หลากหลายประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ “คิวชู” ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม

Print

แนะนำสถานที่น่าเที่ยวและของดีในคิวชู

ฮากาตะ (Hakata) 

Nakasu street ถนนคนเดินเก่าแก่แห่งเมืองฮากาตะที่เต็มไปด้วยร้านอาหารสตรีทฟู้ด ท้องถิ่นสไตล์คิวชู ที่เรียกว่า “ยาไต(Yatai)”  ถ้าเพื่อนๆอยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบคนพื้นที่ต้องมาลองให้ได้เลย ที่สำคัญเมนูของกินเพียบทั้งของกินเล่นไปจนถึงอาหารจานหลัก และที่ขาดไม่ได้สำหรับบรรยากาศแบบนี้ก็คือเบียร์ซักแก้วกับเพื่อนรู้ใจนั่นเอง

  • วิธีเดินทาง: จากสถานี JR Hakata นั่งรถไฟ Fukuoka city subway ลงสถานี Nakasukawabata แล้วเดินต่อ 5 นาที

01 Hakata Nakasu

02 Hakata Nakasu

02 Hakata Nakasu Yatai

Nanzo-in วัดนันโซอิน เป็นวัดเก่าแก่ที่มีไฮไลท์อยู่ที่พระนอนขนาดยักษ์ ที่ไม่ว่าแขกไปใครมาต้องได้มาถ่ายรูปเช็กอินที่นี่เสมอ เพราะถือได้ว่าพระนอนของที่นี่นั้นเป็นพระพุทธรูปที่ทำจากสัมฤทธ์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ด้วยความยาวกว่า 41 ม. สูง 11 ม. และมีน้ำหนักกว่า 300 ตันเลยทีเดียว นอกจากนี้บริเวณรอบๆวัดเองก็มีทางเดินที่อุดมด้วยธรรมชาติสวยงามให้เพื่อนๆได้ถ่ายรูปสวยๆกันด้วย

  • วิธีเดินทาง: จากสถานี JR Kidonanzoin-Mae เดินประมาณ 3 นาที
  • เว็บไซต์

03 Hakata Nansoin

เบปปุ (Beppu)

ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ เป็นเมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อนออนเซ็นชั้นแนวหน้าของญี่ปุ่น อุดมไปด้วยแหล่งน้ำร้อนตามธรรมชาติกว่า 2,288 แห่ง โดยมีกำลังส่งน้ำในแต่ละวันกว่า 130,000 กิโลลิตร ทำให้ที่นี่มีโรงแรมและสถานที่รองรับนักท่องเที่ยวไว้ให้แช่ออนเซ็นอยู่มากมาย

òIìVïóòC

05 Beppu

Jigoku Onsen หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดของเมืองเบปปุ ซึ่งถึงแม้จะได้ชื่อว่าออนเซ็น แต่ที่นี่นั้นไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวลงไปแช่น้ำเหมือนที่อื่น เพราะที่นี่เป็นออนเซ็นธรรมชาติความร้อนสูงหลากหลายบ่อ ที่เปิดให้เดินชมเท่านั้น โดยมีคอนเซ็ปต์แบ่งแต่ละบ่อเป็นนรกแต่ละภูมิ มีทั้งหมด 7 บ่อด้วยกัน หากตั้งใจมาเก็บให้ครบทุกบ่อ แนะนำว่าต้องมีเวลาพอสมควร เพราะบางบ่อต้องใช้เวลาเดินทาง สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ค่อยมีเวลาแนะนำบ่อหลักคือ  Umi Jigoku ซึ่งมีสีฟ้าสวยงามมากรับรองว่าเห็นแล้วอดถ่ายรูปด้วยไม่ได้แน่ๆ

  • วิธีเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี JR Beppu มาลงป้าย Umijigoku หรือป้าย Kannawa แล้วเดินต่อ 1 นาที
  • เว็บไซต์

06 Beppu Jigoku

07 Beppu Jigoku

ยูฟูอิน (Yufuin)

Yunotsubo-kaido จากสถานีรถไฟเดินตรงมาไม่นาน ก็จะพบกับถนนช้อปปิ้งยูโนะสึโบะแห่งนี้ เป็นถนนที่สาวๆน่าจะหลงรัก เพราะของกิน ของใช้ ของกระจุกกระจิก เรียงรายสลับกับบ้านเรือนได้อย่างลงตัวมาก บวกกับบรรยากาศง่ายๆสบายๆ คนไม่เยอะ บอกเลยว่าเดินเพลินอย่างแรง

  • วิธีเดินทาง: จากสถานี JR Yufuin เดิน 7 นาที

08 Yufuin Yunotsubo-kaido

09 Yufuin Yunotsubo-kaido

Yufuin Floral village หมู่บ้านเล็กๆสไตล์ยุโรปพร้อมการตกแต่งได้อย่างน่ารักให้ความรู้สึกเหมือนหลุดมาจากการ์ตูนของ Ghibli Studio ยังไงยังงั้น มีร้านขายของเก๋ๆอีกเพียบให้ได้ช้อปปิ้ง แถมยังมีสัตว์น่ารักๆอย่างน้องแกะ กระต่าย ให้เพื่อนๆเล่นและถ่ายรูปกันด้วย

  • วิธีเดินทาง: จากสถานี JR Yufuin เดิน 15 นาที ติดกับถนน Yunotsubo-kaido

13 Yufuin Floral

12 Yufuin Floral

Kinrin Lake เมื่อเดินออกจากตัว Yufuin Floral village ก็จะเจอทะเลสาบคินริน นับเป็นทะเลสาบเล็กๆที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหาของเมืองยูฟูอิน เรียกได้ว่ามาฤดูไหนก็สวยไม่ซ้ำกันซักแบบ โดยเฉพาะในหน้าหนาวและใบไม้ผลิที่ช่วงเช้าๆเราจะได้เห็นไอน้ำฟุ้งๆลอยขึ้นเหนือน้ำ

  • วิธีเดินทาง: จากสถานี JR Yufuin เดิน 20 นาที, ติดกับ Yufuin Floral village

10 Yufuin Kinrin

11 Yufuin Kinrin

คุมาโมโตะ (Kumamoto)

Kumamoto Castle ปราสาทคุมาโมโตะที่มีความยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น โดยตัวปราสาทจะออกโทนสีขรึมเน้นโทนขาวเทาดำ มีการตกแต่งอย่างปราณีตรอบปราสาท บวกกับการมีสวนรอบๆที่ช่วงฤดูใบไม้ผลินี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมในการชมซากุระของเมืองเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเสียดายจากเหตุการแผ่นดินไหวในปี 2016 ส่งผลให้ตัวปราสาทได้รับความเสียหายหลายส่วน โดยปัจจุบันทางการได้ดำเนินการซ่อมแซมอยู่อย่างต่อเนื่อง และได้ข่าวว่าเส้นทางทัวร์ใกล้เสร็จแล้วซึ่งจะทำให้เพื่อนๆสามารถแวะเข้ามาเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้ได้ใกล้มากขึ้น

  • วิธีเดินทาง: จากสถานี JR Kumamoto นั่งรถราง 17 นาที หรือนั่งรถบัส 10 นาที
  • เว็บไซต์

14 Kumamoto castle

15 Kumamoto castle


มาลองเมนูดัง ของขึ้นชื่อประจำ Kyushu กันดีกว่า

Ichiran Ramen ร้านราเมนดัง เจ้าต้นตำรับประจำเมืองฟุกุโอกะ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อราเมนข้อสอบนั้นเอง โดยเพื่อนๆสามารถเลือกรสชาดได้ตามต้องการทั้งระดับความเผ็ดของซุป ความเหนียวของเส้น เพียงแค่เขียนลงในกระดาษคำตอบ สำหรับใครที่เป็นแฟนร้านนี้ในไทยอยู่แล้ว บอกเลยถ้ามาฟุกุโอกะห้ามพลาดเด็ดขาดเลย

16 Ichiran

17 Ichiran

Basashi หรือ เนื้อม้าซาชิมินั้นเอง เมนูนี้เป็นเมนูขึ้นชื่อของจังหวัดคุมาโมโตะ ถือว่าเป็นโอกาสดีถ้าเพื่อนๆยังไม่เคยลอง
เพราะหากินไม่ได้ในบ้านเรา เมื่อมาถึงถิ่นก็ต้องจัดซะหน่อย ขอบอกว่าไม่ได้แย่อย่างที่หลายคนกลัวกัน เพราะไม่เหนียวเหมือนเนื้อวัวทั่วไป สามารถเคี้ยวกินได้ง่าย เนื้อสัมผัสจะลื่นๆและมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์

18 Basashi

Motsunabe หม้อไฟเครื่องในวัว ของดังประจำเมือง Hakata มีความโดดเด่นที่รสชาดของน้ำซุปที่เข้มข้นได้รสเนื้อ ต้มเดือดพร้อมกับผัก ยิ่งถ้าได้ทานช่วงอากาศหนาวๆนาเบะหม้อนี้จะให้พลังงานและความอบอุ่นได้ดี รับประกันความฟิน

19 Motsunabe


ที่พักสุดหรูใจกลางเมือง 

THE BLOSSOM HAKATA Premier โรงแรมชั้นนำที่ใกล้กับทุกแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของฮากาตะ ถ้าเพื่อนๆ เดินทางมาจากสนามบินฟุกุโอกะ และกำลังมองหาที่พักไม่ไกลจากสนามบิน เราขอแนะนำที่นี่โรงแรมเรียบหรูทำเลดีตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ใกล้สถานีรถไฟ Hakata ที่สำคัญโรงแรมนี้มีออนเซ็นแยกชายหญิงให้บริการสำหรับนักเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยจากการท่องเที่ยวมาทั้งวัน ในส่วนของที่เที่ยวแถวๆนี้ก็มีหลากหลายเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Canal City Center สำหรับนักช็อป หรือวัด Tōchō-ji สำหรับสายบุญ  เรียกได้ว่าครบครันสุดๆ

  • วิธีเดินทาง: จากสถานี JR Hakata เดิน 7 นาที
  • เว็บไซต์

20 Hakata Blossom

21 Hakata Blossom

22 Hakata Blossom

23 Hakata Blossom


เดินทางสุดคุ้มทั่ว Kyushu ด้วย JR Northern Kyushu Rail Pass แบบ 5 วัน

JR Northern Kyushu Rail Pass เป็นพาสสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่สามารถโดยสารรถไฟไปแถบตอนเหนือของเกาะคิวชูแบบไม่จำกัดเที่ยว ในระยะเวลา 5 วัน และครอบคลุมพื้นที่เดินทางในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น ฟุกุโอะกะ (Fukuoka), นางาซากิ (Nagasaki), ซากะ (Saga), คุมาโมโตะ (Kumamoto) และ โออิตะ(Oita)

แถมมาในราคาที่คุ้มค่าสุดๆ ผู้ใหญ่ ราคา 10,190 เยน และเด็กอายุ 6-11 ปี ราคา 5,090 เยน เรียกได้ว่าถ้ามีแพลนว่าจะเที่ยวในแถบเหนือของคิวชูแบบ 5 วันเต็ม รับรองว่าพาสตัวนี้จะช่วยให้สะดวกทั้งการเดินทาง และประหยัดเงินในกระเป๋าได้อย่างดี

24 Kyushu pass

25 Kyushu pass

ตัวอย่างสายรถไฟที่ครอบคลุมการใช้งาน

Limited Express Yufuin no Mori: รถไฟสไตล์รีสอร์ทให้ความสะดวกสบายแบบครบครัน พร้อมการออกแบบตกแต่งด้วยไม้ ที่ให้ความคลาสสิคบวกกับความทันสมัยได้ลงตัวสุดๆ โดยเพื่อนๆสามารถเดินชมภายในรถไฟได้แล้วรับรองว่าจะต้องประทับใจกับความสวยและน่ารักของรถไฟขบวนนี้แน่นอน นอกจากนี้ภายในยังมีคาเฟ่ขายอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย เพราะฉะนั้นหมดห่วงเรื่องท้องหิวระหว่างทางได้เลย ที่สำคัญคือต้องมีการสำรองที่นั่งก่อนเท่านั้น ด้วยความนิยมที่สูงจึงทำให้ที่นั่งถูกจองเต็มเร็วมาก ดังนั้นถ้าวางแผนจะขึ้นขบวนนี้ ควรรีบจองแต่เนิ่นๆ

  • เส้นทางการเดินทาง : ฮากาตะ – ยูฟูอิน/เบปปุ

26 Yufu no mori

27 Yufu no mori

28 Yufu no mori

29 Yufu no mori

Limited Express Aso Boy !: ขบวนรถไฟสุดคิ้วท์โทนขาวที่มีกิมมิคอยู่ที่เจ้ามาสคอตสุดน่ารักนามว่า “Kuro chan” เหมาะสำหรับคนที่มาเป็นครอบครัวอย่างที่สุด เพราะมีที่นั่งสะดวกสบายที่รองรับกับการเดินทางของครอบครัว ที่นั่งปรับเอนได้เยอะพร้อมสามารถเห็นวิวได้เต็มๆตา แบบไม่มีอะไรมาบังให้ระคายใจ อีกทั้งมี Kuro Cafe ที่ให้บริการชา กาแฟ ขนมขบเคี้ยว และมีห้องพิเศษสำหรับเด็กอีกด้วย ขบวนนี้ก็ต้องทำการจองล่วงหน้าเท่านั้นเช่นกัน

  • เส้นทางการเดินทาง : อะโซ-เบปปุ

32 Asoboy

33 Asoboy

34 Asoboy

35 Asoboy

36 Asoboy

Kyushu Shinkansen 800 Series: รถไฟชินคันเซ็นหัวกระสุนความเร็วสูงที่ตอบโจทย์คนที่ชอบการเดินทางความรวดเร็ว มาพร้อมลุคเรียบหรูและความทันสมัยที่ใส่มาแบบเต็มพิกัด ที่จะทำการวิ่งระหว่างสถานี Hakata – สถานี Kagoshima-chuo ที่อยู่ทางตอนล่างของเกาะคิวชู ถ้าใครใช้ JR Northern Kyushu Rail Pass สามารถใช้ขึ้นขึ้นชินคันเซ็นขบวนนี้ มาเที่ยวคุมาโมโตะได้

  • เส้นทางการเดินทาง : ฮากาตะ – คุมาโมโตะ

30 Kyushu Shinkansen 800

31 Kyushu Shinkansen 800


จะหาซื้อตั๋ว JR Northern Kyushu Rail Pass ได้ยังไงดีนะ?

การจองผ่านทางช่องทางออนไลน์นั้นถือได้ว่าเป็นช่องทางที่ทำการจองได้ทั้งง่ายและสะดวกมากที่สุด โดยวิธีการจองนั้นก็ง่ายๆเพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ JR KYUSHU RAIL PASS แล้วทำตามขั้นตอนดังนี้

40 Ticket reserve

  1. การยืนยันที่อยู่ของอีเมล (Email Address Confirmation) : เพื่อคอนเฟิร์มทางอีเมลที่ให้มาว่าถูกต้องและมีการยืนยันอีกชั้นหนึ่งแล้วจึงกดตามลิงค์เพื่อดำเนินการจองต่อ
  2. ใส่ข้อมูลในการสั่งซื้อ (Purchase Information Entry): กรอกวันที่เริ่มต้นใช้งาน เลือกประเภทของ พาส และจำนวนคนที่ซื้อ
  3. ใส่รายละเอียดข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า (Customer Information Entry): กรอกรายละเอียดชื่อ-นามสกุลที่ตรงกับในพาสปอร์ต วันเดือนปีเกิด ประเทศ และหมายเลขหนังสือเดินทาง
  4. ใส่ข้อมูลบัตรเครดิต (Credit Card Information Entry) : กรอกหมายเลขบัตรเครดิต
  5. การยืนยันรายละเอียดการจอง (Confirm Reservation Details):  เช็ครายละเอียดการจองให้ถูกต้อง
  6. การจองสำเร็จ (Reserved) : การจองเสร็จสิ้น จะได้รับเป็น E-ticket ทางเมลที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อนำไปใช้แลกพาสตัวจริง

เมื่อทำการจองออนไลน์เรียบร้อยแล้วสามารถไปรับพาสตัวจริงได้ด้วยตัวเองที่ห้องขายตั๋วที่สถานีรถไฟที่กำหนดไว้ พร้อมเอา E-ticket หนังสือเดินทาง และบัตรเครดิตไปด้วยนะคะ 

37 Rail Pass Counter

38 Rail Pass Counter

 โดยสามารถไปรับได้ที่สถานีทั้ง 9 แห่งดังนี้

  1. Hakata Station
  2. Kokura Station
  3. Mojiko Station
  4. Saga Station
  5. Nagasaki Station
  6. Sasebo Station
  7. Beppu Station
  8. Oita Station
  9. Kumamoto Station

JR KYUSHU RAIL PASS Online Booking

39 Hakata Station