เดินทางมาถึงรีวิวสุดท้ายของทริป “ตะลุยโตเกียว เที่ยวย่านฮิป 3 วันด้วยรถไฟ” กันแล้ว จากรีวิวก่อนหน้านี้ที่เราพาไปเดินเที่ยวเล่นกันที่ย่าน Ebisu, Daikanyama, Nippori, Yanaka และ Nezu เป็นที่เรียบร้อย สำหรับรีวิวนี้ขอเอาใจนักกิน นักช้อป ที่ชอบอะไรฮิปๆ กันที่ย่าน Kichijoji และย่านเด็กแนว Shimokitazawa
สำหรับรีวิวแรก >> ตะลุยโตเกียว เที่ยวย่านฮิป 3 วัน ด้วยรถไฟใต้ดิน ตอน 1: Ebisu-Daikanyama
สำหรับรีวิวที่สอง >> ตะลุยโตเกียว เที่ยวย่านฮิป 3 วัน ด้วยรถไฟ ตอน 2 : Nippori-Yanaka-Nezu
รอบนี้เดินทางไปโตเกียวด้วยสายการบิน Scoot ของสิงคโปร์ ที่ทำการบินโดยใช้เครื่องบินแบบ Boeing 787-8 Dreamliner จากสนามบินชางฮี ประเทศสิงคโปร์ มารับผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมือง แล้วบินตรงสู่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น สามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่ >> บินสบาย นั่งดรีมไลเนอร์ ไปโตเกียว กับ Scoot จากดอนเมืองสู่นาริตะ
หลังจากเราเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะเป็นที่เรียบร้อย ก็เตรียมตัวเดินทางเข้าสู่โตเกียว ด้วยรถไฟ Keisei Skyliner พร้อมกับซื้อบัตรเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน Tokyo Subway Ticket แบบ 72 ชม. ราคาเพียงแค่ 5400 เยน (รวมค่ารถไฟเที่ยวกลับ)
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับตั๋วที่นี่ >> เที่ยวโตเกียวจากสนามบินนาริตะ ด้วยตั๋วชุดพิเศษ Keisei Skyliner & Tokyo Subway Ticket ราคาสุดประหยัด
สำหรับวันนี้ขอเอาใจขาช้อป แนะนำ Kichijoji และ Shimokitazawa สองย่านเที่ยวง่าย จากสถานี Shibuya ด้วยรถไฟ Keio ย่านการค้าที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งอาหารการกินแบบร้านต้นตำรับดั้งเดิมที่มักจะเห็นคนต่อคิวรอกันยาวเหยียด ร้านขายของจิปาถะในแบบเฉพาะตัว ที่จะหาได้จากที่นี่เท่านั้น
การเดินทาง เริ่มต้นที่ สถานี Shibuya เดินทางด้วยรถไฟ Keio สาย Inokashira จะสะดวกที่สุด ไม่ต้องกลัวว่าจะหลง เพราะนั่งไปจนสุดสายลงที่สถานีปลายทาง Kichijoji ใช้เวลาประมาณ 17 นาที สายนี้จะไม่รวมในบัตร Tokyo Subway Ticket ต้องซื้อตั๋วเพิ่ม ราคา 200 เยน
เริ่มต้นกันที่ คิจิโจจิ (Kichijoji) เมื่อออกจากสถานีจะพบกับถนนสาย Sun Road ย่านการค้ามีหลังคาคลุม ไม่ต้องกลัวฝนหรือจะร้อน ด้านในเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารอัดแน่นตลอดสองข้างทาง ที่นี่คือสวรรค์สำหรับนักช้อปอีกแห่งเลยก็ว่าได้ มาที่เดียวได้ของกลับไปครบแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นร้านขายยาและเครื่องสำอางค์ Matsu-Kiyo ร้ายขายของมือสอง Mode Off ที่เห็นสภาพและราคาแล้วแทบอยากจะเหมาให้หมด ห้างขายเครื่องใช้ไฟฟ้า Yodobashi Camera และร้านที่คุ้นเคยกันดีอย่าง Loft และ Muji
เดินต่อมาจะพบกับวัดประจำย่านนี้ชื่อว่า วัดเกสโซจิ (Gessoji Temple)
ภายในวัด เงียบสงบ และร่มรื่น
และย่านที่จะพูดถึงไม่ได้คือ ตรอกฮาโมนิก้า (Hamonica Yokocho) รวมร้านค้าสไตล์เรโทร ตั้งอยู่บริเวณด้านทางออกทิศเหนือของสถานี แนะนำว่าร้านของกินอร่อยๆอยู่ในตรอกนี้เพียบ สำหรับร้านเจ้าดังต้องอดใจต่อคิวกันซักนิด ช่วงเย็นจะคึกคักมาก
จากย่าน Kichijoji สามารถเดินต่อไปยังย่าน Inokashira ที่สามารถไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนอิโนคะชิระ (Inokashira Park) และ พิพิธภัณฑ์จิบลิ (Ghibli Musuem) ได้ด้วย หรือจะเลือกขึ้นรถไฟ Keio สายเดิม ย้อนกลับมาที่ สถานี Shimo-Kitazawa ใช้เวลาประมาณ 11 นาที ราคา 180 เยน
ชิโมะคิตะซะวะ (Shimo-Kitazawa) อีกหนึ่งย่านฮิปของบรรดาเด็กแนว เราจะเห็นถึงสไตล์ความวินเทจเฉพาะตัว เต็มไปด้วยร้านรวงมีสไตล์ ร้านค้ามือสอง คาเฟ่ ซาลอน และกำแพงกราฟฟิตี้ ย่านนี้เต็มไปด้วยวัยรุ่นที่มักจะมาเดินเล่น นั่งสังสรรค์กันที่คาเฟ่ในช่วงวันหยุด
บรรดาร้านรวงต่างๆในย่านนี้
ร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าวินเทจ ดังนั้นร้านขายสินค้ามือสองในย่านนี้จะเยอะมากๆ ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่ขอแนะนำเนื่องจากสินค้าสภาพดีมากๆ บางชิ้นยังเป็นสินค้าใหม่อยู่เลย
บรรยากาศน่ารัก มีมุมให้ถ่ายรูปเพลินๆ
ร้านขนมญี่ปุ่นโบราณแบบดั้งเดิม
ปิดท้ายด้วยภาพกราฟิตี้ให้สมกับฉายาย่านฮิปของบรรดาเด็กแนว
แล้วคราวหน้า เราจะพาไปเจาะย่านฮิปๆของโตเกียวกันอีกนะครับ
สุดท้านี้ถ้าใครอยากสัมผัสเสน่ห์ของชิโมะคิติซะวะอย่างแท้จริง แนะนำให้เดินทางมาชมงานเทศกาลเทนงู (Tengu matsuri) ช่วงปลายเดือนมกราคม ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ อ่านรายละเอียดงาน >> Shimokita Tengu
ขอบคุณภาพจาก 下北沢一番街商店街振興組合