จากตอนที่แล้ว เราได้พาไปรู้จักสถานที่เที่ยวสำคัญทางประวัติศาตร์ของ เมืองมัตสึเอะ (Matsue) กันเป็นที่เรียบร้อย มาถึงตอนที่สอง ก็จะพาไปอีก 2 สถานที่ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสวนงาม แต่มีความแตกต่างกัน โดยแห่งแรกคือ Matsue Vogel Park ที่เป็นสวนนกและสวนดอกไม้ในแห่งเดียว ส่วนอีกแห่งนั้นคือ Adachi Musuem of Art เป็นสวนญี่ปุ่นที่สวยงามติดอันดับโลก สามารถไปเที่ยวได้ภายในวันเดียว ถือว่าเป็นวันชิลล์ๆได้เลย

อ่านตอนแรกได้ที่นี่ >> ล่องเรือเที่ยว Matsue เมืองแห่งน้ำ และ ปราสาทงาม [ตอน 1]

เข้าสู่เว็บไซต์แนะนำข้อมูลท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการได้ที่นี่visitmatsue

แผนที่ตั้งของเมืองมัตสึเอะ

matsue_map

เช้าวันนี้ เราจะเดินทางไปเที่ยว Matsue Vogel Park กันก่อน สำหรับการเดินทางให้ตั้งต้นจากสถานี Matsue Shinjiko Onsen โดยสารรถไฟ Ichibata Electric Railway สาย Kita-Matsue (สายเดียวกับที่ไปลงศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ) มาลงที่สถานี Matsue Vogel Park ใช้เวลา 16 นาทีเท่านั้น

รถไฟสาย Ichibata จะมีขบวนพิเศษที่ตกแต่งทั้งคันเป็นสีชมพู และมีลายของชิมะเนกโกะ มาสคอตชื่อดังประจำจังหวัดชิมะเนะ เป็นหลัก ไม่ใช่เพียงภายนอกขบวนเท่านั้น ภายในขบวนก็มีกิมมิคน่ารักมากมายที่ให้ลูกค้าที่ใช้บริการได้ลองตามหา ไม่ว่าจะเป็น ห่วงจับลายหัวใจ ม่านลายหัวใจ เป็นต้น

DSC06575

สถานี Matsue Vogel Park

DSC06573

สวนนกมัตสึเอะ (Matsue Vogel Park) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบชินจิ เป็นสวนดอกไม้และสวนนกในแห่งเดียวกัน ซึ่งถือว่าหาชมได้ยากในญี่ปุ่นเมื่อเข้ามาด้านในจะถูกต้อนรับด้วยกลิ่นหอมของดอกเบโกเนีย (Begonia) หรือดอกโบตั๋น และ ดอกฟูเชีย (Fuchsia) ที่เบ่งบานตลอดทั้งปี ภายใต้กรีนเฮาส์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกที่นี่คือสวรรค์ที่แท้จริงของดอกไม้นานาพันธุ์ และนกหลากชนิด ที่สามารถชื่นชมได้อย่างใกล้ชิด จากการให้อาหาร และชมการแสดงสุดพิเศษจาก นกฮูก และ เพนกวิน เป็นต้น

DSC06474

DSC06471

vogal_03

และด้านบนจุดชมวิว สามารถขึ้นมาชมทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลสาบชินจิได้ (มีบันไดเลื่อนที่เหมาะสำหรับผู้ใช้บริการรถเข็น)

DSC06477

สวนนกของที่นี่ เปิดให้เข้าชมอย่างใกล้ชิด และนกไม่กลัวผู้คน มีแต่คนที่จะกลัวนกว่าจะเข้ามาทำร้าย แต่จริงๆแล้วนกที่นี่เชื่องและเข้ากับคนได้ดีมาก เพียงแค่เรามีอาหารอยู่ในมือ นกทุกตัวก็พร้อมที่จะเข้ามาเราอย่างเปี่ยมมิตร

DSC06482

DSC06483

DSC06504

นกแสนรู้ ฉลาดเป็นกรด ครูฝึกสั่งอะไรก็ทำตามได้อย่างแม่นยำ

DSC06510

ช่วงเวลาไฮไลท์ สามารถให้อาหารนก โดยให้นกมาเกาะอยู่บนตัวเราได้ ประทับใจสุดๆเลย ได้ใกล้ชิดกัยนกขนาดนี้ก็ครั้งแรก

DSC06520

ทั้งสวยและเท่ในเวลาเดียวกัน

DSC06529

โชว์นกฮูกที่ไม่ควรพลาด แล้วจะได้รู้ว่านกฮูกนั้นฉลาดและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าทึ่ง

DSC06537

หลังจากเดินทักทายนกกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาชมดอกไม้บ้าง

DSC06560

จุดถ่ายรูปแห่งความรัก

DSC06563

แนะนำว่าต้องลองซอฟท์ครีมรสดอกเบโกเนีย หอมอร่อย หวานนุ่มลิ้น

DSC06567

ที่อยู่52 Ogakicho, Matsue, Shimane Prefecture 690-0263, Japan
เวลาทำการเมษายน – กันยายน 9.00-17.30
ตุลาคม – มีนาคม 9.00-17.00
※เข้าก่อนสวนปิด 45 นาที
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ (ต่างชาติ) 1,080 เยน
เด็ก (ต่างชาติ) 540 เยน
เด็กทารก ฟรี
การเดินทางจากสถานี Matsue Vogel Park เดิน 2 นาที
เว็บไซต์Matsue Vogel Park

หลังจากนั้นเราย้อนกลับไปที่สถานีรถไฟ JR Matsue เพื่อขึ้นรถไฟสาย San-in มาลงที่สถานี Yasugi ใช้เวลา 25 นาที เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังจุดหมายสำคัญ นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาดาจิ (Adachi Musuem of Art) ถ้ามาถึงชิมาเนะแล้ว จะไม่มาที่แห่งนี้ก็คงไม่ได้

DSC06960

ภายในสถานีมีการจัดแสดงการแสดงตลกโบราณของญี่ปุ่นให้ดูระหว่างรอรถชัทเทิลบัสมารับ

DSC06953

ตารางเวลาชัทเทิลบัสรับส่งระหว่างสถานี Yasugi – พิพิธภัณฑ์อาดาจิ (ใช้เวลา 20 นาที)

DSC06963

วิวระหว่างทาง ช่างเป็นบ้านเมืองที่สงบสุขเสียจริง

DSC06966

เมื่อเดินทางมาถึงแล้ว ให้จองเวลารถขากลับ โดยเลือกตั๋วที่ระบุเวลาที่ต้องการไว้ด้วย มิฉะนั้นที่นั่งอาจเต็มได้

DSC06969

พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาดาจิ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เมื่อเดินทางมาชิมาเนะหรือแม้แต่ในญี่ปุ่น เพราะสถานที่แห่งนี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นอันดับ 1 ของสวนแบบญี่ปุ่นถึง 14 ปีซ้อน นอกจากนี้มิชลินกรีนไกด์ และเดอะไกด์บลูจาปอง ได้ยกย่องสวนนี้ด้วยดาว 3 ดวง ที่ทำให้ได้รับความสนใจในวงกว้างจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

DSC06971

โรงน้ำชาจูริวอัน (Juryu-an Tea House) ที่สร้างขึ้นจากบ้านต้นแบบของ Katsura Imperial Villa เกียวโต

DSC06977

สามารถเข้าชมบ้านทรงญี่ปุ่นโบราณ ที่ใช้วัสดุธรรมชาติในการสร้างตกแต่ง

DSC06978

รายล้อมไปด้วยต้นเมเปิล ที่จะบับสีสันอันงดงามให้ได้ชมในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

DSC06982

DSC06986

พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาดาจิ ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2513 โดยนักธุรกิจท้องถิ่นคนหนึ่งนามว่า เซ็นโกะ อาดาจิ (Adachi Zenko) พิพิธภัณฑ์เก็บรักษาภาพวาดของญี่ปุ่นรวมถึงภาพวาดชิ้นเอกของโยโกยะมะ ไทคัง ผู้สร้างศิลปะญี่ปุ่นสมัยใหม่, ซากากิบะระ ชิโฮ, งานศิลปะจากเซรามิกโดยคิตาโอจิ โรซันจิ และศิลปินท้องถิ่นคาไว คังจิโร่ โดยรายการที่จัดแสดงจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละฤดูกาลสี่ครั้งต่อหนึ่งปี

พิพิธภัณฑ์ยังมีความภาคภูมิใจกับสวนแบบญี่ปุ่น ที่ถูกเลือกให้เป็นสวนที่ดีที่สุดในบรรดากว่า 800 แห่งจากสวนญี่ปุ่นทั่วประเทศโดยนิตยสาร “บันทึกของสวนญี่ปุ่น” (ซุกิยะลิฟวิ่ง) และพิพิธภัณฑ์ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นที่สุดแห่งสวนญี่ปุ่นถึง 14 ปีซ้อน

**ขอบคุณข้อมูลจาก Kanko-Shimane.com

DSC07002

พิพิธภัณฑ์ถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันแสนสวยงาม

DSC07010

จุดชมวิวสวนที่สำคัญที่สุดภายในพิพิธภัณฑ์จากหน้าต่างที่เรียกว่า “Living Framed Painting”

DSC07022

สังเกตความกลมกลืนกันอย่างลงตัวของสวนกับภูเขารอบๆ ที่เปลี่ยนหน้าตาของมันไปทุกฤดูกาล

DSC07024

White Gravel and Pine Garden ผลงานมาสเตอร์พีซของโยโกยะมะ ไทคัง (Yokoyama Taikan)
ความแตกต่างกันของกรวดสีขาว ที่ตัดกับสีเขียวของต้นสน ได้อย่างงดงาม

DSC07031

Living Hanging Scroll หน้าต่างที่สามารถชมวิวสวนได้สวยงามราวกับเป็นภาพแขวนที่มีชีวิต

DSC07038

ก่อนกลับปิดท้ายดื่มด่ำความเรียบง่ายที่แสนจะงดงามจนไม่อาจละสายตาได้ที่ คาเฟ่ไทคัง (Cafe Taikan)

DSC07046

DSC07053

สั่งเครื่องดื่มอย่างมัทฉะร้อน และมัทฉะเย็น มาจิบอย่างสบายอารมณ์

DSC07055

ที่อยู่320, Furukawa-cho, Yasugi-City, Shimane Prefecture
เวลาทำการเมษายน – กันยายน 9.00-17.30
ตุลาคม – มีนาคม 9.00-17.00
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ (ต่างชาติ) 1,150 เยน
เด็กม.ปลาย (ต่างชาติ) 900 เยน
เด็กม.ต้น (ต่างชาติ) 500 เยน
เด็กประถม (ต่างชาติ) 250 เยน
การเดินทางจากสถานี Yasugi โดยสารรถชัทเทิลบัส ใช้เวลา 20 นาที
เว็บไซต์Adachi Museum

ที่บริเวณด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์จะมีร้านค้าและร้านอาหาร แนะนำให้มาลองชิมเมนูดังประจำเมืองนี้

DSC07079

DSC07082

และที่นี่มีชาเขียวที่อร่อยไม่แพ้เมืองไหน ปิดท้ายด้วยของหวาน มัทฉะซอฟท์ครีม

DSC07090

ของฝากจากชิมะเนะ

DSC07097

ระหว่างเดินทางกลับไปยังสถานี Yasugi

DSC07104

และแล้วทริปเยือนชิมะเนะก็จบลงอย่างสวยงาม ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน เที่ยวแบบไม่รีบร้อน เก็บครบทุกสถานที่ไฮไลท์ ทำให้หลงรักจังหวัดนี้มากขึ้นไปอีกหลายเท่า ถ้าหากใครมีเวลาในญี่ปุ่นนานๆอยากให้ลองหาโอกาสแวะเวียนมาเยือนกัน ถึงแม้จะเดินทางไกลหน่อย แต่ไม่ได้ลำบากมาก และเมื่อมาถึงก็จะได้สัมผัสกับความเรียบง่ายในแบบของชาวญี่ปุ่น ที่มีเสน่ห์เหลือเกิน ชิมะเนะเป็นอีกหนึ่งเมือง ที่ทำให้เราอยากกลับไปเยือน “เมืองชนบทของญี่ปุ่น” อย่างไม่จบสิ้น