ทริปนี้ทีมงานเดินทางมาเจาะลึกที่ กิ่งจังหวัดโซราจิ (Sorachi sub-prefecture) บนเกาะฮอกไกโดกัน สำหรับคนที่เก็บเมืองหลักในฮอกไกโดหมดแล้ว กำลังมองหาต่างเมืองที่ไปง่ายจากซัปโปโร ขอแนะนำโซนนี้เลย รับรองว่ามีสถานที่เที่ยวแปลกใหม่แล้วยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆ กิจกรรมให้ลองทำ รวมถึงของอร่อยท้องถิ่นมากมาย
ทริปนี้จะใช้เวลา 4 วัน เก็บรายละเอียดทั้งหมด 6 เมือง คือ เมืองฟุคุกะวะ (Fukugawa) เมืองสุนะกะวะ (Sunagawa) เมืองอิวะมิซะวะ (Iwamizawa) เมืองบิไบ (Bibai) เมืองยูบะริ (Yubari) และ เมืองนะกะนุมะ (Naganuma) สำหรับเส้นทางการเดินทางตลอด 4 วันของทริปนี้ ลองดูจากแผนที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
เพื่อความเข้าใจง่าย คลิกที่แต่ละชื่อเมืองด้านล่างนี้เลย
เมืองฟุคะกะวะ (Fukugawa)
บินลงสนามบินนิวชิโตเซะ ก็พร้อยลุยเมืองแรกกันเลยที่ เมืองฟุคะกะวะ (Fukagawa) เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อ แต่ถ้าบอกว่าเมืองนี้ตั้งอยู่ใกล้กับ เมืองอะซะฮิคะวะ ที่เราเดินทางไปสวนสัตว์ดูเพนกวินกัน ห่างแค่สถานีรถไฟสถานีเดียวเท่านั้น
การเดินทาง: จริงๆสะดวกทั้งรถไฟและรถเช่า กรณีเดินทางด้วยรถไฟ JR ให้ตั้งต้นจากสถานี Sapporo ขึ้นรถไฟด่วนลงสถานี Fukagawa (1 สถานีก่อนสถานี Asahikawa) ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเท่านั้น
เมื่อมาถึงสถานีแล้ว ให้แวะที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว ปรึกษาเส้นทาง และขอแผนที่พร้อมคำแนะนำเดินเที่ยวในเมืองได้ และอย่าลืมบอกว่า มาที่นี่เพราะอ่านรีวิวของเที่ยวญี่ปุ่นดอทคอม (หรือแสดงรีวิวนี้ให้จนท.ดู) จะได้รับ Potato chips ไร้สารปรุงแต่ง สูตรเฉพาะของเมืองนี้ เป็นของขวัญครับ
เที่ยวเมืองฟุคะกะวะใน 1 วัน ทำอะไรได้บ้าง ตามไปชมกันเลย
ศาลเจ้าฟุคุโทมิ (Fukutomi Shrine) เสาโทริอิแดงของศาลเจ้า ตัดกับหิมะขาวโพลน ที่ปกคลุมทั่วทั้งสวนสาธารณะฮกคนมิโฮโระ (Hokkon Mihoro Park) ด้านหน้าสถานี JR Fukagawa เป็นมุมถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด
โทโทโระพาส (Totoro Pass) หากใครชื่นชอบเรื่องโทโทโระ จะต้องรู้จักเนโกะบัส นี่เป็นอีกจุดที่แฟนๆต่างต้องมาถ่ายรูปด้วยสักครั้ง ถึงแม้ในฤดูหนาวจะไม่สามารถเข้าไปด้านในรถบัสแมวได้ แต่แค่ได้มาถึง ถ่ายรูปจากด้านหน้า ที่เต็มไปด้วยหิมะ ก็ถือว่าฟินมากแล้ว (จุดนี้ต้องขับรถหรือขึ้นแท็กซี่มาครับ)
กิจกรรม SnowShoeing เดินป่าตะลุยหิมะด้วยรองเท้าสโนว์ชู ก็สามารถทำที่นี่ได้เช่นกัน มีไกด์ที่เป็นนักล่าสัตว์อย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นคนนำทางและคอยอธิบายให้ความรู้ตลอดทาง
ฟุจิยะ (Fujiya) ร้านอาหารดังประจำเมือง ที่เสิร์ฟเมนูดังประจำเมืองอย่าง Fukagawa sobameshi ที่ใช้ส่วนผสมของเมล็ดโซบะทุกเมนู ในเมืองมีประมาณ 4 ร้านที่จำหน่ายเมนูนี้ ร้านนี้สามารถเดินมาได้จากสถานีเลยครับ
La Campagne Hotel Fukagawa หากใครอยากจะพักค้างคืนที่เมืองนี้ แนะนำโรงแรมนี้เลย ราคาไม่แพง แถมเดินจากสถานีได้เพียง 5 นาที ที่สำคัญมื้อเช้าอร่อยมากๆ เพราะใข้ข้าวคุณภาพดีจากเมืองฟุคะกะวะ และมิโซะซุปที่เต็มไปด้วยผักปลอดสารพิษจากท้องถิ่น
สำหรับปี 2020 นี้อุณหภูมิช่วงเดือนมกราคมอยู่ที่ -3 ถึง -15 มีหิมะตกทุกวัน แต่ถ้าเทียบกับปีก่อนๆ ทางจนท.เมืองบอกว่า อบอุ่นกว่าค่าเฉลี่ยพอสมควร และปริมาณหิมะก็น้อยตามด้วยครับ
เมืองสุนะกะวะ (Sunagawa)
Cafe Pinocchio ร้านคาเฟ่พิน็อคคิโอเด่นเรื่องเมนูจากมะเขือเทศ ที่ปลูกเองโดยเจ้าของร้าน สปาเกตตี้ซอสมะเขือเทศ และน้ำมะเขือเทศออร์แกนิค 100% ไม่ควรพลาด บ้านไม้ที่เจ้าของสร้างเองกับมือ ใช้เวลากว่า 10 ปี เข้าไปแล้วรู้สึกถึงความตั้งใจและความอบอุ่นได้เลย
- เวลาทำการช่วงฤดูหนาว: 11.00-15.00 น. (Last order 14.30 น.)
- วันหยุดช่วงฤดูหนาว: ทุกวันจันทร์-อังคาร
- เว็บไซต์
บรรยากาศในร้าน สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น
เมนูดังต้องลองที่ใช้มะเขือ
Honda ถ้าพูดถึงร้านขนมหวานขวัญใจของชาวเมืองสุนะกะวะต้องยกให้ร้านฮอนดะ ที่เด่นดังตรงขนมพายแอปเปิ้ล แป้งที่กรอบนอกนุ่มใน เข้ากับชิ้นเนื้อแอปเปิ้ลที่ไม่หวานเกินไป ทานแบบอบเสร็จใหม่ๆที่ร้าน คือฟิน
- เวลาทำการ: 9.00-19.00 น.
- เว็บไซต์
พายแอปเปิ้ล ที่ไม่ธรรมดา ทานตอนอบเสร็จใหม่ๆ หอม อร่อย สัมผัสนุ่มนวลมาก
Pontabaile อีกผลิตภัณฑ์ขายดี ที่ใช้ข้าวโพดมาทำเป็นขนมคบ
**เมื่อซื้อสินค้าครบ 2,000 เยน จะได้รับของขวัญพิเศษจากทางร้านด้วย**
เมืองอิวะมิซะวะ (Iwamizawa)
ก่อนที่จะเข้าไปถึงที่พักที่รอคอยของเราในค่ำคืนนี้ ขอแวะลองทำงานฝีมือสักหน่อยที่ Kobushi Ceramic Studio ที่นี่เป็นสตูดิโอเครื่องเซรามิคที่เก่าแก่ที่สุดของฮอกไกโด และมีชื่อเสียงในเรื่อง Kobushiyaki ที่มีเอกลักษณ์ และมีโทนสีแบบ deep colour เราสามารถเดินทางมาที่สตูดิโอแห่งนี้ เพื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เซรามิคที่เราชื่นชอบ เดินชมพิพิธภัณฑ์ หรือจะเข้าร่วมกิจกรรมปั้นถ้วยชามในแบบของเราเองก็ได้ โดยจะมีคุณ Yamaoka เจ้าของสตูดิโอ และผู้สืบทอดกิจการมาจากรุ่นสู่รุ่น คอยตอนรับ และสอนอย่างเอาใจใส่ทุกขั้นตอน
กิจกรรมปั้นถ้วยชาม สนนราคา 6,000 เยนต่อคน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที (โดยผลงานของเราจะถูกจัดส่งไปยังที่อยู่ที่บ้าน หลังจากที่ทำการอบเรียบร้อยแล้ว) สามารถทำการจองได้ทางอีเมล info@kobushiyaki.jp
โรงแรม Log Hotel The Maplelodge Iwamizawa ห้องพักสไตล์ Log ที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศหิมะขาวโพลน ท่ามกลางป่าแสนสงบ โรงแรมแห่งนี้มีชั้นเดียวและมีห้องพักเพียง 15 ห้องเท่านั้น มีบริการบ่อน้ำพุร้อนออนเซ็น และ ซาวน่า ที่ทำให้หลายคนประทับใจ ที่อยากให้ทุกคนมาลองพักสักครั้ง แต่ถ้าไม่มีเวลามาพักค้างคืน จะมาใช้บริการออนเซ็น ซาวน่า แวะทานข้าว ก็ได้เช่นกัน
- การเดินทาง: จาก Sapporo นั่ง JR ขบวน Limited Express Lilac ลงสถานี Iwamizawa ใช้เวลาประมาณ 25 นาที จากนั้นขึ้น Manji route bus ที่ไปยัง Moyo Koryu Center ลงที่ Maple Lodge-mae (ใช้เวลา 40 นาที)
- เว็บไซต์: Maple Lodge
ห้องอาหารของที่นี่ เป็นอาหารฝรั่งเศส ที่รสชาติดีมาก ยิ่งได้มานั่งทานในบรรยากาศแบบนี้แล้ว ทำให้มื้ออาหารที่นี่พิเศษกว่ามื้อไหน และหากใครชอบสไตล์แกลมปปิ้ง ที่นี่ก็มีให้บริการเช่นกัน
เมืองบิไบ (Bibai)
เช้านี้เราเดินทางไปเล่นหิมะกันที่ Bibai Snow Land in Hokkaido สนามกอล์ฟชื่อดัง GOLF5 Country Bibai course แห่งเมืองบิไบ (Bibai) ที่ในฤดูหนาวจะกลายเป็นลานหิมะ ใครจะมาจากซัปโปโร ก็ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง หรือจะขับรถมาจากสนามบินนิวชิโตเซะเลยก็สะดวก
เล่นสกีไม่เป็น ไม่ต้องกลัว มาที่นี่มีกิจกรรมสนุกๆมากมายให้ได้ฟินกับหิมะ มีกิจกรรมที่เล่นได้ฟรี ไม่ว่าจะเป็น Snow tubing, Bubble Ball, Fatbike, Soccer, Snowshoeing จ่ายค่าเข้าเพียง 300 เยน ก็สนุกกับหิมะได้ไม่อั้น เต็มอิ่ม 2 ช.ม. เมื่อซื้อตั๋วรวมกิจกรรมเล่นหิมะ 5 อย่างฟรี (ซื้อล่วงหน้าประหยัดกว่า ในราคาเพียง 1,073 บาท ได้ที่นี่ >> Bibai Snowland)
หรืออยากเล่นอะไรที่แอดวานซ์ขึ้นมาหน่อย เช่น Snow rafting, Mini snow mobiling, Dune Buggy ก็จ่ายเพิ่มอีกแค่อย่างละพันเยนเท่านั้น
**สำหรับเพื่อนๆที่แจ้งพนักงานว่าตามมาเที่ยวจากรีวิวนี้ จะได้รับคูปองเข้าไปใช้ออนเซ็นฟรีที่ Yurinkan ด้วย
กิจกรรม Fatbike ขี่จักรยานบนหิมะ ไม่ยากอย่างที่คิด
ระหว่างเล่นกิจกรรม Snow Rafting Touring ก็มีจอดแวะให้เราลงไปเล่นปั้นตุ๊กตาหิมะ แล้วก็ปาบอลหิมะใส่กันด้วย
4-Wheeled Dune Buggy ใครๆก็ลองขับได้ ไม่ยากเลย
ขับ Mini Snowmobiling สนุกมาก ชมวิวไปเพลินๆ มีคอร์สสั้น 1 กม. และคอร์สยาว 1.5 กม.ให้เลือกตามชอบ
Snow Rafting เล่นได้หลายคนพร้อมกัน มากันเป็นแก๊งยิ่งสนุก นั่งไปโดนเหวี่ยงไป หิมะสาดหน้าไป ขอบอกเลยว่าฟินม้ากกก
ปิดท้ายด้วยกิจกรรม Mochi-tsuki ทำโมจิด้วยตัวเอง ใครอยากรู้ว่ากว่าเราจะได้โมจิเนื้อนุ่มหนึบแสนอร่อยนั้น แลกมาด้วยพละกำลังมากแค่ไหน ต้องลองทำดูครับ ทำเสร็จใหม่ ทานตอนร้อนๆ อร่อยมากๆ
โมจิตีมือเอง ทำเสร็จใหม่ ทานตอนร้อนๆ โรยด้วยผงคินาโกะ หอมอร่อยมากๆ
- ระยะเวลา 14 ธ.ค. 2019 – 15 มี.ค. 2020
- เวลาทำการ: 9.00-16.00 น.
- เว็บไซต์ (ภาษาไทย)
การเดินทาง: จากสถานี Sapporo ขึ้นรถไฟ JR ขบวนด่วนมุ่งหน้าไปทาง Asahikawa แวะลงที่สถานี Bibai ใช้เวลา 35 นาที
และมีบริการรถรับส่งฟรีจากสถานีมาที่ Bibai Snow Land วันละ 2 รอบ (จองล่วงหน้า 3 วันทางอีเมล bibai@alpen-group.net)
พักทานมื้อเที่ยวเติมพลังกันที่ร้าน Yakitori Tatsumi ร้านดังที่แนะนำโดยคนท้องถิ่น เสิร์ฟเมนูไก่ย่างยากิโทริ เป็นเมนูอาหารในชีวิตประจำวันของชาวเมือง ที่นี่จะทานกันแบบอกไก่ทั้งไม้ หรือจะเป็นแบบรวมเครื่องในก็อร่อย ส่วนเมนูที่ทีมงานเราชอบมากที่สุดก็คือ โทริเมชิ ที่นำเนื้อไก่ไปหุงปรุงรสกับข้าวแสนอร่อย ส่วนใครจะอยากกินยากิโทริกับโซบะพร้อมกันก็ได้
- เวลาทำการ: มื้อเที่ยง 11.00-14.00 น.
- วันหยุด: ทุกวันอังคาร
- การเดินทาง: จากสถานี Bibai เดินประมาณ 5 นาที
- เว็บไซต์
ส่วนเมนูที่ทีมงานเราชอบมาก
ใครจะอยากกินยากิโทริกั
ที่นี่จะทานกันแบบอกไก่ทั้ง
สถานที่เที่ยวแห่งต่อไปที่อยากแนะนำของเมืองบิไบ ต้องถูกใจสายอาร์ต ยิ่งถ้าคุณเคยไป Tokyo Midtown หรือ ด้านหน้าสถานี JR Sapporo จะต้องเคยเห็นผลงานประติมากรรมของ Kan Yasuda ผ่านตามากันบ้าง เราจะพาไปทำความรู้จักกับชายผู้นี้ที่ผลงานของเขาสร้างแรงบันดาลใจให้กับอาร์ทติสทั่วโลกมานานกว่า 3 ทศวรรษ
คุณ Kan Yasuda เกิดที่เมืองนี้ และผลงานออริจินอลของเขาก็ถุกนำมาจัดแสดงถาวรที่เมืองนี้เช่นกัน โดยมีกิมมิคสุดคูล ด้วยการนำอาคารไม้ของโรงเรียนประถมซาคาเอะ และโรงยิมในอดีต ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วนับแต่ปี 1981 มาปรับเปลี่ยนใหม่ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ และยังคงความคลาสสิคไว้ เสน่ห์ดั้งเดิมยังคงไม่หายไปไหน
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะสามารถเสพอดีต ธรรมชาติ และงานศิลป์ไปได้พร้อมกันในที่ที่เดียว แต่เราสามารถพบเจอสิ่งเหล่านี้ได้ที่นี่ KAN YASUDA SCULPTURE MUSEUM ARTE PIAZZA BIBAI
สวนประติมากรรมศิลปะของคันยะสุดะที่ชื่อ อาร์เต้ ปิอาซ่า บิไบ จัดแสดงผลงานหินอ่อนและสัมฤทธิ์ กระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ทั้งด้านในและนอกอาคาร รวมกว่า 40 ชิ้น มีทั้งผลงานที่เคยไปจัดแสดงในต่างประเทศอย่าง อิตาลี อังกฤษ อเมริกา เป็นต้น
สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็
ภาพของอาคารโรงเรียน Sakae ถ่ายเมื่อปีค.ศ.1955 ปัจจุบันคงเหลือแค่อาคารตัว
บรรยากาศจากหน้าต่างในห้องเ
ถุงผ้าและเสื้อที่ระลึก
และไม่ลืมแวะหยุดพักผ่อนที่ Café Arte กับกาแฟดริปที่ชงด้วยมือ ขนมปังโฮมเมดที่ใช้ข้าวสาลีบิไบ หรือนมอุ่นๆสักแก้ว จิบไปพลางพร้อมกับดื่มด่ำความสงบของที่นี่ไปพลาง (เวลาทำการช่วงฤดูหนาว 10.00-16.00 น.)
** ถ้าบอกกับพนักงานในคาเฟ่ว่า ตามมาจากรีวิวนี้ และออเดอร์เครื่องดื่มหรืออาหารอะไรก็ได้ จะได้รับโปสการ์ดพิเศษเป็นของที่ระลึกกลับไปด้วยนะครับ
- เวลาทำการ: 9.00-17.00 น. (ส่วนคาเฟ่ เปิด 10.00-17.00 น. วันธรรมดาปิด 16.00 น.)
- วันหยุด: ทุกวันอังคารและวันหลังจากวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ยกเว้นวันอาทิตย์) และ วันที่ 31 ธ.ค. ถึง 3 ม.ค.
- ค่าเข้าชม: บริจาคได้ตามศรัทธา
- การเดินทาง: จากสถานี Sapporo ขึ้นรถไฟสาย JR Hakodate Main มุ่งหน้าไปทาง Asahikawa ลงที่สถานี Bibai ใช้เวลา 35 นาที จากนั้นขึ้นรถบัสต่อมาที่พิพิธภัณฑ์ 20 นาที
- เว็บไซต์
เมืองยูบะริ (Yubari)
ถ้าพูดถึงชื่อเมืองนี้กลิ่นหอมของเมลอนต้องลอยมาทันที เพราะชื่อเสียงของ ยูบะริเมลอน นั้นโด่งดังมากๆ ถ้าใครได้ลองชิมสักครั้งจะต้องติดใจ ถ้าหากเดินทางมาที่เมืองนี้ในช่วงซัมเมอร์ เราจะได้ลิ้มรสความอร่อยของยูบะริเมลอนกันแบบได้ไม่อั้น แต่ว่าครั้งนี้เราเดินทางมาช่วงฤดูหนาว และเป็นเมืองที่ต้องเดินทางผ่านพอดี จึงเลือกแวะพักที่โรงแรม Hotel Mount Racey ที่เป็นทั้งรีสอร์ทให้บริการ ออนเซ็น และ มีลานสกีของตัวเองด้วย
- การเดินทาง: สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานี Yubari หรือขึ้น Airport Shuttle Bus บริการวิ่งตรงจากสนามบินนิวชิโตเซะ มายังโรงแรมในช่วงฤดูหนาว
อาคารโรงแรมเชื่อมต่อกับลานสกีด้วยทางเดินพาข้ามไปยังโซน Mount Racey Ski Area มีพาวเดอร์สโนว์ คุณภาพดีเยี่ยม ละเอียดนุ่ม และมีเส้นทางให้เลือกเล่นมากถึง 18 คอร์ส จึงมาสนุกได้ทั้งครอบครัว ทุกช่วงวัย และทุกระดับความโปร แม้แต่มือสมัครเล่นที่เพิ่งเริ่มฝึกหัดก็มาเล่นที่นี่ได้ ถ้าใครสนใจ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่ >> Yubari Resort
เมืองนะกะนุมะ (Naganuma)
เมืองนะกะนุมะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองชิโตเซะ ซึ่งไม่ไกลจากสนามบินนิวชิโตเซะมากนัก เหมาะที่จะเป็นจุดแวะเที่ยวระหว่างทางได้ดี มีความเป็นชนบทที่มีชื่อเสียงด้านผักผลไม้ และเป็นเมืองที่มีศิลปินด้านงานหัตถกรรมอาศัยอยู่ นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมาเรียนรู้และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆได้ที่เมืองนี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ >> Naganuma Kanko
- การเดินทาง จากสถานี Kitahiroshima โดยสารรถประจำทาง JR Hokkaido Bus ลงที่ป้าย Naganuma ใช้เวลา 30 นาที
ในบรรดากิจกรรมทั้งหลาย เราเลือกไปที่คาเฟ่ “Mori no Sasayaki” ที่สามารถเข้าร่วมกิจกรรม Wooden Plate Making ทำจานจากแผ่นไม้ โดยช่างฝีมือที่มีความชำนาญ คอยสอนและกำกับทุกขั้นตอนเป็นอย่างดี ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง สนนราคา 5,500 เยน
ก่อนเดินทางไปสนามบิน เราแวะที่ร้าน Farm Restaurant Harvest เสิร์ฟอาหารจากฟาร์มออร์แกนิคที่ใช้ผลผลิตท้องถิ่นและจากฟาร์มของตัวเอง ใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นข้าวแกงกะหรี่แฮมเบิร์กหมู หรือจะเป็นข้าวโคร็อกเกะมันทอดก็ดีงามมาก
- เวลาทำการ: ช่วงฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) วันธรรมดา 11.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด 11.00-20.30 น. (หยุดทุกวันพฤหัสบดี และ วันพุธที่ 1 และ 3 ของเดือน)
- รายการอาหาร: Farm Potato set 1,150 เยน / Pork Steak & May Queen Gnocchi set 1,480 เยน / Farm Potato & Hamburg Steak set 1,150 เยน
- เว็บไซต์
ทานอาหารอร่อยๆแบบออร์แกนิค
นอกจากอาหารแสนอร่อยแล้ว อาคารไม้สไตล์ Log Cabin ที่เจ้าของลงแรงสร้างขึ้นมาเองกับมือ ใช้เวลาถึง 4 ปี นั้นมีเสน่ห์มาก แต่ละมุมมีความน่ารัก น่าอบอุ่น และถ่ายรูปสวย