เกาะฮอกไกโด มีเสน่ห์อย่างน่าเหลือเชื่อ สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทุกฤดูกาล ที่ไม่ว่าจะเดินทางไปกี่ครั้งก็มักจะพบกับประสบการณ์แปลกใหม่อยู่เสมอ นอกจากศูนย์กลางการเดินทางไปทั้งเกาะด้วยรถไฟอย่าง ตัวเมืองซัปโปโร หรือ อาซาฮิคะวะ ที่มีความทันสมัยแล้ว บนเกาะยังมีสนามบินอยู่ถึง 13 แห่ง ที่สามารถให้เราได้ออกสำรวจส่วนอื่นของฮอกไกโด ได้อย่างเต็มที่
ในบทความนี้ เราขอนำเสนอ สถานที่ที่ทำให้เราตกหลุมรักฮอกไกโด ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยว ที่กิน หรือจะแช่ออนเซ็นฟินๆ ก็ตอบโจทย์ทั้งหมด ตามไปชมกันเลย
- วัคคาไน (Wakkanai) พิชิตจุดเหนือสุดของญี่ปุ่นที่แหลมโซยะ
- โทคาจิ (Tokachi) ดื่มด่ำธรรมชาติที่ Tokachi Hills สวรรค์บนเนินเขาสำหรับคนรัก
ดอกไม้ - เทศกาลไซรินกะ (Sairinka) ชมการแสดงแสงสีท่ามกลางหิมะ
- มะชิเคะ (Mashike) ตระเวนหาร้านซูชิชื่อดัง อร่อยกับเมนูข้าวหน้าปลาดิบรวมชามยักษ์
- บิไบ (Bibai) เมนูไก่ย่างยากิโทริ ร้านดังที่แนะนำโดยคนท้องถิ่น
- ฮาโกดาเตะ (Hakodate) ชิมพาร์เฟ่ต์ ที่ร้านคาเฟ่ในสถาาปัตยกรรมเก่าแก่อายุนับร้อยปี
- คามิชิโฮโระ (Kamishihoro) แช่อนเซ็นกลางแจ้งท่ามกลางหิมะ
- ชิคาโออิ (Shikaoi) แช่อนเซ็นบนทะเลสาบน้ำแข็ง
- รูสุทซุ (Rusutsu) แช่อนเซ็นชมวิวภูเขาในรีสอร์ทสุดหรู
วัคคาไน (Wakkanai)
ในบรรดาสถานที่ท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ที่มีอยู่มากมายในฮอกไกโด ชื่อของ แหลมโซยะ (Cape Soya) อาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก บวกกับการเดินทางที่ค่อนข้างไกลเมื่อเทียบกับจุดอื่นๆ จึงทำให้สถานที่แห่งนี้ถูกมองข้ามไปในสายตาของนักท่องเที่ยวชาวไทย รีวิวนี้จึงเป็นความตั้งใจที่จะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับแหลมโซยะกันให้มากขึ้น ทั้งในด้านข้อมูล และด้านความสวยงาม เผื่อเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับทริปฮอกไกโดครั้งต่อไปของทุกคนครับ
รูปปั้นของ มะมิยะ รินโซ (Mamiya Rinzo) นักสำรวจ ผู้บุกเบิกเกาะซาฮาลิน และ Monument of The Northernmost Point of Japan หรือ สัญลักษณ์ทรงสามเหลี่ยม เครื่องหมายแสดงจุดที่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น
แหลมโซยะ (Cape Soya) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ เมืองวัคคาไน (Wakkanai) จังหวัดฮอกไกโด ถือเป็นจุดเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น (นับเฉพาะจากแผ่นดินของเกาะหลักทั้งสี่) ในวันที่อากาศแจ่มใส จากบริเวณชายฝั่ง เราสามารถมองเห็น เกาะซาฮาลิน (Sakhalin) เกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศรัสเซียได้อีกด้วยครับ
ที่เห็นชายฝั่งและภูเขาอยู่ไกลๆ นั่นคือ เกาะซาฮาลิน ของประเทศรัสเซียในปัจจุบัน เราสามารถนั่งเรือ Ferry ข้ามไปเที่ยวได้ด้วย
สำหรับไฮไลท์ของแหลมโซยะ ที่ทุกคนต้องไปถ่ายรูปคู่ให้ได้เลย ก็คือ “Monument of The Northernmost Point of Japan” หรือ สัญลักษณ์ทรงสามเหลี่ยม ที่เป็นเครื่องหมายแสดงว่าเราได้เดินทางมาถึง สุดเขตทางทิศเหนือของประเทศญี่ปุ่นอย่างแท้จริงแล้วนั่นเอง
นอกจากนี้ บริเวณรอบๆ ของแหลมโซยะ ยังมีบรรยากาศที่สงบ สวยงาม และชิลล์ไปอีกครับ เหมาะแก่การเดินถ่ายรูปเล่น และพักผ่อนในวันสบายๆ อีกทั้ง ยังมี อนุสาวรีย์ และสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญอีกมากมาย ให้ได้ลองเดินสำรวจกันดู ใครที่สนใจเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ต้องห้ามพลาดเลยครับ
The Tower of Prayer อนุสาวรีย์เพื่อระลึกถึง ผู้เสียชีวิตในเที่ยวบินของสายการบิน Korean Air เมื่อ ค.ศ. 1983 ที่ถูกยิงตก (ไม่ใช่จากรัฐบาลญี่ปุ่นนะครับ) ด้วยชนวนเหตุของความขัดแย้งในยุคสงครามเย็น
ในช่วงหน้าร้อน ทุ่งหญ้าแห่งเนินโซยะ ภูมิประเทศสุดแปลกตา ที่เกิดจากการกระทำของธารนํ้าแข็ง ตั้งแต่ยุคนํ้าแข็ง (Ice Age) จะถูกปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวสุดกว้างขวางสวยงาม ใครที่ชอบธรรมชาติรับรองได้เลยว่าจะตกหลุมรักที่นี่อย่างแน่นอน
โทคาจิ (Tokachi)
Tokachi Hills สวรรค์บนเนินเขาสำหรับคนรัก
เปิดให้บริการ: 28 เม.ย.-31 ต.ค.
เวลา: 9.00-18.00 น. (ในเดือน ก.ย.-ต.ค. เปิดให้บริการถึง 16.00 น.)
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 800 เยน นร.ม.ต้น 400 เยน ประถมลงไปฟรี
เว็บไซต์
ศูนย์กลางสวน จุดชมวิวเมือง
ด้านในมีมุมดอกไม้สวยงามมาก
ไม่ควรพลาดลิ้มลองซอฟท์ครีม
เทศกาลไซรินกะ (Sairinka)
เทศกาลไซรินกะ (Sairinka) มีชื่อเรียกเต็มๆว่า Tokachi Swan Festival Sairinka (Tokachi Hakuchou Matsuri Sairinka) การแสดงแสงสีท่ามกลางหิมะ พร้อมเพลงประกอบสุดมันส์ ณ สวนโทคาจิกะโอกะ (Tokachigaoka Park) จัดขึ้นช่วงปลายเดือนมกราคม ถึง ปลายเดือนกุมภาพันธ์
มะชิเคะ (Mashike)
ทริปนี้มาตะลุยแดนเหนือสุดทั้งที แน่นอนว่าไฮไลท์อยู่ที่อาหารทะเล มาถึงที่แล้วต้องตระเวนหาร้านซูชิชื่อดังให้ได้ และเราก็ได้มาเจอ Matsukura Sushi Restaurant ร้านเด็ดของเมืองมะชิเคะ ซึ่งมีทีเด็ดอยู่ที่ เมนูข้าวหน้าปลาดิบรวมชามยักษ์ !!
ที่มีเงื่อนไขพิเศษว่า หากใครสามารถกินหมดด้วยตัวคนเดียวได้ ก็รับไปเลย ส่วนลดสำหรับใช้ในโอกาสต่อไป ถึง 800 เยนจากราคาเต็ม !! บอกเลยว่าสายกินจุต้องไปโดน ซึ่งนอกจากได้ร่วมสนุกกับแคมเปญนี้แล้ว รับรองว่าจะต้องอร่อยจนน้ำตาไหล
- การเดินทาง: จากสถานี Sapporo นั่งรถไฟ JR ขบวน Super Kamui ปลายทาง Fukagawa (ประมาณ 1 ชั่วโมง) และเปลี่ยนขบวนไปสถานี Rumoi อีกประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนั่งรถบัส Rumoi-Betsukari ลงป้าย Mashikeใช้เวลาประมาณ 30 นาที (แนะนำว่าให้ขับรถจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด จากซัปโปโรขับมายังร้านใช้เวลา 2 ชั่วโมง)
- เวลา: 11.00 – 21.00
- เว็บไซต์
บิไบ (Bibai)
Yakitori Tatsumi ร้านดังที่แนะนำโดยคนท้องถิ่น เสิร์ฟเมนูไก่ย่างยากิโทริ เป็นเมนูอาหารในชีวิตประจำวันของชาวเมือง ที่นี่จะทานกันแบบอกไก่ทั้งไม้ หรือจะเป็นแบบรวมเครื่องในก็อร่อย ส่วนเมนูที่ทีมงานเราชอบมากที่สุดก็คือ โทริเมชิ ที่นำเนื้อไก่ไปหุงปรุงรสกับข้าวแสนอร่อย ส่วนใครจะอยากกินยากิโทริกับโซบะพร้อมกันก็ได้
- เวลาทำการ: มื้อเที่ยง 11.00-14.00 น.
- วันหยุด: ทุกวันอังคาร
- การเดินทาง: จากสถานี Bibai เดินประมาณ 5 นาที
- เว็บไซต์
ส่วนเมนูที่ทีมงานเราชอบมาก
ใครจะอยากกินยากิโทริกั
ที่นี่จะทานกันแบบอกไก่ทั้ง
ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
ร้านคาเฟ่ Sabo Kikuizumi 茶房・菊泉 คาเฟ่แห่งนี้อยู่ในอาคารมีตำนานมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปีค.ศ.1921 เดิมทีเคยเป็นบ้านของพ่อค้าผู้ร่ำรวยชาวฮาโกดาเตะ ปัจจุบันได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นคาเฟ่โบราณเสริฟของหวานยอดฮิตอย่างพาร์เฟต์ในสไตล์ญี่ปุ่น รวมถึงชาและกาแฟอีกด้วย
เมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่น สำหรับเมนูอันดับ 1 คือ Tofu Shirodama Parfeit พาร์เฟต์ไอศครีมราดน้ำเต้าหู้ทานคู่กับโมจินุ่มหลากสี
คามิชิโฮโระ (Kamishihoro)
เรียงกังที่มาพักในคืนนี้ชื่อว่า Nukabirakan Kanko Hotel ตั้งอยู่ในเมืองคามิชิโฮโระ (Kamishihoro) ราคาห้องพักแบบญี่ปุ่น เริ่มต้น 11,000 เยน เว็บไซต์
เวลามานอนพักเรียวกัง ทางที่พักจะจัดเซ็ทอาหารแบบไคเซกิให้ จะมีจานเล็กจานน้อยมาคอยมาเสิร์ฟให้เรื่อยๆ เรียกว่ากินกันไม่ทันเลยทีเดียว วันนี้รู้สึกว่าอาหารมื้อนี้มีอะไรหลายอย่างดี มีกะทะมาให้ทอดเทมปุระเองด้วย ปกติจะได้ทำแต่ชาบูชาบู ไม่ก็ย่างเนื้อ แถมมีการหุงข้าวด้วยน้ำซุปต้องรอ 20 นาทีถึงจะได้กิน โดยรวมสนุกดีครับ อาหารก็อร่อย
ที่เรียวกังแห่งนี้มีออนเซ็นกลางแจ้ง บรรยากาศสวยงามเกินบรรยาย ยิ่งได้ผ่อนคลายในน้ำพุร้อนท่ามกลางหิมะขาวแบบนี้
ชิคาโออิ (Shikaoi)
ทะเลสาบชิคาริเบ็ทสึ (Lake Shikaribetsu) เมืองชิคาโออิ (Shikaoi) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึ (Daisetsu National Park) ในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิที่นี่จะติดลบต่ำสุดถึง -30 องศา ทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง ที่มีความหนาถึง 60 เซนติเมตร และถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาว พร้อมกับป่าที่รายล้อมอยู่ จนเผลอลืมไปว่าบนพื้นที่เดินอยู่นั้นเป็นทะเลสาบมาก่อน
การเดินทาง จากสถานี Obihiro โดยสารรถบัสมาที่ Shikaribetsu Onsen
งาน Lake Shikaribetsu Igloo Village จัดขึ้นช่วงปลายเดือนมกราคม ถึงกลางเดือนมีนาคม เพลิดเพลินกับหมู่บ้านเอสกิโม ท่ามกลางทะเลสาบชิคาริเบ็ทสึ ที่กลายเป็นน้ำแข็ง พร้อมกิจกรรมกลางหิมะอีกมากมาย และยังสามารถแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง ที่มีต้นน้ำมาจากน้ำแร่ธรรมชาติ Shikaribetsu Onsen อีกด้วย ดูรายละเอียดงาน >> ที่นี่
ขอบคุณภาพจาก NATURE CENTER KOTAN
และบนทะเลสาบน้ำแข็งนี้ จะมีการสร้างหมู่บ้านน้ำแข็งสไตล์เอสกิโม ที่เรียกว่า อิกลู (Igloo) และมีชื่อเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า โคตัน (Kotan) โดยน้ำแข็งที่นำมาสร้างจะมีความใสเป็นพิเศษ และมีสีฟ้าประกาย เนื่องจากในน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ มีความใสสะอาดบริสุทธิ์มากที่สุดแห่งหนึ่งนั่นเอง
รูสุทซุ (Rusutsu)
Kotobuki Hot Spring บ่อน้ำพุร้อนทั้งกลางแจ้งและในร่ม ที่มีวิวของภูเขาและผืนป่าในเขตอุทยาน Shikotsu-Toya National Park ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวอันสวยงามอยู่ตรงหน้า มีขนาดกว้างถึง 3,000 ตารางเมตร ส่วนหนึ่งของโรงแรม Rusutsu Resort Hotel & Convention ทางฝั่ง North Wing ดูรายละเอียด >> Rusutsu Onsen Wellness
วิวของภูเขาโยเท (Mount Yotei) ฟูจิซังแห่งฮอกไกโด