“ไปไคยูคังกันเถอะ” ดูจะเป็นคำพูดที่ติดปากมากกว่าคำว่าอควาเรี่ยมซะอีก จากตอนแรกที่ไม่รู้ว่าคืออะไร ได้ยินบ่อยจนอยากไป และ ในที่สุดก็ได้มาเยือนสักครั้ง พูดตรงนี้เลยครับว่า ถ้าเด็กตื่นตาได้ ผู้ใหญ่ก็ต้องตื่นเต้นได้ไม่แพ้กัน งานนี้ใครมากันเป็นครอบครัว มากันเป็นคู่ หรือกับแก๊งเพื่อน ชวนกันไปได้เลยครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน !
Kaiyūkan 海遊館 เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอควาเรี่ยมที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ตั้งอยู่บริเวณ Tempozan Harbor Village สามารถเดินทางมาได้จากสถานี Namba, Umeda และ Shin-Osaka โดยสถานีที่ต้องไปลงชื่อว่า Osaka-Ko 大阪港 ดูเส้นทางการเดินทางได้จากแผนที่รถไฟข้างล่าง (ขอบคุณภาพจาก kaiyukan.com)
ใครที่ไปแต่เช้า ยังไม่ได้ทานข้าวเช้ากัน ขอแนะนำร้านอาหารเบนโตะ ระหว่างทางเดินจากสถานี Osakako ไปยัง Tempozan นะครับ (เดินจากสะพานที่เชื่อมลงมาตรงถนนเส้นที่มุ่งหน้าไป Tempozan ร้านจะตั้งอยู่ฝั่งเดียวกัน ประมาณกลางๆระหว่างทางไป) ทำสดๆร้อนๆ ราคาถูก (แค่ 500 เยน คุณก็ซื้อได้แล้ว) และอร่อยมาก ซื้อมานั่งแวะกินตรงด้านหน้าทางเข้าก็ได้ครับ จะมีบริเวณคล้ายๆสวนอยู่ นั่งได้ชิลล์ๆ ด้านหน้าร้านไม่ได้ถ่ายมา แต่แชะภาพในร้านมาฝาก ว่าหน้าตาเป็นแบบนี้ ส่วนหน้าตาอาหารเบนโตะ ไม่พูดอะไรละกันครับ ดูภาพเลยดีกว่า ^^
เห็นชิงช้าสวรรค์ก็ถึงละครับ Tempozan
ดอกไม้สวยๆริมทาง
และ ที่เห็นไกลๆนั่นคือเป้าหมายของเราครับ
มาถึงแล้ววววววว “ไคยูคัง”
ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 2,300 เยน ส่วนเด็กราคา 1,200 เยน ส่วนบัตรส่วนลดค่าเข้าจะมีจำหน่ายเป็นแบบ Kaiyu Ticket คือรวมค่าเข้าชมและบัตรเดินทางรถไฟภายในโอซาก้า รวมถึงส่วนลดต่างๆในบริเวณ Tempozan (คลิก >>>ที่นี่<<< สำหรับโบรชัวร์) และถ้าใครใช้ Osaka Unlimited Pass เที่ยว จะมีคูปองส่วนลดค่าเข้าให้ 100 เยน เวลาเปิดปิดคือ 10 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่มครับ
วิธีการเดินชม จะเป็นการเดินจากชั้นบนลงมาเรื่อยๆ เดินวนผ่านแท๊งก์น้ำหลักตรงกลางใให้ได้สัมผัสชีวิตใต้น้ำที่จำลองมาจากมหาสมุทรแปซิฟิค ได้เห็นมุมที่แตกต่างของการดำเนินชีวิตของสัตว์น้ำในความลึกที่ต่างระดับกัน เริ่มต้นที่ Aqua Gate เป็นอุโมงค์ใต้ทะเลลึกที่มีปลาสีสันน่ารักๆโชว์ความงามให้เราชมกันที่จุดนี้ จากนั้นเป็นโซน Japan Forest ที่จัดแสดงถึงความเป็นอยู่ของสัตว์ที่พึ่งพาความชุ่มชื้นของป่าไม้และลำธารที่เชื่อมยาวไปถึงทางออกสู่ทะเล บริเวณนี้จะได้พบกับ ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ ปลาเทราท์ และพืชพันธุ์เปียกชื้นต่างๆ จุดต่อมา Aleutian Island เป็นโซนไฮไลท์ที่เราจะได้พบกับพระเอกนางเอกของงาน ก็คือ นากทะเล (Sea Otter) ออกมาหยอกล้อเล่นกับคนดูได้อย่างน่ารักน่าชัง ^^
ชมความน่ารักของนากทะเลแล้ว เดินต่อมาก็มาเจอความน่ารักของเจ้าแมวน้ำที่โซน Montery Bay ที่จัดแสดงการใช้ชีวิตของสัตว์น้ำตามแนวฝั่งของแคลิฟอร์เนีย ถัดมาเป็นโซน Ecuador Rain Forest จำลองมาจากแม่น้ำอเมซอน เราจะได้พบ ปลาพิรารูคู ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลิงกระรอกปากดำ และ อิน่ากัว เอ้ย อิกัวน่า ครับ
ใกล้ๆกัน เราจะได้เจอกับหนูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อว่า Capybara หลังจากนั้น โซนต่อไป อาจจะเป็นโซนที่ใครๆตั้งตารอคอย นั่นก็คือ Antarctica ที่มีเจ้าเพนกวิน รอเราอยู่นั่นเองครับ มีทั้งตัวที่กลิ้งๆ เดินเล่นฉวัดเฉวียนไปมา ตัวที่ยืนนิ่งรอให้น้ำเเข็งโรยตกลงมาใส่ สักพักก็ลงไปว่ายน้ำโชว์ แต่เท่าที่เห็นส่วนมากจะยืนนิ่งๆกันนะครับ แค่อยู่เฉยๆก็น่ารักแล้ว ^^
โซนต่อมาคือ Tasman Sea แถบนิวซีแลนด์ที่จะเป็นน้ำอุ่นเหมาะสำหรับปลาโลมา และ Great Barrier Reef ที่รวมปะการังและปลาสีสันสวยงาม อย่าง ปลาผีเสื้อ เป็นต้น ในขณะที่เรากำลังเดินชมอยู่เรื่อยๆนั้น ถ้าสังเกตุดูดีๆคือเราจะเดินวนรอบแท๊งก์ใหญ่ๆที่อยู่ตรงกลาง แท๊งก์นี้ใหญ่ที่สุดในอควาเรี่ยม มีความสูงถึง 9 เมตร จุน้ำ 5400 ลูกบาศก์เมตร เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของสถานที่แห่งนี้ จุดนี้นี่เองคือ Pacific Ocean ที่เป็นที่อยู่อาศัยของ ฉลามวาฬ และ ฝูงปลาบลูฟินทูน่าที่เวียนว่ายกันเป็นฝูง เป็นจุดที่น่าประทับใจมากๆเลยครับ
กระจกอะครีลิคที่กั้นเราอยู่ระหว่างสองโลกนั้นมีความหนาถึง 30 เซนติเมตรเลยละครับ
หลังจากนั้นเรามาถึงโซนสุดท้ายคือ Japan Deep จุดที่แสงอาทิตย์ลงมาไม่ถึง ลึกที่สุดและมืดที่สุด ที่ Giant Spider Crab อาศัยอยู่ และ Floating Jellyfish ที่จะได้เห็นความอัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตอย่างแมงกระพรุนหลากสไตล์กว่า 12 สายพันธุ์ ที่จัดแสดงคู่กับแสงไฟอย่างสวยงาม
หลังจากอิ่มเอมทั้งความรู้ ความสนุกสนาน ด้านในกันแล้ว ก็แวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านกันเป็นที่ระลึกได้ก่อนออกไปด้านนอกนะครับ
จบแล้วครับ สำหรับการพาเที่ยว “ไคยูคัง” คราวหน้าถ้าใครวางแผนไปโอซาก้า อย่าลืมจัดอควาเรี่ยมแห่งนี้เอาไว้ในแผนการเดินทางของคุณด้วยนะครับ ^^