เที่ยวญี่ปุ่น ดอทคอม | Saitama: เที่ยวเมืองเก่า Chichibu ตอน 2 ใส่ยูกะตะ ขอพรที่ศาลเจ้าชิชิบุ แวะเก็บสตรอเบอร์รี่

มาถึงตอนที่สองพาเที่ยวเมืองชิชิบุ (Chichibu) จังหวัดไซตามะ (Saitama) หลังจากที่ตอนแรกพาไปชมทุ่งดอกป๊อปปี้ ล่องเรือนะกะโทโระ และ ขอพรเรื่องความร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมา ที่ศาลเจ้าฮิจิริ กันมาแล้ว

อ่านรีวิวตอนแรกได้ที่นี่ >> Saitama: เที่ยวเมืองเก่า Chichibu ตอน 1 ชมทุ่งดอกป๊อปปี้ ขอพรเรื่องเงินทอง ล่องเรือนะกะโทโระ

เช้าวันถัดมา เรากลับเข้ามาเดินเล่นในตัวเมืองชิชิบุ ซึ่งความพิเศษของวันนี้คือ เราจะใส่ชุดยูกะตะเดินเที่ยวกัน สามารถเช่าชุดได้ที่ พิพิธภัณฑ์ชิชิบุเมเซ็น (Chichibu Meisenkan) โดยคอนเซ็ปต์คือ แต่งชุดตามรอยอนิเมะชื่อดังเรื่อง Anohana ที่มีเมืองชิชิบุเป็นโลเคชั่นหลักในการดำเนินเรื่อง หรือจะเลือกแต่งตามใจชอบก็ได้เช่นกัน

ร้านเช่าชุด Potepote Meisen

เวลาทำการ: 9.00-16.00 น. (ไม่มีวันหยุด ยกเว้นช่วงปีใหม่)
ค่าเช่าชุด: 3,000 เยน (ใส่ได้ตลอดวัน คืนชุดไม่เกิน 15.30 น.)
เว็บไซต์: Potepote Meisen
การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Seibu-Chichibu เดิน 5 นาที

สิ่งที่รวมอยู่ชุด: เสื้อตัวบน, ผ้าฮากามะ, ชุดซับใน, ถุงเท้าทาบิ, รองเท้าเกตะ
วิธีเช่า: จำเป็นต้องจองล่วงหน้าที่ แบบฟอร์มในเว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
หรือ จองทางอีเมลด้วยภาษาอังกฤษที่ orimono@ceres.ocn.ne.jp

ถนนบังบะ (Banba street) ถนนสายที่เดินมุ่งหน้าไปศาลเจ้าประจำเมือง มีร้านค้าเก่าแก่มากมายตั้งอยู่ รวมถึงคาเฟ่น่ารักๆ

ศาลเจ้าชิชิบุ (Chichibu Shrine) มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,100 ปี และ วิหารหลักของศาลเจ้ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากท่านโชกุนโทกุกะวะ อิเอยาสุ เป็นผู้บริจาคเงินสร้างด้วยตนเอง มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และคล้ายคลึงกับศาลเจ้าโทโฮขุที่เมืองนิกโก

รอบศาลเจ้าจะมีภาพแกะสลักไม้เป็นลวดลายต่างๆที่มีสีสัน อาทิ แม่เสือดาวและลูกทั้งสาม มังกร และ ลูกลิง 3 ตัว ที่ชื่อว่า โอเก็งคิซันซะรุ โดยจุดสังเกตุคือ ลิงที่ศาลเจ้าชิชิบุนี้ จะเปิดหู ตา ปาก (สื่อถึงการ ดูให้ดี ฟังให้ดี พูดให้ดี) ซึ่งจะตรงข้ามกับศาลเจ้าโทโชกุ ที่ลิงทั้ง 3 ตัวนี้จะปิดอวัยวะทุกส่วนแทน (สื่อถึงการปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย)

ถ่ายกับท่านรองเจ้าอาวาส ผู้ดูแลระดับสูง ลำดับที่ 2 ของศาลเจ้าชิชิบุ

ศาลเจ้าชิชิบุ (Chichibu Shrine)

เวลาทำการ: 6.00-20.00 น. ทุกวัน (ฤดูร้อน เปิด 5.00 น.)
ค่าเข้าชม: ไม่มี
เว็บไซต์: Chichibu-jinja
การเดินทาง: จากสถานี Chichibu เดินประมาณ 5 นาที

ทริปนี้มีตัวช่วยอย่าง Tripizee pocket Wi-Fi ในการอัพโหลดภาพแบบไม่สะดุด สัญญาณแรงดีตลอดทริป แบตอึดทนนาน เปิดไว้ทั้งวันได้เลย ใครสนใจอยากเช่า วันละ 100 บาท เท่านั้น จองออนไลน์ได้ที่ >> TRIPIZEE Pocket Wi-Fi

และใกล้กันกับศาลเจ้า เป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์เทศกาลชิชิบุ (Chichibu Festival Center) ที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับงานเทศกาลชิชิบุ 1 ใน 3 งานเทศกาลยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น เทียบเท่ากับ เทศกาลกิอง (Gion Festival) ที่เมืองเกียวโตและ เทศกาลทะคะยะมะ (Takayama Festival) ที่เมืองทะคะยะมะ โดยส่วนจัดงานหลักจะฉาย Projection จำลองบรรยากาศงาน และมีโรงหนัง 3D ให้ได้ชมอย่างสมจริง

พิพิธภัณฑ์เทศกาลชิชิบุ (Chichibu Festival Center)

เวลาทำการ: 9.00-17.00 น. (เดือนธันวาคม-มีนาคม เปิด 10.00 น.)
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 410 เยน เด็ก 200 เยน
เว็บไซต์: Chichibu-Matsuri
การเดินทาง: จากสถานี Chichibu เดินประมาณ 5 นาที

ระหว่างเดินเที่ยวอยู่ อย่าลืมแวะมองฝาท่อของเมืองนี้ ที่มีตัวเอกเป็นมาสคอตสุดน่ารักอย่าง โปเตะคุมะคุง (Potekumakun) มีหลายท่าให้แชะถ่ายรูปคู่กันทั่วเมืองเลย

และที่ชั้นล่างของสถานี จะเป็นที่ตั้งของ ศูนย์จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองชิชิบุ (Chichibu Local Products Center) มีทั้งผลิตภัณฑ์ของสด ทั้งผักและผลไม้ ผลิตภัณฑ์แปรรูป งานฝีมือ รวมไปถึงของที่ระลึกต่างๆ ที่สามารถขอยกเว้นภาษีได้อีกด้วย

ศูนย์จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองชิชิบุ (Chichibu Local Products Center)

เวลาทำการ: 9.30-17.30 น. ทุกวัน
เว็บไซต์: Jiba

ชิมอาหารขึ้นชื่อของเมือง นั่นคือ วะระจิคัตสุด้ง (Waraji Katsudon) ที่ ร้านอาหารซะโบ ชุนกะชูโต (Sabo Restaurant Shunka-shuto) ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของสถานี Chichibu ของ Chichibu Railways โดยจุดเด่นของเมนี้นี้คือ จะใช้เนื้อหมู/ไก่ ขนาดใหญ่ชิ้นเดียวไปชุบแป้งทอด ให้ออกมามีลักษณะคล้ายกับรองเท้าฟาง หรือวะระจิ ที่เป็นชื่อเรียกของเมนูจานนี้

ร้านอาหารซะโบ ชุนกะชูโต (Sabo Restaurant Shunka-shuto)

เวลาทำการ: 11.00-17.00 น. ทุกวัน
ราคา: ชุดวะระจิคัตสุด้ง 950 เยน
เว็บไซต์: Shunka-shuto

ไปปิดท้ายเก็บสตรอเบอร์รี่สดๆทานกันที่ ฟาร์มโคะมัตสุซะวะ (Komatsuzawa Leisure Farm) โดยเราสามารถมาเก็บสตรอเบอร์รี่ทานกันได้แบบไม่อั้น ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนมิถุนายน โดยจะมีสรอเบอร์รี่สายพันธุ์หลักอยู่ 2 ชนิดคือ ยะโยะอิฮิเมะ (Yayoihime) และ เบนิฮปเปะ (Benihoppe) ซึ่งทางฟาร์มจะมีรถบัสรับส่งจากสถานี Yokose อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว

ฟาร์มโคะมัตสุซะวะ (Komatsuzawa Leisure Farm)

เวลาทำการ: สำหรับเก็บผลไม้ 10.00-16.00 น. ต้องเช็ควันทำการจากเว็บไซต์ในแต่ละเดือน
ค่าใช้จ่าย: เก็บสตรอเบอร์รี่ 1,200-1,700 เยน แล้วแต่เดือน
เว็บไซต์: http://www.komatsuzawa.co.jp
การเดินทาง: จากสถานี Yokose มีรถบัสรับส่งเวลา 12.50 / 13.50 / 14.50 / 15.50

Matsuri no yu จำหน่ายของฝาก ของที่ระลึก และมีให้บริการแช่ออนเซ็นด้านในอีกด้วย

ซอฟครีมรสนมเต้าหู ของอร่อยประจำเมืองชิชิบุ

และพบกับบริการพิเศษ แพกเกจท่องเที่ยวเมืองชิชิบุ ด้วยรถแท๊กซี่ ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยโดยเฉพาะ
สำรองล่วงหน้าได้ทางอีเมลเป็นภาษาอังกฤษที่ >> reserve@chichibu-omotenashi.com

แนะนำที่พักในเมืองชิชิบุ

โรงแรมมิยะมะ (Hotel Miyama) เป็นที่แน่นอนว่าโรงแรมนี้จะมีบ่อแช่น้ำร้อนกลางแจ้ง แต่มีความพิเศษคือ เราจะได้ดื่มด่ำกับเสียงขับร้องของธรรมชาติอันไพเราะ อากาศอันบริสุทธิ์ เสียงนกร้อง ที่ช่วงสร้างบรรยากาศให้กับการเข้าพักนั้นสุนทรีย์ยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาค้างคืน สามารถเข้าไปใช้บริการแช่บ่อน้ำร้อนอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน

>> จองที่นี่ <<

ห้องที่ได้เข้าพักในครั้งนี้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นกึ่งโมเดิร์นที่เพิ่งได้รับการรีโนเวทใหม่

บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง

มีบริการมื้ออาหารเย็นเป็นชุดไคเซกิ

มีห้องพักที่มีออนเซ็นส่วนตัว

ค่าบริการ: แช่บ่อออนเซ็นแบบไม่ค้างแรม ผู้ใหญ่ 900 เยน เด็ก 500 เยน
ค่าห้องพัก: ห้องสไตล์ญี่ปุ่น เริ่มต้น 13,600 เยน สำหรับ 2 คน
เว็บไซต์: Miyama-onsen
การเดินทาง: จากสถานี Seibu-Chichibu มีรถชัตเติลบัสรับส่งฟรี เวลา 15.00 และ 16.00 น. ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

เครดิตภาพจาก Facebook Hotel Miyama

โรงแรมเนเชอรัลฟาร์มซิตี้โนเอ็ง (Natural Farm City Noen Hotel)