วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์เดินทางไปเที่ยว เอโนชิมะ (Enoshima) เกาะเล็ก ๆ สุดชิลล์ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว บอกเลยว่าใครอยากพักจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ แต่ก็ไม่อยากเดินทางไกล ที่นี่ตอบโจทย์มาก ๆ เพราะนอกจากวิวทะเลสวยๆ แล้ว ยังสามารถมองเห็นฟูจิซังจากที่นี่ได้อีก และมีสถานที่เที่ยวให้อีกเพียบ!

การเดินทาง: จากสถานี Shinjuku ขึ้นรถไฟสาย Odakyu Line (Rapid Express) วิ่งตรงไปยังสถานี Katase-Enoshima ใช้เวลาเดินทางประมาณ 70 นาที

แนะนำใช้ Enoshima-Kamakura Freepass เป็นพาสสุดคุ้ม 1 วัน ที่รวมค่าเดินทางไปกลับจากชินจูกุถึงเกาะเอโนชิมะ และยังใช้เดินทางกับ รถไฟ Enoden (รถไฟที่วิ่งริมทะเล) ไปเที่ยวที่คามาคุระต่อได้ด้วย
เงื่อนไขตั๋วโดยสาร Enoshima-Kamakura Freepass
・รถไฟสายโอดะคิว: ใช้เดินทางระหว่างสถานี Fujisawa และ Katase-Enoshima ได้ ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว
・รถไฟท้องถิ่นสาย Enoden: สามารถนั่งได้ ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ตลอดเส้นทาง
・ได้ส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะเอโนชิมะอีกด้วย
หมายเหตุ:ราคา 1,640 เยน (ราคาอาจแตกต่างกันตามสถานีต้นทาง)

เมื่อถึงทางเข้ารถไฟสายโอดะคิวที่สถานีชินจูกุ ให้สังเกตกล่องสีขาวหรือสีเหลืองที่ประตู จากนั้นเพียงแสกน QR Code บนตั๋วดิจิทัลฟรีพาสก็สามารถเข้าใช้งานได้เลย สะดวกและง่ายมากๆ! ※ ด้านในสถานี Shinjuku มีประตูทางเข้าของผู้ให้บริการรถไฟหลายสาย ต้องมองหาทางเข้าของสาย Odakyu ให้ดี

หลังจากนั่งรถไฟมาแบบเพลินๆ ใช้เวลาประมาณ 70 นาที ก็ถึงสถานี Katase-Enoshima

เมื่อออกจากสถานี Katase-Enoshima ก็จะเจอสะพานที่เชื่อมไปยังเกาะเอโนชิมะ ได้บรรยากาศริมทะเล ลมพัดเย็นสบาย เดินเพียงไม่นานก็ถึงเกาะแล้ว

ในวันที่อากาศดี สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากจุดนี้ได้

ทางเข้าสู่เกาะเอโนชิมะ
จุดหมายแรกของเราคือ ศาลเจ้าเอโนชิมะ (Enoshima Shrine) ศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์บนเกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าสององค์ ผู้คนมักมาสักการะเพื่อขอพรในเรื่องความมั่งคั่ง สุขภาพ และความรัก

ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ได้ทั้งชมวิวและขอพรในที่เดียวกันค่ะ หากใครเดินขึ้นไม่ไหว บนเกาะมี Escar (บันไดเลื่อน) ให้บริการ ช่วยให้ขึ้นไปได้อย่างสบาย ๆ โดยมีทั้งหมด 3 ระดับ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเล็กน้อย โชคดีที่ครั้งนี้เรามี Enoshima-Kamakura Freepass ทำให้ได้ส่วนลดค่าบันไดเลื่อนด้วย

หลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสร็จเรียบร้อย ก็ออกไปสำรวจเกาะต่อ ระหว่างทางเห็นคนเดินถือขนม Seafood Senbei (ข้าวเกรียบรวมทะเล) ดูน่ากินมาก ยิ่งเดินไปก็ยิ่งได้กลิ่นหอม ๆ ของอาหารทะเลลอยมา ต้องขอลองชิมสักหน่อย! ต้องบอกว่า แผ่นนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ อัดแน่นไปด้วยปลาหมึก กุ้ง และหอยตัวใหญ่เต็มคำ ยิ่งกินยิ่งเพลิน รสชาติซีฟู้ดเต็ม ๆ
จุดหมายต่อไปอยู่ที่ด้านหลังของเกาะเอโนชิมะ คือ ถ้ำอิวายะ (Iwaya Cave)
ถ้ำแห่งนี้เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นทะเลเป็นเวลานับปี ตั้งอยู่ปลายสุดของทางเดินเลียบชายฝั่ง โดยภายในถ้ำถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ว่ากันว่าในยุคเอโดะ ถ้ำแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมากมายมาสักการะ ซึ่งทั้งสองส่วนมีบรรยากาศเย็นสบายและเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสธรรมชาติและค้นพบความลึกลับที่ซ่อนอยู่บนเกาะ

หลังจากเดินชมวิวเลียบชายฝั่งและสำรวมความงามของถ้ำแล้ว ก็ถึงเวลาของมื้อเที่ยงพอดี ที่เกาะเอโนชิมะ มีหลากหลายเมนูที่สะดุดตาและชวนให้อยากลอง หนึ่งในนั้นคือ ‘ชิราสุด้ง’ หรือข้าวหน้าปลาชิราสุ ที่เลื่องชื่อ และพิซซ่า ‘บีอังก้า’ ที่นำชิราสุมารังสรรค์เป็นความอร่อยสุดพิเศษ!

ปลาหมึกย่างและอาหารทะเลย่างอื่นๆ มีกลิ่นหอมเย้ายวน น่าลองมากๆ

ระหว่างทางเดินมาถ้ำอิวายะ สังเกตเห็นหลายร้านแนะนำ Sazae Oyako Don หรือ “ข้าวหน้าหอยสังข์กับไข่” เมนูนี้มีพระเอกหลักคือ หอยสังข์ญี่ปุ่น ซึ่งนำมาปรุงกับไข่และเครื่องปรุงรส ก่อนราดลงบนข้าวสวยร้อนๆ ให้รสชาติกลมกล่อมและหอมอร่อย

ไปต่อกันที่ Enoshima Sea Candle ประภาคารชมวิวสูงเด่นที่เป็นไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งของเกาะ ขึ้นไปแล้วจะเห็นวิวรอบ ๆ เกาะ รวมถึงภูเขาไฟฟูจิในวันที่ฟ้าเปิด ภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ มองไปทางไหนก็รู้สึกสดชื่นและสบายตา นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนยังมีการจัดแสดงไฟสุดตระการตา เพิ่มบรรยากาศโรแมนติกอีกด้วย

ก่อนจะเดินทางออกจากเกาะ มีอีกหนึ่งเมนูที่อยากให้ทุกคนได้ลองคือ ชิราสุปัง (Shirasu Pan) ขนมปังที่มีไส้เป็นชิราสุ (ของขึ้นชื่อประจำที่นี่) ผ่านการปรุงให้สุก และมาผสมกับเครื่องปรุงรส เช่น มายองเนสหรือชีส เพื่อเพิ่มรสชาติ ได้ทั้งความหอมของขนมปังและรสเค็มนิดๆ และที่เอโนะชิมะยังมีขนมหวานน่าทานอีกมากมาย เช่น ไอศกรีมโมนากะ และ เฟรนช์โทสต์

ถ้าไปในวันที่อากาศดี แนะนำให้ไปยังจุดชมวิวแล้วมองออกไปยังชายฝั่ง จะมองเห็นวิวของภูเขาไฟฟูจิ คู่กับทะเลที่สวยจนต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเลย

นอกจากใช้พาส Enoshima-Kamakura Freepass เดินทางมาเที่ยวเกาะเอโนชิมะได้สะดวกสบายจากโตเกียวแล้ว ยังได้ส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ อีกด้วย แนะนำว่าพกน้ำและใส่รองเท้าที่เดินสบายมากันนะ เพราะบนเกาะมีเนินเยอะ
ไหน ๆ ก็มีพาสอยู่ในมือแล้ว สามารถเดินทางต่อไปยัง คามาคุระ (Kamakura) โดยนั่งรถไฟสาย Enoden และแวะลงที่ สถานี Inamuragasaki ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชมวิวชายทะเลที่สวยงามมาก
แนะนำของฝากยอดนิยมจากเอโนะชิมะที่ไม่ควรพลาด
- เครื่องรางจากศาลเจ้าเอโนชิมะ มีชื่อเสียงในเรื่องการเสริมดวงความรักและความสัมพันธ์ โดยเฉพาะ “มุซุบิโนะซุซุ” (ระฆังแห่งโชคดี) ที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยนำพาความรักที่ดีมาให้ได้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางลายคลื่นทะเลหรือมังกร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงความเป็นเอโนะชิมะได้อย่างลงตัว
- สินค้าธีมรถไฟเอโนะเด็น (Enoden) ของฝากที่ใช้รถไฟเอโนะเด็นเป็นแรงบันดาลใจ เช่น อุปกรณ์เครื่องเขียน พวงกุญแจ โมเดลรถไฟ และเสื้อยืด ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายของฝากในสถานีเอโนะชิมะหรือสถานีฟูจิซาวะ
- งานแก้วประดิษฐ์จากเอโนชิมะ เช่น เครื่องประดับและแก้วน้ำ ซึ่งมีลวดลายเกี่ยวกับตำนานเทพเจ้าเบ็นไซเท็น มังกรเทพเจ้า และเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด ถือเป็นของฝากสุดพิเศษที่แสดงถึงเรื่องราวและตำนานในพื้นที่เอโนะชิมะได้เป็นอย่างดี