15 ที่เที่ยว “ชูโงกุ” (Chugoku) เสน่ห์ Unseen แดนตะวันตกของญี่ปุ่น

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากสัมผัส “ญี่ปุ่นในมุมที่ไม่ซ้ำใคร” เต็มไปด้วยเรื่องราวของ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่งดงามเกินบรรยาย การออกเดินทางเพื่อค้นพบ “อีกด้านที่ไม่เคยเห็น” ของญี่ปุ่นในภูมิภาคชูโงกุ (Chugoku) คือคำตอบที่ใช่ที่สุด

ที่นี่คือดินแดนตอนตะวันตกของเกาะฮอนชู ซึ่งหลอมรวมเสน่ห์ของ 5 จังหวัด ที่แบ่งเป็น พื้นที่ซังอิน (San’in) คือ ทตโตริ (Tottori) และ ชิมาเนะ (Shimane) และพื้นที่ซังโย (Sanyo) คือ โอคายามะ (Okayama), ฮิโรชิมะ (Hiroshima), ยามางุจิ (Yamaguchi) แต่ละจังหวัดต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งภูเขา ทะเล วัด ศาลเจ้า หมู่บ้านโบราณ และพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย ที่สะท้อนจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่นในแต่ละยุคได้อย่างงดงาม

เราได้คัดสรร 15 สถานที่อันซีนสุดพิเศษ จากทั่วทั้งภูมิภาค ที่จะพาคุณไปค้นพบความสงบของวัดโบราณในป่าเขา ความสดใสของสวนดอกไม้หลากสี และความน่ารักของเมืองธีมการ์ตูนสุดคาวาอี้ พร้อมจุดถ่ายรูปสุดปังที่รับรองว่าใครเห็นก็ต้องอยากตามรอยแน่นอน

เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปเก็บความประทับใจใน “ชูโงกุ” ดินแดนแห่งมนตร์เสน่ห์ตะวันตกของญี่ปุ่นกันเลย!


จังหวัดทตโตริ (Tottori Prefecture)

1. สวนดอกไม้ทตโตะริ ฮานะไคโร (Tottori Prefctural Flower Park Hanakairo)

สวนดอกไม้ขนาด 8,000 ตารางเมตร ในเขตภูเขา Mt. Daisen มีทางเดินคลุมหลังคายาวประมาณ 1 กิโลเมตร เดินชมได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยแบ่งโซนเป็น “Flower Dome” เรือนกระจกขนาดใหญ่ที่ปลูกพืชเขตร้อน อาทิ กล้วยไม้ และโซนภายนอกที่เป็นทิวดอกลิลลี่ ดอกไม้ตามฤดูกาล มีวิวเป็นภูเขา Daisen อยู่พื้นหลัง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของที่นี่ นอกจากนี้ในตอนกลางคืน จะมีการประดับไฟ ถึง 1ล้านดวง มีบรรยากาศนุ่มนวลชวนหลงใหล ที่รู้จักในฐานะสวนดอกไม้แสงจันทร์ (Moonlight Flower Garden)

  • เวลาทำการ: เม.ย.–พ.ย. 9:00–17:00 / ธ.ค.–ม.ค. 13:00–21:00 / ก.พ.–มี.ค. 9:00–16:30 (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วง)
  • วันหยุดทำการ: ปิดวันอังคารช่วงฤดูหนาว (ธ.ค.–มี.ค.) และอาจมีวันหยุดพิเศษ
  • ค่าเข้าชม: ¥500–1,200 (แตกต่างกันตามฤดูกาล)
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Yonago นั่งชัทเทิลบัสฟรี ประมาณ 25–30 นาทีถึงสวน (รถออกจากทางออกฝั่งใต้)
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


2. ถนนช้อปปิ้งเบกะ (House of Conan Beika Shopping Street)

ถนนช้อปปิ้งธีมการ์ตูนนักสืบโคนัน ในเมืองโฮคุเอย์ (Hokuei) ที่ตกแต่งทั้งร้านค้า คาเฟ่ ของที่ระลึก และรูปปั้นคาแรคเตอร์ในเรื่องโคนัน ได้เดินเล่นสัมผัสบรรยากาศในการ์ตูนอย่างสมจริง ดูร้านค้าธีมพิเศษ และถ่ายภาพกับมุมสนุกมากมาย

  • เวลาทำการ: ร้านค้าส่วนใหญ่ประมาณ 10:00–18:00 (แต่ละร้านอาจมีเวลาต่างกัน)
  • วันหยุดทำการ: แล้วแต่ร้านค้า (ไม่มีวันหยุดรวมแน่นอน)
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Hokuei หรือ JR Yura/Conan เดินประมาณ 10 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


3. ซากปราสาททตโตริ (Tottori Castle Ruin)

ซากปราสาทโบราณบนภูเขาคิวโช (Mt.Kyusho) ในตัวเมืองทตโตริ ปราสาทเดิมถูกทำลาย เหลือกำแพงหินและฐานปราสาทซึ่งกลายเป็นสวนสาธารณะที่มีต้นซากุระหลายร้อยต้น บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับเดินเล่นชมวิวเมืองและคูน้ำไปพลางชมซากุระไปด้วยกัน

  • เวลาทำการ: เปิดตลอด
  • วันหยุดทำการ: ไม่มีวันหยุด
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Tottori นั่งรถบัสลงป้าย Kencho-Nisseki-mae เดินต่อ 5 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


จังหวัดชิมาเนะ (Shimane Prefecture)

4. วัดกาคุเอ็นจิ (Gakuenji Temple)

วัดเก่าแก่ตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตชนบทของจังหวัดชิมาเนะ เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 594 โดยพระชื่อ “ชิชุน” ผู้มาจากแคว้นชินาโนะ ท่านได้เดินทางมาถึงภูเขาทาบุชิ ในแถบอิซุโมะ เพื่อสวดมนต์ภาวนาให้จักรพรรดินีซุอิโกะทรงหายจากพระโรคทางพระเนตร โดยหันหน้าไปยังน้ำตกฟุโระ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในธรรมชาติ หลังจากอาการพระเนตรหายดี พระชิชุนจึงสร้างวัดขึ้นเพื่อแสดงความกตัญญูและขอบคุณต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชื่อของวัดมีที่มาน่ารักจากตำนานเล่าว่า ระหว่างที่ท่านกำลังสวดมนต์อยู่นั้น ได้ทำเครื่องบูชาหล่นลงไปในแอ่งน้ำของน้ำตก แต่แล้วจู่ ๆ ปลาฉลามจระเข้ (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 鰐 “กาคุ”) ก็โผล่ขึ้นมาช่วยคาบเครื่องบูชาขึ้นมาคืนให้ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อวัดในปัจจุบัน

  • เวลาทำการ: 8:00–17:00 (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16:15)
  • วันหยุดทำการ: เปิดทุกวัน
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ ¥500
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Izumo-shi ต่อรถบัสหรือแท็กซี่
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


5. สวนยูชิเอ็น (Yuushien Garden)

สวนญี่ปุ่นสไตล์ Kaiyu-shiki ตั้งอยู่บนเกาะไดคงชิมะ (Daikonshima) ทะเลสาบนาคาอุมิ ใกล้เมืองมัตสึเอะ โดยได้จำลองภูมิประเทศของแถบอิซุโมะไว้ มีสระน้ำ ลำธาร สะพานหิน และพืชตามฤดูกาล เด่นด้วยสระดอกโบตั๋น 30,000 ดอกกว่า 250 ชนิด และมีบ้านเรือนกระจกให้ชมได้ตลอดปี มีฤดูร้อนมีไฮเดรนเยียให้ชม ฤดูใบไม้ร่วงชมใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาวมีไฟประดับเพิ่มความโรแมนติก

  • เวลาทำการ: 10:00–17:00 (เข้าถึง 16:30)
  • วันหยุดทำการ: ปิด 30–31 ธ.ค.
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ ¥800-1,800 (ขึ้นกับฤดูกาล)
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Matsue นั่งรถบัสสาย 70 ลงป้าย “Yatsukacho Yuushien-iriguchi” ใช้เวลา 50 นาที เดินต่อ 5 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


6. ศาลเจ้าเอบิสุ (Ebisu Shrine)

ศาลเจ้าเล็กๆ ตั้งอยู่บนเกาะมิยากะชิมะ (Miyagashima) ในเมืองมะสุดะ ซึ่งมีทางเดินทรายเชื่อมถึงได้เฉพาะช่วงน้ำลง คล้าย Mont Saint-Michel แห่งฝรั่งเศส จึงทำให้ถูกขนานนามว่า มองแซงต์มิเชลแห่งซันอิน เป็นจุดที่มีความน่าสนใจไม่เหมือนใครในญี่ปุ่น

  • เวลาทำการ: เปิดตลอดวัน (แนะนำไปช่วงน้ำลง)
  • วันหยุดทำการ: เปิดทุกวัน
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Masuda ต่อรถบัส/แท็กซี่ไปชายหาด Kohama แล้วเดินทางทรายเข้าไปศาลเจ้า (เช็กเวลาน้ำขึ้น-ลงก่อนเดินทาง)
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


จังหวัดโอคายามะ (Okayama Prefecture)

7. ปราสาทสึยามะ (Tsuyama Castle)

ปราสาทสึยามะ เป็นหนึ่งใน 100 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น สร้างในสมัยเอโดะ แม้ปัจจุบันเหลือเพียงฐานหินและประตูบางส่วน แต่บริเวณรอบๆ ถูกพัฒนาเป็นสวนคาคุซัง (Kakuzan Park) ซึ่งมีซากุระกว่า 1,000 ต้น และถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน 100 จุดชมซากุระยอดเยี่ยมของญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่จะกลายเป็นลานดอกไม้สีชมพูทั่วทั้งเนินเขา พร้อมวิวเมืองเก่าของสึยามะที่มองเห็นได้จากยอดกำแพงหิน

  • เวลาทำการ: เม.ย.–ส.ค. 8:40–19:00 / มี.ค.–ก.ย. 8:40–17:00 / ต.ค.–ก.พ. 8:40–17:00
  • วันหยุดทำการ: เปิดทุกวัน (บางโซนอาจปิดช่วงฤดูหนาว)
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ ¥310 / นักเรียนมัธยมต้นหรือต่ำกว่าเข้าฟรี
  • การเดินทาง: จาก JR Tsuyama เดินประมาณ 15 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


8. หุบเขาโอกุสึเค (Okutsukei Gorge)

หุบเขาโอกุสึเค เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยมของเมืองคากามิโนะ (Kagamino) มีแม่น้ำใสไหลผ่านโขดหินรูปร่างแปลกตา และมีจุดชมวิวตามเส้นทางยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ในฤดูใบไม้ร่วง ภูเขารอบๆ จะเปลี่ยนเป็นสีแดงทองสวยงาม ส่วนฤดูร้อนก็เหมาะแก่การเล่นน้ำตกและเดินป่าชิลๆ ใกล้กันยังมีเมืองน้ำพุร้อนโอกุสึออนเซ็น (Okutsu Onsen) ชื่อดังสำหรับพักผ่อนหลังเที่ยวชมธรรมชาติ

  • เวลาทำการ: เปิดตลอดวัน (แนะนำไปช่วงกลางวัน)
  • วันหยุดทำการ: ไม่มี
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Tsuyama ต่อรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง ไปยัง Okutsu Onsen แล้วเดินชมตามเส้นทางหุบเขา
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


9. หมู่บ้านฮัตโตจิ (Hattoji Furusato-mura Yakata)

หมู่บ้านฮัตโตจิ ตั้งอยู่บนไหล่เขาในเมืองบิเซ็น (Bizen) เป็นหมู่บ้านอนุรักษ์วิถีชีวิตญี่ปุ่นดั้งเดิม มีบ้านเก่าหลังคามุงฟาง ศูนย์วัฒนธรรมท้องถิ่น และบ้านพักนักท่องเที่ยว Hattoji International Villa”สำหรับผู้ที่อยากใช้ชีวิตแบบชนบทญี่ปุ่นแท้ๆ ที่นี่เหมาะสำหรับการเรียนรู้การทำอาหารพื้นบ้าน งานหัตถกรรม หรือแค่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ฟังเสียงนกร้องยามเช้า

  • เวลาทำการ: พื้นที่หมู่บ้านเปิดชมกลางวัน
  • วันหยุดทำการ: เปิดทุกวัน (อาจปิดบางส่วนฤดูหนาว)
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Yoshinaga เช่ารถขับประมาณ 30 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


จังหวัดฮิโรชิมะ (Hiroshima Prefecture)

10. พิพิธภัณฑ์ศิลปะชิโมเสะ (Simose Art Museum)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะชิโมเสะ เป็นพิพิธภัณฑ์ริมทะเลเซะโตะที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่สวยที่สุดในโลก ปี 2024 ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Shigeru Ban ผู้ได้รับรางวัล Pritzker Prize อาคารสไตล์มินิมอลผสมไม้และกระจกใสตั้งอยู่ท่ามกลางสวนติดทะเล ภายในจัดแสดงผลงานศิลปะสมัยใหม่ทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงวิลล่าศิลปะ Shimose Villa ที่เปิดให้เข้าพัก พร้อมชมงานศิลป์ในบรรยากาศแสนสงบ ที่สายอาร์ตต้องไม่พลาด

  • เวลาทำการ: 9:30–17:00 (เข้าถึง 16:30)
  • วันหยุดทำการ: วันจันทร์ / ช่วงปีใหม่ / ช่วงเปลี่ยนนิทรรศการ
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ ¥2,000 / นักเรียน ¥1,000 / ต่ำกว่าม.ต้น ฟรี
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Kuba นั่งรถบัส ใช้เวลา 10 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


11. สวนดอกไม้คามุโนะซาโตะ (Flower Village Kamu no sato)

สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ในเขตเซระ (Sera) ที่ปลูกพืชตามฤดูกาลตลอดปี เช่น มอสฟล็อกซ์ เนโมฟิลลา ทิวลิป ไฮเดรนเยีย คอสมอส และโคเคีย ทุ่งดอกไม้จะเปลี่ยนสีสันทุกเดือน พื้นที่สวนตั้งอยู่บนเนินเขา มีคาเฟ่และร้านขายของฝากท้องถิ่นให้แวะพักผ่อน เป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกไม้ยอดนิยมประจำจังหวัดฮิโรชิมะ

  • เวลาทำการ: 9:00–17:00 (เข้าถึง 16:30) เปิดเฉพาะฤดูกาล
  • วันหยุดทำการ: ปิดนอกฤดูกาลหรือระหว่างเปลี่ยนทุ่งดอกไม้
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ ¥500–1,000 / เด็ก ¥200–500 (ตามช่วงงาน)
  • การเดินทาง: จาก Hiroshima Bus Center มีรถบัสตรงช่วงฤดูกาล ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


12. พิพิธภัณฑ์โคซันจิ (Kosanji Temple Museum)

วัดโคซันจิ เป็นวัดใหญ่ที่รวมสถาปัตยกรรมจำลองจากวัดสำคัญทั่วญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเกาะอิคุอิจิมะ (Ikuchijima) ตามเส้นทางชิมานามิไคโด (Shimanami Kaido) ภายในประกอบด้วยเจดีย์สีทอง วิหารศิลปะ และสวนหินสีขาว Miraishin no Oka ที่ออกแบบโดยศิลปินอิตาลี Itto Kuetani ประติมากรชาวญี่ปุ่นชื่อดังระดับโลก โดยใช้หินอ่อนสีขาวจากประเทศอิตาลี ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในโลกเหนือจริง

  • เวลาทำการ: 9:00–17:00
  • วันหยุดทำการ: เปิดทุกวัน
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ ¥1,400 / นักเรียน ¥1,000 / เด็กฟรี
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Onomichi นั่งเรือประมาณ 40 นาที ไปท่าเรือ Setoda เดินต่อ 15 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


จังหวัดยามางุจิ (Yamaguchi)

13. สวนโทคิวะ (Tokiwa Park)

สวนสาธารณะขนาดใหญ่รอบทะเลสาบโทคิวะ เป็นพื้นที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวเมืองอุเบะ (Ube) มีทั้งสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางแจ้ง และสวนดอกไม้ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ซากุระกว่า 3,000 ต้นผลิบานเต็มสวน อีกทั้งดอกอาซาเลีย, ไฮเดรนเยีย ให้ชมในแต่ละฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีเรือพาย มุมปิกนิก และเทศกาลแสดงไฟในช่วงซัมเมอร์

  • เวลาทำการ: สวนเปิดตลอดวัน (โซนสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ 9:30–17:00)
  • วันหยุดทำการ: สวนเปิดทุกวัน / โซนพิพิธภัณฑ์ปิดวันอังคาร / เรือพายมือ (เรือเช่า) หยุดให้บริการชั่วคราวในขณะนี้
  • ค่าเข้าชม: เข้าสวนฟรี / โซนสวนสัตว์และเรือพายมีค่าบริการแยก
  • การเดินทาง: จาก JR Tokiwa เดินประมาณ 10 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


14. ศาลเจ้าคาสึกะ (Kasuga Shrine)

ศาลเจ้าคาสึกะ ตั้งอยูที่เมืองโฮฟุ (Hofu) เป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ตั้งแต่ยุคเฮอัน สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพแห่งความสำเร็จและการคุ้มครอง มีประตูโทริอิ บันไดหิน และป่าไม้ร่มรื่นที่ให้ความสงบ รอบๆ ศาลเจ้ามีเส้นทางเดินชมธรรมชาติ โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิที่มีซากุระและดอกบ๊วยบานสะพรั่ง ช่วงต้นปีจะมีงาน Oni Matsuri เทศกาลขับไล่ปีศาจ ซึ่งเป็นงานพื้นเมืองสำคัญของเมือง

  • เวลาทำการ: 6:30–17:30
  • วันหยุดทำการ: เปิดทุกวัน
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Hofu นั่งรถบัสลงป้าย Kasuga Jinja-mae ใช้เวลา 15 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด


15. วัดอามิดะจิ (Amidaji Temple)

วัดอามิดะจิ เป็นวัดพุทธที่มีประวัติยาวนาน สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1187 เพื่ออุทิศถวายแด่จักรพรรดิ โกะ-ชิราคาวะ มีชื่อเสียงในฐานะ “วัดดอกไฮเดรนเยีย” เพราะในเดือนมิถุนายน ดอกไฮเดรนเยียกว่า 4,000 ต้นบานสะพรั่งทั่วพื้นที่วัด นอกจากนี้ภายในยังมีสมบัติทางศิลปะ หอพระเก่าแก่ และวิวภูเขาที่ให้ความสงบเงียบร่มเย็น

  • เวลาทำการ: 9:00–17:00 (เข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ถึง 16:30)
  • วันหยุดทำการ: เปิดทุกวัน
  • ค่าเข้าชม: ปกติฟรี / ช่วงเทศกาลไฮเดรนเยีย เก็บ ¥200–400 ต่อคน
  • การเดินทาง: จาก JR Hofu นั่ง Bocho Bus ลงป้าย Amidaji ใช้เวลา 20 นาที
  • เว็บไซต์
  • พิกัด

หมวดหมู่: ,

Ads

Facebook

— — — — —

WEATHER

Useful information for Thai traveling in JAPAN.

ข้อมูลท่องเที่ยวสำหรับคนไทย ใจรักญี่ปุ่น

ติดต่อร่วมงาน contact@tiewyeepoon.com