ไปจนถึงเวลา 20.50 น.
วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ 760 เยน, เด็ก 380 เยน
การเดินทาง : เริ่มต้นจากสถานี Akayu ไปสิ้นสุดที่สถานี Arato
เว็บไซต์
Dream Farmer’s Store “Ichigoen” Park
เพลิดเพลินกับการเก็บสตอเบอรี่ผลใหญ่ๆ พร้อมทานได้แบบไม่อั้นตลอด 30 นาที
นอกจากที่นี่จะเป็นฟาร์มสตอเบอรี่แล้ว ภายในบริเวณเดียวกันยังมีร้านค้าที่เปิดให้เกษตรกรในพื้นที่ สามารถนำผลผลิตทางการเกษตรของตัวเองมาฝากขายที่ร้านค้า โดยแต่ละเชล์ฟจะมีรูปและชื่อของเกษตรกรติดอยู่เพื่อบอกให้ผู้ซื้อทราบว่าผัก ผลไม้ แต่ละชนิดเป็นของฟาร์มไหนผลิต
ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาทำการ : 13.30 – 14.00 น. (กรุณาแสดงตัวก่อนเวลา 13.20 น.) เพียงวันละ 1 รอบต่อวัน เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม
วันหยุด : เฉพาะฟาร์มสตอเบอรี่ปิดทุกวันจันทร์ – ศุกร์
ค่าใช้จ่าย : ค่าเก็บสตอเบอรี่ท่านละ 2000 เยน
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Arato โดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์
Michi no Eki Yonezawa
ที่นี่เป็นทั้งจุดพักรถ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแก่นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ห้องน้ำ ขายของฝากที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะขอข้อมูลการท่องเที่ยวได้จากที่นี่อีกด้วย แนะนำให้ลองชิมเนื้อชื่อดังของเมือง Yonezawa ราเมงและโซบะ
แผนผังภายในพื้นที่จุดพักรถ Michi no Eki Yonezawa
จุดขายของฝากที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
จุดให้บริการข้อมูลการท่องเที่ยว
บรรดาร้านจำหน่ายอาหารด้านใน
Yonezawa Beef
Yonezawa Ramen
ร้านขายของฝากแฮนด์เมด
ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาทำการ : 09.00 – 18.00 น.
วันหยุด : เปิดทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : –
ที่อยู่ : 1039-1 Oku Kawai, Yonezawa, Yamagata 992-0117
เว็บไซต์
Kendama Spike Shop Painting Experience
เคนดามะเป็นของเล่นญี่ปุ่น รูปร่างเหมือนกางเขน มีถ้วยอยู่ที่ปลายไม้ทั้ง 3 ด้าน บนสุดมีปลายแหลม และบอลไม้ที่มีรู ผูกติดกับเชือก วิธีเล่นก็คือดึงลูกมาให้เสียบกับปลายไม้ หรือวางลูกบนถ้วยโยนสลับไปมา ออกแบบระบายสี Kendama ให้มีสไตล์ของตัวเองชิ้นเดียวในโลก นอกจากกิจกรรมระบายสีแล้วที่นี่ยังเป็นสถานที่ฝึกซ้อมอีกด้วย
เซทสำหรับฝึกระบายสีเคนดามะในสไตล์ของตัวเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาทำการ : 10.00 – 17.00 น.
วันหยุด : เปิดทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : 1700 – 2300 เยน
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Nagai เดินประมาณ 2 นาที
เว็บไซต์ หรือสามารถติดต่อได้ทาง อีเมล์
Donden Daira Snow Park
ลานสกีแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองอิเดะ (Iide) สนุกสนานกับกิจกรรมสุดยอดของฤดูหนาวที่ทุ่งหิมะ Donden Daira ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมขี่สกู้ตเตอร์หิมะ, นั่งบานาน่า โบ๊ตลากไปบนหิมะ หรือสนุกกับสไลด์เดอร์หิมะบนเนินหิมะสูงกว่า 10 เมตร โดยในปีนี้จะเปิดให้เล่นกิจกรรมสกีฤดูหนาวตั้งแต่ช่วงวันที่ 12 มกราคม จนถึงวันที่ 3 มีนาคม
กิจกรรมนั่งบานาน่าโบ๊ตลากไปบนหิมะ
กิจกรรมขี่สกู้ตเตอร์หิมะ
ปิดท้ายด้วยกิจกรรมสไลด์เดอร์หิมะบนเนินหิมะสูงกว่า 10 เมตร
ความพิเศษของที่สกีรีสอร์ทแห่งนี้คือคุณภาพของหิมะที่เรียกว่า Power Snow ที่มีความนุ่มฟูและขาวสะอาดมากๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาทำการ : เปิดทำการเฉพาะ วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 16.00 น.
วันหยุด : –
ค่าใช้จ่าย : เฉพาะค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป 300 เยน
Free Pass Ticket รวมกิจกรรมต่างๆ (เล่นได้ 6 ชั่วโมง) ผู้ใหญ่ 3500 เยน เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป 2500 เยน
Free Pass Ticket รวมกิจกรรมต่างๆ (เล่นได้ 2 ชั่วโมง) ผู้ใหญ่ 2000 เยน เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป 1500 เยน
ตั๋วแบบทดลองเล่น Trial Ticket 1000 เยน
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Hagyū โดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
Kawanishi Machi Komatsu Ski Resort
ลานสกีแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเมืองคะวะนิชิ (Kawanishi) เยือนลานสกีที่ได้ชื่อว่ามีปริมาณหิมะตกมากที่สุดแห่งหนึ่งของยะมะงะตะ พร้อมคอร์สเล่นสกีมากมายให้เลือกตามความต้องการตั้งแต่ผู้เริ่มต้นไปจนถึงขั้นแอดวานซ์ อุปกรณ์การเล่นสกีสำหรับผู้เริ่มต้นจะเรียกว่า Yukiita มีลักษณะเป็นแผ่นไม้กระดานเรียบๆ รูปร่างคล้ายเซิร์ฟบอร์ด ผูกเชือกติดกับเอวของเราเอาไว้ จากนั้นขึ้นไปยืนบนตำแหน่งเท้าบนแผ่นไม้แล้วทรงตัวให้ไหลไปตามความลาดชันของเนินหิมะ โดยจะมีสตาฟคอยดูแลแนะนำวิธีการเล่นให้ โดยในปีนี้จะเปิดให้เล่นกิจกรรมสกีฤดูหนาวตั้งแต่ช่วงวันที่ 4 มกราคม เป็นต้นไป
อุปกรณ์การเล่นสกีสำหรับผู้เริ่มต้นจะเรียกว่า Yukiita มีลักษณะเป็นแผ่นไม้กระดานเรียบๆ รูปร่างคล้ายเซิร์ฟบอร์ด
ข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0238-44-2843
เวลาทำการ : เปิดทำการเฉพาะ วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 – 16.00 น.
ช่วงกลางคืน : เปิดวันอังคาร, พฤหัสบดี, ศุกร์, เสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 18.00 – 20.00 น.
วันหยุด : –
ค่าใช้จ่าย : ราคารวมอุปกรณ์การเล่น เริ่มต้นที่ 4500 เยน
ตํ๋วสำหรับค่าขึ้น Ropeway เที่ยวละ 50 เยน หรือราคาเหมาแบบ 10 เที่ยว ราคา 500 เยน ราคาเหมาแบบครึ่งวัน ราคา 1000 เยน และ 1 วัน ราคา 1500 เยน ไม่จำกัดรอบ
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Uzen-Komatsu โดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
Onogawa Onsen Town
นอกจากกิจกรรมสกีหิมะที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ เมืองอนเซ็นของแถบนี้ก็โด่งดังไม่แพ้กัน เรามาเยือนเมือง Onogawa Onsen ทดลองแช่น้ำพุร้อน ที่อุดมไปด้วยคุณภาพของธาตุโซเดียม, แคลเซียมและเรเดียม ที่มีประโยชน์ในการช่วยปรับระบบประสาทและการรับรู้ ภายในเมืองอนเซ็นแห่งนี้ประกอบด้วยโรงแรมที่พักทั้งหมด 14 แห่ง โดยแต่ละโรงแรมอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการบ่ออนเซนส่วนกลางได้ มีค่าใช้จ่ายที่ละ 1000 เยน เพื่อเพลิดเพลินกับบ่อน้ำพุร้อนที่หลากหลายในแต่ละโรงแรม
ถ้ำน้ำแข็งหรือที่เรียกว่า “Kamakura” ด้านในจัดเป็นโต้ะสำหรับสั่งราเมงจากร้านด้านข้างมาทานได้
รอบนี้เรามีโอกาสเข้าพักที่เรียวกัง Onogawa Onsen Azumaso
ภายในห้องพักแบบญี่ปุ่นมีโต๊ะโคทัสสึให้ด้วย
วิวสวยๆจากด้านนอกห้อง
ได้เวลาผ่อนคลายกับการแช่อนเซ็น
แช่อนเซ็นเสร็จก็ได้เวลาทานอาหารค่ำสไตล์ไคเซกิ
ข้อมูลเพิ่มเติม
เรียวกัง Onogawa Onsen Azumaso
ราคาเริ่มต้น 12000 – 30000 เยนต่อคน
เว็บไซต์
ใครมาเยือนเมืองนี้แนะนำให้ลองชิมไข่อนเซนแบบแท้ๆ จากบ่อน้ำร้อนเลยทีเดียว
ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาทำการ : –
วันหยุด : เปิดทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : ค่าใช้บริการบ่อน้ำพุร้อนส่วนกลางแต่ละโรงแรม ราคาที่ละ 1000 เยน
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Yonezawa โดยสารรถรถบัสไปลงที่ป้ายจุดจอด Onogawaonsen หรือโดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 20 นาที ราคา 3000 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
เทศกาลประดับโคมไฟฤดูหนาว Uesugi Snow Lantern Festival
อีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปก็คือ การเดินทางไปชมเทศกาลประดับโคมไฟฤดูหนาว “Uesugi snow lantern festival” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดินแดนหิมะที่โยเนซาว่า สัมผัสความงามของโคมไฟหิมะกว่า 300 โคมพร้อมเทียนหิมะอีกกว่า 3000 ชิ้น ที่จะส่องแสงสว่างไสวงดงามสุดโรแมนติกภายในพื้นที่ของศาลเจ้า Uesugi Jinja โดยศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติการสร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1876 สร้างขึ้นภายในซากปราสาทเก่า Yonezawa เพื่ออุทิศแด่ท่าน Kenjin Uesugi เจ้าเมือง Yonezawa ภายในชั้นใต้ดินของศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นที่จัดแสดงห้องเก็บรักษาสมบัติ เครื่องไม้เครื่องมือในสมัยโบราณ รวมถึงกระดูกของท่าน Kenjin Uesugi อีกด้วย
บริเวณด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้า Uesugi Jinja
น้ำในคลองรอบๆตัวปราสาทเก่ากลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด
งานศิลปะจากเด็กนักเรียน
ปราสาทจำลองด้วยหิมะ
ซุ้มขายอาหารยะไตภายในงานเทศกาล
ข้อมูลเพิ่มเติม
เทศกาล Uesugi Snow Lantern Festival เปิดให้เข้าชม 2 วัน ตั้งแต่ 9 – 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ศาลเจ้า Uesugi Jinja
เวลาทำการ : ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน 06.00 – 17.00 น. / ช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม 07.00 – 17.00 น.
วันหยุด : เปิดทุกวัน (หอเก็บสมบัติ ปิดทำการตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม)
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าชมหอเก็บสมบัติ 400 เยน
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Yonezawa ทางออกฝั่งตะวันตก ดยสารรถประจำทาง Yoneza-Ado city loop bus ลงที่จุดจอด Uesugi Jinja-mae ราคา 200 เยน หรือโดยสารรถแท็กซี่ไปที่ศาลเจ้า Uesugi Shrine ประมาณ 5 นาที ค่าโดยสาร 1000 เยน
เว็บไซต์
เทศกาลโคเซะโทริ (Kasetori Festival)
ร่วมชมเทศกาลพื้นบ้านที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 350 ปีของเมือง Kaminoyama จัดขึ้นเพื่อขอพรไม่ให้เกิดเหตุอัคคีภัย โดยเหล่าผู้ร่วมขบวนจะสวมชุดที่ทำด้วยฟางเรียกว่า “Kendan” จากนั้นจะเดินขบวนไปในหมู่บ้านด้านล่างเนินเขา โดยจะมีการร้องเพลงและเต้นรำไปด้วย ผู้ร่วมขบวนจะร้องตะโกนว่า “kasedori, kasedori, ka-ka-ka” ชาวบ้านที่อยู่ระแวกนั้นก็จะตักน้ำจากทัพพีสาดไปที่ผู้ร่วมขบวน พร้อมขอพรให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ทั้งทางด้านธุรกิจและการเกษตรกรรม
ผู้ร่วมขบวนจะสวมชุดที่ทำด้วยฟางเรียกว่า “Kendan”
จากนั้นขบวนได้เดินลงไปด้านล่างของหมู่บ้าน
ข้อมูลเพิ่มเติม
ช่วงเวลาจัดงาน: จัดขึ้นช่วงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
การเดินทาง : จากสถานี Kaminoyamaonsen เดินประมาณ 15 นาที (ประมาณ 700 เมตร) หรือโดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์
Kaminoyama Castle
ในช่วงสงคราม ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาบริเวณจุดศูนย์กลางของเมือง ต่อมาถูกใช้เป็นที่พำนักของเหล่าขุนนางในสมัยเอโดะ จากนั้นได้พังทลายลง แล้วสร้างขึ้นใหม่ในช่วงปีค.ศ. 1980
วิวจากด้านบนของเนินเขา
ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาทำการ : 09.00 – 16.45 น.
วันหยุด : เปิดทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ 410 เยน / เด็กโต 310 เยน / เด็กเล็ก 50 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Kaminoyamaonsen เดินประมาณ 15 นาที (ประมาณ 700 เมตร) หรือโดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์
Kumano Taisha Shrine
สักการะศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานกว่า 1,200 ปี ได้ชื่อว่าเป็น “Ise of Tohoku” เนื่องจากมีลักษณะของศาลเจ้าคล้ายคลึงกับศาลเจ้าอิเสะ จิงงู ในจังหวัดมิเอะ มีความเชื่อกันว่าที่นี่เป็นจุด Power Spot ที่วัยรุ่นนิยมเดินทางมาขอพรโดยเฉพาะเรื่องของความรัก ด้านในตัวศาลเจ้ายังมีการแสดงให้ชมเป็นรอบๆ ทั้งการเล่นเครื่องดนตรีโบราณ, การแสดงร่ายรำต่างๆ
ทางเดินขึ้นสู่ตัวศาลเจ้า
ระฆังใบเดียวที่รอดพ้นจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันที่มีได้รับการรับรองให้เป็นสมบัติของชาติทางวัฒนธรรม มีอายุนานเกือบ 400 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1626
ศาลเจ้าหลัก
ห้องโถงภายในศาลเจ้า
นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อทางวัดเพื่อขอเข้าร่วมพิธีสวดมนต์และชมการแสดงของทางศาลเจ้าได้
ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาทำการ : – (รอบการแสดงโปรดติดต่อทางวัดโดยตรงทางเว็บไซต์ http://kumano-taisha.or.jp
วันหยุด : เปิดทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : ไม่มีค่าเข้าชม (ค่าเข้าชมการแสดงโปรดติดต่อทางวัดโดยตรง)
การเดินทาง : จากสถานี Akayu เดินเท้าประมาณ 15 นาที หรือโดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์
Yoneori Tourism Center and Benibana Japan Textile Experience
แวะขอข้อมูลการท่องเที่ยว รับประทานอาหาร ที่ศูนย์ให้บริการข้อมูลการท่องเที่ยวเมือง Yoneori หลังจากนั้นสนุกกับการทดลองทำผ้าเช็ดหน้าย้อมสีแบบธรรมชาติโดยใช้ดอก Benibana
ภายในร้านขายของฝากที่ระลึก
สินค้าแฮนด์เมดทำด้วยเนื้อไม้แกะสลัก
แวะรับประทานอาหารเที่ยง ข้าวอบหม้อไฟเนื้อ พร้อมเครื่องเคียงชุดเบนโตะ
จากนั้นมาทดลองทำผ้าเช็ดหน้าย้อมสีแบบธรรมชาติโดยใช้ดอก Benibana
นำกลีบดอก Benibana มาละลายกับน้ำ
นำผ้าเช็ดหน้าที่เตรียมไว้มามัดหรือใช้ก้านไม้คั่นไว้เพื่อให้เกิดลวดลายต่างๆ
ออกแบบกันตามใจชอบ
ผลงานที่เสร็จออกมา
ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาทำการ : ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน 09.00 – 17.30 น. / ช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม 09.30 – 17.00 น.
วันหยุด : เปิดทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : โปรดติดต่อทางอีเมล์ yoneori@ek.co.jp
การเดินทาง : จากสถานี Takahata โดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
Uesugi Hakushakutei
ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นคฤหาสน์ของท่าน Mochinori Uesugi ขุนนางผู้มีชื่อเสียงในเมือง Yonezwa สืบทอดกันมามากกว่า 14 รุ่น อีกทั้งที่นี่ยังได้รับการรับรองให้เป็นสมบัติของชาติที่สามารถจับต้องได้ นักท่องเที่ยวสามารถมารับประทานอาหารสูตรที่สืบทอดกันมาภายในตระกูล Uesugi รวมถึงเนื้อวัวที่มีชื่อเสียงของเมือง Yonezawa หรือจะมาจิบชาเขียวชมความงามของบรรยากาศสวนในสไตล์ญี่ปุ่น
ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาทำการ : ส่วนของร้านอาหาร เปิดเวลา 11.00 – 20.00 น. (หลังจากเวลา 14.30 รับเฉพาะลูกค้าที่ทำการจองมาล่วงหน้าแล้วเท่านั้น) ส่วนของคาเฟ่ เปิดเวลา 10.00 – 17.00 น.
วันหยุด : ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน เปิดทุกวัน / ช่วงวันที่ 1-31 มีนาคม ปิดทุกวันพุธ
ค่าใช้จ่าย : อาหาร เริ่มต้นที่เซทละ 2000 เยนไม่รวมภาษี / เครื่องดื่มในคาเฟ่ เริ่มต้นที่ 500 เยน ไม่รวมภาษี
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Yonezawa ทางออกฝั่งตะวันตก โดยสารรถประจำทาง Yoneza-Ado city loop bus ลงที่จุดจอด Uesugi Jinja-mae ราคา 200 เยน หรือโดยสารรถแท็กซี่ไปที่ร้านตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้า Uesugi Shrine ประมาณ 5 นาที ค่าโดยสาร 1000 เยน
เว็บไซต์