หมู่เกาะโอกินะวะ หมู่เกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานของอาณาจักรริวกิว ก่อนที่จะถูกควบรวมให้เป็นหนึ่งเดียวกับประเทศญี่ปุ่น เกาะริวกิวในอดีตแห่งนี้จึงมีเอกลักษณ์ที่เป็นอัตลักษณ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นประเพณี วัฒนธรรม การแต่งกายหรือแม้แต่อาหารการกินที่มีความเฉพาะตัวแตกต่างจากญี่ปุ่นบนแผ่นดินใหญ่

เนื่องด้วยเกาะโอกินะวะนั้น ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมาย ทำให้ที่นี่ยังคงมีสถานที่ซ่อนตัวอยู่และรอให้ไปสัมผัสกับความสวยงามงามของเกาะฮาวายสไตล์ญี่ปุ่น โดยวันนี้เกาะแรกที่เราจะพาไปสัมผัสเสน่ห์ที่ว่านี้ก็คือ เกาะมิยะโกะ (Miyako Island) ซึ่งเกาะนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้ ห่างจากเกาะหลักไปประมาณ 300 กิโลเมตร โดยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของเกาะทั้งหมดในแถบหมู่เกาะโอกินะวะ ด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม ชายหาดสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าสดใส อีกทั้งคลื่นลมสงบ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาดำน้ำดูปะการังกันอย่างมากมาย

เราเดินทางด้วยเครื่องบินจาก อาคารเที่ยวบินภายในประเทศนาฮะ (Naha Domestic Terminal)

DSC05148

ภายใน Domestic Terminal จะมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย เนื่องจากเที่ยวบินภายในประเทศนั้นจะมีผู้ใช้บริการค่อนข้างมากกว่า

DSC05151

เช็คอินกันที่เค้าท์เตอร์ของสายการบิน Japan Airlines

DSC05150

ออกเดินทางโดยสารการบิน Japan TransOcean Air ซึ่งจะเป็นสายการบินที่ทำการบินกันเฉพาะในเขตของหมู่เกาะโอกินะวะเท่านั้น เป็นสายการบินในเครือของสายการบิน Japan Airline

DSC05154

ได้เวลาออกเดินทางกันแล้วครับ ลายเครื่องบินวันนี้เป็นรูปภาพของเจ้าฉลามวาฬในชูระอุมิ อะควาเรียม ด้วย

DSC05155

ภายในเครื่องบินแบ่งเป็น 3-3 เบาะกว้างที่นั่งสบาย และมีให้บริการที่นั่งแบบ J Class ด้วย

DSC05164

ใช้เวลาเดินทางเพียง 50 นาที ก็จะมาถึงหมู่เกาะมิยะโกะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

DSC05165

สำหรับการเดินทางในเมืองนี้นั้น ต้องใช้บริการเช่ารถขับหรือแท็กซี่ท้องถิ่นเท่านั้น เนื่องจากภายในเกาะไม่มีรถสาธารณะไว้คอยให้บริการ จุดแรกที่เราแวะท่องเที่ยวคือ ศาลเจ้ามิยาโกะ (Miyako Jinja) ศาลเจ้าชินโตแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.. 1590 เป็นศาลเจ้าที่ชาวเกาะมิยาโกะให้ความเคารพอย่างมาก สร้างขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อ Kumamo Mikami และ Toimiya Mikami ผู้นำของเกาะมิยาโกะในสมัยโบราณ

DSC05324

จากนั้นเดินทางไปที่ SHIGIRA Lift Ocean Sky จุดชมวิวชื่อดังที่ตั้งอยู่ภายในรีสอร์ทสำหรับเหล่าบรรดานักเล่นกอล์ฟ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปชมสีสันของท้องฟ้าและท้องทะเลของเกาะมิยะโกะได้ที่ด้านบนของจุดชมวิว

DSC05173

วิวด้านบนคุ้มค่ากับการนั่งกระเช้าขึ้นมามากๆ

DSC05183

แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารท้องถิ่นอย่าง Kitchen Miholin ร้านอาหารที่มีเมนูชื่อดังเหมาะสำหรับหน้าร้อนของภูมิภาคนี้คือ Miyako Soba ซึ่งนิยมทานกันแบบเย็นเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายรับประทานคู่กับกุ้งทอด

DSC05187

มิยาโกะ โซบะ (Miyako Soba)

DSC05190

อีกหนึ่งร้านอาหารกลางวันชื่อดังสไตล์ตะวันตกของเกาะมิยาโกะมีชื่อว่าร้าน Doug’s Burger ที่นี่เป็นร้านเบอร์เกอร์แสนอร่อย

DSC05443

โดยจะมีเมนูให้ลูกค้าสั่งเป็นขั้นตอนอย่างละเอียด เช่น ขั้นตอนที่ 1 เลือกสลัดทานที่จะทานคู่กับเบอร์เกอร์ จากนั้นเลือกเมนูเบอร์เกอร์ตามชอบ จากนั้นทำการเลือกชีสว่าต้องการทำเป็นลาวาหรือไม่ แล้วจึงเลือกเมนูข้างเคียงอาทิ หอมทอด ตบท้ายด้วยทำการเลือกเครื่องดื่มเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการสั่

DSC05433

โดยเมนูแนะนำของที่นี่คือ Doug’s Tuna Steak Burger เบอร์เกอร์สเต็กปลาทูน่าชิ้นใหญ่ สนนราคา 1,200 เยน

DSC05439

บรรยากาศภายในร้าน

DSC05436

เดินทางไปยังอีกหนึ่งจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปที่ Ueno German Cultural Village ตกแต่งในสไตล์ปราสาท Marksburg ในประเทศเยอรมนี ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างนักเดินเรือชาวเยอรมันและชาวเกาะมิยะโกะ อีกทั้งยังเป็นที่เก็บรักษาชิ้นส่วนของซากกำแพงเบอร์ลินที่ถูกทำลายลงจากการรวมชาติเยอรมนี โดยในบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรม ร้านอาหารและร้านค้าอีกด้วย

DSC05197

ไม่ไกลกันเป็นชายหาดทอดตัวยาวสวยงาม น้ำใสและคลื่นที่สงบเงียบนักท่องเที่ยวจึงมานิยมทำกิจกรรมกลางแจ้งมากมายไม่ว่าจะเป็นการฝึกพายเรือบนกระดานเซิร์ฟบอร์ด

DSC05201

DSC05205

เดินทางไปกันต่อที่ Miyakojima City Botanical Garden ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน Miyako เพียง 10 นาที ที่สวนแห่งนี้มีความกว้างถึง 120,000 ตารางเมตรประกอบไปด้วยพืชพันธุ์ธรรมชาติกว่า 1,600 สายพันธุ์และต้นไม้กว่า 40,000 ต้น ที่นี่จึงเป็นที่อาศัยของนกป่าเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นที่สวนแห่งนี้ยังจัดคอร์สเทร์ลเดินป่าให้กับผู้ที่สนใจเดินชมธรรมชาติ

DSC05253

นักท่องเที่ยวยังสามารถทดลองประดิษฐ์งานฝีมือทำผ้ามัดย้อมได้ที่่ Indigo Dyeing Studio ในบริเวณโซนที่ 3 ของสวนพฤกษศาสตร์ Miyakojima อีกด้วย

DSC05259

สวนพฤกษศาสตร์ Miyakojima City Botanical Garden
เวลาทำการ : 08.30 – 18.00 .
ปิดทำการ : เปิดให้บริการทั้งปี
ค่าใช้จ่าย : ฟรี
เว็บไซต์ Shokubutsuen


ปิดท้ายวัน ก่อนเดินทางเข้าที่พัก แวะที่จุดชมวิวริมชายฝั่งทะเลที่แหลม Agari Hennazaki ที่นี่ถือเป็น 1 ใน 100 ของจุดชมวิวที่สวยที่สุดนประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกาะมิยาโกะ

agari hennazaki

เมื่อขึ้นไปบนจุดชมวิวจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพเบื้องหน้าของน้ำทะเลและท้องฟ้าตัดกันกับประภาคารสีขาวที่สวยงามได้รอบ 360 องศา นอกจากความสวยของทัศนียภาพแล้วนั้นในช่วงหน้าร้อนประมาณเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน “ดอกลิลลี่ตะวันออก” (Easter Lily) จะพร้อมใจกันออกดอกบานสะพรั่งสวยงามไปทั่วทั้งบริเวณแหลม Agari Hennazaki อีกด้วย

agari lifehouse

ก่อนเดินทางกลับไปยังโรงแรมที่พัก แวะรับประทานอาหารเย็นกันที่ร้าน Goku ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของชายหาด Painagama Beach เป็นร้านอาหารซีฟู้ดในสไตล์ชาวเกาะมิยาโกะ (Seafood Local Style)

goku 2

goku 1

เสริฟอาหารพื้นเมืองชื่อดังอย่างสลัดซีฟู้ดพวงองุ่น มันม่วงทอด และไฮไลท์ที่อาจจะไม่เคยเห็นที่ไหนคือการนำซูชิข้าวปั้นหน้าต่างๆไปชุบแป้งแล้วทอดกรอบ ปิดท้ายด้วยพิซซ่าซีฟู้ดสุดอร่อย

goku3

อีกหนึ่งร้านอาหารเย็นบนเกาะมิยาโกะที่อยากจะแนะนำมีชื่อใกล้เคียงกัน มีชื่อว่าร้าน Goya

goya 1

ความพิเศษของที่นี่คือระหว่างทานอาหารจะมีการแสดงพื้นบ้าน Folk Music ขับกล่อมเพื่อเพิ่มอรรถรสระหว่างการรับประทานอาหาร

goya 3

goya 2

ตะลุยท่องเที่ยวกันมาทั้งวันตั้งแต่เช้า คืนนี้เราเข้าพักกันที่โรงแรม Hotel Atoll Emerald รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินมิยาโกะ ตัวรีสอร์ทติดกับชายหาดและแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ห้องพักสะดวกสบายให้เลือกเข้าพักทั้งห้องแบบตะวันตกและสไตล์ญี่ปุ่น ราคาห้องพักคู่ เริ่มต้นที่ 10,700 เยน >> จองที่นี่

ตัวห้องพักสามารถชมทัศนียภาพของชายทะเล พร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่และร้านขายของที่ระลึกบริเวณที่ชั้น 3 ของโรงแรม เพียบพร้อมด้วยร้านอาหารหลากสไตล์ทั้งห้องอาหารแบบตะวันตก ญี่ปุ่นหรือจะย่างบาร์บีคิวที่ริมสระน้ำไว้คอยให้บริการอีกด้วย

hotel Atoll 1

ลากันไปด้วยภาพสวยๆยามพระอาทิตย์ตกจากระเบียงของห้องพักในโรงแรม

DSC05296