เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เที่ยวญี่ปุ่นดอทคอมได้รับเชิญจากการท่องเที่ยวคันไซ ให้เดินทางไปเปิดประสบการณ์สัมผัสกับการท่องเที่ยวในแนวใหม่ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่อยากจะแนะนำให้เพื่อนได้ลองไปตามรอยกันที่ “เกาะอะวะจิ” (Awaji Island) ครับ

เครดิตภาพ Wikipedia

เกาะอะวะจิ 淡路島 (Awaji Island) เป็นเกาะในจังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น ทางทิศตะวันออกของทะเลเซะโตะใน อยู่ระหว่างเกาะฮอนชูและเกาะชิโกกุ มีขนาดพื้นที่ทั้งสิ้น 592.17 ตารางกิโลเมตร เกาะอะวะจิ แบ่งแยกกับเกาะฮนชูด้วยช่องแคบอะกะชิ และแบ่งแยกกับเกาะชิโกะกุด้วยช่องแคบนะรุโตะ

โดยมี สะพานอะกะชิไคเกียว เชื่อมระหว่างจังหวัดโกเบกับเกาะอะวะจิ ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1998 จัดเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก และทางด่วนที่เชื่อมต่อกับสะพานก็กลายเป็นเส้นทางการคมนาคมทางบกหลักระหว่างเกาะฮอนชูกับเกาะชิโกะกุ บริเวณช่องแคบนะรุโตะ เป็นแหล่งที่มีน้ำวนที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุน

วิธีการเดินทางจากโกเบ สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถ JR Bus จากท่ารถบัส Sannomiya Bus Terminal โดยใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 10 นาที มาลงที่ Tsuna-ko port ค่าโดยสาร 1,500 เยน/เที่ยว

akashikaikyo

เราเริ่มต้นการเดินทางจากเมืองโกเบ ด้วยรถบัสข้ามสะพาน Akashi Kaikyo เป็นเส้นทางการคมนาคมหลัก ที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองโกเบบนเกาะฮอนชูกับเกาะอะวะจิ จากนั้นเมื่อข้ามมาถึงฝั่งเกาะอะวะจิแล้วเราเดินทางไปกันที่ฟาร์มเลี้ยงปลาโลมา แห่งเดียวบนเกาะ

dolphin-farm

Awaji Janohire Outdoor Resort & Dolphin Farm สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนที่สามารถมาทำกิจกรรมกันได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการพักผ่อนในรีสอร์ท ตั้งแคมป์ ทำบาร์บีคิวกลางแจ้ง อีกทั้งยังเป็นสถานที่เพาะพันธุ์และอนุรักษ์สัตว์น้ำ รวมทั้งรับชมโชว์จากเจ้าโลมาผู้น่ารัก ทั้งฉลาดและแสนรู้อีกด้วย สำหรับค่าเข้าชมสถานที่ ราคา 500 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 400 เยน สำหรับเด็ก ข้อมูลเพิ่มเติม >> Janohire

หลังจากชมโชว์เรียบร้อยแล้วเราเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน Awajishima Uzu no Oka อีกหนึ่งร้านอาหารชื่อดังของเกาะอะวะจิ ที่ใช้ส่วนประกอบตามฤดูกาลที่ได้มาจากทะเลในเกาะแห่งนี้ ทำให้ได้อาหารสด ใหม่ รสชาติแบบดั้งเดิม

ไม่ว่าจะเป็นไข่หอยเม่น หรือเมนูเลื่องชื่ออย่าง ปลาปักเป้าที่ต้องใช้เชฟที่มีความชำนาญอย่างสูงเป็นผู้ประกอบอาหาร อย่างที่รู้กันว่าปลาชนิดนี้มีพิษดังนั้นต้องใช้ความชำนาญที่ฝึกฝนกันอย่างยาวนานเพื่อแล่ให้ได้เนื้อปลาปักเป้าที่สด ไม่มีพิษ และมีรสชาติอร่อย แถมด้วยวิวสะพาน Akashi Kaikyo ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารมื้อนี้ได้อย่างดีทีเดียว ข้อมูลเพิ่มเติม >> Uzunokuni

naruto_whirlpool

หลังจากอิ่มอร่อยเรียบร้อยเราก็ออกเดินทางมุ่งลงสู่ทางใต้ของเกาะอะวะจิ ใกล้กับเมืองนารุโตะ ทางตอนเหนือของเมืองโทคุชิมะ เพื่อไปชมไฮไลท์ของทริปนี้คือ น้ำวนที่ใหญ่ที่สุดในโลกบริเวณช่องแคบนารุโตะ โดยเรือ Uzushio Cruise

หากมาที่นารุโตะต้องไปสัมผัส “น้ำวน” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวขึ้นลงอย่างรุนแรงบนผิวน้ำ กระแสน้ำขึ้นน้ำลงของช่องแคบนารุโตะนั้นรวดเร็วติด 3 อันดับแรกของกระแสน้ำขึ้นน้ำลงโลก การไหลของกระแสน้ำลงไปในช่องแคบๆระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลเซโตไนไคคือสาเหตุของการเกิดของน้ำวน กระแสน้ำขึ้นน้ำลงนี้จะเร็วที่สุดช่วงระหว่างพระจันทร์เต็มดวงและคืนเดือนมืดของทุกเดือน และน้ำวนจะส่งเสียงคำรามกึกก้องมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง

ค่าบริการ 2000 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 1000 เยน สำหรับเด็ก (กรุณาเช็คสภาพอากาศประจำวันก่อนออกเดินทาง)
ข้อมูลเพิ่มเติม >> Uzu-Shio

dolls theatre

เครดิตภาพ arthenia

เสร็จจากการล่องเรือชมน้ำวน เราเดินทางกันไปต่อที่ Awaji Dolls Theatre เพื่อชมศิลปวัฒนธรรมการเชิดหุ่นละครญี่ปุ่นแบบโบราณที่มีการแสดงมากว่า 400 ปี และในภูมิภาคคันไซแห่งนี้ มีโรงละครสำหรับแสดงหุ่นละครญี่ปุ่นถึง 12 ที่ด้วยกัน ด้วยการแสดงที่ตื่นตาตื่นใจประกอบกับความเพลิดเพลินของท่วงทำนองของคนตรีพื้นบ้านญี่ปุ่น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมศิลปวัฒนธรรมการแสดงหุ่นละครญี่ปุ่นจึงได้รับความสนใจอย่างมากมายและแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน ข้อมูลเพิ่มเติม >> Awaji Ningyoza

หลังจากเพลิดเพลินกับการแสดงหุ่นละครเป็นที่เรียบร้อย เราเดินทางไปกันต่อที่ Parchez สถานที่ตากอากาศขนาดใหญ่ภายใต้คอนเซ็ป “A Life with Fragrance” ภายในประกอบไปด้วยสถานที่ผลิตเครื่องหอม สปา ออนเซ็น โรงแรม และสถานที่ขายของที่ระลึก

จุดเด่นของที่นี่คือมีเวิร์คช้อปให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมผลิตเครื่องหอมจากดอกลาเวนเดอร์สด สามารถผลิตเป็น เทียนหอม สบู่ ดอกไม้หอม และน้ำหอมสกัด พร้อมนำกลับบ้านเพื่อเป็นที่ระลึก รวมถึงมีทุ่งปลูกพันธุ์ไม้หอมต่างๆสีสันสวยงามหลากหลายชนิดให้ได้ถ่ายรูปสวยๆกันอย่างจุใจ ข้อมูลเพิ่มเติม >> Parchez

ปิดท้ายความประทับใจของทริปวันนี้ด้วยมื้อค่ำสุดประทับใจที่ Awaji Highway Oasis ช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ที่คัดสรรร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดังจากเกาะอะวะจิ มารวมกันไว้ให้เลือกรับประทานกันได้ตามใจชอบ เดินชมสวนสวยๆ รวมถึงสามารถหาซื้อของฝากที่ระลึกของเกาะอะวะจิได้อีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติม >> Ura Oasis