Aichi: เที่ยวเมือง Okazaki สนุกครบรสในวันเดียว มาจากนาโงยะได้

ขอพาทุกคนไปเที่ยว เมืองโอคาซากิ (Okazaki) เมืองเรียบง่าย บรรยากาศแสนดี มีสถานท่องเที่ยวเต็มเปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์ พร้อมกิจกรรมเพลิดเพลิน และมีมิโสะชั้นดีขึ้นชื่อของเมือง ใช้เวลาวันเดียวก็เที่ยวได้จนฟิน

เมืองโอคาซากิ (Okazaki) ตั้งอยู่ในจังหวัดไอจิ ไม่ไกลจากเมืองชื่อดังของจังหวัดอย่างนาโงยะ เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่และมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่มากมาย เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่รักในการชื่นชมในประวัติศาสตร์เป็นที่สุด ทั้งยังเป็นเมืองบรรยากาศดีที่มีสวนสวย และเป็นทั้งจุดชมซากุระ และจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ทั้งมีอาหารอร่อยอย่างมิโสะขึ้นชื่อที่ใครได้ชิมแล้วก็ปลื้มปริ่มในรสชาติ มีดีขนาดนี้เราจึงขอจัดทริปพาทุกคนไปเที่ยวเล่นกันจนฟินให้ทั่วโอกาซากิเลย

การเดินทางสะดวกสบาย ขึ้นรถไฟจากเมืองนาโงยะต่อเดียวถึง โดยเลือกนั่งรถไฟ JR สาย Tokaido ตั้งต้นที่สถานี Nagoya มายัง สถานี Okazaki ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที และรถไฟจะมาทุก 15 นาที ราคาเที่ยวละ 620 เยนเท่านั้น

Kakukyu (八丁味噌の郷)

Kakukyu โรงงานมิโสะสูตรดั้งเดิมของดีประจำเมือง เป็นแหล่งผลิต ฮัทโจ มิโสะ (Hatcho Miso) มีชื่อเสียงยาวนานมากว่า 370 ปี และยังคงสืบทอดวิธีการทำ รวมถึงรสชาติตามแบบฉบับดั้งเดิมเอาไว้มาจวบจนปัจจุบัน ทำให้รสชาติของมิโสะยังอร่อยเหมือนในอดีต

ภายในโรงงานจะมีทั้งส่วนที่จำลองขั้นตอนการผลิตมิโสะ มีถังหมักมิโสะที่มีขนาดใหญ่มากและใช้กันมาตั้งแต่โบราณให้เราได้ดูด้วย เราจึงสามารถเรียนรู้ขั้นตอนในการทำมิโสะสูตรเด็ดนี้ได้ผ่านการเดินทัวร์ในโซนพิพิธภัณฑ์ของโรงงาน

และนี่คือหน้าตาของมิโสะสูตรเด็ดฮัทโจ มิโสะ โดยมิโสะสูตรนี้จะมีรสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ มีสีน้ำตาลเข้มออกไปทางแดงเล็กน้อย ตามแบบสูตรดั้งเดิมที่ใช้เพียงถั่วเหลือง เกลือ และน้ำหมักในถังไม้ซีดาห์ขนาดใหญ่เท่านั้น ไม่มีส่วนผสมอื่นเหมือนมิโสะทั่วไป

เห็นอย่างนี้ไม่ได้มีแค่ตัวอย่างให้มอง แต่ยังมีให้ชิมรสชาติความอร่อยของมิโสะที่ผลิตจากโรงงานแห่งนี้ด้วย สามารถไปชิมได้ที่โซนร้านอาหารซึ่งขายอาหารเมนูมิโสะของโรงงานนี้ได้

เมนูแนะนำเป็นโอเด้งมิโสะจานนี้ที่เขาบอกกันว่าอร่อยสุด ๆ เพราะรสชาติของมิโสะนั้นกลมกล่อม เข้มข้นและเข้ากับโอเด้งได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว หรือจะเป็นราเมงมิโสะก็อร่อยไม่แพ้กัน หรือหากยังไม่ค่อยหิวแต่อยากชิมก็มีเมนูเต้าหู้ราดมิโสะให้ได้ลอง

ตบท้ายด้วยขนมหวานที่หลายคนอาจไม่คาดคิดว่าว่าจะมีอย่าง ซอฟครีมมิโสะ สุดแปลกแต่น่าอร่อย หรือจะเลือกทานพร้อมกับขนมปัง โมนะกะ รสสัมผัสคล้ายวาฟเฟิล ราดด้วยน้ำเชื่อมสีน้ำตาล ถั่วแดง โรยผงมิโสะเล็กน้อย ให้รสกลมกล่อมและอร่อยกว่าที่คิด

สำหรับใครที่ติดใจในรสชาติของมิโสะสูตรเด็ดประจำโรงงานนี้ ซื้อกลับไปกินต่อที่เมืองไทยหรือไปฝากคนทางบ้านได้ เพราะมีวางจำหน่าย บรรจุใส่แพกเกจอย่างดี

Okazaki Park (岡崎公園)

ถ้าอยากหาเวลาไปเดินเล่นชิลๆในเมืองต้องมาเดินชมความสวยงามกันที่สวนโอคาซากิ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง จะสวยสุดๆไปเลย

ที่นี่เป็นจุดชมดอกซากุระที่เบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิที่สวยงามที่สุด ติดอันดับหนึ่งในร้อยแห่งของประเทศญี่ปุ่น และในเมืองโอกาซากิ จุดชมที่สวยงามมากก็คือ บริเวณสองข้างทางริมแม่น้ำภายในสวนแห่งนี้ ที่มีต้นซากุระปลูกเรียงรายเอาไว้กว่า 1,000 ต้น เรียกได้ว่าดอกซากุระบานสะพรั่งตราตรึงใจกันไปเลยทีเดียว

บริเวณสวนมีความกว้างขวาง มีแลนด์มาร์กของเมืองอย่าง ปราสาทโอคาซากิ ตั้งอยู่ภายในสวน จึงสามารถเดินเที่ยวเล่นได้ทั้งวัน ยิ่งถ้าใครชอบประวัติศาสตร์ จะมีเรื่องราวของท่านโชกุน โทกุกาวะ อิเอยาสุให้เราได้ศึกษาด้วย

โดยอนุสาวรีย์ของท่านโชกุนอิเอยาสุ และนาฬิกาที่สร้างเป็นหุ่นตามแบบท่านโชกุน ถือเป็นไฮไลท์ที่น่าไปชม โดยนาฬิกาที่ว่าจะออกมาเคลื่อนไหวให้เราได้ชมในทุกชั่วโมง

Okazaki Castle (岡崎城)

ภายในสวน เป็นที่ตั้งปราสาทโอคาซากิ ซึ่งปราสาทแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของตระกูลท่านโชกุน โทกุกาวะ แห่งสมัยเอโดะ

ในปราสาทชั้น 2 ถึงชั้น 4 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเกี่ยวกับปราสาท เราสามารถศึกษาเรื่องราว พร้อมสัมผัสบรรยากาศของสมัยเอโดะได้ผ่านการเดินชมไปแต่ละชั้น นอกจากนี้บริเวณรอบตัวปราสาทนั้นยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แล้วถ้าอยากเห็นวิวสวยแบบมุมสูงแนะนำให้ขึ้นไปที่ชั้น 5 ของปราสาทที่เปิดเป็นห้องสังเกตการณ์ เพราะเราจะได้ชมวิวสวยแบบ 360 องศาเลยทีเดียว

Matsui Japanese style candle Atelier (松井本和蝋燭工房)

แนะนำกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร โดยไปฝึกทำเทียนไขญี่ปุ่นตามกรรมวิธีการดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองโอคาซากิกัน และร้านที่เราจะพาไปทำเทียนไขญี่ปุ่นกันนั้นมีชื่อว่า Matsui Japanese style candle Atelier ซึ่งเป็นร้านขายเทียนโบราณ ที่ผลิตเทียนญี่ปุ่นแต่ละเล่มด้วยการทำมือ สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ในอดีตนานกว่า 100 ปีมาแล้ว

โดยร้านแห่งนี้ทำเทียนแต่ละเล่มขึ้นมาด้วยขั้นตอนสุดปราณีตตามแบบฉบับดั้งเดิม หากมาที่ร้านเราก็จะได้ทั้งดูวิธีการมากฝีมือของผู้ทำเทียน และได้ฝึกลองทำด้วยตัวเอง ซึ่งสามารถแต่งเดิมลวดลายต่างๆ ด้วยการวาดรูประบายสีลงไปให้สวยงามได้ด้วย รับรองว่าทำเสร็จเรียบร้อยแล้วจะได้เทียนที่เป็นของเราเองและไม่มีทางเหมือนใครอย่างแน่นอน

Rokusho shrine (六所神社)

พาไปขอพร ไหว้พระกันให้สบายใจที่ ศาลเจ้าโรคุโช ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการคุ้มครองให้พ้นภัย และเป็นศาลเจ้าที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของท่านผู้ปกครองเมืองอย่าง โทกุกาวะ อิเอยาซุ โชกุนคนสำคัญแห่งเมืองเอโดะด้วย

นอกเหนือจากความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการคุ้มครองป้องกันภัยแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีบรรยากาศเก่าแก่และสวยงาม ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงศาลเจ้าแห่งนี้นั้นถือว่าเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมาก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 1935 ด้วยเลยทีเดียว ฉะนั้นหากมาถึงศาลเจ้านี้แล้วหลังจากขอพรก็อย่าลืมเดินเล่นชมความงามของที่นี่กันด้วย

Aoi Yu (スーパー銭湯 葵湯)

หลังจากเดินทางเที่ยวไปทั่วเมืองมาทั้งวัน ก็ถึงเวลาผ่อนคลายความเมื่อยล้า ขอแนะนำสถานที่ปิดท้ายทริปกันที่ โรงอาบน้ำสาธารณะอาโออิยู (Aoi Yu) ที่มีความยิ่งใหญ่ สวยงาม และจะช่วยให้เราสบายตัวไปกับการแช่น้ำพุร้อน

ภายในโรงอาบน้ำแห่งนี้จะมีบ่อน้ำพุร้อนออนเซ็นให้เราได้เลือกแช่หลายบ่อ ไม่ว่าจะเป็นแบบอ่างธรรมดาในร่มหรือจะเป็นแบบกลางแจ้ง แถมน้ำในแต่ละบ่อยังมีส่วนผสมบำรุงผิวพรรณที่มีประโยชน์แตกต่างกันไปด้วย รับรองว่าถ้าใครชอบออนเซ็นผ่อนคลายร่างกายหรือบำรุงผิวพรรณละก็จะต้องหลงไหลที่นี่แน่นอน

โอคาซากิ เป็นเมืองที่มีบรรยากาศสบายๆ ให้เราเดินเที่ยวเล่นครบทุกรสชาติได้ภายในหนึ่งวัน ไม่ว่าจะเป็นการชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว ชมวิว ชิมอาหารอร่อย หรือแม้แต่ แช่น้ำพุร้อน ก็มีพร้อมรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเราเสมอ หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองเล็กแต่มีความน่าสนใจ ครั้งหน้าบินมาที่นาโงยะ แล้วลองมาแวะเที่ยวเมืองโอคาซากิกันด้วยนะ