พาเที่ยวตระเวนเที่ยว ภูมิภาคจูโกขุ (Chugoku) มาเริ่มกันที่ จังหวัดโอคะยะมะ (Okayama) ที่ครั้งนี้วางแผนมาเที่ยวอย่างสบายๆไม่ต้องเร่งรีบแบบ 2 วัน 1 คืน สามารถขึ้นชินคังเซ็นมาจากโอซาก้า ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง
การเดินทางสู่ตัวเมืองโอคะยะมะ ที่สถานี Okayama:
- จากสถานี Tokyo ขึ้นชินคันเซ็นใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
- จากสถานี Shin-Osaka ขึ้นชินคันเซ็นใช้เวลาประมาณ ประมาณ 50 นาที
- จากสถานี Hiroshima ขึ้นชินคันเซ็นใช้เวลาประมาณ ประมาณ 35 นาที
แผนการเดินทางคร่าวๆ สำหรับ 2 วัน
วันที่ 1: ร้านคิโดไอระคุ, ปราสาทโอคะยะมะ, ศาลเจ้าคิบิสึ, ยุบะระออนเซ็น, ยุบะระ โคคุไซ คังโค
วันที่ 2: ย่านเมืองเก่าคะสึยะมะ, ย่านเมืองเก่าคุระชิกิ, ร้านคุระปุระ
ร้านคิโดไอระคุ (Kidoairaku)
ร้านอาหารพื้นเมือง ที่มีเมนูแนะนำอย่าง “บะระซูชิ” (Bara Sushi) หรือ ข้าวหน้าปลาดิบสไตล์โอคะยะมะ ถึงจะเรียกว่า “ซูชิ” แต่ไม่เหมือนแบบที่ทุกคนคิดกัน เพราะ “บะระซูชิ” จะเสิร์ฟ ปลาดิบ กุ้ง หอย ผักดอง และเห็ดชิตาเกะ โปะลงบนข้าวเป็นจาน โดยวัตถุดิบที่หาได้จากท้องถิ่นเหล่านี้ ล้วนต้องผ่านการปรุงเล็กน้อย ทำให้มีความแตกต่างไปจากซูชิหน้าปลาดิบทั่วไป ที่เราคุ้นเคยกัน รสชาติก็จะมีทั้งเปรี้ยวและหวาน เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี
- พิกัด
- การเดินทาง: จากสถานี Okayama เดินมาประมาณ 15 นาที
- เวลา: 11.30 – 14.30 น. และ 17.30 – 22.30 น.
- เว็บไซต์
ปราสาทโอคะยะมะ (Okayama Castle)
ปราสาทโอคะยะมะ ได้รับฉายาว่า “ปราสาทอีกาทอง” ด้วยภายนอกของตัวปราสาทที่เป็นสีดำ และมียอดหลังคาบางส่วนที่เคลือบสีทอง ส่วนอาคารหลักที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนั้น ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ หลังถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงประวัติความเป็นมาได้อย่างน่าสนใจนอกจากนี้ ที่ชั้น 6 (ชั้นบนสุด) ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบปราสาทได้อีกด้วย
- พิกัด
- การเดินทาง: จากสถานี Okayama เดินมาประมาณ 25 นาที
- เวลา: 9.00 -17.30 น.
- ค่าเข้าชม: 300 เยน
- เว็บไซต์
ศาลเจ้าคิบิทสึ (Kibitsu Shrine)
ศาลเจ้าเก่าแก่ ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนโอคะยะมะ สร้างขึ้นเพื่อบูชา คิบิสึฮิโกะ โนะ มิโกโตะ (Kibitsuhiko-no-Mikoto) เจ้าชายในตำนาน ที่เชื่อกันว่าเป็นต้นแบบของเทพนิยายเรื่องดังอย่าง “โมโมทาโร่” (Momotaro) ซึ่งคนญี่ปุ่นนั้น เมื่อพูดถึงโมโมทาโร่ ก็ต้องนึกถึงจังหวัดโอคะยะมะ และศาลเจ้าแห่งนี้ ขึ้นมาพร้อมกันในทันที นอกจากนี้ ตัวศาลเจ้าหลัก และห้องโถงบูชา ยังทรงคุณค่าในทางวัฒนธรรม จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่น (National Treasure) อีกด้วย
- พิกัด
- การเดินทาง: จากสถานี Okayama ขึ้นรถไฟลงที่สถานี Kibitsu แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
- เวลา: 5.00 – 18.00 น.
- เว็บไซต์
สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป ศาลเจ้าแห่งนี้ก็มีมุมสวยๆตรงบริเวณทางเดินไม้ที่ทอดตัวยาวตามเนินเขา ประมาณ 360 เมตร โดยระหว่างทาง จะมีทิวทัศน์ที่สวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลให้ได้ชมกันนั่นเอง
หมู่บ้านน้ำพุร้อนยุบะระ (Yubara Onsen)
หมู่บ้านน้ำพุร้อนอันเก่าแก่ ที่ได้รับการยอมรับในหมู่คนญี่ปุ่นว่า เป็นแหล่งออนเซ็นที่ดีที่สุดในแถบตะวันตก แม้จะต้องเดินทางไกลจากตัวเมืองพอสมควร แต่ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะเราจะได้เจอกับบรรยากาศที่แสนสงบ และสวยงามแบบไม่เหมือนใคร จุดเด่นของที่นี่คือบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง “Sunayu” ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ใครที่ชอบหมู่บ้านออนเซ็นแบบคนไม่เยอะมาก นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก ขอเชียร์ที่นี่เต็มที่เลยครับ
- พิกัด
- การเดินทาง: จากสถานี JR Okayama นั่งรถประจำทางลงที่ Katsuyama Bus Center และเปลี่ยนรถเพื่อมาลงป้าย Yubara Onsen ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที
- เว็บไซต์
โรงแรมยุบะระ โคคุไซ คังโค (Yubara Kokusai Kanko Hotel)
ขอแนะนำที่พักในแถบยุบะระออนเซ็น ที่นี่สะดวกสบายด้วย ห้องพักที่มีขนาดกว้างขวาง ที่ตั้งไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว แถมยังมี บ่อออนเซ็น ทั้งแบบอินดอร์ และเอาท์ดอร์ เปิดให้เลือกใช้บริการได้ตามใจชอบอีกด้วย
ย่านเมืองเก่าคัทสึยะมะ (Katsuyama)
ย่านการค้าเก่าแก่ ที่ได้รับการอนุรักษ์ทางด้านโครงสร้างอาคาร และการประดับตกแต่ง ให้คงสภาพเดิมไว้อย่างดีที่สุด โดยไฮไลท์สำคัญ นอกจากสถาปัตยกรรมแบบย้อนยุคแล้ว ก็คือ การแขวนผ้าม่านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม หรือ โนเร็น (Noren) ที่หน้าอาคารทุกหลังตลอดเส้นทางกว่า 1 กิโลเมตร ที่ช่วยเติมเต็มสีสันให้กับย่านเมืองเก่าแห่งนี้ ได้อย่างลงตัว
- พิกัด
- การเดินทาง: จากสถานี Okayama ขึ้นรถไฟลงสถานี Chugoku-Katsuyama แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
- เวลา: ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 9.00 น.เป็นต้นไป
- เว็บไซต์
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ขอแนะนำ สำหรับคนที่ไม่เร่งรีบมากนักก็คือ การทดลองทำกระเป๋าสตางค์แฮนด์เมดแบบญี่ปุ่น หรือเรียกว่า กะมะกุจิ (Gamaguchi) ที่เมื่อทำเสร็จแล้ว เราสามารถนำกลับบ้าน ไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย
ย่านเมืองเก่าคุระชิกิ (Kurashiki)
ย่านเมืองเก่าที่เป็นศูนย์กลางทางการค้า และการคมนาคมในอดีตที่สำคัญมากแห่งหนึ่งในยุคสมัยเอโดะ ในปัจจุบัน ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดโอคะยะมะ จุดเด่นอยู่ที่ อาคารบ้านเรือนสไตล์ดั้งเดิม ที่สร้างขึ้นจากดินเหนียว และปูกระเบื้องหลังคาสีดำ ตลอดสองข้างทาง
- พิกัด
- การเดินทาง: จากสถานี Okayama ขึ้นรถไฟลงสถานี Kurashiki แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
- เวลา: ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 8.00 น. เป็นต้นไป
- เว็บไซต์
มีบริการล่องเรือพายชมวิวจากคลองคุระชิกิ ค่าโดยสารเพียงคนละ 500 เยน ได้ชมเมืองคุระชิกิในมุมมองที่แตกต่าง
ร้านคุระปุระ (Kura Pura)
เมนูพื้นเมืองประจำย่านคุระชิกิ อย่าง “คะเอชิซูชิ” (Kaeshi Sushi) เป็นข้าวหน้าปลาดิบ ที่มีกิมมิคในการเสิร์ฟไม่เหมือนใคร โดยพนักงานจะคว่ำจานอาหารมาก่อน ให้เราเห็นแค่ไข่หวานที่ปูลองพื้นของภาชนะไว้ (ก้นของจานเป็นพลาสติกใส) เมื่อจะรับประทานจึงค่อยพลิกกลับมาอีกด้านหนึ่ง แล้วเปิดฝาออก ก็จะเห็นเป็นหน้าปลาดิบต่างๆสุดอลังการ โปะลงบนข้าวสวย น่ากินสุดๆ
โดยเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ เล่ากันว่า ในสมัยก่อนนั้น ผู้ปกครองเมือง มีนโยบายไม่ต้องการให้ชาวบ้านใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ชาวบ้านจึงทำ คะเอชิซูชิ หรือ ข้าวหน้าปลาดิบแบบกลับด้านไว้ เพื่อเป็นการตบตา เวลามีเจ้าหน้าที่มาตรวจ แล้วค่อยพลิกกลับเป็นด้านของดีๆ หลังจากกลับไปแล้วนั่นเองครับ
สำหรับทริปนี้ขอขอบคุณ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ที่ให้โอกาส เที่ยวญี่ปุ่นดอทคอม พาเราไปเปิดประสบการ์ณสุดพิเศษในครั้งนี้ เพื่อนำข้อมูลมาเผยแพร่ให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยได้ไปท่องเที่ยวภูมิภาคจูโกขุกันครับ