Kawagoe 川越 เมืองเก่าที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเกียวโตน้อย หรือ Koedo 小江戸 ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ ห่างจากกรุงโตเกียวเพียง 30 นาที เมืองคาวาโกเอะมีเสน่ห์แบบโบราณที่ยังคงสภาพให้เราได้เห็นจนถึงทุกวันนี้ อดีตหัวเมืองสำคัญในสมัยเอะโดะ ที่พร้อมจะพาเราย้อนยุคสู่สมัยเอะโดะด้วยอาคารบ้านเรือนแบบดั้งเดิมพร้อมแสดงให้เห็นถึงวิถีการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นในสมัยที่ข้าวเป็นสมบัติอันล้ำค่าของชาวญี่ปุ่น

kawagoe1

kawagoe2

วิธีการเดินทาง ที่เร็วและถูกที่สุดคือ เดินทางด้วยสาย Tobu Tojo จากสถานี Ikebukuro ใช้เวลา 31 นาที ขบวน Express ราคา 450 เยน ถ้าเดินทางมาจาก Shinjuku สามารถทำได้ 2 วิธีคือ สาย Seibu Shinjuku (ขบวน Limited Express, 43 นาที ราคา 890 เยน) หรือ สาย JR Kawagoe  (ขบวนธรรมดา 60 นาที ราคา 570 เยน)

accessmap

เมืองคาวาโกเอะมีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆให้ชมหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นถนนการค้าในสมัยโบราณรวมไปถึงหอระฆังประจำเมืองและศาลเจ้าเก่าๆอีกมากมาย เราสามารถเดินเที่ยวทั่วทั้งเมืองได้ หรือจะใช้บริการรถ Koedo Loop Bus (ตั๋ววัน 300 เยน) ก็จะช่วยประหยัดเวลในการเดินเท้าได้มากขึ้นพอสมควร ดาวโหลดตารางเวลารถ Loop Bus ได้ >>>ที่นี่<<<

kawagoe loop

ด้านหน้าสถานี Kawagoe จะมีถนนร้านค้า Crea Mall クレアモール ถ้าใครเลือกที่จะเดินเที่ยวเมืองก็สามารถเดินตามทางนี้ไปจนสุดก็จะออกไปโผล่ย่านการค้าสมัยโบราณพอดี

kawagoe3

ระหว่างทางมีร้านขายอาหารทะเล เค้าว่าข้าวหน้าทะเลของเค้าสดและอร่อยมาก จนต้องเดินเข้าไปลอง ถ้าดูจากรูปด้านบนจะเห็นป้ายร้านสีขาวใหญ่ๆซ้ายมือ ให้เดินเข้าไปสั่งได้เลย มีเมนูภาพให้ดู

kawagoe4

ชามนี้ราคา 799 เยนเท่านั้น อร่อยเกินราคามากๆ

kawagoe5

แวะร้านขายของฝาก มีหน้ากากญี่ปุ่นน่ารักๆ

kawagoe6

คิตตี้ประจำเมืองคาวาโกเอะก็มี

kawagoe7

และเเล้วเราก็เดินทางมาถึงโซนย่านการค้าโบราณ

kawagoe8

มีมินนี่กะพลูโตรอต้อนรับอยู่ (จริงๆไม่เกี่ยวอะไรกัน^^)

kawagoe9

Kurazukuri Street 蔵造りの町並み ในสมัยเอโดะ บ้านเมืองของคนญี่ปุ่นสมัยนั้นสร้างด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่และบ่อยครั้งที่ถูกไฟไหม้ทำลาย ด้วยความที่กลัวว่าจะเกิดอัคคีภัยเผาผลาญทรัพย์สมบัติของมีค่าจนหมดสิ้นจึงได้มีการคิดค้นวิธีการใหม่สร้างเป็นโกดังขึ้นมา โกดังที่ว่านี้ เรียกว่า Kura-zukuri 蔵造り สร้างขึ้นเพื่อเก็บของมีค่าอย่างมากในสมัยนั้น นั่นคือ “ข้าว”  แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมีโกดังได้ เพราะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการก่อสร้างจึงมีเพียงเฉพาะพ่อค้าที่ร่ำรวยจากการค้าข้าวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ ดังนั้นในสมัยเอโดะ เมืองคาวาโกเอะจึงเป็นเมืองการค้าที่มีความสำคัญมาก เพราะจะต้องจัดส่งลำเลียงข้าวรวมถึงวัตถุดิบอื่นๆให้กับเมืองหลวงอย่างเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน)  และด้วยเหตุนี้เองทำให้พ่อค้าจากเมืองนี้ร่ำรวยมหาศาลจนสามารถสร้างโกดังเป็นของตัวเองได้ ในอดีตมีโกดังกว่า 200 หลังแต่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงไม่กี่สิบหลังเท่านั้น

kawagoe10

ปัจจุบัน โกดังแต่ละหลังกลายสภาพเป็นร้านค้าที่ขายขนมญี่ปุ่นโบราณ รวมไปถึงของใช้ที่ทำมืออย่างประณีตโดยฝีมือของคนญี่ปุ่นแท้ๆ

kawagoe11

ร้านทำผม ยังคงความเป็นเรโทรไว้อยู่

kawagoe12

สัญลักษณ์ของเมืองคาวาโกเอะ หอระฆัง ‘Bell of Time’

kawagoe15

 

หอระฆัง Bell of Time หรือเียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า Toki no kane 時の鐘 เป็นหอระฆังที่สร้างขึ้นตามคำสั่งของ Sakai Tadakatsu ระหว่างปี 1624 และ 1644 โครงสร้างปัจจุบันนั้นสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อปี 1894 หนึ่งปีให้หลังจากเหตุการ์ณไฟไหม้ครั้งใหญ่ของคาวาโกเอะ เป็นอาคารสามชั้นสูง 16 เมตร หอระฆังนี้ทำหน้าที่บอกเวลามายาวนานกว่า 350 ปี และเป็นสัญลักษณ์ของเมือง จะสามารถได้ยินเสียงระฆังสี่ครั้งต่อวัน (เวลา 06:00, 12:00, 15:00, และ 18:00)

kawagoe16

บรรยากาศของถนน Kurazukuri ที่เต็มไปด้วยร้านค้าทั้งสองข้างทาง และสามารถเดินเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ Karazukuri ชมวิถีการค้าของพ่อค้าในสมัยก่อนที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ได้อีกด้วย

kawagoe17

kawagoe18

kawagoe20

ตรอกขนมโบราณ Kashiya Yokocho 果子屋横丁 เป็นซอยเล็ก ๆ ที่มีร้านค้าขายขนมโหลราคาถูกแบบโบราณและอาหารว่างซึ่งส่วนใหญ่จะมีราคาประมาณ 50 ¥ ส่วนใหญ่ก็เป็นบ้านของชาวบ้านในย่านนั้นที่เปิดเป็นร้านขนมกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของช่วงเวลาสมัยโชวะ

kawagoe21

kawagoe22

สำหรับใครที่ชื่นชอบงานเทศกาล ที่เมืองคาวาโกเอะแห่งนี้จะมีงานเทศกาลประจำปีคือ Kawagoe Festival ที่จะจัดขึ้นทุกปี ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่สามของเดือนตุลาคม สถานที่จัดงานแห่คือ ศาลเจ้า Hikawa

kawagoe festival 2

kawagoe festival 1