เที่ยวญี่ปุ่น ดอทคอม | Kansai: หนึ่งวันสบายๆใน Osaka เดินเล่น กิน ช็อป ขอพรศาลเจ้าความรัก

รีวิวส่งท้ายทริปคันไซ พาไปเดินเล่นสบายๆในตัวเมืองโอซาก้ากันบ้าง ถึงแม้จะชอบเที่ยวชนบทมากแค่ไหน แต่วันสุดท้ายของทริปก็มักปิดที่ช้อปปิ้งเดินเล่นในเมืองใหญ่อยู่เสมอ

เริ่มต้นแต่เช้า ไปที่อุเมดะ ไปขอพรที่ Ohatsu Tenjin ศาลเจ้าแห่งความรักของโอซาก้า แล้วไปเดินเล่นที่ห้าง Grand Front Osaka ทานมื้อเที่ยงที่ร้านโอโคโนมิยากิชื่อดัง Fukutaro ช่วงบ่ายๆข้ามมาที่ Dotonbori ไปหากิจกรรมสนุกๆ เข้าเวิร์คช็อป ลองทำอาหารจำลอง จากนั้นก็ไปเดินที่ตลาดสด Kuromon หาของอร่อยๆกินกัน

ก่อนเดินทางกลับก็ต้องแวะช้อปที่ Rinku Premium Outlet กันสักหน่อย แล้วก็ไปสนามบินคันไซ KIX ถ่ายรูปกับโปเกมอน หาอะไรทาน ก่อนขึ้นเครื่องกลับบ้านครับ

มาเริ่มกันที่ศาลเจ้าแห่งความรักของโอซาก้า ศาลเจ้าแห่งนี้ชื่อว่า Tsuyo no Tenjinja แต่ชาวบ้านแถวนั้นเรียกกันว่า Ohatsu Tenjin ตั้งอยู่ในเขตอุเมดะ ย่านช้อปของโอซาก้าที่หลายคนรู้จักกันดี

ตามตำนานเล่าว่าในอดีตมีหญิงสาวชื่อ โอฮัตสุ (Ohatsu) ที่เป็นนักแสดงอาศัยอยู่ใกล้กับศาลเจ้าแห่งนี้ พบรักกับชายหนุ่มชื่อ โทคุเบะ หลานชายพ่อค้าตระกูลร่ำรวย แต่ด้วยความต่างชั้นกัน ทำให้ความรักของทั้งสองถูกกีดกัน จนทำให้ทั้งสองตกลงที่จะปลิดชีพตัวเอง ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ เพราะยอมตายดีกว่าที่จะต้องถูกพรากจากกัน ในปีค.ศ.1703

จนต่อมานักประพันธ์ชื่อดังของญี่ปุ่นนำเรื่องราวนี้มาเผยแพร่ผ่านละครหุ่นเชิด จนทำให้ผู้คนเลื่อมใสในความรักของทั้งคู่ และเดินทางมาบูชาความรักกันที่ศาลเจ้าแห่งนี้ จนเรียกกันติดปากว่า โอฮัตสุเท็นจิน (Ohatsu Tenjin) ที่มาจากชื่อของหญิงสาวนั่นเอง

เวลาทำการ: 6.00-24.00 น. (จำหน่ายเครื่องรางเวลา 9.00-18.00 น.)
การเดินทาง: ลงรถไฟที่สถานี Umeda หรือ Nishi-umeda และเดินต่อประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์

เขียนป้ายขอพรลายโอฮัตสุ ที่สามารถวาดใบหน้าลงไปได้ตามใจชอบ

นอกจากจะมาขอพรเรื่องความรัก เขียนป้ายขอพรลายหัวใจ เพื่อขอให้พบเจอคู่ หรือ ขอให้ความรักที่มีอยู่นั่นมั่นคงยืนยาวแล้ว ศาลเจ้ายังมีเครื่องรางคู่รักที่เราสามารถซื้อพกติดตัวเอาไว้ คนละอันกับคนที่เรารัก เพื่อเสริมให้ความรักของคู่เรายืนยาวมั่นคงด้วยค่ะ ถ้าใครสนใจอยากไปขอพร และซื้อเครื่องรางก็สามารถไปได้ง่ายๆเลย

ไม่ไกลจากสถานี Osaka มาก สามารถเดินเชื่อมมาที่ห้าง Grand Front Osaka มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย

เวลาทำการ: ร้านค้า 10.00-21.00 น. / ร้านอาหาร 11.00-23.00 น.
การเดินทาง: ลงสถานี Osaka หรือสถานี Umeda เดิน 5 นาที
เว็บไซต์

มีช็อปเท่ๆมากมายให้เดินชม อย่าง Mercedes me ก็มาเปิดสาขาที่นี่ อยู่ที่ชั้น 1 ห้าง Grand Front Osaka ที่เป็นทั้งแกลเลอรี่ และ ขายไอเท็มต่างๆที่หาซื้อได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น และยังมีคาเฟ่ด้วย เอาใจคนรักรถเมอร์เซเดสกันไปเลย

เวลาทำการ: 10.00-20.00 น. / คาเฟ่ 9.00-22.00 น.（L.O.21.30 น.)
เว็บไซต์

ถ้าใครอยากหาอะไรทาน แนะนำให้ขึ้นมาที่ชั้น 7 ของห้างฝั่งใต้ จะมีร้านอาหารเยอะแยะมากมาย วันนี้แอดเลือกร้านโอโคโนมิยากิชื่อดัง Fukutaro 福太郎 แนะนำให้มาแต่ห้างเปิดคนจะน้อย ถ้ามาติดช่วงเที่ยง-บ่ายโมง คิวจะยาวมากๆ เพราะพนง.ออฟฟิสมาทานกันเยอะ

เวลาทำการ: 11.00-23.00 น.
เว็บไซต์

Omusoba ยากิโซบะห่อไข่ ราคา 1,080 เยน

Okonomiyaki พิซซ่าญี่ปุ่น ไส้ต่างๆ มีให้เลือก ทั้ง เนื้อหมู เนื้อวัว กุ้ง หรือถ้าใครชอบทางต้นหอมญี่ปุ่นแบบเน้นๆ ก็สามารถเลือกสั่งเมนู Negiyaki ได้ ราคาเริ่มต้น 980 เยน

ข้ามมาเดินเล่นที่ถนนยอดฮิต โดทงโบริ (Dotonbori)

ปูจากร้าน Kanidoraku เป็นสัญลักษณ์ของย่านนี้ไปแล้ว

ร้าน Takoyaki Juhachiban กำลังได้รับความนิยมได้ขณะนี้

ร้านทาโกยะกิ Creo-ru ชื่อดัง ที่เคยได้รางวัลอันดับ 1

ฝาท่อประจำเมืองโอซาก้า

ตามตรอกซอกซอย มีร้านคาเฟ่ และร้านอาหารแบบโลคอล ซ่อนตัวอยู่เยอะมาก

วัดโฮเซนจิ (Hozenji) ในตรอกโฮเซนจิ (Hozenji Yokocho) ตั้งอยู่ในย่านโดทงโบรินี่เอง โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่มานานเกือบ 400 ปี ตั้งแต่ค.ศ.1637 โดยพระพุทธรูปที่อยู่เบื้องหน้านั้นคือ Fudo Myo-o ที่ปกติจะมีพระพักตร์ที่ขึงขังและเหี้ยมโหด แต่ปัจจุบันแทบมองไม่เห็นความโหดนั้น เพราะได้ถูกปกคลุมไปด้วยหญ้ามอสสีเขียวไปทั้งหมดแล้ว การเคารพบูชาท่าน ทำได้โดยการใช้กระบวยราดน้ำไปที่องค์พระพุทธรูป จนมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Mizukake-Fudo (ซึ่งคำว่า Mizukake แปลว่า ราดน้ำ หรือ สาดน้ำ นั่นเอง)

ป้ายกุลิโกะที่ไม่ว่ามากี่ครั้งก็ต้องมาขอแชะภาพคู่ด้วย

Dontonbori Crepe ร้านเครปเล็กๆ ที่ราคาไม่แพง แถมรสชาติก็ไม่หวานไป อร่อยดีครับ

เดินข้ามฝั่งจากโดทงโบริมาที่ย่านการค้า Sennichi-mae มาเข้าเวิร์คชอปลองทำ Food Sample หรืออาหารจำลองกัน ที่ร้าน Design Pocket

เวลาทำการ: 9.30-18.00 น.
เว็บไซต์

ไก่ทอดนี่ของปลอมนะครับ อย่าเผลอหยิบกิน เพราะดูเหมือนจริงมาก

เราเลือกทำทาโกยากิ เป็นแบบที่ง่ายที่สุด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ค่าใช้จ่ายคนละ 2,480 เยน ได้ 2 ลูก สามารถเลือกเป็นพวงกุญแจ หรือแม่เหล็กก็ได้ และอันนี้เป็นฝีมือของแอดมินเอง ทาโกยากิลายโอซาก้า ดูรายละเอียดการทำ >> ที่นี่

แรงยังไม่หมด มาเดินเล่นหาของอร่อยๆทานกันที่ ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba) ที่มีร้านค้ากว่า 180 ร้าน

เวลาทำการ: ขึ้นอยู่กับร้านค้า บางร้านเปิดตั้งแต่ 6.30-17.30 น.
การเดินทาง: สามารถเดินมาจาก Sennichimae ได้เลย หรือขึ้นรถไฟใต้ดินลงสถานี Nippombashi
เว็บไซต์

ไดฟุกุสอดไส้สตรอเบอร์รี่และถั่วแดง ลูกละ 300 เยน

ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารแบบเดินไปกินไป ซื้อง่ายๆ เห็นอะไรน่ากิน ก็เข้าไปเลือกซื้อ จ่ายเงิน เเละเดินทานได้เลย

มาช่วงต้นปีก็จะมีสตรอเบอร์รี่ฟินๆให้เลือกกินมากมาย แนะนำว่าต้องไปที่ร้าน Nabeji なべじ การันตีเรื่องคุณภาพ เพราะเปิดมานาน และไม่เอาเปรียบลูกค้า ราคาสมเหตุสมผล ร้านอยู่หัวมุมนะครับ คุณลุงเจ้าของร้านใจดีมากๆ >> เว็บไซต์

และก่อนกลับบ้าน เป็นอะไรที่ต้องแวะเสมอ นั่นก็คือ Rinku Premium Outlet ช้อปแบรนเนมในราคาสบายกระเป๋า เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2010 มีร้านค้ากว่า 210 ร้าน และมีแผนกำลังจะขยายเพิ่มร้านค้าให้มากขึ้นอีกด้วย

เวลาทำการ: 10.00-20.00 น.
เว็บไซต์

มุมถ่ายรูป มองเห็นชิงช้าสวรรค์ฝั่ง Seacle และอาคารโรงแรม Starg Gate ที่สูงถึง 256 เมตร

เดินทางกลับไทยจาก สนามบินนานาชาติคันไซ KIX สะดวกสบายด้วยเที่ยวบินตรงจากหลากหลายสายการบิน อาทิ การบินไทย, เจแปนแอร์ไลน์, ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์, นกสกู๊ต