ประเทศญี่ปุ่นมีเกาะใหญ่ๆทั้งหมด 4 เกาะคือ Honshu 本州, Hokkaido 北海道, Kyushu 九州 และ Shikoku 四国 ประกอบด้วย 47 จังหวัดกระจายตามภูมิภาคต่างๆ ทั้งหมด 8 ภูมิภาค ได้แก่
ในยุคบุกเบิก เมืองที่โดดเด่นมากคือ โอตารุ และ ฮาโกะดาเตะ โดยเป็นเมืองท่าที่เปิดรับความเจริญ จนได้แพร่กระจายเข้ามาสู่เขตการปกครองหรือจังหวัดอื่น อย่างซัปโปโร ซึ่งปัจจุบันเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจของฮอกไกโด
ด้วยภูมิอากาศอันหนาวเย็น ไม่ได้หมายความว่าฮอกไกโดจะมีแต่เพียงหิมะและน้ำแข็ง ในช่วงฤดูอื่นๆของปี ฮอกไกโดยังมีดอกซากุระที่งดงามและดอกไม้พันธุ์อื่นที่สามารถเลือกชมได้ในช่วงฤดูร้อน และด้วยความหลากหลายทางสภาพอากาศจึงทำให้ ฮอกไกโด รังสรรค์สถานที่พักผ่อนชั้นเยี่ยมของชาวญี่ปุ่น นอกจากเมืองท่องเที่ยวหลักๆอย่าง Sapporo, Hakodate, Otaru แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ลานสกี Daisetsusan ยอดเขา Sounkyo ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ Furano ทะเลน้ำแข็งที่ Okhotsk น้ำพุร้อนที่ Noboribetsu เป็นต้น
การเดินทางเข้าสู่เกาะฮอกไกโด สามารถเดินทางได้ทั้งรถไฟและเครื่องบินจากโตเกียว
โทโฮขุ มีชื่อเสียงในเรื่องของธรรมชาติและมีมรดกโลกทางธรรมชาติอย่าง Shirakami และมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ Hiraizumi นอกจากนั้นยังมีภูเขา Iwate และทะเลาสาป towada ในจังหวัดอาโอโมริที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ภูเขา zao แหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังของจังหวัด Akita และมีศูนย์กลางทางการค้าและการท่องเที่ยวที่เมือง Sendai และ Matsushima
ถึงแม้โทโฮขุจะเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการ์ณแผ่นดินไหวเมื่อปี 2011 ปัจจุบันเราสามารถเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวได้อย่างไม่ต้องมีกังวล ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว และล่าสุดการบินไทยได้เปิดบริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯสู่เมืองเซนไดแล้วด้วย
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเริ่มต้นการเดินทางจากที่นี่ จากโตเกียวสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองรอบๆได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการไปชมมรดกโลกที่เมือง Nikko อาบน้ำพุร้อนที่ Hakone ชมความงามของภูเขาไฟฟูจิที่ทะเลสาป Kawaguchiko และเที่ยวเมืองหลวงเก่า สักการะองค์ไดบุทซึ ที่เมือง Kamakura ชมวิวท่าเรือที่ Yokohama เป็นต้น และนอกจากนั้น เรายังสามารถเดินทางต่อไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วญี่ปุ่นได้ทั้งทางรถไฟและเครื่องบินจากที่นี่อีกด้วย
โตเกียว เมืองหลวงของประเทศ มีประชากรประมาณ 13 ล้านคน แบ่งเขตการบริหารออกเป็น 23 เขต พิเศษเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม และทุกๆอย่างของประเทศญี่ปุ่น เป้นเมืองที่มีความทันมัยติดอันดับต้นของโลก และมีปะวัติศาสตร์มายาวนาน เจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยเอโดะในช่วงศตวรรษที่ 16 ส่วน มหานครโตเกียว หรือ Greater Tokyo นั้นเป็นอาณาเขตของโตเกียวและบริเวณรอบๆในจังหวัด Chiba, Kangawa และ Saitama มีสนามบิน Haneda ที่ตั้งอยู่ในเขตโอตะ เมืองโตเกียว และ สนามบิน Narita ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะ นอกเมืองโตเกียว
จูบุ มีเมืองที่สำคัญคือ Nagoya และสนามบินนานาชาติ Chubu Central International Airport หรือ Centrair เป็นศูนย์กลางและประตูเปิดสู่ภูมิภาคนี้ นักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถเดินทางด้วยเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯสู่นาโกย่าด้วยบริการของการบินไทย หรือจะไปต่อเครื่องจากสนามบินอื่นๆเช่น นาริตะหรือฮาเนดะ ก็ได้เช่นกัน อิกหนึ่งวิธีที่สะดวกมากคือ รถไฟ Shinkansen สาย Tokaido ที่วิ่งตรงจากสถานีโตเกียวถึงสถานีนาโกย่า โดยใช้เวลาเพียง 100 นาทีเท่านั้น
ภูมิภาคจูบุเป็นที่ตั้งของเทือกเขาแอลป์ แบ่งประเทศออกเป็น 2 ฝั่งคือ ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกว่า ด้านหน้าของญี่ปุ่น Omote-Nihon 表日本 และฝั่งทะเลญี่ปุ่น Ura-Nihon 裏日本 ว่า ด้านหลังของญี่ปุ่น ทำให้สภาพภูมิอากาศในแต่ละฤดูของแต่ละฝั่งมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขา การเที่ยวชมเมืองต่างๆในแต่ละจังหวัดของภูมิภาคนี้ จึงเป็นการลัดเลาะป่าเขา เช่น เมืองโบราณที่ Takayama, หมู่บ้านมรดกโลก Shirakawago กำแพงหิมะที่ Toyama พักผ่อนที่โซนน้ำพุร้อนชื่อดังอย่าง Nagano และ Karuizawa ชมปราสาทอีกาดำที่ Matsumoto ชมสวนญี่ปุ่นที่งดงามที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นที่ Kanazawa เป็นต้น และทางตอนล่างมีชายทะเลที่ทอดตัวยาวใน Ise ดังนั้นในภูมิภาคนี้จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันแต่มีเสน่ห์น่าหลงไหลอย่างไม่เหมือนภูมิภาคอื่นๆในญี่ปุ่นเลย
ภูมิภาคนี้มีบทบาทที่สำคัญทางด้านการเมือง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของประเทศ มาช้านาน เป้นดินแดนอันอุดมสมบูรณืและเป็นครัวหลักสำคัญในสมัยเอะโดะ เคยมีเมืองหลวงเก่าอย่าง Nara และ Kyoto จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ วัฒนะรรมอันทรงคุณค่าและยังมี Wakayama เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศานาที่เริ่มเข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่นเมื่อ 1200 ปีก่อน ท่ามกลางความเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษณ์มาสู่รุ่นต่อรุ่น ยังมีความทันสมัยของเมือง Osaka และเมืองท่าที่ Kobe ที่เปิดรับเทคโนโลยีและวัฒนธรรมยุคใหม่เข้ามาผสมผสานกันอย่างลงตัว
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ มีมากมาย เดินย่านเมืองเก่า ชมวัดวาอารามที่ Kyoto ปราสาทสวยที่ Osaka หรือขึ้นไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ Koyasan รวมไปถึงเที่ยวปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นในเมือง Himeji และ เยี่ยมน้องกวาง กราบไหว้องค์ไดบุทซึที่วัดโทจิเมือง Nara เป็นต้น
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯสู่สนามบินคันไซ ด้วยเที่ยวบินตรงจากการบินไทยและเจแปนแอร์ไลน์ สนามบินคันไซตั้งขึ้นบนเกาะที่สร้างขึ้นด้วยคนโดยการถมทะเล ตั้งอยู่ใกล้เมืองโอซาก้าเป็นประตูสู่ภูมิภาคคันไซ สามารถเดินทางไปเที่ยวเมืองรอบต่างๆด้วยระบบคมนาคมอันสะดวกสยาย และมีตั๋วรถไฟอย่าง Kansai Thru Pass ที่จัดทำขึ้นมาสำหรับการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะ ดูข้อมูลตั๋วรถไฟในคันไซ >>>ที่นี่<<<
ภูมิภาคจูโกขุ มีอีกชื่อหนึ่งว่า Sanyo-Sanin มีที่มาจากการแบ่งเป็น 2 เขต คือ เขตซันอิน ฝั่งทะเลญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของจังหวัด Tottori และ Shimane มีความสวยงามทางะรรมชาติ ที่โดดเด่นคือหินทรายและหินปูน ส่วนเขตซันโย ติดทะเล Seto จะมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างสบายตลอดทั้งปี ประกอบไปด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ Hiroshima, Okayama และ Yamaguchi
นอกจากเมืองหลักที่โดดเด่นด้านการท่องเที่ยวอย่างฮิโรชิมาแล้ว ในเมืองอื่นๆยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมาก ถึงแม้ภูมิภาคนี้อาจจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนน้อยกว่าคันโตหรือคันไซ แต่ถ้ามีเวลามากพอก็เป็นอีกโซนหนึ่งที่มีความงดงามทางธรรมาติและความสวยงามทางวัฒนธรรมไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้ากลางน้ำที่เกาะ Miyajima สวนญี่ปุ่น Okayama ติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น เมืองที่มีลำคลองไหลผ่านอย่าง Kurashiki สะพานคินไตเคียวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสะพานที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่นในจังหวัด Yamaguchi เมืองทะเลทรายที่ Tottori และปราสาทมัทซึเอะที่จังหวัด Shimane เป็นต้น
ในเรื่องของการเดินทางภายในภูมิภาค ถือว่าค่อนข้างสะดวกสบาย ถ้าเดินทางโดยใช้ JR Sanyo Pass ที่สามารถเดินทางได้ทุกจังหวัดในภูมิภาคนี้ นอกจากนั้นยังมีรถไฟชิงคังเซ็นวิ่งผ่าน เชื่อมจาก โอซาก้า ไปจนถึง สถานีฮากาตะ ในเมืองฟุกุโอกะ โดยวิ่งผ่านสถานีสำคัญๆในภูมิภาคจูโกขุ อย่าง Okayama, Kurashiki, Hiroshima และ Yamaguchi สามารถดูรายละเอียดตั๋วรถไฟได้ >>>ที่นี่<<<
เกาะชิโคขุมีเทือกเขาเรียงตัวเป็นแนวยาวจากตะวันออกสู่ตะวันตกแบ่งเกาะออกเป็นสองฝั่ง โดยภูเขาที่สูงที่สุดอยู่ในจังหวัด Ehime มีชื่อว่า Mount Ishizuchi 石鎚山 เกาะแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากเป็นแหล่งผลิตข้าวเจ้า, ข้าวสาลี และ ข้าวบาเล่ย์ ซึ่ง Sanuki udon ที่ทำมาจากข้าวสาลีมีชื่อเสียงมากในจังหวัด Kagawa
การเดินทางมายังเกาะชิโคขุ สามารถทำได้โดยการนั่งรถไฟจากเมือง Okayama มายังเมือง Takamatsu และรถไฟขบวนด่วนพิเศษ Shiokaze 特急しおかぜ ที่วิ่งระหว่าง Okayama กับ Matsuyama หรือจะนั่งสายการบินภายในประเทศจากโตเกียวหรือคันไซมาก็ได้เช่นกัน ถึงแม้จะยังไม่มีชิงคังเซนวิ่งผ่านเข้ามายังเกาะแห่งนี้ แต่สามารถเดินทางได้ทั่วเกาะด้วยรถไฟ JR และมีตั๋วรถไฟราคาพิเศษอย่าง Shikoku Free Kippu สามารถโดยสารทั้งรถไฟและรถบัสได้อย่างไม่จำกัด ภายใน 3 วัน
ด้วยความที่คิวชูนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของอารยธรรมต่างๆที่เปิดรับจากนานาชาติตั้งแต่อดีต ผสมผสานกับความเป็นหัวเมืองหลักของญี่ปุ่นมาช้านาน ทำให้เกาะคิวชูเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายและโดดเด่นอย่างไม่ซ้ำเมืองไหนๆในประเทศญี่ปุ่น และมีทั้งความสวยงามทางธรรมชาติ และความทันสมัยของเมืองก็ไม่แพ้ใครอีกด้วย เรียกได้ว่า คิวชูนั้นมีเสน่ห์น่าค้นหาครบถ้วนทุกอารมณ์เลยทีเดียว
ในปัจจุบัน เราสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะคิวชูแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นทางเครื่องบิน ที่มีสายการบินแห่งชาติ อย่างการบินไทย ให้บริการเที่ยวบินตรงจาก กรุงเทพ ไปยัง เมืองฟุกุโอะกะ ถึง 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 5 ชั่วโมงเศษเท่านั้น หรือจะเดินทางโดยใช้รถไฟหัวกระสุน Shinkansen ก็สามารถเดินทางไปยังเมืองต่างของเกาะคิวชู ไม่วาจะเป็น Fukuoka, Kumamoto, Kagoshima และสามารถเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆด้วยรถไฟของ JR ได้อย่างสะดวกสบาย เช่นเดียวกัน
หากต้องการเที่ยวเฉพาะภูมิภาคคิวชูเพียงอย่างเดียว มีตั๋วรถไฟ JR Kyushu Pass จำหน่าย สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางได้ทั่วทั้งเกาะคิวชูในราคาประหยัดอีกด้วย การจัดสรรการเดินทางท่องเที่ยวเกาะคิวชูจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ดูข้อมูลตั๋วรถไฟ >>>ที่นี่<<<