ทริปนี้ออกเดินทางไปเมืองโตโยต้า จังหวัดไอจิ ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เจาะลึกสถานที่เที่ยวดังๆที่เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะรู้จักกันดี ไม่ว่าจะเป็น ธีมพาร์คสตูดิโอจิบลิ Ghibli Park ที่ตั้งอยู่ในเมืองที่อยู่ติดกับเมืองโตโยต้า, หุบเขาใบไม้เปลี่ยนสีที่โครังเค (Korankei), เมืองโบราณอาสึเกะ (Asuke), ซากุระสี่ฤดูที่โอบาระ (Obara) และขอแนะนำ ซานาเกะออนเซ็น (Sanage Onsen) เมืองน้ำพุร้อนในหุบเขาที่มีโรงแรมสุดพิเศษ

รีวิวตอน 1 >> Aichi: เที่ยวเจาะลึกเมืองโตโยต้า จ.ไอจิ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี – Ghibli Park & Sanage Onsen

รีวิวตอน 3 >> Aichi: เที่ยวเจาะลึกเมืองโตโยต้า จ.ไอจิ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี – Obara

สำหรับรีวิวตอนที่สอง จะพาไปเที่ยวที่หุบเขาใบไม้เปลี่ยนสี โครังเค (Korankei) รวมถึงกิจกรมต่างๆที่สามารถทำได้ที่นี่ระหว่างรอชมไลต์อัพในตอนกลางคืน และ ไปเดินเล่นเมืองโบราณที่อยู่ใกล้กันอย่าง อาสึเกะ (Asuke) ที่สามารถเดินถึงกันได้ไม่เกิน 10 นาที

หุบเขาโครังเค (Korankei)

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่พลาดไม่ได้ และอาคารบ้านเรือนสไตล์โบราณที่ราวกับได้ย้อนเวลากลับมาในอดีต หากมีโอกาสแวะมาที่เมืองโตโยต้าในช่วงฤดูใบไม้ร่วง “โครันเค” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่อยากให้พลาด “โครันเค” เป็นลำธารประมาณ 1 กิโลเมตรในแม่น้ำโทโมเอะและตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไอจิโคเก็น ภาพพื้นหลังที่มีภูเขาและแม่น้ำที่สวยงาม แต่งแต้มสีสันด้วยต้นเมเปิ้ลและต้นสนกว่า 4000 ต้น 

หุบเขาโครังเค (Korankei) เป็นหุบเขาที่ตั้งติดกับภูเขาอีโมริ (Mount Iimori) มีความสูง 254 เมตร ตั้งอยู่ในเมืองโตโยต้า ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคชุบุ บนภูเขาอีโมริเป็นที่ตั้งของวัดโคจะคุจิ (Kojakuji Temple) รอบๆวัดเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ล

โดยต้นเมเปิ้ลเหล่านี้เริ่มปลูกโดยเจ้าอาวาสของวัดโคจาคุจิ มาตั้งแต่ในสมัยเอโดะ ริมแม่น้ำโทโมเอะ (Tomoe River) ซึ่งมีสะพานไม้ไทเกะสึเคียว (Taigetsukyo Bridge) สะพานสีแดงสัญลักษณ์ของหุบโครังเค

ในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่เหมาะแก่การชมความสวยงามของใบไมเปลี่ยนสีสีแดงสดของที่นี่ รวมถึงจะมีการจัดงาน “Korankei Maple Festival” ที่มีผู้คนมาร่วมงานจำนวนมากทุกปี และในตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟ ให้สามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามเพลิดเพลินราวกับอยู่ในโลกแห่งความฝันได้

  • การเดินทาง: จากสถานี Nagoya ขึ้นรถไฟสาย Higashiyama ลงที่สถานี Fushimi จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Tsurumai ลงที่สถานี Toyotashi แล้วขึ้น Meitetsu Bus Yanami Line (bound for Asuke) ลงที่ป้ายโครันเค
  • เว็บไซต์
  • พิกัด

แนะนำสถานที่เที่ยวในบริเวณโครังเค

วัดโคจาคุจิ (Kojakuji Temple) วัดเก่าแก่ในนิกายโซโต สร้างขึ้นในปีค.ศ.1427 ในบริเวณที่พำนักของตระกูลผู้ปกครองท้องถิ่น ตระกูลอาสุเกะ ตั้งอยู่ในใจกลางของโครันเค ทางเข้าศาลเจ้านั้นเรียงรายไปด้วยต้นเมเปิลและมีต้นซีดาร์สองต้นที่ว่ากันว่าปลูกโดยเจ้าอาวาสของวัดโคจาคุจิ ผู้ริเริ่มปลูกต้นเมเปิ้ลที่นี่

  • ค่าเข้าชม: ไม่เสียค่าเข้าชม 
  • เวลาทำการ: เปิดให้เข้าสักการะได้ตลอด
  • เว็บไซต์
  • พิกัด

ร้านอาหารญี่ปุ่นอิจิโนะทานิ (Ichinotani) ก่อตั้งในยุคโชวะ (ค.ศ.1965) ตั้งอยู่ด้านในของโครันเค อยู่บนเนินเขาสามารถชมวิวในฤดูกาล ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูใบไม้ผลิ ต่างๆของโครันเคได้จากระเบียงของร้าน เมนูขึ้นชื่อของที่นี่คือ หม้อไฟนาเบะ ที่ใช้เนื้อสัตว์หากินยากอย่าง เนื้อหมูป่า เนื้อหมี เนื้อไก่ฟ้า และอินากะนาเบะในน้ำสต๊อกมิโซะแดงสูตรลับของทางร้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารทั่วไปอย่างข้าวหน้าปลาไหล และ อาหารประจำวันให้เลือกทานได้ตามชอบด้วย ครั้งนี้เราเลือกทานเซ็ตเมนูหม้อไฟหมูป่า (5,500 เยน) เนื้อหมูป่าไม่มีมัน ไม่เหนียวและไม่มีกลิ่นแรง รสสัมผัสเหมือนทานเนื้อหมูทั่วไป เข้ากับน้ำซุปมิโซะแดงเข้มข้นอร่อยมาก

  • เวลาทำการ: 10.30-16.00 น. หยุดทุกวันพฤหัส (เปิดเฉพาะถ้าตรงกับวันหยุดราชการ)
  • เว็บไซต์
  • พิกัด

บ้านโบราณซันชูอาสึเกะ (Sanshu Asuke Yashiki)

อดีตบ้านพักของชาวนาที่ร่ำรวยในสมัยโบราณ ได้รับการบูรณะใหม่ตอนปีค.ศ.1981 ให้กลายเป็นสถานที่ที่สืบทอดวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านงานหัตถกรรมอย่าง การทอผ้า, งานไม้, งานฝีมือต่างๆ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมได้ และครั้งนี้เราก็ได้มีโอกาสฝึกทำที่รองแก้วสานด้วยไม้ไผ่ ที่ร้าน Hataori อยู่ด้านในฝั่งประตูคาเอเดะ (ใช้เวลา 30 นาที ค่าใช้จ่าย 1,500 เยน ได้ผลงาน 3 ชิ้น)

คาเฟ่คาตาคาโกะ (Katakago Cafe) คาเฟ่ที่มีระเบียงเปิดออกสู่ริมแม่น้ำและสามารถดื่มด่ำลมเย็นและวิวทิวทัศน์ของโครันเคได้อย่างเต็มที่ เป็นอีกสถานที่ที่แนะนำว่าต้องมาให้ได้ เมนูในร้านมีทั้งกาแฟคั่วที่หอมกรุ่นที่ใช้ถ่านที่ทำในบ้านโบราณซันชูอาสึเกะ รวมถึงน้ำผลไม้สด อาทิ น้ำแอปเปิ้ล 100% น้ำบ๊วยเพื่อสุขภาพ และ น้ำส้มยูซุ


ย่านเมืองเก่าอาสึเกะ (Asuke)

ในบริเวณโครันเค ยังมี ย่านเมืองเก่าอาสึเกะ ที่เป็นพื้นที่แรกในจังหวัดไอจิที่ได้รับเลือกให้เป็น เขตอนุรักษ์กลุ่มสิ่งปลูกสร้างทางวัฒนธรรมที่สำคัญ อดีตเมืองพ่อค้าที่เคยรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นเมืองแห่งการสัญจรของผู้คนและการขนส่งสินค้า ในช่วงปลายสมัยเอโดะ ทางเดินยาวกว่า 2 กม.ที่เรียงรายด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ให้ความรู้สึกเหมือนหลงเข้าไปในหนังย้อนยุค มีทั้งร้านขายของกินเล่น คาเฟ่ให้นั่งเพลิน ร้านขายของกระจุกระจิก สำหรับใครที่มีแพลนจะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โครันเค ระหว่างรอเปิดไฟไลต์อัพ ข้ามมาเดินเล่นที่เมืองเก่าอาสึเกะได้เลย เมืองค่อนข้างเงียบสงบ ผิดกับฝั่งโครันเคที่คนเยอะมาก เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักที่นี่กัน เดินเล่นถ่ายรูปได้แบบชิลล์ๆเลย

ร้านเนื้อ Izukame ร้านขายเนื้อและเครื่องเคียงที่เปิดมาตั้งแต่ปีค.ศ.1890 ตัวอาคารร้านยังคงหลงเหลือคานเก่าและป้ายตั้งแต่สมัยเปิดร้านที่ควรแค่แก่การมาชม สิ่งที่อยากให้ลองชิมให้ได้เลยคือ “ชิชิโคร็อกเกะ” ซึ่งคำว่าชิชิ มาจากจาก อิโนะชิชิ ที่หมายถึง หมูป่า เพราะฉะนั้นเมนูนี้ก็คือ โคร็อกเกะเนื้อหมูป่านั่นเอง โคร็อกเกะร้อนๆ กรอบๆ ที่มีเนื้อหมูป่าที่จับได้จากภูเขาใกล้ๆ ผสมกับมันภูเขา มิโซะ และขิง เหมาะสำหรับซื้อกินลองท้องระหว่างเดินเล่น

  • เวลาทำการ 11.00-19.00 น. หยุดทุกวันพฤหัส
  • พิกัด

ร้านขนม Nichigetsu-Monaka Sohonpo Kawamuraya พอเปิดกระดาษห่อลายพระจันทร์สุดน่ารักออก จะพบกับขนมโมนากะ ที่พิมพ์ตัวอักษร “日月” (Nichigetsu) ไว้ ไส้ทำมาจากถั่วขาวจากฮอกไกโด น้ำธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ผุดขึ้นมาจากภูเขาที่อยู่ด้านหลังของเมืองอาสึเกะ และน้ำตาลคุณภาพดี ต้มจนได้รสหวานและได้ถั่วขาวที่เหนียวกำลังพอดี

ร้านหนังสือและแกลลอรี่ Kura-no-Naka Gallery Manrin Bookshop & Café ร้านเป็นบ้านมาจิยะ บ้านไม้แบบโบราณของญี่ปุ่น ภายในร้านนั้นแสนอบอุ่น มีพื้นที่โซนคาเฟ่ และสามารถสนุกสนานไปกับการทำเค้กโฮมเมดได้ คุณยายเจ้าของร้านน่ารักและใจดีมากๆ และด้านข้างคือ ตรอกมาริน ทางเดินแคบๆระหว่างอาคาร กำแพงไม้สีดำที่ตัดกันกับผนังปูนสีขาวเกิดเป็นภาพที่ชวนให้นึกถึงวันวาน

  • เวลาทำการ 10.00-18.00 น. หยุดทุกวันพุธและพฤหัส
  • พิกัด


เดินเที่ยวเล่นในเมืองโบราณอาสึเกะเสร็จ ฟ้าก็เริ่มมืดพอดี ได้เวลาเดินกลับมาชมลต์อัพที่โครังเคกันต่อ