เบื่อเที่ยวในโตเกียวแล้ว ไปเที่ยวไหนดี ? หลังจากได้รับคำถามประมาณนี้อยู่บ่อยครั้ง สืบเนื่องจากการเดินทางไปท่องเที่ยวยังเมืองฮาโกเนะในครั้งที่แล้ว ครั้งนี้จึงอยากจะมาแนะนำอีกหนึ่งเมืองน่ารักๆ ตั้งอยู่ติดชายทะเล บรรยากาศชิลๆ มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังเดินทางสะดวกสบายจากโตเกียว นั่นก็คือ เมืองอิโต (Ito) โดยใช้พาส Ito Sightseeing Free Pass เที่ยวได้ทั่วเมือง
สามารถติดต่อทำการซื้อพาสผ่านทางบริษัท Quality Express ได้ >> ที่นี่
อ่านรีวิวเที่ยวเมืองฮาโกเนะด้วย Hakone Free Pass ได้ >> ที่นี่
เมืองอิโต (Ito) เมืองตากอากาศที่มีแหล่งน้ำพุร้อนอันมีชื่อเสียง บนชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรอิซุ (Izu Peninsula) ตั้งอยู่ในจังหวัดชิซุโอะกะ (Shizuoka) โดยคาบสมุทรอิซุ จะมีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปจากเกาะฮนชูไปในมหาสมุทรแปซิฟิก ขนาบข้างด้วยอ่าวสุรุกะ (Suruga Bay) ทางตะวันตก และอ่าวสะกะมิ (Sagami Bay) ทางตะวันออก
พื้นที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยภูเขาขนานไปกับริมฝั่งทะเล ทางรถไฟส่วนใหญ่จึงต้องวิ่งลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งตลอดทาง สำหรับใครที่ชื่นชอบการนั่งรถไฟชมวิวระหว่างทาง แน่นอนว่าจะต้องเพลิดเพลินกับทัศนียภาพสวยๆริมฝั่งทะเลอย่างแน่นอน
ขอบคุณภาพ http://tokyo.digi-joho.com/index.html
สำหรับวิธีการเดินทางในครั้งนี้
- เริ่มต้นเดินทางจากสถานี Hakone-Yumoto ด้วยรถบัสประจำทาง Tokai Bus ไปลงที่สถานี Odawara
- จากนั้นโดยสารรถไฟสาย JR Tokaido ไปเปลี่ยนสายเป็น JR Ito ที่สถานี Atami
- จากนั้นนั่งต่อไปอีก 24 นาที จะถึงสถานี Ito ค่าโดยสาร 670 เยน
ใครที่เดินทางมาจากโตเกียว สามารถโดยสารรถไฟสาย JR Limited Express “Odoriko” ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ราคา 4,130 เยน
หรือใครที่อยากจะสัมผัสกับวิวข้างทางสวยๆริมทะเล ก็เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย สามารถโดยสารรถไฟขบวน “Super View Odoriko” ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ราคา 4,510 เยน
การเดินทางทั้งหมดภายในเมืองอิโต จะใช้การโดยสารรถบัสประจำทางแทบจะทั้งหมด นักท่องเที่ยวสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยใช้ “Ito Sightseeing Free Pass” เดินทางด้วยรถบัสโทไก เที่ยวทั่วเมือง (ซื้อในญี่ปุ่น ใช้ได้ 1 วัน) ราคา 1,300 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 650 เยนสำหรับเด็ก
**ถ้าหากซื้อพาสนี้จากตัวแทนในไทย จะสามารถใช้ได้ต่อเนื่อง 2 วัน** ติดต่อที่นี่ >> Quality Express
นักท่องเที่ยวสามารถซื้อพาสนี้ได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวเมืองอิโต ซึ่งตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ Ito บริเวณด้านหน้าที่จอดป้ายรถบัส ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.
เราเดินทางมาถึงเมืองอิโตช่วงสายๆ บรรยากาศของสถานีรถไฟ JR Ito เป็นสถานีไม่ใหญ่มาก เริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินพลุกพล่านเนื่องจากเป็นวันหยุด ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเสียมาก ไม่ไกลกันมากเป็นย่านถนนคนเดินเล็กๆของเมืองที่เรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านขายของฝากและร้านอาหาร ใครที่ยังไม่ได้รับประทานอาหารมา ลองมาฝากท้องกันที่นี่ก็ได้
สถานที่แรกที่เราจะพาไปท่องเที่ยวกัน คือ โทไคคัง (Tokaikan) เป็นเรียวกังเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ปัจจุบันได้ถูกอนุรักษ์ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Ito ใครที่อยากเดินชิลๆชมเมืองไปเรื่อยๆก็ใช้เวลาประมาณ 7 นาที หรือใครที่่ใช้พาสอย่างเราก็สามารถจะโดยสารรถบัสไปลงที่ป้าย Tokaikan-mae ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีแล้วข้ามถนนไปก็จะถึง
โทไคคัง (Tokaikan) เป็นเรียวกังพร้อมออนเซนที่หลงเหลืออยู่จากช่วงต้นสมัยโชวะ ปัจจุบันได้เลิกกิจการไปแล้วแต่เจ้าของยังคงต้องการจะอนุรักษ์ เก็บรักษาสถานที่แห่งนี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงสถาปัตยกรรมของไม้เซลโคว่าทั้งหลัง ซึ่งปัจจุบันนั้นหาชมได้ยากเต็มที
สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1928 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอิโต บนคาบสมุทรอิซุ ได้รับการต่อเติมในปีค.ศ. 1938 และอีกครั้งในช่วงปีค.ศ. 1949 จากนั้นจึงปิดกิจการไปแล้วเปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1997 ก่อนที่จะบูรณะแล้วเปิดใหม่ในปีค.ศ. 2001 ถือได้ว่าที่ Tokaikan แห่งนี้เป็นจุดท่องเที่ยวชมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญและมีคุณค่าอีกแห่งหนึ่งของเมือง
ภายในเป็นอาคาร 3 ชั้น ด้านนอกนั้นอาจจะดูเก่าแก่ไปตามกาลเวลา แต่ภายในได้มีการบูรณะพร้อมเสริมโครงสร้างไม้เพื่อให้เกิดความแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยป้องกันแผ่นดินไหวและตึกถล่ม
ห้องแต่ละห้องด้านใน จะมีความพิเศษด้วยการสร้างจั่วของหลังคายื่นออกมาบริเวณหน้าห้อง เพื่อให้มีลักษณะเหมือนกับเป็นบ้านแต่ละหลัง ซึ่งมีที่นี่ที่เดียวในประเทศญี่ปุ่น
จุดที่โดดเด่นของแต่ละห้องที่นี่จะเป็นศิลปะบนลายหน้าต่างแบบญี่ปุ่นแท้ๆ มีลวดลายแตกต่างกันไปในแต่ละห้อง โดยใช้ไม้ไผ่ทำเป็นเส้นเล็กๆแล้วต่อให้เป็นรูปทรงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปภูเขาไฟฟูจิ
ด้านบนชั้นที่ 3 เป็นห้องใหญ่ มีความกว้างขนาด 120 เสื่อ ภายในห้องนี้ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมไว้คงเดิมโดยไม่มีการดัดแปลงส่วนใดเลย ไม่ว่าจะเป็นเวทีการแสดงที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก อีกด้านมีการจำลองหุ่นเท่าขนาดคนจริงเพื่อแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนสมัยก่อน ในการชมมหรสพ การดื่มกิน ทานอาหารหรือแม้แต่การละเล่นต่างๆ
ขึ้นไปด้านบนสุดของอาคารจะเป็นหอคอยที่สร้างไว้สำหรับชมวิว สามารถมองวิวได้รอบแบบ 360 องศา ซึ่งในสมัยก่อนยังไม่มีตึกสูงมาสร้างบัง ทำให้จุดนี้เป็นจุดที่สามารถทองเห็นทัศนียภาพได้ไกลสุดลูกหูลูกตาถึงริมฝั่งทะเลเลยทีเดียว
บริเวณชั้นที่สองจะเป็นห้องจัดแสดงงานศิลปะ ซึ่งจำลองแบบมาจาก Nagisa Memorial Park โดยใช้ไม้ขนาดใหญ่มาแกะสลัก
เมื่อเดินลงมาจะเห็นสถาปัตยกรรมการสร้างตึกแบบเปิดสวนตรงกลาง เพื่อให้ทุกส่วนของอาคารสามารถมองเห็นสวนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นนต้นไม้ ก้อนหิน บ่อน้ำ และสะพานข้าม ซึ่งให้ความรู้สึกแบบญี่ปุ่นแท้
บริเวณชั้น 1 เปิดเป็นห้องสำหรับดื่มชาและทานของหวาน พร้อมชมทัศนียภาพของแม่น้ำ Matsukawa ไม่ว่าจะเป็นเซ็ทชาเขียวร้อนพร้อมขนมพิเศษซึ่งมีเฉพาะที่ Tokaikan เพียงแห่งเดียว
Matcha Set ราคา 600 เยน
หรือจะเป็นเซท Anmitsu ที่จะประกอบไปด้วย ชาเขียวร้อน วุ้นใสในน้ำเชื่อมซึ่งทำจากน้ำตาลทรายแดงทานคู่กับถั่วแดงบดและผลไม้ประจำฤดูกาล ซึ่งในฤดูกาลนี้จะเป็นส้มและลูกพีช
Anmitsu Set ราคา 500 เยน / เพิ่มไอศกรีม 600 เยน
นอกจากนี้ที่ Tokaikan ยังเปิดให้บริการห้องแช่อนเซนในร่มในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดราชการ โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (ค่าเข้าใช้บริการ: 500 เยน) แบ่งเวลาเปิด–ปิดเป็นของชายหญิงดังนี้ : ผู้หญิง 13.00-14.45, 15.00-16.45 และ ผู้ชาย 11.00-12.45, 17.00-19.00
Tokaikan
- เวลาทำการ : 09.00-21.00 น.
- วันหยุด : ทุกวันอังคารที่ 3 ของเดือนและวันที่ 1 มกราคม
- ค่าเข้าชม : 200 เยน
- การเดินทาง :
จากสถานี
Ito เดินไปประมาณ
7 นาที
จากสถานีIto โดยสารรถบัส
Tokai bus ลงที่ป้าย
Tokaikan-mae ใช้เวลาประมาณ
5 นาที ราคา
170 เยน รถบัสออกชั่วโมงละ
1-2 รอบ
)
- เว็บไซต์ : ITO SPA
หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศของอาคารประวัติศาสตร์จนหอมปากหอมคอแล้ว เราเปลี่ยนบรรยากาศเดินทางไปท่องเที่ยวยัง อิโตมารีนทาวน์ (Ito Marine Town) จุดพักรถขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมทะเล ตัวอาคารโดดเด่นด้วยการทาสีสันสดใส บรรยากาศคล้ายกับแถบแคลิฟอร์เนียของอเมริกา เนื่องจากมีต้นปาล์มเรียงรายอย่างมากมาย
ภายในตัวอาคารแบ่งเป็นสองชั้น เรียกว่า Ocean Bazaar มีทั้งหมด 21 ร้านค้า แต่ละร้านจะขายอาหารทะเลสดและอาหารแปรรูปต่างๆ ที่เป็นสินค้าโด่งดังของคาบสมุทร Izu แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ปลาแดดเดียว, กุ้งอิซุเอบิ, หอยดอง, สาหร่าย นอกจากอาหารและของสดให้ซื้อกลับบ้าน
ที่นี่ยังมีขนมอร่อยๆ เช่น Onsen Manju, Guricha Pudding รวมถึงการออกร้านของกลุ่มเกษตรกร JA ที่จะนำผักผลไม้สดและสินค้าแปรรูป เช่นเหล้าและโซจูรสชาติต่างๆ
บริเวณชั้นบนของอาคารเป็นร้านอาหารอร่อยๆมากมาย ทั้งข้าวหน้าต่างๆ โดยเฉพาะอาหารทะเลสดๆ, อุด้ง, ราเมน แต่อาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี่มีชื่อว่า เมนู Ryoshimeshi คือข้าวหน้าไข่ปลาพร้อมด้วยเนื้อปลาวางแบบพูนขึ้นมาเป็นภูเขา
สำหรับใครที่ไม่สามารถทานอาหารทะเลได้ที่นี่ก็มีโซนที่ขายอาหารต่างๆที่ทำมาจากเนื้อ หมู ไก่ อีกด้วย โดยเมนูชื่อดังของที่นี่มีชื่อว่า Izu Gyu Don หรือข้าวหน้าเนื้ออิซุ
ลูกค้าสามารถนำอาหารออกไปนั่งรับประทานชมวิวทะเลแบบชิลๆได้อีกด้วย โดยด้านนอกของตัวอาคารด้านฝั่งติดทะเลจะเป็นท่าจอดเรือยอร์ชมากมาย และที่อยากจะแนะนำอีกอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ อย่าพลาดแช่อนเซนเท้าแบบฟรีๆพร้อมชมวิวทะเลไปด้วย
สำหรับผู้รักสุนัขที่นี่สามารถนำสัตว์เลี้ยงของคุณมาเดินเล่นได้ แถมยังมีบ่อแช่เท้าให้สุนัข แต่ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในตัวอาคารที่มีการขายอาหาร
ไม่ไกลกันเป็นอาคารสำหรับแช่อนเซนและทำสปา ใครที่เดินทางมาเหนื่อยๆ สามารถจะมาผ่อนคลายกับการแช่น้ำร้อนที่สามารถมองเห็นวิวทะเลเบื้องหน้าได้อย่างสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ยังมีบริการนวดสปา, ห้องแช่อาบน้ำแบบส่วนตัวและห้องพักผ่อนไว้คอยให้บริการอีกด้วย ในกรณีที่มากันเป็นครอบครัวหรือเป็นหมู่คณะ
ที่อิโตะมารีนทาวน์ยังมีให้บริการเรือนำเที่ยวท้องกระจก ที่จะพานักท่องเที่ยวนั่งไปชมความสวยงามของท้องทะเลกับเรือทัศนาจร “ฮารุฮิรามารุ อิรุคะโก“
Ito Marine Town
- เวลาทำการ : ร้านค้า 09.00-18.00 น. , ร้านอาหาร 11.00-20.30 น.
- วันหยุด : เปิดทำการทั้งปี
- การเดินทาง : จากสถานี Ito โดยสารรถบัสหมายเลข 2ลงที่ป้าย Ito Marine Town ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หรือสามารถเดินเท้าใช้เวลาประมาณ 13 นาที
- เว็บไซต์ : ITO MARINE TOWN
ส่วนของอาคาร Seaside Spa
ค่าเช้าใช้บริการในช่วงเช้า
- เวลาทำการ: 05.00-10.00 น. (เข้าใช้บริการรอบสุดท้าย 09.30 น.)
- ผู้ใหญ่ 540 เยน เด็ก 270 เยน
ค่าเข้าใช้บริการช่วงเวลาปกติ
- เวลาทำการ : 10.00-22.00 น. (เข้าใช้บริการรอบสุดท้าย 21.00 น.)
- ผู้ใหญ่ 1000 เยน เด็ก 540 เยน
สถานที่สุดท้ายของการเดินทางท่องเที่ยวที่เมืองอิโตะของเราคือ อิซุ ชาโบเต็น พาร์ค (Izu Shaboten Park) ตีมพาร์คขนาดใหญ่แห่งนี้ เปิดบริการอย่างครบวงจร เหมาะสำหรับวันพักผ่อนของครอบครัวที่ทุกคนสามารถมาทำกิจกรรมร่วมกันได้ในวันหยุด ไม่ว่าจะเป็นส่วนสัตว์เปิดขนาดใหญ่, สวนพฤกษชาติกระบองเพชร (Izu Cactus Park), สวนดอกไม้อิซุชิกิโนะฮานะ (Izu Shiki no Hana Park) และสวนน้ำอิซุแกรนพาล (Izu Grandpal Park)
เนื่องจากด้วยเวลาที่จำกัด ทำให้การเดินทางครั้งนี้เรามีโอกาสเดินทางไปสัมผัสกับสวนสัตว์และสวนกระบองเพชรเท่านั้น แต่แน่นอนว่าถึงแม้จะไม่มีโอกาสไปสัมผัสกับทุกส่วนของที่นี่ได้หมดในวันเดียว แต่ว่าทั้งสองที่ที่เราเลือกไปนั้นก็มีความพิเศษอย่างมาก
สวนสัตว์อิซุ ชาโบเต็นพาร์ค และ สวนพฤกษชาติกระบองเพชรอิซุ ตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกัน ความพิเศษของสวนสัตว์แห่งนี้นอกจากจะมีสัตว์แปลกๆหลายชนิดจากทั่วโลก ที่นี่ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด สัตว์ทั้งหลายที่นี่ผ่านการเลี้ยงจนเชื่อง ทำให้คุ้นเคยกับมนุษย์ตั้งแต่นกยูง ลิงกระรอก จนถึงคาปิบาร่า เจ้าหนูยักษ์ที่เป็นขวัญใจของหลายๆคน อีกทั้งยังมีสัตว์ชนิดใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆมากกว่า 100 ชนิดเลยทีเดียว โดยสวนสัตว์ที่นี่จะมีลักษณะเป็นสวนสัตว์แบบเปิดให้สัตว์ต่างๆได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ
โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเยอะมากเป็นพิเศษ เพราะที่นี่เป็นต้นกำเนิดของบ่อแช่น้ำร้อนกลางแจ้งสำหรับเจ้าหนูยักษ์คาปิบาร่า จนที่นี่เป็นสัญลักษณ์ฤดูหนาวของอิซุ จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนเมษายน
นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังทดลองนั่งเรือล่องไปตามทางน้ำ ซึ่งบริเวณเกาะแก่งต่างๆได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นลิงกระรอกที่เราสามารถลงไปป้อนอาหารได้กับมือ
เดินมาถึงอีกส่วนของสวนสัตว์จะเป็นที่ตั้งของโดมเรือนกระจก ที่นี่จัดแสดงต้นกระบองเพชรและพืชอวบน้ำมากมายหลายชนิด โดยต้นกระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์กว่า 1,500 ชนิดจากทั่วทุกมุมโลก บางต้นมีอายุมากหลายร้อยปี
นอกจากจะจัดแสดงให้ชมแล้วยังมีส่วนที่ขายต้นกระบองเพชรแบบให้เลือกตามชอบใจ สามารถจัดกระถางได้ตามต้องการ
ด้านในยังมีร้านอาหารให้บริการมากมายถึง 5 ร้านและร้านขายของฝากน่ารักๆ ไม่ว่าจะเป็นขนมชื่อดังต่างๆรวมไปถึงของที่ระลึกเป็นรูปสัตว์น่ารักมากมาย
อิซุ ชาโบเต็น พาร์ค (Izu Shaboten Park)
- เวลาทำการ : 09.00-17.00 น. (ช่วงเดือนมีนาคม–เดือนตุลาคม) และ09.00-16.00 น. (ช่วงเดือนพฤศจิกายน–เดือนกุมภาพันธ์)
- วันหยุด : เปิดทำการตลอดปีไม่มีวันหยุด
- ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 2,300 เยน เด็กประถม 1,100 เยน เด็กเล็กอายุ 4 ปีขึ้นไป 400 เยน ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป 1,900 เยน
- การเดินทาง : จากสถานี Ito โดยสารรถบัสประจำทางหมายเลข 6 ลงที่ป้ายรถบัส Shaboten Park ใช้เวลประมาณ 40 นาที ราคา 740 เยน
- เว็บไซต์ : IZU SHABOTEN
การเดินทางในครั้งนี้ เราได้เข้าพักที่โรงแรม Ito Kowakien & Ryokan Ito Ryokuyu ตั้งอยู่ในตัวเมืองอิโต ห่างจากสถานี Ito เพียง 5-10 นาที อ่านรีวิวได้ >> ที่นี่