SUNQ Pass เป็นพาสที่สามารถใช้เที่ยวคิวชูด้วยรถบัสทุกประเภทได้ไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็น รถบัสระหว่างเมือง รถบัสภายในเมือง รวมถึงขึ้นเรือเฟอร์รี่ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เดินทางไปฝั่งชิโมโนเซกิ จังหวัดยามากุจิ ที่อยู่ติดกับเกาะคิวชูได้อีกด้วย 

การเดินทางไปเที่ยวคิวชู แน่นอนว่ารถไฟคิวชูนั้นมีความโดดเด่น แต่หลายๆสถานที่เที่ยวในคิวชู เข้าถึงได้เพียงรถบัสเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น คุโรคาวะออนเซ็น, หุบเขาทาคาจิโฮะ เป็นต้น ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำแผนการเที่ยวคิวชูด้วยรถบัสให้คุ้มค่าด้วย SUNQ Pass ที่มีเส้นทางรถบัสให้เลือกใช้กว่า 2,400 เส้นทาง

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ SunQ Pass แต่ละประเภทกันก่อน พาสมีทั้งหมด 4 แบบให้เลือกใช้

1. คิวชูเหนือ ใช้ได้ 3 วันใน 5 จังหวัด (Fukuoka, Saga, Nagasaki, Kumamoto, Oita) ราคาพิเศษซื้อที่ไทย 7,000 เยน (ซื้อในญี่ปุ่น 9,000 เยน) 

2. คิวชูใต้ ใช้ได้ 3 วันใน 3 จังหวัด (Kumamoto, Kagoshima, Miyazaki) ราคาพิเศษซื้อที่ไทย 6,000 เยน (ซื้อในญี่ปุ่น 8,000 เยน)
3. ทั่วคิวชู ใช้ได้ 3 วันใน 7 จังหวัด ใช้ได้ 3 วัน ราคาพิเศษซื้อที่ไทย 10,000 เยน (ซื้อในญี่ปุ่น 11,000 เยน)
4. ทั่วคิวชู ใช้ได้ 4 วันใน 7 จังหวัด ไม่มีราคาพิเศษ ราคา 14,000 เยน

หมายเหตุ: 1,2 และ 4 สามารถใช้เดินทางไป Shimonoseki ได้

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ SUNQ Pass

วิธีการขึ้นรถบัส

แนะนำเส้นทางเที่ยวคิวชู 3 วัน โดยใช้ SunQ Pass ทั่วคิวชู 3 วัน
Day 1: Fukuoka => Kurokawa Onsen
Day 2: Kurokawa => Kumamoto (ปราสาทคุมาโมโตะ / สวยซุยเซ็นจิ)
Day 3: Kumamoto => Takachiho (หุบเขาทาคาจิโฮะ / ศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ / รถไฟ Amaterasu Railway) => Fukuoka

(สำหรับแผนการเดินทาง 4 วัน ใช้ SunQ Pass ทั่วคิวชู 4 วัน)
Day 4: Fukuoka => Shimonoseki (ตลาดคาราโตะ / ศาลเจ้าอาคามะจิงงู)
หรือจะเลือกเดินทางแบบ 1 day trip ไป Dazaifu แทนก็ได้


Day 1: Fukuoka => Kurokawa Onsen

จากตัวเมืองฟุกุโอกะ (สถานี Hakata / Tenjin) และ สนามบินฟุกุโอกะ มีรถบัสวิ่งตรงไปที่ Kurokawa Onsen ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

=> รอบรถบัสแนะนำ: Fukuoka Airport 9:56  – Kurokawa Onsen 12:12

คุโรคาวะออนเซ็น (Kurokawa Onsen) เมือน้ำพุร้อนชื่อดังของจังหวัดคุมาโมโตะ ทางตอนเหนือของภูเขาไฟอะโซะ ที่มีประวัติความเป็นมากว่า 300 ปี ผ่อนคลายไปกับออนเซ็นกลางแจ้งที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมายจากธรรมชาติ พักผ่อนในเรียวกังแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ทานอาหารอร่อยๆ พร้อมชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี


Day 2: Kurokawa => Kumamoto (ปราสาทคุมาโมโตะ / สวนซุยเซ็นจิ)

จากคุโรคาวะอนเซ็นเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองคุมาโมโตะด้วยรถบัสวิ่งตรงใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

=> รอบรถบัสแนะนำ: Kurokawa Onsen 10:35  – Kumamoto Station 13:28

ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) ที่มีความยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้นของญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์กว่า 400 ปี โดยตัวปราสาทจะออกโทนขาวเทาดำ มีสวนรอบปราสาทที่ช่วงฤดูใบไม้ผลินี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมในการชมซากุระของเมือง และล่าสุดตัวปราสาทได้ทำการบูรณะเสร็จสิ้นแล้วจากเหตุการแผ่นดินไหวในปี 2016

ไม่ไกลกันจากตัวปราสาทเป็นที่ตั้งของ Sakura-no-baba Josaien ศูนย์ช้อปปิ้งที่เป็นเอกลักษณ์ ตกแต่งสไตล์ย้อนยุคเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเมืองโบราณ จุดเด่นของที่นี่จะเป็นสินค้าพื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ ของฝากต่างๆ และพิพิธภัณฑ์ Wakuwaku ที่บอกเล่าความเป็นมาของเมืองนี้ แนะนำว่าต้องลองชิมโคร็อกเกะสอดไส้อุนิกันด้วย

สวนซุยเซ็นจิ (Suizenji) สวนสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงอย่างมากของจังหวัดคุมาโมโตะสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ ประมาณช่วงศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อน เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ในช่วงยุคสมัยเมจิ 

โดยในสวนจะมีถนนให้เดินเป็นวงกลมรอบๆ ด้านในยังออกแบบให้มีสถานที่ต่างๆที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น เช่น ภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบบิวะ นอกจากนี้ยังมีต้นซากุระมากกว่า 150 ต้นตามทางเดิน และในวันที่อากาศดี นักท่องเที่ยวสามารถทดลองเข้าร่วมพิธีชงชาในแบบญี่ปุ่นโบราณได้


Day 3: Kumamoto => Takachiho (หุบเขาทาคาจิโฮะ / ศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ / รถไฟ Amaterasu Railwayhrine / Amaterasu Railway) => Fukuoka

จากคุมาโมโตะเดินทางไปทาคาจิโฮะ ด้วยรถบัสวิ่งตรง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

หุบเขาทาคาจิโฮะ (Takachiho Gorge) สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดมิยาซากิมีแม่น้ำโกคัสเซะ (Gokasse) ไหลผ่านกลางหุบเขาขนาบอยู่สองข้างทาง หุบเขาแห่งนี้เกิดจากหินลาวาที่หลอมละลายจากการปะทุของภูเขาไฟอะโซ แล้วกัดเซาะจนเกิดเป็นช่องหินที่สวยแปลกตา แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพสุดร่มรื่นของน้ำตกมานาอิ (Manai no Taki) การพายเรือชมบรรยากาศสวยๆ ทำให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ได้รังสรรค์ขึ้นมาได้อย่างใกล้ชิด

Snapseed(4)

ศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ (Amanoiwato) เป็นสถานที่ที่เหล่าเทพมาประชุมวางแผนล่อเทพอามะเทราสุออกจากถ้ำ เพื่อคืนความสว่างในโลก จากศาลเจ้าเดินลงเขาไป 10 นาทีจะเจอถ้ำอามาดนะยาสุคาวาระ (Amanoyasukawara) ที่เป็น Power Spot สำหรับมารับพลัง เมื่อเดินเข้าถึงปากถ้ำจะมองเห็นกองหินเรียงกันจำนวนมาก ผู้คนที่มาที่นี่ต่างมาขอพรโดยการเรียงหินเป็นเลขคี่ เชื่อกันว่าถ้าเรียงให้ตั้งได้จะสมหวังตามที่ขอ

การเดินทางไปศาลเจ้า: จาก Takachiho bus center นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Iwato ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

ทางรถไฟสาย Amaterasu Railway นั่งรถไฟ Super Cart รถไฟแบบเปิดหลังคาที่จะวิ่งไป-กลับบนรางรถไฟเก่า ชมวิวธรรมชาติของทาคาจิโฮะ ด้วยการวิ่งผ่านอุโมงค์และหุบเขาสูงจากพื้นดิน 110 เมตร ซึ่งระหว่างทางคนขับรถไฟมีลูกเล่นเตรียมไว้ให้ตื่นเต้น เช่น ตอนวิ่งผ่านอุโมงค์จะมีการเปิดไฟวิบวับ ตอนผ่านหุบเขา จะมีการพ่นฟองลูกโป่งฟองน้ำ 

เวลาทำการ: 9:40 – 15:40 (ออกรถวันละ 10 รอบ) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็กประถม 900 เยน เด็กเล็ก 500เยน 

การเดินทาง: จาก Takachiho bus center เดินไปจุดขึ้นรถไฟ Amaterasu Railway ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

จากทาคาจิโฮะ เดินทางกลับฟุกุโอกะ ด้วยรถบัส Gokase-go ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง

=> รอบรถบัสแนะนำ: Takachiho 16:40 – Hakata 19:57


Day 4: Fukuoka => Shimonoseki (ตลาดคาราโตะ / ศาลเจ้าอาคามะจิงงู)

จากฮากาตะเดินทางไปชิโมโนะเซกิ (ลงตลาดคาราโตะ) ด้วยรถบัสวิ่งตรง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

=> รอบรถบัสแนะนำ: Hakata sta. 8:28 – Karato 11:24

ตลาดปลาคาราโตะ (Karato Market) เริ่มต้นขึ้นเมื่อปีค.ศ.1909 และกลายเป็นศูนย์ส่งอาหารทะเลไปทั่วญี่ปุ่น บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะนำปลาที่จับได้ มาเปิดร้านทำซูชิชิ้นโตขายในราคาตั้งแต่ 100 เยนขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีเมนูซุปมิโซะปลา ปลาทอด และอื่นๆ ในช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าชมการประมูลปลาได้อีกด้วย

ศาลเจ้าอาคามะจิงงู (Akama jingu shrine) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับจักรพรรดิ์อันโตกุที่จบชีวิตตัวเองจากการจมน้ำในวัยเพียง 8 ขวบเมื่อปีค.ศ.1185 ศาลเจ้านี้มีความงดงามของสีสันที่ตัดกันของกำแพงสีขาวและ ประตูซุยเท็นมงที่มีสีแดงสด ในช่วงวันที่ 2-4 พ.ค. จะมีการจัดงานเทศกาลจักรพรรดิ์ที่เรียกว่า Senteisai

ถ้าใครอยากไปเที่ยวฝั่งท่าเรือโมจิโกะต่อ เราสามารถใช้ SUNQ Pass ในการข้ามเรือเฟอร์รี่ระหว่าง Shimonoseki และ Mojiko ได้ ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม


สำหรับแผนเที่ยววันที่ 4 จะเลือกเดินทางแบบ 1 day trip ไป Dazaifu แทนก็ได้

จากตัวเมืองฟุกุโอกะ ขึ้นรถบัสที่ Tenjin Bus Terminal เดินทางไปดาไซฟุ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที มีรถออกทุก 20 นาที

ศาลเจ้าดาไซฟุ (Dazaifu Tenmangu) สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติสำหรับท่านมิชิซาเนะ ผู้ที่มีอัจฉริยภาพทางการเรียนรู้และมีความสามารถต่างๆมากมายตั้งแต่วัยเยาว์ เป็นที่เลืองลือโด่งดังมาก ชาวบ้านก็ยกย่องท่านในฐานะเทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ หรือ Tenjin จึงทำให้มีชื่อเสียงโดยเฉพาะในหมู่เด็กนักเรียน ที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั่นเอง นอกจากนี้ที่ศาลเจ้ายังปลูกต้นบ๊วยไว้กว่า 6,000 ต้น เป็นเพราะท่านมิชิซะเนะคลั่งไคล้ในความงามของดอกบ๊วยเป็นอย่างมาก

ถนนการค้า Dazaifu Omotesando ด้านหน้าทางเดินเข้าสู่ศาลเจ้า มีร้านค้า ร้านอาหาร ขนม ของฝากมากมายรอให้ละลายทรัพย์อยู่ และแน่นอนว่าอย่าพลาดแวะสตาร์บัคส์สาขาที่ดีไซน์เป็นพิเศษที่นี่ด้วยนะ

ขากลับจากดาไซฟุ ถ้าเดินทางถึงตัวเมืองฟุกุโอกะแล้วยังพอมีเวลา ก็ขึ้นรถบัสต่อไปเที่ยวที่ ฟุกุโอกะทาวเวอร์ (Fukuoka Tower) ได้ในช่วงเย็น และจะมีไลท์อัพให้ชมในตอนกลางคืนด้วยนะ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ SUNQ Pass