สถานที่ที่จะพาไปเที่ยวในวันนี้ คือ ศาลเจ้า Sumiyoshi Taisha หนึ่งในศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีความงดงาม โดยเฉพาะสะพานโค้งสีแดง ที่เป็นจุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดของโอซาก้า
การเดินทางมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ทำได้สะดวกจาก Namba ด้วยรถไฟสาย Nankai (ปลายทางไป Wakayamashi) มาลงที่สถานี Sumiyoshitaishaใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาทีเท่านั้น หรือจะเพิ่มอรรถรสการเดินทางด้วย Hankai Tramway รถรางสายเดียวของโอซาก้า โดยตั้งต้นจากสถานี Tennoji อ่านรายละเอียด >> ที่นี่
เมื่อเดินทางมาถึงสถานี Sumiyoshi Taisha แล้วจะมีป้ายบอกทาง พร้อมทั้งแผนที่ด้านในบริเวณศาลเจ้า และรอบนอก
ภายในสถานี มี Shop Nankai Sumiyoshi ร้านค้า และ ร้านอาหาร ให้บริการด้วย
เดินออกมาตามทาง ไม่ไกลมาก จะพบกับทางเดินรถราง ที่จะจอดหน้าทางเข้าศาลเจ้า เช้านี้อากาศแจ่มใส และมีแต่ชาวญี่ปุ่น เดินทางมาสักการะขอพรกันครับ ไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวมากเท่าไหร่
ป้ายหินด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้า สลักไว้ว่า Sumiyoshi Taisha 住吉大社
ซุ้มประตูโทริอิหิน สัญลักษณ์ของทางเดินเข้าสู่เขตแดนอันศักดิ์สิทธิ์
สะพานโค้งสีแดง Sumiyoshi Sorihashi 住吉反橋 อันเลื่องชื่อ ที่เป็นจุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้
(มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Taikobashi 太鼓橋)
มุมบังคับที่ต้องมาถ่ายรูป จะเห็นภาพของสะพานแดงสะท้อนกับผิวน้ำ
มุมนี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 วิวที่สวยงามที่สุดของคันไซ
สะพาน Sorihashi มีความยาว 20 เมตร สูง 4.4 เมตร สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16-17
เมื่อมองลงมาจากสะพานแดง สะพานหินที่อยู่ตรงข้ามคือ จุดที่ไปถ่ายรูปสะพานสะท้อนกับผิวน้ำ ได้ดีที่สุด
ด้านในศาลเจ้า ต้อนรับด้วย Juyosho ซุ้มขายเครื่องรางของขลัง เปิด 9.00-16.30 น.
ชำระล้างมือและปากที่ Temizusha ด้วยน้ำบริสุทธิ์ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ใช้กระต่ายเป็นสัญลักษณ์
Sumiyoshi Taisha 住吉大社 เป็นศาลเจ้าหลักของ ศาล Sumiyoshi ที่มีอยู่กว่า 2,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น สร้างขึ้นครั้งแรกช่วงราวศตวรรษที่ 4-5 อาคารศาลเจ้าหลักในปัจจุบัน สร้างขึ้นในปี 1810 ประกอบไปด้วยศาลเจ้าทั้งหมด 4 หลัง หลังที่หันไปทางมหาสมุทรทางฝั่งตะวันตก ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาตร์ของการก่อสร้างศาลเจ้า ที่เรียกว่า Sumiyoshi-zukuri
โครงสร้างทั้งหมดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ ภายนอกออกแบบโดยใช้เส้นตรง และใช้สีแดงเป็นหลัก เคลือบด้วยสีทอง โดยมีสีดำกับขาวช่วยขับความเด่นเป็นสง่า ภายในจะแบ่งเป็น 2 ห้อง คือห้องด้านหน้า และห้องด้านหลัง โดยภายในทั้ง 4 ศาลเจ้านั้นเป็นที่สถิตของเทพแห่งท้องทะเล Uwatsutsuo-no-mikoto, Nakatsutsuo-no-mikoto, Sokotsutsuo-no-omikoto และ Jingu-Kogo ที่คอยปกป้อง ชาวประมงและชาวเดินเรือ ให้แคล้วคลาดปลอดภัย
การจัดวางตำแหน่งของศาลเจ้าแห่งนี้ ถือว่าหาชมได้ยาก ไม่ค่อยได้พบเห็นที่ไหนในญี่ปุ่น
ระหว่างทางขากลับมีสวน Sumiyoshi อยู่ใกล้กับสถานีอีกด้วย สงบดีครับ