ทริปนี้เป็นการเดินทางเจาะลึกใน จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) ใช้เวลาทั้งหมด 5 วันเต็ม เก็บเมืองใหญ่และเมืองย่อย ตามเส้นทางอาทิ นารุโตะ, มิมะ, อาวะ, อะนัน, มิโยชิ, อิตาโนะ, โทคุชิมะ ซึ่งการเดินทางด้วยการเช่ารถขับจะสะดวกที่สุด แต่ถ้าไม่เช่ารถก็ยังสามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้

อ่านรีวิวตอน 2 => Tokushima: เจาะลึกจังหวัดโทคุชิมะ EP.2 – Awa, Mima, Miyoshi

อ่านรีวิวตอน 3 => Tokushima: เจาะลึกจังหวัดโทคุชิมะ EP.3 – Anan, Itano, Tokushima

นารุโตะ (Naruto) เป็นประตูตะวันออกสู่ชิโกะคุ โดยมีกระแสน้ำวนนารูโตะเป็นศุนย์กลาง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากความแตกต่างของกระแสน้ำระหว่างทะเลเซโตะในและช่องแคบคิอิ นอกจากนี้ แร่ธาตุและสารอาหารที่ไหลจากป่าอันอุดมสมบูรณ์ผ่านแม่น้ำยังสร้างดินที่เหมาะสมทำให้ภูมิภาคนี้มีอาหารที่โดดเด่น

การเดินทางจากโอซาก้า: ตั้งต้นที่สนามบินคันไซ หรือ สถานี JR Osaka ขึ้นรถบัส ลงที่ Kosoku Naruto Express Bus Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที (กรณีขึ้นรถไฟตั้งต้นที่สถานี Tokushima ลงสถานี Naruto ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที)

สำหรับรีวิวในตอนนี้จะพาเจาะลึกพื้นที่รอบๆนารุโตะ นอกจากกระแสน้ำวนแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง รวมถึง ร้านอาหาร คาเฟ่ และที่พัก จะไปที่ไหนกันบ้างตามไปชมกันได้เลย

  • Wonder Naruto
  • California Table
  • French Monstar Setouchi Food Art
  • Otsuka Museum of Art
  • Ryozenji
  • Kuru Kuru Naruto Roadside Station
  • HOTEL RIDGE 
  • AoAwo Naruto Resort

Wonder Naruto
渦潮観潮船「 わんだーなると」

น้ำวนที่ใหญ่ที่สุดในโลกบริเวณช่องแคบนารุโตะ หากมาที่นารุโตะต้องไปสัมผัส “น้ำวน” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวขึ้นลงอย่างรุนแรงบนผิวน้ำ กระแสน้ำขึ้นน้ำลงของช่องแคบนารุโตะนั้นรวดเร็วติด 3 อันดับแรกกระแสน้ำขึ้นน้ำลงของโลก การไหลของกระแสน้ำลงไปในช่องแคบๆระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลเซโตะในคือสาเหตุของการเกิดของน้ำวน 

ปรากฎการณ์น้ำทะเลวนนี้จะเกิดขึ้นวันละสองครั้ง คือในเวลาน้ำขึ้นและน้ำลง หนึ่งในวิธีการไปชมน้ำวนก็ขึ้นล่องเรือ Uzushio Cruise วันนี้เราได้ขึ้นเรือที่ชื่อว่า Wonder Naruto เป็นเรือขนาดใหญ่ ที่จะพาเราไปชมน้ำวนได้อย่างใกล้ชิด และแข็งแรงมากพอที่จะเดินเครื่องท่ามกลางน้ำวนได้ ที่สำคัญไม่โคลงแคลงเหมาะกับเด็กๆและคนที่เมาเรือง่าย 

นอกจากนี้จะมี First Class Cabin ให้ขึ้นไปชั้นสองมองวิวจากระเบียงมุมสูงรับลมและฟังเสียงคำรามของน้ำวนได้อย่างเต็มที่ ในเว็บไซต์จะมีบอกเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมวันละ 2 รอบ เป็นกระแสน้ำทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก โดยระยะเวลาชมคือภายใน 1 ชั่วโมงครึ่งก่อนและหลังเวลาที่ระบุไว้ ส่วนใหญ่ จะเป็นเวลาเช้ากับเวลาบ่าย ซึ่งวันที่เราไปกันมาเป็นรอบ 9 โมงเช้า 

  • การเดินทาง: จากสถานี Naruto ขึ้นรถบัสลงที่ป้าย Naruto Sightseeing Port ใช้เวลา 20 นาที
  • ค่าเรือ 1,800 เยน ถ้าขึ้น first class จ่ายเพิ่ม 1,000 เยน รอบเรือทุก 40 นาที ตั้งแต่ 9.00-16.20 น.
  • เว็บไซต์
  • พิกัด

ระหว่างรอขึ้นเรือ มีโซนขายของฝาก มีขนมเครื่องดื่มที่ทำจากส้มสึดาจิ เยอะมากๆๆ

แฟนๆโปเกมอน ไปตามเก็บฝาท่อในเมืองนารุโตะกันได้

HOTEL RIDGE
ホテルリッジ

โรงแรมสุดหรูที่มีพื้นที่ใหญ่เท่าโตเกียวโดม 7 โดม ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโทคุชิมะ ใกล้กับน้ำวนนารุโตะและท้องฟ้ากว้างใหญ่ของชิโกคุ ผสานโอโมเตนาชิของญี่ปุ่น ที่จะมอบความสุขให้กับแขกผู้เข้าพักที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขั้นสูง ความสุนทรีย์ ปรับสมดุลให้เข้ากับธรรมชาติที่โอบล้อม ภายในรีสอร์ตมีห้องพักที่เป็นห้องสวีทเท่านั้น เพียง 10 ห้อง ทุกห้องจะสามารถมองเห็นวิวของสะพานนารุโตะโอฮาชิ หมู่เกาะน้อยใหญ่ในทะเลเซโตะใน รวมถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอุทยานแห่งชาติเซโตะไนไค 

ห้องพักจะมีให้เลือกทั้งแบบญี่ปุ่นโมเดิร์นที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่น และห้องพักสไตล์ตะวันตกที่มีเตียงสูงและโซฟาเพื่อความสะดวกสบาย มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติและสปาที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลาย

นอกจากนี้ ทางโรงแรมมีให้บริการร้านอาหารสองแห่งที่นำอุดมสมบูรณ์ของผืนดินและท้องทะเลของโทคุชิมะมาถ่ายทอดเป็นประสบการณ์ผ่านอาหารญี่ปุ่นและฝรั่งเศสที่นำเสนอได้อย่างไร้ที่ติ

  • ราคาห้องพัก (Waso แบบญี่ปุ่น และ Yoso แบบตะวันตก) รวมอาหารเช้า พัก 1 คน 68,380 เยน / พัก 2 คน  95,620 เยน
  • เว็บไซต์
  • พิกัด

California Table
カリフォルニアテーブル

นอกจากห้องพักแสนหรูหราแล้ว ยังสามารถเพลินกับอาหารฝรั่งเศสที่ปรุงด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นชั้นเลิศแต่ละฤดูกาล จัดแต่งจานอย่างสวยงาม รสชาติเยี่ยม ที่นี่จะมีระเบียงให้ได้ออกไปสัมผัสแสงแดดอุ่นๆและลมทะเลของนารุโตะ เซ็ทมื้อเที่ยงมีให้เลือก 3 แบบคือ Dry Creek Lunch 3,300 เยน, Sonoma Lunch 3,850 เยน, Santa Cruz Lunch 5,500 เยน


French Monstar Setouchi Food Art
フレンチモンスター瀬戸内フードアート

คาเฟ่ในเมืองนารุโตะ จ.โทคุชิมะ ที่มีวิวสวยมากๆ ตั้งอยู่ข้างกับจุดชมวิวโยโมมิ จะได้ชมทิวทัศน์ของเกาะชิมาดะ ทะเลเซโตะใน ได้สวยงามแบบไม่มีอะไรบดบัง พร้อมกับดื่มด่ำขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสที่รังสรรค์ขึ้นมาโดยผสมผสานวัตถุดิบท้องถิ่นของโทคุชิมะ และ เซโตอุจิ เข้าไปด้วย ซึ่งเจตนารมย์ของเจ้าของร้านบอกไว้ว่า อยากส่งมอบเสน่ห์ของโทคุชิมะและเซโตอุจิผ่านขนมหวาน และให้ตรงจุดนี้เป็นจุดชมวิวที่อร่อยที่สุดในโลก ซึ่งเราก็ได้ไปพิสูจน์มาแล้ว ขนมของที่นี่อร่อยมากจริงๆ ใส่ไว้ในแผนเที่ยวโทคุชิมะได้เลย


Otsuka Museum of Art
大塚国際美術館 

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอซึกะ เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ตั้งอยู่ในเมืองนารุโตะ เป็นพื้นที่แสดงสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (มีพื้นที่รวมทั้งหมดเกือบ 3 หมื่นตร.ม.) ผลงานทุกชิ้นเป็นภาพที่คัดลอกโดยได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องโดยใช้เทคนิคพิเศษของบริษัท Otsuka Ohmi Ceramics

มีตั้งแต่ภาพผนังโบราณ จนถึงภาพวาดที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ 190 แห่งจาก 26 ประเทศทั่วโลก รวมมากกว่า 1,000 ชิ้น อาทิ ผลงานของ ไมเคิล แองเจโล, โมเนต์, เลโอนาร์โด ดาวินชี ผู้ชมสามารถสัมผัสความสวยงามได้ราวกับผลงานต้นฉบับทั้งหมดในที่เดียว ว่ากันว่าความทนทานของผลงานที่จัดแสดงที่นี่มีความทนทานต่อการสึกกร่อนจากมลพิษ แผ่นดินไหว ไฟไหม้ สามารถเก็บไว้ในยาวนานถึง 2,000 ปี

  • เวลาทำการ: 9.30-17.00 น. (จำหน่ายตั๋วถึง 16.00 น.) หยุดทุกวันจันทร์
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 3,300 เยน นักศึกษา 2,200 เยน เด็กนักเรียน 550 เยน (สามารถกลับเข้ามาใหม่ได้ภายในวันเดียวกันเท่านั้น)
  • เว็บไซต์
  • พิกัด

มุมนี้ถ่ายรูปสวยมากกกกก

เข้าไปถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด มีให้แต่งคอสเพลย์ด้วย น่ารักตรงนี้


AoAwo Naruto Resort

アオアヲナルトリゾート

โรงแรมในตัวเมืองนารุโตะ ที่อยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอซึกะ เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีห้องพัก 208 ห้อง มีบ่อน้ำพุร้อน และมีไฮไลต์อยู่ที่บุฟเฟ่ต์มื้อเย็นที่จะเป็นอาหารท้องถิ่นอาวะของแท้ โดยเฉพาะ ปลาที่จับได้ในกระแสน้ำวนนารูโตะจะมีเนื้อแน่นอร่อย เและมีโชว์แล่ปลามากุโระหนัก 30 กก. (เวลา 17.45 และ 19.45) ด้วย

หลังจากอิ่มท้องแล้วให้มาย้อนอดีตไปสมัยโชวะที่ห้อง Awa no kuni ที่จะจำลองบรรยากาศงานเทศกาลของอาวะ มีเกมและกิจกรรมให้เล่น มุมถ่ายรูปแบบเพลินๆ และไปต่อกันที่ห้อง Blue Rose ชั้น 1 จะมีการแสดงระบำอาวะโอโดริ และให้ผู้เข้าชมเรียนการออกสเต็ปเข้าจังหวะและร่วมเต้นระบำกันอย่างสนุกสนาน

แนะนำให้ตื่นเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้นกันด้วยนะ

Ryozenji
第1番札所霊山寺

ต้นกำเนิดของเส้นทางแสวงบุญชิโกะคุ (Shikoku Henro)

ตั้งแต่สมัยโบราณ “ชิโกะคุ” เป็นพื้นที่ห่างไกลจากใจกลางเมือง และเป็นสถานที่ฝึกหัดนักพรตต่างๆ กล่าวกันว่าไดชิ (Kōbo Daishi, Kukai) ซึ่งเกิดที่จังหวัดซานุกิ (อยู่ในพื้นที่จังหวัดคางาวะในปัจจุบัน) ก็ได้รับการฝึกฝนในบริเวณนี้เช่นกัน และได้เลือกวัด 88 แห่งรวมสถานที่อื่นๆ เพื่อสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 88 แห่งในชิโกะคุ เส้นทางนี้จึงเป็นการแสวงบุญเดินทางผ่านสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 88 แห่ง เสมือนตามรอยเส้นทางของพระอาจารย์ไดชิ จนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใครๆ ก็อยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต จึงมีผู้คนจำนวนมากจากทั่วประเทศญี่ปุ่นที่เลื่อมใสและศรัทธาได้ออกเดินทางไปแสวงบุญกันเพิ่มมากขึ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา

ประวัติศาสตร์และต้นกำเนิดของวัดเรียวเซ็นจิ (Ryozenji)

เส้นทางแสวงบุญชิดกะคุมีระยะทาง 1,480 กม. โดยแต่ละแห่งจะมีหมายเลขสำนักงานกำกับไว้เรียกว่า ฟุดะโช (fudasho) ซึ่งวัดเรียวเซ้นจิ เป็นวัดลำดับที่ 1 (Dai-ichiban fudasho) ตามประวัติศาสตร์ เกียวกิ (Gyōgi) ได้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ตามคำขอของจักรพรรดิโชมุ (รัชสมัยค.ศ.724-49) ในปีค.ศ. 815 เมื่อโคโบไดชิเดินทางตามเข็มนาฬิกาจากโทโฮคุไปยังชิโกกุ ความปรารถนาทางโลกของผู้คน 88 คนได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ในบริเวณนี้

หอคอยของวัดได้ถูกทำลายลงในช่วงสมัยเทนโช ส่วนเจดีย์ทาโฮะ ที่สร้างในสมัยโอเอ ยังคงหลงเหลืออยู่ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 600 ปี และมีชื่อเสียงในเรื่องพระพุทธเจ้าทั้ง 5 (Gochi Nyorai) อีกทั้งยังมีเทวรูปของเจ้าแม่กวนอิมที่สามารถขอพรเรื่องความสัมพันธ์  ไม่ใช่แค่ชายหญิง แต่เป็นความสัมพันธ์เกี่ยวกับ การงาน สุขภาพ ความสุข ได้ด้วย ว่ากันว่า พรจะถูกประทานให้ก็ต่อเมื่ออธิษฐานด้วยจิตใจอันมุ่งมั่นและน้ำที่บริสุทธิ์ มิใช่เงินทอง

บุคคลทั่วไปแม้แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถสัมผัสประสบการณ์ในเส้นทางแสวงบุญโอเฮ็นโระได้ที่นี่ โดยการเช่าชุดแสวงบุญในอดีตจะมีเพียงชนชั้นสูง เพราะต้องใช้ทั้งเวลาและเงิน จึงต้องเป็นคนรวยเท่านั้น ว่ากันว่าถ้าเดินเท้าจะใช้เวลา 40 วันถึงจะครบ ปัจจุบันสามารถขับรถได้ ใช้เวลาประมาณ 7 วัน (ระหว่างทางสามารถค้างคืนที่วัดได้) และเส้นทางแสวงบุญชิโกะคุ ได้รับความนิยมในหมู่อินฟลูญี่ปุ่น 

ภายในวัดจะมีวิหาร 2 จุดคือ วิหารหลักพระประธาน และวิหารโคโบไดชิ (วิหารด้านหน้าที่มีอิคคิวซัง) จึงมีกระดาษขอพร 2ใบ ให้เขียนชื่อสกุล อายุ จังหวัด วันที่มา คำอธิษฐาน ในอดีตกระดาษนี้มีประโยชน์ในการใช้ตามหาตัว หากระหว่างทางเกิดป่วยหรือเสียชีวิต หรือหายตัวไป โดยชุดสีขาวที่ใส่แสวงบุญก็คือแสดงถึงการชำระล้างจิตใจที่บริสุทธิ์ คนที่มาเดินคือพร้อมลาโลกนี้ไปได้หากเกิดอะไรขึ้นเพราะถือว่าเป็นบุญอันสูงสุดแล้ว

ในชุดจะประกอบด้วย Wagesa ทำมาจากจีวรพระ จะไม่ใส่ไปห้องน้ำ ให้ถอดออกก่อน ไม้เท้าเปนตัวแทนของท่านโคโบไดชิ ห้ามจับบริเวณด้านบนที่เปรียบเหมือนหัวท่าน ไม่ค้ำหัว ต้องรักษาไม้ให้ดี 

โนเกียวโช (Nogyocho) สำหรับให้พระเขียนชื่อวัด และชื่อพระประธานแต่ละวัดให้ในเล่มครั้งละ 500 เยน ต่างจากโกะชูอิน (Goshuin) คือ โนเกียวโช จะถือว่าเป็นการให้ (ทำบุญ) ไม่ใช่มารับ หรือบางคนจะเลือกใช้ภาพแขวน (Kakejiku) ลงตราประทับสะสมจนครบ


Kuru Kuru Naruto Roadside Station
道の駅くるくるなると

ศูนย์รวมของอร่อย ทั้งผลิตภัณฑ์ของฝาก ของที่ระลึก อาหารที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพแน่น ในราคาน่ารัก เพราะเป้าหมายของการสร้างที่นี่ก็คืออยากให้ผู้คนจากทั่วญี่ปุ่นและทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อสัมผัสเสน่ห์ของเมืองนารุโตะและโทคุชิมะได้อย่างสนุกสนานที่สุด มีร้านที่แนะนำคือ

  • Naruto Bakery ベーカリーイモホレタ มีขนมอันปังมันม่วงแสนอร่อย 
  • Naruto Eemon ナルトエエモン มีซอฟต์ครีมมันม่วง มะนาวซึดาจิ และพุดดิ้ง
  • Oimo, Naru おいも、なる。คนชอบมันม่วงต้องมาที่นี่ เมนูแนะนำคือมองบลังต์มันม่วง Naruto Kintoki
  • Naruto Hore Hore Pudding 鳴門ほれほれプリン เมนูพุดดิ้งธีมน้ำวนนารุโตะคือดี

และที่ไม่ควรพลาดคือ Daiuzu Shokudo 大渦食堂 ร้านอาหารทะเลที่ใช้วัตถุดิบของนารุโตะ มาถึงแหล่งทั้งที ต้องลองเมนูที่หากินได้ที่นี่เท่านั้น ถ้ามากันหลายคน ขอแนะนำ Kurukuru Daiuzu Kaisen Zekkei-don くるくる大渦 海鮮絶景丼 เป็นเมนูทาวเวอร์ 3 ชั้นที่อัดแน่นไปด้วยอาหารทะเลสดๆครบทุกชนิด แต่ถ้ามาคนเดียว อยากกินแบบส่วนตัวก็แนะนำเป็น ข้าวหน้าปลาบุริ 2 สี 鯛の2色丼ぶり และ ข้าวหน้าปลา 5 สี 大渦5色丼

  • เวลาทำการ: 9.00-17.00 น.
  • การเดินทาง: จากสถานี Kyokai-Mae เดิน 18 นาที หรือจากสถานี Tokushima ขึ้นรถประจำทาง Tokushima Bus สาย Awaji-Tokushima (Express) ลงที่ Michi-no-eki Kurukuru Naruto ได้เลย ใช้เวลา 22 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด