ในบรรดาผู้คนที่สนใจในประเทศญี่ปุ่นหรือชอบไปท่องเที่ยว ณ แดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้ พูดได้เลยว่าทุกคนต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อ “ฟูจิซัง” หรือ ภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาไฟที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น แต่จะมีซักกี่คนที่จะเคยขึ้นไปเหยียบบนยอดฟูจิซัง ที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 3,776 เมตร วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังค่ะว่า การเดินเท้า (บวกกับการปีนป่ายด้วย) ขึ้นไปถึงที่สูงถึงสามพันกว่าเมตรเหนือระดับน้ำทะเลมันเป็นยังไง

ต้องระลึกความหลังไปเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2011 เรากับเพื่อน 5 คน ได้ตัดสินใจไปปีนภูเขาไฟฟูจิกัน

เล่าคร่าวๆก่อนว่า ภูเขาไฟฟูจินั้น เค้าจะเปิดให้คนขึ้นไปปีนได้ช่วงเดือนกรกฎา-สิงหาคมค่ะ ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่น เดือนอื่นจะขึ้นไปไม่ได้ เพราะข้างบนมันจะเป็นน้ำแข็ง เหมือนที่เวลาเรามองจากเครื่องบินแล้วเห็นฟูจิซังเป็นสีขาวนั่นแหละค่ะ อย่างนั้นเลย

วิธีในการไปปีนฟูจิซังมีสองแบบ คือ
1. เลือกไปกับทัวร์ (คนญี่ปุ่นทั้งทัวร์ มีไกด์ด้วยค่ะ)
2. ไปเองเลย (ส่วนใหญ่คนต่างชาติก็ไปกันเองนี่แหละค่ะ)

ตอนแรกเรากะเพื่อนๆ ก็ว่าจะไปกับทัวร์เพราะเค้าเตรียมให้ทุกอย่างเลย รถเอย อุปกรณ์การปีนเอย รวมทั้ง ที่พักระหว่างทางขึ้นไปถึงยอดฟูจิซังด้วย แต่เราเลือกไปเองค่ะ เพราะว่าเป็นมือใหม่ไง ไม่เคยปีนเขาที่ไหน ถ้าไปกับทัวร์ เราต้องเดินและปีนตามมาตรฐานคนส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าเราไม่ไหว ก็ต้องพยายามเดินให้ทันเขา แต่เราอยากไปแบบชิวๆไม่ต้องรีบ เดินเรื่อยๆ อยากหยุดก็หยุด อยากนั่งพักก็นั่งพัก คุยกับเพื่อนไปเดินไป สนุกดี 🙂

5th_station_fuji2

การเตรียมตัว
1. เลือกวันที่เราว่างและพร้อมมากที่สุด!! ก่อนหน้านั้นก็ออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆ ไปน้า ให้ร่างกายเราชิน เพราะว่าปีนฟูจิซังนี่มันเป็นอะไรที่โหดเรียกพี่อยู่เหมือนกันค่ะ
2. เราไปเอง เลยต้องจองรถไป ไม่ยากๆ ใครมาเที่ยวโตเกียวแล้วอยากไปฟูจิซัง ก็นั่งรถทัวร์ค่ะ ต้นสายจะเริ่มจากชินจูกุ (Shinjuku station) รถทัวร์นี้มันจะจอดตามสเตชั่นต่างๆด้วย จะมีตารางเวลาบอกตามเว็บไซต์นี้นะคะ http://highway-buses.jp/ ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมงครึ่งจากชินจูกุ ลงที่ “Mt.Fuji 5th Station”

[box type=”shadow” align=”aligncenter” ]เล่าต่ออีกนิด รถเนี่ยค่ะ จะพาเราไปส่งที่ฟูจิซังชั้นที่ห้า (五号目 หรือ โกะโกเมะ) อะไรคือชั้นที่ห้า?? ชั้นที่ห้าเป็นชั้นที่เป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมการปีนฟูจิซังค่ะ ที่ชั้นที่ห้านี้จะมีร้านอาหาร ห้องน้ำ ที่ขายอุปกรณ์ปีนเขา ร้านขายโปสการ์ด แล้วก็เป็นที่จอดรถบัสนี่แหละ บางคนแค่ขึ้นไปชมวิวจากชั้นที่ห้าก็กลับ แต่เราไม่กลับค่า เราไปกันต่อเลย ^^[/box]

ที่จอดรถ ณ ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5

5th_station_fuji_carpark

 บริเวณร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก

5th_station_fuji

 3. เตรียมอุปกรณ์!! ได้แก่..

  • เสื้อกันหนาว (ตอนเราไป ข้างล่างอากาศ 25องศา ขึ้นไปข้างบน 1 องศาค่ะ)
  • หมวกกับครีมกันแดด
  • ไม้ค้ำยัน (อันเดียวก็ได้สองอันก็ได้ แต่แนะนำว่าอันเดียว เพราะบางจุดเราต้องใช้มือปีน แล้วมันจะแอบเกะกะค่ะ)
  • ถุงมือ (เอาไว้ใช้เวลาปีนป่านพวกหินค่ะ)
  • ชุดเอาแบบที่เหมาะกะตัวเอง ใส่แล้วเดินสบาย กับรองเท้า (ถ้ามีรองเท้าปีนเขาโดยเฉพาะก็จะดีมากเลยค่ะเพราะ ตอนขาลง จะเป็นการเซฟข้อเท้าที่ดีมากถ้าใส่รองเท้าปีนเขา)
  • ยา ยาดม ยาหม่อง
  • ของกิน น้ำ เราเอาพวกข้าวปั้นขึ้นไปเผื่อหิวค่ะ กับน้ำ1-2ขวด
  • Oxygen กระป๋อง มีขายที่ชั้นที่ห้านะคะ ยิ่งเราขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อยๆ อากาศจะเบาบางมาก มันจะหายใจไม่ค่อยออก ไอเทมนี้ช่วยเลย ฉีดเข้าจมูก หายใจเข้า ช่วยได้เลยนะ (เพื่อนเราคนนึงได้ใช้ด้วย แบบหายใจไม่ออกตอนระหว่างชั้นที่เก้าก่อนถึงยอด)
  • ไฟฉาย ไม่ใช่ไฟฉายธรรมดา แต่เป็นไฟฉายที่ติดไว้ที่ศีรษะได้ค่ะ เวลามืดๆนี่ต้องใช้เลยนะ เพราะมันมองทางไม่ค่อยเห็น
  • อื่นๆ เช่น กระดาษทิชชู่ แว่นตากันแดด ผ้าพันคอ

ที่นี้มาเรื่องประสบการณ์ของเราในการปีนฟูจิซังกันต่อ เราจองรถเพื่อให้ไปถึงที่เริ่มต้นของการปีนภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งก็คือ ชั้นที่ 5 ประมาณบ่ายๆ เริ่มต้นเดินขึ้นประมาณบ่ายสองครึ่ง จริงๆแล้วปกติคนอื่นจะเริ่มต้นช้ากว่านี้นะคะ เพื่อไปให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่เรากับเพื่อนเผื่อเวลาไว้ เพราะว่ากลัวจะเดินช้า อีกอย่างคืออยากจะเผื่อเวลาไว้เพื่อที่ว่า ถ้าเหนื่อยแล้วอยากหยุดพักตรงไหนก็จะหยุด ไม่ต้องรีบมาก

Minto: Before Climbing Mount Fuji

ภูเขาไฟฟูจิจะมีหลายทางให้เดินขึ้น ทางที่เราไปขึ้นเรียกว่า Yoshida trail ค่ะ เป็นทางที่ขึ้น(เค้าว่ากันว่า..)ง่ายที่สุด เลยเลือกทางนี้

Yoshida Trail Info Board

yoshida trail

แต่หนทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ.. ทางเดินระหว่างขึ้นไปบนยอดมันเป็นลูกรัง ยิ่งตอนมืดๆจะยิ่งเดินยากมาก เพราะมองไม่ค่อยเห็น

fujisan_yoshida_trial

fujisan_yoshida_trial

fujisan_yoshida_trial

โชคดีมากที่วันที่ไปนั้นอากาศค่อนข้างดีมาก ไม่มีฝน มีแดดพอดีๆ วิวที่มองจากข้างบนนั้นเลยสวยมากๆ เพราะท้องฟ้าใสปิ๊ง

fujisan_view

fujisan_view

ฮึบๆ สู้เค้า สี่คนนี้คือผู้ร่วมทางของเราค่า ^^

fujisan_view

แปลว่า… ที่ระลึกในการปีนภูเขาไฟฟูจิ 🙂

fujisan_stick

 เค้าบอกว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาว ที่นี่.. ยิ่งสูงทางยิ่งชัน

climbing fujisan view

climbing fujisan view

climbing fujisan view

แต่ระหว่างทางที่ยากลำบาก ก็ยังคงมีสิ่งงดงามให้เราชื่นชม : )

flower_at_fujisan

ตอนนี้มาถึงชั้นที่ 7 แล้วค่า

7th_station_fuji

พอถึงประมาณชั้นที่ 8 -9 ฟ้าก็เริ่มมืดลงเรื่อยๆ มองเห็นทางไม่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ อุปกรณ์ที่จำเป็นของเราก็ได้ใช้แล้วค่ะ คือ ไฟฉาย แบบติดที่ศีรษะ จะช่วยให้เรามองเห็นทางมากขึ้น ยิ่งมืดยิ่งต้องเดินระวังๆและมีสติในการเดินมากๆนะคะ เพราะข้างบนนั้นมันค่อนข้างเดินลำบากและอันตรายอยู่พอสมควรค่ะ

ระหว่างทางที่เราเดินขึ้นไปนั้น จะมีที่หยุดพักตามแต่ละชั้น เช่นที่ชั้น 7 , 8 และ 9 ก็จะมีร้านค้า ห้องน้ำเล็กๆ และเป็นเหมือนบ้าน (จริงๆแล้วน่าจะเรียก เพิง มากกว่า) เล็กๆให้นั่งพักหรือนอนพัก ที่นอนพักก็จะเป็นแบบนอนพอดีตัวเลย เนื้อที่จำกัดมากๆ พวกนี้มีค่าใช้จ่ายค่ะ มีให้เลือกแบบนั่งพักและนั่งหลับไม่กี่ชั่วโมง กับ นอนพักเหยียดยาวเลย และบางทีที่พักพวกนี้จะเต็ม ทางที่ดีควรจะจองทางเว็บไซต์ของแต่ละที่พัก เลือกได้ว่าอยากพักที่ชั้นไหน แต่ว่าเรากับเพื่อนเดินไปแบบไม่ได้นอน เดินขึ้นไปเรื่อยๆ นั่งพักทานเครื่องดื่มอุ่นๆบ้างตามทาง

แก้วนี้ประมาณ 400 เยนค่า ยิ่งสูงยิ่งแพง ^^

hotdrink_fuji

อย่างที่เขาว่า ระหว่างทางนั้นสำคัญกว่าจุดหมาย ระหว่างทางที่เราขึ้นไปนี้เจอคนมากมาย บางคนได้นั่งคุยกัน ที่ประทับใจที่สุดคือ คุณตาชาวญี่ปุ่นอายุประมาณ 80-90 ปีได้ คุณตาบอกว่ามาคนเดียว เราเลยถามว่ามากี่ครั้งแล้ว คุณตาบอกว่านี่ประมาณครั้งที่ 18 คุณตามาคนเดียว บอกว่าไม่อยากให้คนอื่นมาด้วยเพราะตัวเองเดินช้า ถ้าคนอื่นมาต้องมารอ เลยมาคนเดียวดีกว่า แล้วต่อจากนี้ตั้งใจว่าจะมาปีนภูเขาไฟฟูจิอีกปีละครั้ง เป็นบทสนทนาในช่วงเวลาแป๊ปเดียวที่ทำให้เกิดความรู้สึกอะไรมากมายจริงๆ ประทับใจ ตื้นตัน มากมายบอกไม่ถูก แลทำให้เกิดแรงฮึดอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที พอพวกเราหายเหนื่อยก็เลยแยกย้ายจากคุณตา ขอให้คุณตาสุขภาพแข็งแรง กลับมาหาฟูจิซังได้ทุกๆปี 🙂

ตรงนี้เป็นชั้นที่ 8.5 ค่ะ อีก 500 เมตรถึงชั้นที่ 9 และอีก 900 เมตรถึงจุดหมายค่า

8-5th_station

เราเดิน(+ปีน)ไปเรื่อยๆ ยื่งสูงมากเท่าไร ยิ่งหนาว ลมแรงมากๆๆๆด้วย นอกจากนี้ อากาศยังเบาบางมากๆด้วยค่ะ อ๊อกซิเจนกระป๋องที่เรานำมาจะได้ใช้ก็คราวนี้แหละค่า แล้วก็จำได้เลยว่าช่วงระหว่างชั้นที่ 8 ถึง 9 มองขึ้นไปจากชั้นที่ 8 เหมือนเราเห็นแสงไฟที่ชั้นที่ 9 อยู่บนหัวเลย เพราะมันชันมากๆๆๆ ระหว่างทางชั้นที่ 9 ถึงยอดเขา จะเป็นช่วงที่ปีนยาก เพราะมันต้องปีนจริงๆ แล้วทางจะแน่นมากระหว่างชั้นที่ 9 ถึงยอด เพราะคนรีบปีนขึ้นไปดูพระอาทิตย์แรกของวันกัน ..

และแล้วความพยายามของเราก็บรรลุเป้าหมายค่ะ

เชื่อไหมว่า ก้าวแรกที่ได้เหยียบยอดเขาที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นแห่งนี้ ความเหนื่อยล้าทุกอย่างมันได้กลับกลายเป็นความประทับใจและภูมิใจอย่างอธิบายไม่ได้ ไม่เคยคิดเลยว่าภูเขาไฟที่เราได้แต่มองมาจากที่ไกลๆในโตเกียวนั้น วันนั้นเราจะได้ขึ้นไปถึงยอด.. นึกย้อนไปแล้วก็คิดถึงมากๆ

ตอนที่ขึ้นไปนั้นเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้นพอดี แต่น่าเสียดายนิดหน่อยที่เข้าวันนั้นหมอกค่อนข้างหนา ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ไม่ชัดเท่าไรนัก แต่แค่นี้ที่พวกเราได้พิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นนี้ ก็เป็นอะไรที่ปลื้มสุดๆ แล้วค่ะ ^^

และอย่างที่บอก บนฟูจิงซังเป็นอะไรที่หนาวมากๆค่ะ อากาศประมาณ 1 องศาเซลเซียส ข้างบนนั้นจะมีร้านค้า ขายพวกเครื่องดื่มร้อน อุด้ง อาหารต่างๆ นอกจากนี้ยังมี ร้านขายไปรษณียบัตรให้ส่งบันทึกเป็นความทรงจำด้วยค่ะ เราสามารถหย่อนไปรษณย์ที่ตู้ไปรษณีย์ที่นั่นหรือจะลงมาส่งที่ชั้นที่ 5 ก็ได้ค่ะ พอขึ้นไปถึงยอดเขาแล้วเห็นร้านค้าพวกนี้ สงสัยเหมือนกันนะว่า เขาขึ้นกันมาได้ยังไงเนี่ย! ^^

เราอยู่บนนั้นซักพักให้พอคลายความเหนื่อย ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,776 เมตร สูดอากาศบริสุทธิ์ของที่นั่นกันให้เต็มปอด

ทีนี้มาถึงขาลงค่ะ ขาลงไม่ยากเท่าขาขึ้น เพียงแต่ว่าต้องใส่เบรกที่เท้าให้ดีๆ และทางเป็นลูกรังแดงๆ เดินยากพอสมควร เราใช้เวลาเดินลงประมาณ 3-4 ชั่วโมง ขาลงนี้ไม่ยาก แต่ว่าเจ็บปวดค่ะ เพราะต้องเกร็งขาและเท้าตลอดเวลา แนะนำว่า ใครมีรองเท้าปีนเขาให้เอามาเพื่อขาลงนี้เลยนะคะ เพราะจะทำให้เดินได้ดีกว่ารองเท้าผ้าใบปกติค่ะ

พอลงมาถึงจุดเริ่มต้น ซึ่งก็คือ ชั้นที่5 พวกเราก็ไปหาอะไรรับประทานกันนิดหน่อย มีขนมอันหนึ่งที่อย่างแนะนำ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังมีขายอยู่หรือเปล่า เป็นเมล่อนปัง ทรงภูเขาไฟฟูจิค่ะ น่ารักมากๆ

fuji_melonpun

melonpunshop_5

 หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถกลับกันค่ะ จองรถไว้รอบเที่ยง อ้อ อย่าลืมนะคะ ต้องจองรถทั้งขาไปทั้งขากลับนะคะ เดี๋ยวขากลับไม่ได้กลับน้า ฮ่าๆ พอกลับถึงที่พักเท่านั้นค่ะ สลบเลย นอนยาว รู้สึกเหมือนขากำลังจะแตกเป็นเสียงๆเลยค่า ฮ่าๆๆ

ประสบการณ์ครั้งนี้… บอกได้เลยว่า เหนื่อยค่ะ เหนื่อยที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ ฮ่าๆๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่ได้คือ ความประทับใจ และ ความภูมิใจ ทุกวันนี้ถ้าใครถามว่า อะไรที่รู้สึกประทับใจที่สุดในการได้ไปอยู่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปี ตอบได้เลยว่า หนึ่งในนั้นคือประสบการณ์การที่ได้ไปปีนภูเขาไฟฟูจิค่ะ ทุกวันนี้พอนึกถึงตอนนั้นก็พลันคิดว่า เออ เราขึ้นไปอยู่ตรงจุดนั้นได้ยังไงนะ เป็นประสบการณ์ที่อเมซิ่งมากๆของชีวิตเลย 🙂