บทความนี้เป็นรีวิวการเช่ารถขับแบบฉบับคนเวลาน้อย เนื่องจากทริปนี้เรามีเวลาจำกัดเพียง 48 ชั่วโมง การเดินทางด้วยรถสาธารณะ อาจทำให้ไปถึงจุดหมายไม่ทันใจ การเช่ารถขับจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะทำให้เราได้เดินทางไปหลายที่ที่ตั้งใจไว้ และที่สำคัญการขับรถในญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะถนนหนทางเค้าทำไว้ดี แค่ขับตามเนวิเกเตอร์ก็ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

แน่นอนว่าบริษัทเช่ารถในญี่ปุ่น มีหลากหลายบริษัท และเพื่อค้นหาดีลที่ดีที่สุด เรามักจะเลือกใช้ ToCoo! Car Rental บริการรถเช่า ได้รับความร่วมมือจากบริษัทรถเช่ารายใหญ่ 68 แห่ง อย่าง TOYOTA Rent a Car, NIPPON Rent A Car, Orix Rent a Car และ Nissan Rent a Car ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถจองรถเช่าได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น และที่สะดวกสุดๆ คือมีสาขาจุดรับ-คืนรถ ตามหัวเมืองสำคัญ สถานีรถไฟต่างๆ รวมถึงสนามบิน มากกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ จะไปเริ่มต้นการเดินทางจากที่ไหน ก็สามารถใส่ในแผนเที่ยวของเราได้เลย

ข้อดีของ ToCoo!

  • แผนบริการรถเช่ายอดนิยม ราคาประหยัดหลากหลายแบบ
  • มีรถเช่าให้เลือกมากมาย มีรถเช่าในสต็อกเพียงพอ ประมาณ 100,000 คันต่อวัน
  • ตัวเลือกต่างๆ เช่น เราเตอร์ WIFI บัตร ETC และ บัตรผ่านทางด่วนไม่จำกัดจำนวน
  • อุปกรณ์ขับขี่ในฤดูหนาวครบครัน เช่น บริการขอใช้ยางสำหรับหิมะ และตัวเลือกถุงเท้าสำหรับหิมะ
  • จองได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทุกวันตลอดทั้งปี และรถให้เช่าจะถูกจัดเตรียมให้พร้อมๆ กับการจอง
  • มีบริการช่วยเหลือหลายภาษา แน่นอนว่ามีภาษาไทยด้วย

เราสามารถค้นหารถจากจุดรับรถและจุดคืนรถ ที่สามารถคัดเลือกจาก สาขาในสนามบิน หรือ ตามเขตพื้นที่ต่างๆทั่วญี่ปุ่น ซึ่งจะต้องค้นหาจากจังหวัดและย่อยไปตามเมืองอีกทีนะ อย่างครั้งนี้เราเริ่มต้นรับรถจากสถานี Yokohama และไปคืนรถที่สนามบินฮาเนดะ 


การเลือกรถให้เหมาะสม ก็คือต้องดูจำนวนผู้โดยสาร และ จำนวนสัมภาระด้วย

และยังมีออปชั่นที่จำเป็น อย่าง เครื่องอ่านบัตร ETC, GPS ภาษาอังกฤษ เป็นต้น ที่มาพร้อมกับตัวรถ ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม

นอกจากนี้ยังมีรหัสคูปองส่วนลดสำหรับการจอง 10,000 เยนขึ้นไป
ได้ส่วนลด 1,000 เยน เพียงกรอกรหัส TCTYT1
ในขั้นตอนการจอง >> เข้าเว็บไซต์จองรถที่นี่

แนะนำ ToCoo! Plans

  • Early Bird Pay Now Plan ทำการจองรถเช่าล่วงหน้า120 วันถึง 45 วันก่อนวันรับรถ รับส่วนลดพิเศษ

  • Car Model Specify Plan เลือกรุ่นรถที่ต้องการได้ตอนทำการจอง

เอกสารที่ต้องใช้รับรถก็คือ หมายเลขการจอง (ดูจากอีเมลได้) พาสปอร์ตของผู้ขับ และ ใบขับขี่สากล เราใช้เวลาในการยืนยันข้อมูลต่างๆ ประมาณไม่เกิน 15 นาที ก็ไปรับรถได้เลย โดยพนักงานจะพาเราไปตรวจสภาพรถโดยรวม ดูรอยต่างๆรอบคันรถที่มีอยู่แล้ว รวมถึงสาธิตการใช้รถ รวมถึง GPS และ ใส่บัตร ETC ในเครื่องอ่าน พร้อมตรวจสอบว่าใช้งานได้ปกติ 

สำหรับแผนการเดินทางในครั้งนี้ เราตั้งเป้าไว้ที่เมืองอิซุ จังหวัดชิซุโอกะ โดยแรกเริ่มเดิมทีอยากจะไปลองขับเส้นทาง Izu Skyline แต่ว่าฟ้าไม่เป็นใจเท่าไหร่ มีเมฆค่อนข้างเยอะ เลยต้องปรับแผนเอาหน้างาน พอดูจากเส้นทางแล้ว ขาไปเราเลือกไปทาง Gotemba Outlet ก่อนเข้าไปโซนอิซุที่เป้นจุดหมายในทริปนี้ วันถัดมา เที่ยวตัวเมืองอิซุในช่วงเช้า หลังจากนั้นก็พอจะได้แวะ Mishima Skywalk และ กินข้าวที่ Hakone-machi ก่อนกลับไปคืนรถที่สนามบินฮาเนดะในช่วงเย็น ถือว่าเป็น 2 วัน ทีไ่ด้ไปหลายที่มาก อย่างน้อยเราก็คิดถูกที่เลือกเช่ารถขับในครั้งนี้

หลังจากรับรถเสร็จ ก่อนออกจากตัวเมืองเราแวะไปที่มินาโตะมิไร ท่าเรือของโยโกฮามะ หาอะไรทานเติมพลังก่อนเดินทางไกลกันสักหน่อย

อาคารโกดังอิฐแดงโยโกฮามะ (Yokohama Red Brick Warehouse) หนึ่งในแลนด์มาร์คประจำเมือง โดดเด่นที่ตัวอาคารที่มีผนังด้านนอกเป็นอิฐบล็อกสีแดง ด้านในปรับปรุงใหม่ให้เป็นร้านค้าขายของฝาก พิพิธภัณฑ์ คาเฟ่ ร้านอาหาร

วันนี้เราทานที่ร้าน La Cocorico เป็นแนวพาสต้าและเบอร์เกอร์ อร่อยใช้ได้เลย ที่สำคัญมีที่นั่งลานด้านนอกมองเห็นวิวอาคารโกดังอิฐแดงเพลินๆ

ส่วนใครที่ชอบดิสนีย์ แนะนำให้ขึ้นไปที่ชั้น 3 จะมี Disney Harvest Market by Cafe Company เป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพ คาเฟ่ และมีขายของที่ระลึกที่หาซื้อได้เฉพาะที่นี่ด้วย น่ารักมากๆ


พร้อมออกเดินทาง กรอก Mapcode หรือ เบอร์โทรศัพท์ของสถานที่ที่เป็นจุดหมายปลายทาง ลงใน GPS ได้เลย

ถ้าต้องมีการเดินทางข้ามเมือง ข้ามจังหวัด แนะนำให้ทำการจองบัตร ETC เพิ่มด้วยนะ เพราะว่าทางด่วนที่ญี่ปุ่นช่วยให้เราประหยัดเวลาได้เยอะ และสามารถวิ่งผ่านช่อง ETC ได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าจะสื่อสารไม่ได้

อีกหนึ่งเสน่ห์ของการเช่ารถขับก็คือ เราจะได้มีโอกาสแวะ Roadside station หรือ Service Area (SA) ระหว่างทางซึ่งจะรวมของอร่อย ของฝากท้องถิ่นประจำเมืองที่อยู่ในแต่ละจุด ซึ่งครั้งนี้เราแวะกันที่ EXPASA Ebina SA แล้วบังเอิญได้เจอกับ Tokyo Banana Softcream รสพิเศษเฉพาะที่สาขานี้ก็คือ ซอฟต์ครีมผสมระหว่างรสกล้วยกับเมล่อน และมีของฝากขึ้นชื่อเป็น ขนมเมล่อนปัง


Gotemba Premium Outlets เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองโกเทมบะ จังหวัดชิซุโอกะ รวมแบรนด์ดังชั้นนำเอาไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น กว่า 290 ร้านค้า และเป็นเอาต์เลตที่สามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย

ภาพประกอบจากทริปในช่วงฤดูหนาว


อิซุโนะคุนิพาโนรามาพาร์ค (Izunokuni Panorama Park) นั่งกระเช้าขึ้นมาบนยอดเขา เป็นอีกจุดที่สามารถมองเห็น ภูเขาไฟฟูจิ และอ่าวซุรุงะ ได้อย่างสวยงาม แถมยังมีบริการแช่เท้าในออนเซ็นไปพร้อมกับการชมวิว นอกจากนี้ด้านบนยังมีศาลเจ้าและพระพุทธรูปหินจิโซขนาดเล็ก 100 องค์ ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะขึ้นมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และขอพรเรื่องโชคลาภ รวมถึงเนื้อคู่ กันอีกด้วย

izu 2.28
Credit: Izunokuni Panorama Park

izu 2.30
Credit: Izunokuni Panorama Park

ขับรถไปชมบรรยากาศสวยๆระหว่างทาง

ชูเซนจิออนเซ็น (Shuzenji Onsen) หมู่บ้านออนเซ็นเล็กๆบนภูเขา ที่ชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน 100  แหล่งออนเซ็นที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ส่วนชื่อ ชูเซนจิ นั้นมาจากชื่อของวัดชูเซนจิ (Shuzenji) ซึ่งเป็นวัดพุทธนิกายเซน ที่มีอายุกว่า 1,200 ปี และไม่ไกลจากวัด มีป่าไผ่ และสะพานแดง ให้ไปเดินผ่อนคลายถ่ายรูปกันได้ด้วย

พื้นที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องวาซาบิและผลิตภัณฑ์จากวาซาบิซึ่งมีให้เลือกสรรมากมาย แน่นอนว่า มาเที่ยวกับเราต้องไปตามหาซอฟต์ครีม และที่นี่มีซอฟต์ครีมวาซาบิที่ขูดสดๆ ซึ่งวาซาบิสดจะไม่ฉุนและไม่เผ็ดร้อนอย่างที่คิด ค่อยๆกินด้วยกันก็เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ


Izu Marriott Hotel Shuzenji โรงแรมสุดพิเศษในเครือแมริออท ที่เมืองชูเซ็นจิ จริงๆแล้วที่นี่คือจุดหมายหลักของเราในครั้งนี้ เพราะว่าอยากจะมาลองพักสักครั้ง ในส่วนของห้องพักมีให้เลือกแบบญี่ปุ่น และ ตะวันตก แน่นอนว่าเราเลือกแบบญี่ปุ่น ที่นี่มีออนเซ็น พร้อมกับวิวธรรมชาติ และไม่อยากให้พลาด ทั้งมื้อเช้าและมื้อเย็นในห้องอาหาร Grill & Dining G ที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นปรุงรสอร่อยถูกปากมากๆ

Credit: Izu Marriott Hotel Shuzenji

Credit: Izu Marriott Hotel Shuzenji

ขากลับเราสามารถเลือกกลับผ่านทางอาตามิ หรือ ผ่านทางฮาโกเนะก็ได้ ครั้งนี้เราเลือกไปทางฮาโกเนะ แวะทานอาหารกลางวันกันที่ท่าเรือ Hakone-machi และระหว่างทางสามารถแวะ Mishima Skywalk ได้ด้วย

มิชิมะสกายวอร์ค (Mishima Skywalk) สะพานแขวนคนเดินที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น (ยาว 400 เมตร สูง 70.6 เมตรจากระดับน้ำทะเล) ในวันที่ท้องฟ้าเปิดเต็มที่ เราจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตา นอกจากนี้ ยังสามารถมองเห็น อ่าวซุรุงะ ทะลฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรอิซุ ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

ใครสายชิลล์ ที่นี่มีคาเฟ่ บรรยากาศดีเปิดให้นั่งกันไปเพลินๆ หรือ ถ้าใครเป็นสายธรรมชาติ ผสมกับสายมูหน่อย ๆ ก็ห้ามพลาดเลย ที่จะหาซื้อเครื่องราง ที่มีเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้แปะติดไว้ ให้เราอธิษฐานขอพร ก่อนที่จะโยนลงไปจากสะพาน เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวต่อไป

3.05
ภาพประกอบจากทริปในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง

3.06
ภาพประกอบจากทริปในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง

Chaya Honjin Hotoriya ที่นี่เป็นทั้งร้านอาหารและร้านขายของฝากขนาดใหญ่ริมทะเลสาบอาชิ ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ Hakone-machi โดยอาหารที่มีชื่อเสียงของที่ร้าน Hotoriya คือ Hakone Hachiridon ข้าวหน้ากุ้งซากุระแบบสดๆและปลาแอนโชวี่ขนาดเล็กพร้อมซุปประจำวัน ลักษณะคล้ายข้าวยำ วิธีการทานคือแนะนำให้คลุกแล้วบีบมะนาวจะทำให้ได้รสชาติมากยิ่งขึ้น (เมนูมีเปลี่ยนตามฤดูกาล) และ Shichifuku Dango (ชื่อของเทพเจ้าโชคดีทั้งเจ็ด) ชุดดังโงะ 7 สี ย่างบนเตาไฟอ่อนๆ ทานคู่กับซอสมิโซะ ขิงสับและถั่วแดงบด

  • เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน ร้านอาหาร 10.30-16.00 น. (สั่งอาหารได้ถึง 15.30 น.) ร้านขายของฝาก 9.00-17.00 น.
  • เว็บไซต์
  • พิกัด

Credit: Chaya Honjin Hotoriya

DSC07884

Credit: Chaya Honjin Hotoriya

สำหรับคนที่เลือกจุดคืนรถเป็นที่สนามบินฮาเนดะ จะไม่ได้คืนที่สนามบินนะ สำนักงานจะอยู่ด้านนอก มีปั๊มใกล้ๆให้แวะเติมน้ำมันให้เต็มก่อนเข้าไปคืนรถ หลังจากทำเรื่องคืนรถ เคลียร์ค่าทางด่วนเสร็จเรียบร้อย ก็จะมีบริการรถชัทเทิลพาไปส่งถึงสนามบินเลย ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที สะดวกมากๆ

สรุปการเช่ารถขับในญี่ปุ่น

1. บริหารจัดการเวลาได้ กรณีมีเวลาจำกัด และต้องการเดินทางไปหลายที่ สามารถแวะระหว่างทางที่เป็นทางผ่านได้อย่างอิสระ จัดการเวลาได้ตามสะดวก ไม่ต้องขึ้นอยู่กับตารางรถไฟหรือรถบัส ที่ญี่ปุ่นขับรถค่อนข้างง่าย ถนนหนทางไม่ซับซ้อน มีป้ายชัดเจน ขับตาม GPS ได้เลย ไม่มีหลง

2. ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ เราสามารถเลือกประเภทรถที่เหมาะกับจำนวนคนและการใช้งานได้ตามงบที่มี ราคาเริ่มต้นต่อวันถือว่าไม่แพงเกินไป กรณีต้องเดินทางข้ามเมืองและจังหวัดบ่อยครั้ง การซื้อแพลนบัตรเหมาจ่าย ToCoo! Expressway pass จะช่วยประหยัดเงินได้มากที่สุด กรณีไม่ได้วางแผนว่าจะต้องใช้ทางด่วนบ่อยๆ ก็เลือกจองบัตร ETC จาก ToCoo! เพื่อชำระค่าทางด่วนตามจำนวนครั้งที่ใช้จริงได้ โดยค่าทางด่วนจะถูกเรียกเก็บจากบัตรเครดิตของคุณเพียงครั้งเดียวโดย ToCoo! หลังจากที่ทำการคืนบัตร ETC พร้อมรถ

  • ToCoo! Expressway Pass Plan (TEP) แพลนบัตรเหมาจ่ายใช้ทางด่วนได้ไม่จำกัด
  • ETC card ทำการจองบัตร ETC ล่วงหน้า

3. ความสะดวกสบาย ตั้งแต่การจองรถ รับรถ และ คืนรถ ทุกอย่างเป็นระบบ มีการจัดการที่ดี ละเอียดถี่ถ้วน และถูกต้อง จึงทำให้มั่นใจได้ในการเลือกใช้บริการของ ToCoo! Car Rental