ทริปนี้เป็นการเดินทางไปเที่ยวคิวชูตอนเหนือ 5 เมือง ลัดเลาะไปเรื่อยๆ เริ่มจาก Sasebo (จ.นางาซากิ), Hita (จ.โออิตะ), Kumamoto (จ.คุมาโมโตะ), Kitakyushu (จ.ฟุกุโอกะ), Fukuoka (จ.ฟุกุโอกะ) ใช้เวลา 6 วัน 5 คืน บอกเลยว่ากินเที่ยวเต็มที่มากๆ
Kyushu: เที่ยวคิวชูเหนือ Day 1 – เมือง Sasebo จ.นางาซากิ
Kyushu: เที่ยวคิวชูเหนือ Day 3 – เมือง Kumamoto จ.คุมาโมโตะ
Kyushu: เที่ยวคิวชูเหนือ Day 4 – เมือง Kitakyushu จ.ฟุกุโอกะ
Kyushu: เที่ยวคิวชูเหนือ Day 5 – เมือง Fukuoka จ.ฟุกุโอกะ
การเดินทางวันที่สอง เราจะเที่ยวกันในในจังหวัดโออิตะ ช่วงเช้าแวะที่เมืองอามะกาเซะออนเซ็น (Amagase onsen) และไปเดินเที่ยวกันที่เมืองฮิตะ (Hita) และค้างคืนที่เมืองเดียวกัน
จองกิจกรรมท่องเที่ยวใน 5 เมือง (ฟุกุโอกะ, คิตะคิวชู, คุมาโมโตะ, ซาเซโบะ, ฮิตะ) พร้อมส่วนลด 12% สูงสุด 1,000 บาท เมื่อซื้อครบ 3,000 บาทขึ้นไป ต่อรายการ ได้ทาง KLOOK
จังหวัดโออิตะ มีออนเซ็นระดับท๊อปอยู่ 3 แห่ง สองที่แรกไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ก็คือขวัญใจของคนไทยอย่าง เบปปุ และ ยูฟุอิน ส่วนอีกแห่งที่มาวันนี้ถือว่าเป็น Hidden spot ยังไม่มีคนรู้จักมาก นั่นก็คือ Amagase onsen
สถานี Amagase เป็นหนึ่งในสถานีที่รถไฟขบวน Yufuin no mori วิ่งผ่าน นั่นหมายความว่าถ้ามีจุดหมายจะไปยูฟุอินก็สามารถแวะเที่ยวที่ Amagase onsen ได้ ความน่ารักของที่นี่คือ ด้านหน้าสถานีจะมีมุมน้ำพุร้อนเล็กๆให้ได้ลองแช่มือกับแช่เท้า ถ้ามาที่สถานีนี้นอกจากจะได้แช่ออนเซ็นแล้ว ยังสามารถเดินไปเที่ยวน้ำตกซากุระที่อยู่ใกล้ๆกันได้
การเดินทาง: จากสถานี Hakata ขึ้นรถไฟขบวน Yufuin-no-mori ลงสถานี Amagase ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที
น้ำตกซากุระดากิ (Sakuradaki Waterfall)
เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์เด่นของน้ำตกแห่งนี้อยู่ที่สายน้ำที่กระเซ็นราวกับกลีบดอกซากุระโปรยปรายในฤดูใบไม้ผลิ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกน้ำตกซากุระดากิ ด้วยลักษณะเด่นนี้ได้เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้นักเขียนและศิลปินญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเอโดะกล่าวถึง และนำมาใช้ในบุงโกะโคคุชิ (Bungo Kokushi) ซึ่งชื่อเดิมของจังหวัดโออิตะ คือ บุงโกะ นั่นเอง น้ำตกนี้มีความสูงประมาณ 25 เมตร โดยส่วนมากน้ำตกที่สวยๆ มักจะอยู่ในป่าลึก เดินทางเข้าไปค่อนข้างลำบาก แต่น้ำตกซากุระดากิ เป็นน้ำตกที่สวยงามแล้วยังเดินทางสะดวกมากๆ สามารถโหลดแอป Attack on Titan VR แล้วลองเล่นที่นี่ได้ด้วยนะ
- เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
- ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
- การเดินทาง: จากสถานี Amagase เดินประมาณ 15 นาที
- พิกัด
โรงงานอุเมะชุกุระโอยามะ (Umeshu Gura OYAMA)
หมู่บ้านโอยามะเป็นแหล่งผลิตเหล้าบ๊วยขึ้นชื่อในภูมิภาคคิวชู โดยโรงงานอุเมะชุ กุระ โอยามะ ใช้บ๊วยที่รวบรวมจากเหล่าเกษตรกร อุเมะชุที่นี่ได้รับรางวัลเหรียญทอง “World Liquor Contest” อีกทั้งมีความพรีเมี่ยมจนใช้เสิร์ฟในรถไฟหรู Seven Stars ของ JR Kyushu และบนที่นั่งชั้นธุรกิจของสายการบิน ANA อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะเป็นโรงงานที่เปิดให้เข้าชมแล้ว ยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปให้ทำเหล้าบ๊วยและบ๊วยไซรัปด้วยตัวเอง นอกจากนั้นยังมีโซนจำหน่ายของฝากที่มีสินค้าขึ้นชื่อของเมืองนี้ โดยเฉพาะบ๊วยดองหลากหลายชนิด และยังมีซอฟท์ครีมราดซอสบ๊วยแสนอร่อยให้ลิ้มลอง
- เวลาทำการ: 9.00-17.00 น.
- ค่าทำกิจกรรม:ขึ้นอยู่กับชนิด และขนาดโหล เหล้าบ๊วย ไซส์ M (420 ml) ราคา 1,650 เยน และไซส์ L (800 ml) 2,420 เยน / บ๊วยไซรัป ไซส์ M (420 ml) ราคา 1,430 เยน และไซส์ L (800 ml) 2,090 เยน (หมายเหตุ: กรุณาจองล่วงหน้า)
- การเดินทาง: จากสถานี Amagase ใช้เวลาประมาณ 25 นาที โดยรถยนต์
- พิกัด
- เว็บไซต์
Shunkoen
มาเที่ยวเมืองฮิตะ ต้องลอง อาหารท้องถิ่น ปลาอายูย่างเกลือ วันนี้เรามาที่ร้าน Shunkoen เลือกสั่งเป็นเซ็ตจะมีปลาอายูต้มซีอิ๊ว กับซาชิมิปลาอายูมาด้วย ปลาอายูย่างเกลือ เนื้อแน่น หอมอร่อย ไม่คาว ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเพลิน
ปลาอายูเป็นปลาที่อาศัยในแหล่งน้ำสะอาดเท่านั้น และที่ฮิตะเองก็มีแม่น้ำมิคุมะไหลผ่าน เป็นพื้นที่ที่มีน้ำดีแสนบริสุทธิ์แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ที่นี่จึงสามารถเลี้ยงปลาอายูได้ตามธรรมชาติอย่างมีคุณภาพ สามารถหาทานได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค.-ต้นพ.ย.
- เวลาทำการ: มื้อเที่ยง 11.00-15.00 น. มื้อเย็น (จองล่วงหน้า) 17.00-21.00 น.
- การเดินทาง: จากสถานี Amagase ขึ้นรถไฟขบวน Kyudai ลงสถานี Hita ใช้เวลา 15 นาที เดินต่อมาที่ร้าน 12 นาที
- เว็บไซต์
- พิกัด
Attack on Titan in HITA Museum Annex
พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ ตั้งอยู่ด้านใน Sapporo Beer Kyushu Hita Brewery จัดแสดงภาพวาดต้นฉบับตั้งแต่เล่มที่ 1 ถึงเล่มที่ 34 (โดยการเลือกและความคิดเห็นของอาจารย์อิซายามะ) บน ภาพปะติดฝาผนังขนาดใหญ่ แผง ผ้าม่าน นอกจากนี้ยังมีมุมภาพถ่าย และผลงานในวัยเด็กของฮาจิเมะ อิซายามะ จัดแสดงด้วย
เขตเมืองเก่ามาเมดะ (Mameda-machi)
พื้นที่นี้มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ในสมัยเอโดะ ช่วงปีค.ศ. 1616 ที่นี่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ ที่นี่ได้รับฉายาว่าเป็น Little Kyoto แห่งหนึ่งของภูมิภาคคิวชู มีถนนเส้นหลัก 2 สาย ทอดยาวตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศใต้ นั่นก็คือถนน Kamimachi และ Miyuki ตลอดทั้งสองข้างทาง แวดล้อมไปด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่และร้านค้า ตั้งเรียงราย ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโบราณ
การเดินทาง: จากสถานี Hita เดินไปได้ประมาณ 10 นาที
โรงกลั่นกุนโจ (Mamedamachi Kuncho Brewery) โรงผลิตสาเกแห่งนี้เปิดทำการมาตั้งแต่ในยุคสมัยเอโดะ ราวปี ค.ศ.1702 ภายหลังได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้กับผู้สนใจได้เข้าชม มีห้องสำหรับจัดแสดงให้ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิต บริเวณส่วนด้านหน้าของร้านเปิดเป็นโซนขายสินค้า และยังมีคาเฟ่ ซึ่งเมนูแนะนำคือไอศครีมที่ทำจากอามะสาเก (ไม่มีแอลกอฮอล์นะครับ) ช่วงที่เราไปมีเมนูพิเศษชื่อว่า Hakko Smoothie ที่เป็นซอมครีมรสอามะสาเก (โนแอล) ในน้ำแตงโมปั่น อร่อยมากกก และมีเปิดร้านขนมปังของทางร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย
พิพิธภัณฑ์ฮากิโมโนะฮิตะ (Hita Hakimono Museum) ณ ร้านรองเท้าเกี๊ยะเทนเรียว ฮิตะ (Tenryo Hita Geta Shop) เมืองฮิตะเป็นแหล่งผลิตรองเท้าเกี๊ยะ และจำหน่ายเกี๊ยะขึ้นชื่อของญี่ปุ่นแล้ว บริเวณชั้น 2 ของที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเกี๊ยะจากทั่วประเทศญี่ปุ่นมาจัดแสดง ให้เข้าชมฟรี นอกจากนี้ยังมีเกี๊ยะยักษ์ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สูง 4.15 เมตร กว้าง 2.10 เมตร หนัก 1,000 กิโลกรัม ตั้งโชว์อยู่บริเวณทางเข้าร้านด้วยนะ
พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาฮินะ (Hina Goten) ตั้งอยู่ภายในร้านฮิตะโชยุ เป็นของสะสมของเจ้าของร้านมีมากถึง 4,000 ตัว ว่ากันว่าตัวที่เก่าแก่ที่สุดอายุประมาณ 300 กว่าปี หลังจากเดินชมเสร็จแล้ว ของดีของเด็ดที่ห้ามพลาดคือ ซอฟท์ครีมรสโชยุและซอฟท์ครีมรสมิโซะ ราคา 350 เยน ฟังดูเหมือนไม่เข้ากัน แต่เมื่อลองแล้วจะติดใจอย่างแน่นอน
แวะซื้อของที่ระลึกที่ร้าน Tokodo 東光堂 เป็นร้านงานฝีมือระฆังดินเผาที่เคลือบด้วยกระดาษวาชิ แต่ละชิ้นจะทาสีด้วยหมึก วาดเป็นลวดลายต่างๆ รอบนี้เราเลือกซื้อเป็นพวงกุญแจที่มีครบทั้ง 12 ราศีให้ได้เลือกกัน คุณป้าเจ้าของร้านน่ารักเป็นกันเองมากๆ คุณป้าบอกว่าสามีของเค้าเป็นคนทำเองกับมือทุกชิ้นเลย ใครพูดภาษาญี่ปุ่นได้ คุยเล่นกับแกได้นะ (ปัจจุบันร้านมีการรีโนเวตอยู่ ตอนนี้ย้ายมาที่ร้านชั่วคราว)
- เวลาทำการ: 10.00-17.00 น. (หยุดวันพฤหัส)
- เว็บไซต์
Nihongan Medicinal Museum ร้านขายยาเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดโออิตะ เจ้าของแบรนด์นิฮงกัง ที่ทำธุรกิจมาตั้งแต่ปีค.ศ.1887 ด้านในจัดแสดงอุปกรณ์เครื่องมือและยาตั้งแต่ยุคโบราณ โดดเด่นที่ตัวอาคารย้อนยุคในสมัยเอโดะ ชั้นบนสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองแบบพาโนรามาได้
- เวลาทำการ: 10.00-16.00 น. (ปิด 17.00 น. ช่วง 15 ก.พ.-31 มี.ค.)
- ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 350 เยน เด็ก 250 เยน
ศูนย์แสดงสินค้าคูชูฮิตะ (Hita Kushu Regional Industry Promotion Center)
รวบรวมสินค้าขึ้นชื่อของพื้นที่บริเวณรอบเมืองฮิตะ เช่นเครื่องปั้นดินเผาอนตะยากิ เห็ดหอม ของดอง บุก รวมถึงเกี๊ยะไม้สนขึ้นชื่อของเมืองนี้ ว่ากันว่ารองเท้าเกี๊ยะที่จำหน่ายในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็มาจากที่นี่ นอกจากจำหน่ายสินค้าหลากหลายแล้วที่นี่ยังมีเวิร์คช็อปทำเกี๊ยะคู่เดียวในโลก สามารถเลือกขนาดเกี๊ยะ ลวดลายของหูหนีบ และได้เรียนรู้การร้อยเชือกเกี๊ยะอย่างใกล้ชิด
- เวลาทำการ: 9.00-17.45 น. หยุดทุกวันจันทร์
- ค่าใช้จ่าย: เวิร์คช็อปทำเกี๊ยะ เริ่มต้นคู่ละ 2,900 เยน (ต้องจองล่วงหน้า)
- เว็บไซต์
- พิกัด
Yakatabune
กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ถ้ามีโอกาสได้มาค้างคืนที่เมืองฮิตะ ก็คือ ยากาตะบุเนะ (Yakatabune) การล่องเรือทานอาหารยามเย็นแม่น้ำมิคุมะ ที่มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี และมีไฮไลต์คือจะได้ชมการจับปลาอายุแบบอุไกด้วยนกกาน้ำอย่างใกล้ชิด ซึ่งกิจกรรมนี้จะสามารถทำได้ในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น (เริ่ม 20 พ.ค.-ปลายต.ค.) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ครั้งนี้เรามาใช้บริการเรือของโรงแรมมิคุมะ (Mikuma Hotel) สามารถเลือกจองที่พักพร้อมล่องเรือ หรือจะจองเฉพาะเรืออย่างเดียวก็ได้
โรงแรมคัฟเฟิลฮินาโนะซาโตะ (Caffel Hina no Sato)
คืนนี้เราเข้าพักที่โรงแรม Caffel Hina no Sato ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำมิคุมะ (Mikuma) ในเมืองฮิตะ เดิมทีโรงแรมแห่งนี้เป็นเรียวกังอายุกว่า 100 ปี เมื่อเดือนเมษายน 2021 ที่ผ่านมา ได้ทำการปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มส่วนของคาเฟ่ จึงมีชื่อใหม่ว่า Caffel จากการเล่นคำว่า Cafe และ Hotel
ตัวอาคารรวมทั้งห้องพักยังคงรูปลักษณ์ของโรงแรมสไตล์เรียวกัง เพิ่มการตกแต่งห้องให้ดูโมเดิร์นมากขึ้น ใส่รายละเอียด เช่นป้ายคำอธิบายต่างๆ ที่เขียนด้วยมือ น่ารัก และมีกิมมิค ชั้น 2 ของโรงแรมเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งมีหนังสือการ์ตูนอยู่จำนวนมาก และมีการกั้นเป็นห้องเล็กเพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนชั้น 3 มีออนเซ็น และเก้าอี้นวดไว้ให้บริการ
