Story & Photo by Pakamon
ก่อนจะเริ่มแบกกล้องเที่ยว ต้องขอขอบคุณผู้มอบโอกาสดีๆ
ครั้งนี้จองไทยแอร์เอเชียร์เอ็กซ์ เส้นทางไปกลับ กรุงเทพ (ดอนเมือง) – โตเกียว (นาริตะ) มีให้เลือก 3 เที่ยวบินต่อวัน
- ขาไป DMK-NRT 04.25-12.40 / 10.45-19.00 / 23.45-08.00
- ขากลับ NRT-DMK 09.15-14.05 / 13.55-19.05 / 20.15-01.25
การเดินทางจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 วัน
- วันที่ 1: Tokyo
- วันที่ 2: Ibaraki – Hitachi seaside park
- วันที่ 3: Nagano – Kamikochi
- วันที่ 4: Back to Tokyo
- วันที่ 5: Yamanashi – Kawaguchiko & Saiko
- วันที่ 6: Yamanashi – Kawaguchiko
- วันที่ 7: Niigata – Mount Naeba
DAY 1 – Tokyo
วันแรก (17 ตุลาคม 2561)
เริ่มต้นวันชิวๆ teamLab Borderless, Tokyo จุดหมายนี้เป็นที่ที่ตั้งใจ
- ราคาบัตร : ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป) 3,200 เยน / เด็ก (4-14 ปี) 1,000 เยน
- เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ 10.00-19.00 น. / วันเสาร์, อาทิตย์และวันหยุด 10.00-21.00 น. / จะปิดให้บริการในวันอังคาร สัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน
- สถานที่จัดงาน : MORI Building DIGITAL ART MUSEUM
- วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่ Tokyo Teleport Station (Rinkai Line), Aomi Station (Yurikamome Line) เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
“Forest of Flowers and People: Lost, Immersed and Reborn” มุมนี้หากเราไปยืนนิ่งๆ ดอกไม้จะค่อยๆ เบ่งบานรอบตัวเรา แต่หากเราไปสัมผัสที่ดอกไม้
“Universe of Water Particles on a Rock where People Gather” จุดนี้น่าจะเป็นไฮไลต์สำหรั
“Forest of Resonating Lamp” เป็นห้องที่เต็มไปด้วยโคมไฟ
“The Haze” เป็นงาน Light Sculpture เป็นห้องมืดที่เหมือนไม่มีอ
“Weightless Forest of Resonating Lift” เมื่อเราไปสัมผัสกับวัตถุชิ้นใดชิ้นหนึ่ง สีของมันจะเปลี่ยนไป วัตถุเหล่านี้ล้วนแต่เคลื่อ
“Aerial Climbing through a Flock of Colored Birds”
“Multi Jumping Universe” พื้นที่ที่เป็นตาข่าย เพื่อให้เราลงไปกระโดด ยิ่งกระโดด ดาวดวงเล็กๆ จะเริ่มใหญ่ขึ้น เติบโตขึ้น จนเมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง ดวงดาวเกิดการสลายตัว เป็นการเรียนรู้วงจรของจักร
“Graffiti Flowers Bombing” กำแพงของบันไดที่ทอดยาวไปยั
วันนี้เราเปิดใช้ JR East Pass (Nagano, Niigata) เป็นวันแรก เราจะประเดิมเส้นทางแรกสำหรับพาสนี้ ปลายทางเราอยู่ที่ “Hitachi Seaside Park” เราจะไปดูต้น Kochia กัน
การเดินทาง : นั่งรถไฟจาก Ueno Station ไปลงที่ Katsuta Station
สำหรับ JR East Pass (Nagano, Niigata) สามารถใช้ได้เป็นระยะเวลา 5 วัน แบบไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน แต่มีกำหนดการใช้ภายใน 14 วันหลังจากที่เปิดใช้เป็นวั
ราคา (ซื้อในไทย) : ผู้ใหญ่ 17,000 เยน / เด็ก 8,500 เยน
ราคา (ซื้อในญี่ปุ่น) : ผู้ใหญ่ 18,000 เยน / เด็ก 9,000 เยน
เมื่อออกจาก Katsuta Station เดินออกมาทางขวา แล้วเลี้ยวซ้ายลงบันไดเลื่อ
เราไปยืนรอตั้งแต่ประตูรั้ว
“Kochia” สีแดงสวยๆ
Cosmos ก็มี เบ่งบานสุดๆ
DAY 3 – Kamikochi
วันที่ 3 (19 ตุลาคม 2561)
เรามานอนที่ Matsumoto ตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อเช้าวั
ราคาบัตร : ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปี ขึ้นไป) ไป-กลับ 4,550 เยน เที่ยวเดียว 2,450 เยน / เด็ก (อายุ 6-11 ปี) ไป-กลับ 2,280 เยน เที่ยวเดียว 1,230 เยน
***ก่อนแพลนมาที่นี่ ต้องเช็คให้มั่นใจว่ายังอยู่ในช่วงที่เปิดให้เข้า ในปีนี้เปิดตั้งแต่ 17 เมษายน ถึง 15 พฤศจิกายน 2561***
หลังจากรถบัสเคลื่อนตัวออกม
“Taisho-ike Pond” หมุนตัวมาอีกหน่อย ก็จะได้มุมแบบนี้ เอาเป็นว่ายืนอยู่ตรงนี้ หมุนองศาไหน วิวตรงหน้าก็สวยไปหมด
พอถ่ายรูปจากจุดแรกจนพอใจแล้ว ก็มองซ้ายขวาหาทางเดินต่อไป
เดินมาได้แปบเดียว หันมาทางซ้าย เราก็เจอกับ “Mt. Yakedake”
แม่น้ำ Azusa และ Mt. Yakedake
จุดถัดไป “Tashiro Pond” จุดนี้เป็นอีกจุดที่สวยมาก ช่างภาพมายืนถ่ายภาพตรงนี้กันมากมาย เราต้องหาจังหวะแทรกตัวเบาๆ
วิวระหว่างทางเขียวชะอุ่ม เงียบสงบ เดินอยู่ลำพัง อย่ามีอะไรโผล่มาก็พอ ขี้เกียจวิ่ง 5555
แล้วเราก็ถึง “Tashiro Bridge” ยืนบนสะพานด้านหนึ่งจะเห็นวิวแบบนี้
ยืนบน “Tashiro Bridge” หันมาอีกด้านจะเห็นแบบนี้
เริ่มจะเห็น Japan Alps
เดินข้าม Tashiro Bridge มาแล้วเลี้ยวซ้าย เดินริมแม่น้ำ Azusa มาเรื่อยๆ ก็จะเจอวิวสวยๆ มากมาย วิวนี้พระอาทิตย์เริ่มจะโผล่พ้นภูเขา
แล้วเราก็มาถึง “Kappa Bridge” มองไปทางขวามือ รูปนี้ยังไม่ค่อยเห็น เอาบรรยากาศรวมๆ ไปก่อนนะ
หันหลังมาเก็บภาพอีกนิด งามแท้
กลาง “Kappa Bridge”
เมื่อเรายืนอยู่บน “Kappa Bridge” เราก็จะเห็นวิวของ “Japan Alps” เดินมาถึงตรงนี้ 9 โมงเช้า ทะเลาะกับตัวเองว่าไปไหนต่อ
หลังจากที่ทะเลาะกับตัวเองไ
เส้นทางในป่านั้น ก็ไม่ได้ลำบากจนเกินไปมากนั
ใบไม้ส้ม ใบไม้แดง ก็มี
เดินมาถึงจุดนี้ เริ่มเหนื่อย… แต่มาถึงนี่จะถอยกลับก็ไม่ไ
ถึงแล้วจ้าาา “Myojin Bridge”
มองมาทางซ้ายมือ จะมีทางเข้ามาดู “Myojin Pond” มีค่าเข้า 300 เยน
เดินข้ามสะพาน “Myojin Bridge” มาแล้วขอหันหลังเก็บภาพประท
ออกเดินทางต่อ ระหว่างทางเห็นเหล่าตากล้อง
เจอตรงไหนสวยก็แวะถ่ายรูป เอาตรงๆ หมุนตัว 360 ไม่ว่าตรงไหนก็สวย
ในที่สุดก็เดินกลับมาถึงสะพ
ก่อนจะเดินไปขึ้นรถบัสกลับเ
DAY 4 – Back to Tokyo
วันที่ 4 (20 ตุลาคม 2561)
เปิดวันมาก็ค่ำเลย ถามว่าช่วงเช้า กลางวัน ไปไหนละ ตอบก่อนหนึ่งคำว่า “พัง” ตะคริวกิน 555555 เหตุจากเมื่อวานที่เดินเยอะ
DAY 5 – Kawaguchiko
วันที่ 5 (21 ตุลาคม 2561)
เรานั่งรถไฟจาก Shinjuku Station มาลงที่ Otsuki Station โดยใช้ JR East Pass (Nagano, Niigata) แล้วเปลี่ยนขบวนรถไฟมาลงที่
พอมาถึง Kawaguchiko Station ด้วยพลังงานจากขนมปังและชาน
การเดินทางรอบ Lake Kawaguchiko ในครั้งนี้ เราจะเช่ารถขับ แต่เวลารับรถเป็นช่วงบ่าย ดังนั้นเวลาช่วงเช้าเหลือ เลยนั่งรถบัสรอเวลาไปเรื่อย
รถบัสสายสีแดงมาสุดสายมาลงที่ป้ายสุดท้าย “Kawaguchiko Natural Living Center” ปีนี้ถือว่าโชคดีที่ว่า “หิมะ” มาปกคลุมที่ยอดฟูจิไวกว่าปก
นั่งรถบัสมา “Kawaguchiko Natural Living Center” เพื่อกินไอติมท่ามกลางแดดปร
พอถึงเวลารับรถ เราก็มุ่งตรงไปที่ “Lake Saiko” เป็น 1 ใน 5 ทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้
ขับรถไปไหนก็เจอ “Mt. Fuji”
มายืนรอแสงเย็น มาเที่ยวทีไรไม่มีรูปตัวเอง
ตรงนี้ถ้าเป็นช่วง Sakura จะสวยงามเป็นพิเศษ ช่างภาพมายืนรอตรงนี้กันเยอ
ช่วงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
DAY 6 – Kawaguchiko
วันที่ 6 (22 ตุลาคม 2561)
เช้านี้ตื่นมาตั้งแต่ตีสี่เ
เรือเป็ดมีอยู่ลำเดียวว่าเห
รอไปสักพักก็เห็นเต็มๆ เลยจ้าาา
ฟูจิ กับเหล่าคอสมอสของเธอ
ใบเมเปิ้ลที่เริ่มต้นจะเปลี่ยนสี
ขอถ่ายเงาสะท้อนสักรูป
ขับรถออกจาก “Kawaguchiko Natural Living Center” ไปทาง “Lake Saiko” จะเจอมุมตรงนี้
ขอส่องยอดฟูจิสักหน่อย ใบไม้ยังไม่คอยเปลี่ยนสี แต่ก็สวยเหมือนกัน
DAY 7 – Mount Naeba
วันที่ 7 (23 ตุลาคม 2561)
เช้าวันนี้เราจะพาไปนั่งกระ
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่ Echigo-Yuzawa Station พอมาถึงเดินออกมาทางฝั่ง East ลงมาขึ้นรถบัสด้านล่าง ที่ป้ายเบอร์ 1 เพื่อไปลงที่ป้าย Naeba Prince Hotel
ระหว่างที่ยืนรอรถบัส ยืนมองวิวภูเขาเพลินๆ เห็นเด็กน้อยสะพายกระเป๋าคง
นี่คือป้ายหมายเลข 1
ถึงแล้ว Naeba Prince Hotel จากนั้นก็ต้องไปยืนต่อคิวรอ
- ระยะเวลาเปิดช่วงใบไม้เปลี่
ยนสี : ต้องเช็คช่วงเปิดปิดในแต่ละ ปี - เวลาเปิด-ปิด : 09.00-16.00 น.
- ราคาบัตร : ไป-กลับ ผู้ใหญ่ : 2600 เยน /เด็ก : 1300 เยน
พอได้ขึ้นไปนั่งกระเช้าก็จะ
กระเช้า Dragondola เล่นระดับได้ประหนึ่งเครื่อ
เป็นการนั่ง Gondola ที่ยาวนานมาก ~ 25 นาที ระยะทาง 5.5 กิโลเมตร เป็น Gondola ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น เชื่อมระหว่างที่ราบสูง Naeba กับ Tashiro มาที่นี่ใจนี่ภาวนาอยากให้ฝ
คนสูงอายุเดินขึ้นเขากันตัว
ทะเลสาบ Tashiro
ถือว่าทริปนี้ก็ทำให้เราได้
ขอบคุณโอกาสดีๆ เพื่อนใหม่ๆ ความทรงจำดีๆ ระหว่างทาง
“ญี่ปุ่นครั้งเดียวไม่เคยพอ
ภคมน อลงการาภรณ์