การเดินทางในครั้งนี้ เราวางแผนมาเจาะลึก 3 จังหวัดในภูมิภาคโฮคุริขุ คือ ฟุคุอิ, อิชิคาวะ และ โทยามะ โดยบินลงสนามบินคันไซ แล้วใช้พาสสุดคุ้ม Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass รวมเวลาทั้งหมด 7 วัน รอบนี้มาช่วงปลายเดือนพ.ย.ก็จะยังทันชมใบไม้เปลี่ยนสีบ้าง นอกจากจะพาไปสถานที่เที่ยวแบบอันซีนแล้วยังพาไปสัมผัสประสบการณ์ค้างแรมหลากหลายรูปแบบด้วย ทั้ง ฟาร์มสเตย์, มินชูขุ, เรียวกัง และ นอนในโกดังโบราณ

อ่านรีวิวตอนแรก >> Hokuriku: เจาะลึกโฮคุริขุช่วงใบไม้เปลี่ยนสี – Fukui
อ่านรีวิวตอนสอง >> Hokuriku: เจาะลึกโฮคุริขุช่วงใบไม้เปลี่ยนสี – Ishikawa

สำหรับตอนนี้เราจะมาปิดท้ายทริปกันที่จังหวัดโทยามะ เที่ยวเมืองโบราณที่ทากาโอกะ, ค้างคืนในมินชูขุที่เมืองฮิมิ บ้านเกิดผู้วาดนินจาฮัตโตริ, และกลับมาเดินเที่ยวชมตัวเมืองโทยามะ และสิ้นสุดทริปที่เมืองเอ็ตจูยาสึโอะ ค้างคืนในโกดังโบราณ ตามไปเที่ยวกันเลย~


จาก​คานาซาวะ ขึ้นชินคันเซ็นมาแค่อึดใจเดียว ก็เข้าเขตของจังหวัดโทยามะที่อยู่ติดกันแล้ว โดยเราขึ้นชินคันเซ็นจากสถานี Kanazawa มาลงที่สถานี Shin-Takaoka และแวะเปลี่ยนเป็นรถไฟขบวนโลคอลไปที่สถานี Takaoka


เมืองทากาโอกะ (Takaoka) เป็นบ้านเกิดของ Hiroshi Fujimoto (Fujiko F. Fujio) ผู้ให้กำเนิดการ์ตูนดังขวัญใจคนทั่วโลกอย่าง โดราเอมอน, ปาร์แมน, คิเทเร็ตสึ เป็นต้น Fujiko Fujio เป็นนามปากกาของคู่หูนักวาดการ์ตูนที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยประถม อีกท่านคือ Motoo Abiko (Fujiko Fujio A) จนต่อมาได้แยกกันทำผลงานในภายหลัง ทั้ง 2 ท่านอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ในช่วงวัยเด็ก จนกระทั่งย้ายไปอยู่ที่โตเกียวเพื่อเป็นนักวาดการ์ตูนมืออาชีพ

นอกจากนี้ที่นี่เป็นเมืองที่มีรถราง Doraemon Tram วิ่งอยู่นั่นเอง (ครบรอบ 10 ปีแล้วนะ ไวมากๆ) นอกจากนี้ใกล้ๆกับสถานียังมีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของพี่ม่อนแอนด์เดอะแก๊งอยู่ที่ลานด้านหน้าอาคาร Wing Wing Takaoka ด้วย


เมืองโบราณคานายะมาจิ (Kanayamachi)

อุตสาหกรรมการหล่อโลหะของญี่ปุ่นได้เริ่มต้นและรุ่งเรืองสูงสุดที่คานายะมาจิ จากการริเริ่มของ โทชินางะ มาเอดะ ไดเมียวผู้ปกครองแคว้นคากะ ราว 400 ปีก่อน ปัจจุบันอาคารบ้านเรือนที่ใช้โครงขัดแบบดั้งเดิมยังคงตั้งเรียงรายไปตามถนนที่ปูด้วยหินของคานายะมาจิ โดยยังคงรักษาความงามอายุสี่ร้อยปีของพื้นที่นี้ไว้อย่างดี


CRAFTAN

ร้านอาหารที่เชี่ยวชาญในด้าน Kobujime เทคนิคดั้งเดิมที่ใช้สาหร่ายคอมบุในการถนอมอาหาร รักษาความสดให้ยาวนานมากขึ้น เนื่องจากชาวโทยามะมีความผูกพันกับสาหร่ายคอมบุมาช้านาน และเทคนิคนี้ก็ได้ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นโดยเฉพาะในวงการซูชิ ถ้าอยากชิมอาหารรสดั้งเดิมของโทยามะ แนะนำว่าต้องมาลองที่ร้านนี้ เพราะมีทั้งอาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผัก เห็ด เต้าหู้ รวมถึงส่วนผสมอื่นๆที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น และนำเสนอเสน่ห์ของโทยามะผ่านผลงานของศิลปินหัตถกรรมท้องถิ่นที่เป็นภาชนะสำหรับเสิร์ฟสาเกและอาหารในแบบเฉพาะตัว

  • เวลาทำการ: 11.00-14.00 / 18.00-22.00
  • การเดินทาง: จากสถานี Takaoka เดิน 12 นาที
  • เว็บไซต์


วัดอุนริวซังโชโคจิ (Unryuzan Shokoji)

มีอายุราว 500 ปี ย้อนไปสมัยที่ทาคาโอกะเป็นเมืองหลวงของจังหวัดเอตชู (ซึ่งปัจจุบันคือจังหวัดโทยามะ) เป็นวัดพุทธนิกายเซ็นชูที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน อาคารทั้ง 12 หลัง ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ที่ใช้เวลานานกว่า 23 ปี จนเสร็จสิ้นในปี 2021 ที่ผ่านมา ได้รับการยกย่องให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น การมาวัดนี้จะต้องค้นหาความลึกลับทั้งเจ็ด นั่นก็คือ ต้นแปะก๊วยไร้ผล, หินที่ตกลงมาจากท้องฟ้า, บ่อน้ำที่ไม่เคยเหือดแห้ง, ลิงที่ยกหลังคา, เสาขับไล่วิญญาณร้าย, หินมังกรบิน และ สนสามใบ

  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 500 เยน
  • เวลาทำการ: 9.00-16.00 น.
  • การเดินทาง: จากสถานี Takaoka ขึ้นรถไฟลงสถานี Fushiki ใช้เวลา 12 นาที จากนั้นเดิน 4 นาที
  • เว็บไซต์


เมืองฮิมิ (Himi)

หนึ่งในเมืองเล็กสุดอันซีนของเราในทริปนี้ ด้วยภูมิประเทศที่งดงามตั้งอยู่บนผืนน้ำริมอ่าวโทยามะ มีทัศนียภาพอันงดงามของทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น มีอุตสาหกรรมการประมงที่เฟื่องฟู และด้วยความที่อยู่ติดอ่าวทำให้จับปลาบุริได้เยอะจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ของเมืองนี้ และสิ่งที่ทำให้เมืองนี้ดังขึ้นมาก็เพราะว่าเป็นบ้านเกิดของปรมาจารย์ Fujiko Fujio A ผู้ให้กำเนิดการ์ตูนดังอย่างนินจาฮัตโตรินั่นเอง เมืองนี้เลยมีทั้งรูปปั้น สถานที่เที่ยว รวมถึงรถไฟ ที่เกี่ยวกับฮัตโตริคุงเพียบ!  

  • การเดินทาง: จากสถานี Takaoka ขึ้นรถไฟสาย Himi ลงสุดสายใช้เวลา 30 นาที
  • เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

วิวบนภูเขาสวยมากๆ >> Says Farm

ถนนสายมังงะ (Manga Road)

เมืองนี้เป็นเมืองของ นิน นิน นิน นิน~ นินจาฮัตโตริ เพราะว่าเป็นบ้านเกิดของอาจารย์ Fujiko Fujio A ปรมาจารย์ผู้สร้างตัวละครดังอย่างนินจาฮัตโตริ ที่โด่งดังในบ้านเรามากๆเมื่อราว 30 กว่าปีก่อน ย่านการค้าชิโอะคะเซะโดริ (Shiokaze Dori Shotengai) ประจำเมืองฮิมิ หรือมีอีกชื่อเรียกว่า Manga Road มีรูปปั้นของตัวการ์ตูนนินจาฮัตโตริเต็มไปหมดทั้ง ชินโซ ชิชิมารุ เคมุมากิ และคาเงะชิโยะ ก็มานะ


ร้านอาหารชิเงะฮามะ (Shigehama) 

มื้อเย็นวันนี้แน่นอนว่าจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก ปลาบุริ และต้องมาชิมรสชาติแบบดั้งเดิมที่ร้านชิเงะฮามะ ที่เปิดมากว่า 80 ปีแล้ว ปลาบุริส่งตรงจากท่าเรือประมงฮิมิ แต่วันนี้ไม่ได้กินแบบซาชิมิ เราเลือกกินแบบชาบูชาบู เนื้อนุ่ม หวาน อร่อยมาก ไม่คาวเลย มีให้บริการทั้งแบบคอร์ส และแบบเซ็ต

  • เวลาทำการ: 12.00-14.00 น. / 17.00-22.00 น.
  • การเดินทาง: จากสถานี Himi เดิน 15 นาที
  • เว็บไซต์

Minshuku Ikemori

เป้าหมายในครั้งนี้ของเรากลับเป็นการมานอนที่โฮมสเตย์ที่ Minshuku Ikemori ที่เจ้าของบ้านเปิดเป็นที่พักในโรงอาบน้ำออนเซ็นสาธารณะที่ให้ชาวบ้านเข้ามาใช้บริการได้ด้วย ห้องพักที่อยู่ชั้นสองมี 4 ห้อง บรรยากาศ เรียบง่ายเป็นกันเอง เปิดหน้าต่างไปมองวิวชนบทอย่างที่ตั้งใจไว้ได้เต็มที่

ถึงแม้เราจะอยู่ที่นี่ไม่ถึง 24 ชม. แต่อยากให้ทุกคนได้ดูบรรยากาศรอบๆที่โอคามิซัง (เจ้าของที่พัก) พาแอดไปชมมา เป็นการเปิดโลกมากๆ  เพราะเราคิดว่าเมืองนี้คงมีแค่ฮัตโตริ แต่ความจริงแล้ว ในความเรียบง่ายกลับมีความพิเศษของเมืองนี้แล้วที่สำคัญคือ วิวสวยแบบไม่มีอะไรมากั้น สวยจนอยากลืมเรื่องราวที่อยู่ในหัวไปก่อน แล้วมีความสุขกับบรรยากาศตรงนี้ที่อยู่ตรงหน้าไปนานๆ

  • ค่าใช้จ่าย: ราคาเริ่มต้น 7,000 เยนต่อคน (ไม่รวมอาหาร)
  • การเดินทาง: จากสถานี Himi ติดต่อให้โอกามิซังไปรับได้ ใช้เวลาเดินทาง 10 นาที
  • เว็บไซต์


วันรุ่งขึ้นกลับมาที่ตัวเมืองโทยามะ สถานี Toyama เพิ่งปรับปรุงใหม่ ทั้งอาคารสถานีและบริเวณรอบๆ ดูสวยงามเป็นระเบียบขึ้นเยอะมากๆ สถานีนี้ก็มีชินคันเซ็นวิ่งผ่าน สามารถเดินทางมาจากโตเกียวได้สะดวก


สวนสาธารณะคันซุย (Kansui Park)

โอโซนใจกลางเมืองของโทยามะ ชื่อเต็มว่า Fugan Canal Kansui Park มีคลองล้อมรอบ ทำให้ทิวทัศน์เปิดกว้างรับอากาศบริสุทธิ์สดชื่นได้เต็มที่ เดินมาได้จากสถานี JR Toyama ไฮไลท์คือถ้าได้ขึ้นไปบนสะพานเท็นมง (Tenmon-kyo) สัญลักษณ์ของสวนนี้ จะได้เห็นวิวทั้งสวนที่มีพื้นหลังเป็นวิวเทือกเขาทาเทยามะ สวยสะกดทุกสายตา และที่พีคไปกว่านั้นที่สวนนี้มีสตาร์บัคส์ที่ได้รับรางวัลระดับโลกด้านดีไซน์ด้วย ต้องยกความดีความชอบให้กับโลเคชั่นเลย รับประกันความฟินเว่อร์!


ร้านซูชิอุมิโทยามะ (Umitoyama)

หนึ่งในห้างใหม่ที่อยู่ติดกับสถานีก็คือ MAROOT ที่มีทั้งร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต และ ร้านให้ช๊อปปิ้งเพียบ มาโทยามะทั้งที ก็ต้องกินซูชิ เพราะที่นี่อยู่ติดกับทะเลทำให้อาหารทะเลของที่นี่สดอร่อยมากๆ เราเลือกมากินที่ร้าน Umitoyama (อยู่ที่ชั้น 4 ของห้าง) สั่งเป็นเซ็ตพิเศษของทางร้าน Toyama-wan Sushi ที่มีทั้งหมด 10 คำ คัดสรรวัตถุดิพรีเมียมสดจากอ่าวโทยามะ (3,850 เยน)

  • เวลาทำการ: 11.30-14.30 น. / 17.00-22.00 น.
  • การเดินทาง: จากสถานี Toyama เดิน 1 นาที
  • เว็บไซต์

ร้านราเม็งอิโรฮะ (RAMEN IROHA)

ถ้าใครไม่ถนัดซูชิ ก็แนะนำ Toyama Black Shoyu Ramen ราเม็งน้ำดำรสเข้มข้น สำหรับที่ร้าน RAMEN IROHA การันตีความอร่อยด้วยรางวัลชนะเลิศจากรายการ Tokyo Ramen Show 5 ปีซ้อน มีให้เลือกเนื้อไก่แทนหมูชาชูได้ด้วย (สำหรับใครที่เคร่งเรื่องฮาลาล ที่นี่มีสูตรพิเศษสำหรับคนมุสลิมทานได้ด้วยนะ) ส่วนเรื่องรสชาติผิดจากที่คิดลิบลับ เพราะด้วยสีที่เข้มข้นเรานึกว่าจะออกเค็มเกินไป แต่พอได้ทานจริงรสกลมกล่อมกำลังดี ไม่เค็มจัด กลิ่นหอมเข้มข้น อร่อยจนยกสดหมดชาม ที่จังหวัดโทยามะมีทั้งหมด 2 สาขาคือ สาขาหลักที่เมืองอิมิซุ และ ชั้นใต้ดินอาคาร CiC ตรงข้ามกับสถานี Toyama (ร้าน RAMEN IROHA มีสาขาที่ไทยแล้วด้วยนะ)

  • เวลาทำการ: 11.00-22.00 น. (สั่งได้ถึงเวลา 21.30 น.)
  • การเดินทาง: จากสถานี Toyama เดิน 10 นาที
  • เว็บไซต์

อิวาเซะ (Iwase)

เขตเมืองเก่าที่มีความเจริญรุ่งเรืองตั้งแต่สมัยเอโดะในฐานะเมืองท่า ซึ่งมีเรือคิตะมาเอะบูเนะ (Kitamae bune) เดินเรือไปมาในทะเลญี่ปุ่นระหว่างท่าเรือในแถบโฮคุริขุไปยังฮอกไกโด เพียงเดินบนถนนโอมาจิ ชินคาวามาจิ ซึ่งในอดีตเป็นถนนสายหลัก มีอาคารบ้านเมืองดั้งเดิมเรียงราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของตัวแทนจัดส่งสินค้าไปยังเรือคิตะมะเอะบูเนะ ที่สร้างตั้งแต่สมัยเมจิ ถูกอนุรักษ์ไว้คงสภาพเดิมอยู่ ทำให้เข้าใจสภาพบ้านเมืองและความเป็นอยู่ในยุคสมัยนั้นได้อย่างดี

  • การเดินทาง: จากสถานี Toyama ขึ้นรถรางลงป้าย Higashiiwase หรือ Iwasehama ใช้เวลา 25 นาที แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
  • เว็บไซต์


เมืองเอ็ตจูยาสึโอะ (Etchu-Yatsuo)

หมู่บ้านที่อยู่ลึกในหุบเขาของจังหวัดโทยามะ เจริญรุ่งเรืองจากการเลี้ยงไหมและค้าไหมมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นเมืองของเทศกาล Owara-Kazenobon ที่สืบทอดมานานกว่า 300 ปี และบ้านเมืองยังคงอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพดั้งเดิมจนถึงปัจจุบันนี้

  • การเดินทาง: จากสถานี Toyama ขึ้นรถไฟสาย Takayama ลงสถานี Etchu-Yatsuo ใช้เวลา 26 นาที จากนั้นขึ้นรถบัสที่หน้าสถานี ลงป้าย Hikiyama tenjikan-mae ประมาณ 6 นาที (หรือจะขึ้นรถบัสจากสถานี Toyama มาก็ได้เช่นกัน ต่อเดียวลงป้าย Yatsuo Kagamimachi 八尾鏡町 ใช้เวลา 50 นาที)
  • เว็บไซต์


สตูดิโอทำกระดาษญี่ปุ่นเคจูชะ (Keijusha)

นอกจากงานเทศกาลแล้วที่เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของกระดาษสาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น (Washi) ที่มีความทนทานและใช้วัสดุจากธรรมชาติ เราเลยมาลองประสบการ์ณทำกระดาษวาชิและตกแต่งในแบบของตัวเอง ชื่อกิจกรรมว่า Kamisuki ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น เราก็สามารถเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมดั้งเดิมได้ทันที ทำเสร็จแล้วก็อย่าลืมแวะร้านขายของที่ระลึกที่ทำจากกระดาษญี่ปุ่นลวดลายต่างๆด้วยนะ สวยน่ารักมากๆเลย

  • ค่าใช้จ่าย: 700 เยน
  • เวลาทำการ: 9.00-12.00 น. / 13.00-16.00 น. (เฉพาะวันธรรมดา หยุดทุกวันจันทร์)
  • เว็บไซต์


Etchu-Yatsuo Base OYATSU

จุดประสงค์ของการมาเมืองนี้ เพราะเราอยากมาพักค้างคืนในบ้านที่ดัดแปลงจากอดีตโกดังเก่าอายุ 150 ปีที่ชื่อว่า Etchu-Yatsuo Base Oyatsu ด้านนอกยังคงมนต์ขลังของวันวาน ส่วนด้านในปรับโฉมใหม่ให้ร่วมสมัยมากขึ้น และเราสามารถเช่าบ้านทั้งหลังแบบเป็นส่วนตัวได้ด้วย

โครงสร้างของโกดังจะมีความลึก เลยสามารถแบ่งได้หลายห้อง ที่บ้านหลังใหญ่ ชั้นล่างจะมีทั้งห้องรับรอง ไว้ทานมื้อเช้า และ ห้องนอนที่อยู่ด้านใน มื้อค่ำเราเดินออกมาทานที่ร้านอาหารในตัวเมือง (ร้าน Onnoji) ส่วนมื้อเช้าที่ทางที่พักจัดเตรียมให้ มีชงชาเขียวสดๆบริการด้วย

  • ค่าใช้จ่าย: รอบนี้เราจองบ้านไว้ 2 หลังอยู่ตรงข้ามกัน ราคาค่าเช่าจะคิดเป็น ค่าบ้าน 24,000 เยน และเพิ่มตามจำนวนคนๆละ 3,000 เยน เช่น เข้าพัก 4 คน จะอยู่ที่ 24,000+12,000 = 36,000 เยน (ตกคนละ 9,000 เยนเท่านั้น ราคาดีมาก)
  • เว็บไซต์

มื้อค่ำเราเดินออกมาทานที่ร้านอาหารในตัวเมือง (ร้าน Onnoji)
จบทริปโดยสวัสดิภาพ ขึ้นรถบัสกลับไปที่สถานี Toyama