ซากะ (Saga) 1 ใน 7 จังหวัดของภูมิภาคคิวชู ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะมีละครไทยมากมายมาถ่ายทำที่นี่ อย่าง “STAY ซากะ ฉันจะคิดถึงเธอ” จังหวัดนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคคิวชู และมีจุดท่องเที่ยวที่มีมนต์เสน่ห์มากมาย ทีทำให้เราหลงไหลและต้องกลับไปเยือนอยู่หลายครั้ง และในรีวิวนี้จะพาทุกคนไปเช็คอิน 3 สถานที่เที่ยวที่แตกต่างกันไปคนละสไตล์ในซากะ และปิดท้ายด้วยพาไปกินหอยนางรม ทะเลเผากันแบบสดๆที่ฟุกุโอกะ
>> เลือกอ่านรีวิว คลิกที่ชื่อสถานที่แต่ละแห่งได้เลย <<
เดินตลาดเช้าโยบุโกะ สวรรค์ของคนรักปลาหมึก
ตลาดเช้าโยบุโกะ (Yobuko Morning Market) ตลาดแห่งนี้จะเน้นอาหารมาจากท้องทะเลสดๆ มีของขึ้นชื่อเป็นปลาหมึก ที่เรียกได้ว่ามีให้เลือกสรรทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็น สด แห้ง แปรรูป เชื่อว่าถ้าคนที่ชอบกินปลาหมึก มาที่นี่จะต้องฟินอย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมี อาหารทะเลต่างๆอย่าง หอยเม่น รวมถึงผลไม้ตามฤดูกาลต่างๆ ก็มารวมกันที่นี่ ที่สำคัญราคาถูกกว่าตลาดทั่วไป แถมยังสดอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศชิลล์ริมทะเล
การเดินทาง
- รถไฟ : จากสถานี Karatsu (เดินทางมาด้วยรถไฟสาย JR Karatsu หรือ สาย Chikuhi) แนะนำให้โดยสารแท็กซี่ ใช้เวลา 25-30 นาที
- รถบัส : จาก Oteguchi Bus Center โดยสารรถบัสสาย Showa ลงที่ป้าย Yobuko และเดินไปยังตลาดประมาณ 3-4 นาที
ความพิเศษของที่นี่คือ พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ที่ดูจะแข็งแรงกว่าเราด้วยซ้ำ ทั้งขี่รถมอเตอร์ไซด์ ทั้งเดินแบกของ ทุกคนดูมีความสุขกับการขายของ มองไปแล้วก็อิ่มเองไปกับความน่ารัก เป็นกันเองของชาวบ้านที่นี่
อีกร้านแนะนำวันนี้ เป็นร้านส้มของคุณลุงใจดี มีขายทั้งน้ำผลไม้ น้ำส้ม และส้มสดจากไร่ที่หยิบได้ไม่อั้นตามใจชอบ ใส่ถุงที่มีขนาดจำกัด ในราคา 398 เยนเท่านั้น น้ำสั้นคั้นสดๆหอมหวานสดชื่นมาก
กล้ๆกันสามารถนั่งเรือเล่นชมอ่าวได้อีกด้วย มีเรือน่ารักๆ อยู่ 2 ลำชื่อเรือชีร่า และอิกะมารุ
ระหว่างเดินในตลาด ทางร้านปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้ออย่างเคร่งครัด มีแอลกอฮอลล์ฆ่าเชื้อให้ตามจุดต่างๆ ทุกคนใส่หน้ากากและเว้นระยะห่างกันเป็นอย่างดี รวมถึงลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่ต้องดูแลตัวเองเช่นกัน
Takashima เกาะขุมพลังสำหรับคนชอบเสี่ยงโชค ที่มีแมวอาศัยอยู่
เกาะทาคาชิมะ (Takashima Island) เป็นเกาะที่นักเสี่ยงโชคจะเดินทางมาไหว้ขอพรศาลเจ้า และร้านขายสิ่งมงคล เพื่อขอรับโชคจากการเล่นสลาก ไม่ว่าจะเป็น สลากจัมโบ้, ล็อตโต้, หวยขูด
นักเสี่ยงโชค จะนำเครื่องรางที่เกี่ยวกับการเสี่ยงโชคต่างๆ มาไหว้ที่ศาลเจ้าที่มีชื่อว่า ศาลเจ้าโฮโท (Hoto Jinja) ที่ตั้งอยู่บนเกาะทาคาชิมะแห่งนี้ ว่ากันว่าเคยมีคนถูกสลากจัมโบ้ 30 ล้านของญี่ปุ่นมาแล้ว หรือจะทำการซื้อสลากจัมโบ้มาใส่ถุงโชคลาภ ไคอุนโฮโทฟุคุโระ (Kaiun Hoto Fukuro) แล้วนำไปขอพร ก็เป็นที่นิยมกันในหมู่นักเสี่ยงโชค
กิมมิคน่ารัก ๆ ให้เดินตามรอยเท้าแมวไปยังร้านขายเครื่องราง
เจ้าเหมียวขึ้นไปครองศาลเจ้าของเอบิสุซังซึ่งคอยปกปักรักษาชาวประมงที่ออกเรือหาปลา และทำให้เกาะแห่งนี้เป็นที่ทำมาค้าขึ้น
วิธีในการขอพร มีร้าน 2 ร้านด้วยกัน คือร้านด้านซ้ายมือจะเป็นถุงไคอุนโฮโทฟุคุโระสีทอง เราสามารถซื้อเครื่องรางพร้อมสลากจัมโบ้แล้วนำไปขอพรที่ศาลเจ้า
เมื่อซื้อเครื่องรางและสลากเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปทำการขอพรที่ศาลเจ้าโฮโท ที่นี่มีคนนำเหรียญทั้งไปวางไว้บนหินสลัก และหย่อนกล่องด้วย บางสูตรแนะนำว่าขอพรก่อนแล้วค่อยกลับมาซื้อที่ร้าน แต่บางสูตรบอกว่าให้ซื้อก่อนแล้วนำถุงมาขอพร อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน
นักเสี่ยงโชคจะมาไหว้ขอพรศาลเจ้า และร้านขายสิ่งมงคล โดยการเครื่องรางที่เกี่ยวกับการเสี่ยงโชคต่างๆ รวมถึงสลาก แล้วนำมาไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้
สลากจัมโบ้จะมีออกรางวัลตลอดทั้งปีตามช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น วาเลนไทน์ และ ตลอดทั้งสี่ฤดู โดยสลากจัมโบ้จะมีการออกเลขในช่วงวันสิ้นปี และนับเป็นเลขรางวัลที่ใหญ่ที่สุดในรอบปี ที่รางวัลที่ 1 มีมูลค่าถึง 700 ล้านเยน
สำหรับวิธีในการขอพร มีอยู่ 2 แบบ และมีอยู่ 2 ร้านด้วยกัน คือ 1. ร้านแรกที่อยู่ด้านซ้ายมือ จะมีจำหน่ายเครื่องรางเป็นถุงไคอุนโฮโทฟุคุโระสีทอง เราสามารถซื้อเครื่องรางพร้อมสลากจัมโบ้แล้วนำไปขอพรที่ศาลเจ้า 2. ให้เดินตามรอยเท้าแมวไปยังอาคารจำหน่ายเครื่องรางอีกร้าน ซึ่งเป็นถุงไคอุนโฮโทฟุคุโระ สีชมพู เมื่อซื้อแล้วเราก็ไปขอพรที่ศาลเจ้าเช่นกัน
มีคนเคยถูกสลากจัมโบ้ 30 ล้านของญี่ปุ่นมาแล้ว การซื้อจัมโบ้มาเพื่อใส่ถุง ไคอุนโฮโทฟุคุโระ แล้วนำไปขอพร
ถุงไคอุนโฮโทฟุคุโระ สีชมพู
น้องที่ร้านเครื่องรางบอกว่า โอมิคุจิของที่นี่ก็แม่น เลยลองเสี่ยงดู ผลออกมาก็แม่นหลายเรื่องมากๆ
การเดินทาง โดยสารเรือสปีดโบท จากท่าเรือฝั่งด้านหน้าปราสาทคาราซึ ค่าโดยสารต่อเที่ยวไปยังเกาะ จะมีความแตกต่างกันตามจำนวนคนโดยสาร เนื่องจากเป็นเรือแท็กซี่ อาจจะตกคนละ 1-2 พันเยนต่อเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที แล้วแต่ความสูงของคลื่นและกระแสลม แต่หากใครต้องการประหยัด ให้ขึ้นเรือประจำทางที่ออกตามตารางเวลา ค่าโดยสารเพียงคนละ 220 เยน ต่อเที่ยว แต่ข้อจำกัดคือควรเช็ครอบเรือก่อน เพราะแต่ละฤดูคลื่นจะสูงต่างกัน อาจจะมีการปรับเวลาเรือได้ เช็ครอบเรือได้ >> ที่นี่
ระหว่างที่อยู่บนเกาะ ทางร้านปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้ออย่างเคร่งครัด มีแอลกอฮอลล์ค่าเชื้อให้ตามจุดต่างๆ ทุกคนใส่หน้ากากและเว้นระยะห่างกันเป็นอย่างดี รวมถึงลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่ต้องดูแลตัวเองเช่นกัน
จุดชมวิวคะกิมิยะมะ (Kagamiyama Observatory) มองวิวป่าสนดำหนึ่งล้านต้น
ป่าสนดำหนึ่งล้านต้น (Niji no Matsubara) จัดว่าเป็นป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองคาราซุ (Karatsu) แนวต้นสนขนาดมหึหาเรียงตัวเลียบชายฝั่งยาวถึง 4.5 กิโลเมตร สามารถขึ้นไปชมวิวของอ่าวและต้นสนได้บนเขาคางามิ ที่มีความสูง 283.6 เมตร
บนเขาอากาศค่อนข้างเย็น แต่วิวสวยๆ หากใครไปก็เตรียมอุปกรณ์กันหนาวไว้ด้วยก็จะดีมาก เราสามารถมองเห็นเกาะทาคาชิมะได้จากบนนี้ได้เลย
จุดน่ารักๆ ของที่นี่ที่หลายคนอาจจะไม่ได้สังเกตคือที่จุดชมวิวมีร้านของฝากที่น่ารักๆ หากได้ขึ้นไปก็แวะเข้าไปถ่ายรูปเล่นได้ สินค้าที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าแบบท้องถิ่น มีร้านที่เต็มไปด้วยทุกสรรพสิ่งที่เกี่ยวกับแมว แถมมีป้ายขอพรของศาลเจ้าอิมาโดะ ที่ขอพรความรักแถวอาซากุสะด้วย ในร้านค้าก็มีขนมญี่ปุ่นพร้อมเซทชามัทฉะขายด้วย
โรงแรมแนะนำ Hotel & Resorts Saga Karatsu Daiwa Royal Hotel วิวสวย อาหารอร่อย สะดวกสบาย ติดร้านสะดวกซื้อ
ที่โรงแรมนี้มีขนาดใหญ่ มีทั้งห้องแบบญี่ปุ่น และห้องแบบตะวันตกให้เลือกพัก สนนราคาเริ่มต้น 3,500 บาทต่อคืน >> เว็บไซต์
ได้ยินมาว่าโรงแรมนี้อาหารอร่อย ซึ่งของขึ้นชื่อก็คือปลาหมึกนั่นเอง เค้ามีปลาหมึกสารพัดเมนูเลย ทั้งเทมปุระ ทั้งย่าง จุดเด่นของห้องอาหารโรงแรมนี้คือมีบ่อปลาหมึกให้เค้าจับแล้วทำให้รับประทานกันแบบสดๆ เลยทำให้อร่อยหวาน กรอบ ไม่ผ่านการแช่แข็ง
มื้อเย็นมีเสิร์ฟเนื้อซากะด้วย ถ้ามาถึงที่แล้วต้องลองให้ได้ เนื้อดีไม่มีผิดหวัง
สำหรับมื้อเช้า ของที่แนะนำให้ทานคือโอชาสุเคะ ทานแทนข้าวต้มไปเลย อร่อยอยู่ท้อง ตบท้ายด้วย มุระยามะกิวนิว (Murayamanyu) นมชื่อดังของจังหวัดซากะมีให้ทานที่นี่
วิวจากห้องอาหาร และห้องพักที่นี่ก็ทำให้เราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
ร้านหอยนางรม ทะเลเผาสุดฟิน ณ Itoshima เมืองแห่งหอยนางรม
เมื่อมาถึงเกาะอิโตชิมะ เมืองประมงเล็กๆที่จังหวัดฟุกุโอกะ จะต้องลองประสบการณ์ Itoshima Oyster Hut (糸島牡蠣小屋) มีให้เลือกทานมากถึง 26 ร้าน ดูรายละเอียดที่นี่ >> Itoshima Oyster Hut
ครั้งนี้เรามาที่ร้าน Mirukugaki Toyohisa-maru (豊久丸) อยู่ในพื้นที่เขต Kishi นั่งทานหอยนางรมและอาหารทะเลกันแบบสดจากทะเลจริงๆ นอกจากเมนูปิ้งย่างทะเลเผาแล้ว ยังมีอาหารหลากหลายสไตล์ ให้เลือกกินอย่างจุใจ และที่สำคัญมีเมนูภาษาอังกฤษ และสามารถสั่งจากทางไลน์ ลดการสัมผัสและสนทนากับพนักงาน เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อ
- เวลาทำการ: 10.00-17.00
- เว็บไซต์
- การเดินทาง: สถานีทีใกล้ที่สุดคือ สถานี Chikuzen-Maebaru และขึ้นแท๊กซี่ต่อประมาณ 15-20 นาที
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคิวชูได้ทาง
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวคิวชู (Kyushu Tourism Promotion Organization)