Kagoshima: เที่ยวเมืองชายทะเล อบทรายร้อน ที่ Ibusuki

หลังจากรีวิวแรก ได้พาไปเที่ยวในตัวเมืองคาโงะชิมะกันไปแล้ว รีวิวนี้จะพาขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ ไปเที่ยวกันต่อที่เมืองชายทะเลน่ารักๆ อย่างเมืองอิบุซุกิ ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น

ibusuki map

อ่านรีวิวแรก >> Kagoshima: เที่ยวเมืองคาโงะชิมะ ใต้สุดเกาะคิวชู จากฟุกุโอกะ ใน 1 วัน

เดินทางสู่เมืองตั้งต้น ที่ฟุกุโอกะ ด้วยการบินไทย เที่ยวบิน TG648
อ่านรีวิว >> บินสบายกับการบินไทย เที่ยวบินตรงสู่ Fukuoka ชิมเมนูอาหารปรุงพิเศษ จากเชฟชื่อดัง

kagoshima review

การเดินทางในวันนี้เราจะโดยสารรถไฟขบวนพิเศษ ที่มีชื่อว่า อิบุทะมะ (Ibutama) หรือชื่อเต็มว่า Ibusuki no Tamatebako นั่งชมวิวอ่าว Kinko และภูเขาไฟซากุระจิมะ (Sakurajima) ผ่านทางหน้าต่างรถไฟ เอกลักษณ์ของรถไฟสายนี้คือ ขบวนรถไฟจะมีสีขาว-ดำ และเมื่อประตูรถไฟเปิดออก จะมีไอน้ำพวยพุ่งขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ ของการเดินทางมาถึงวังของมังกรในตำนาน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ออกเดินทางจากสถานี Kagoshima-Chuo ด้วยรถไฟ Ibutama สาย JR Ibusuki Makurazaki Line ไปลงที่สถานี Ibusuki ใช้เวลาประมาณ 51 นาที (ราคา 2,130 เยน) โดยรถไฟสาย Ibutama จะเป็นตั๋วรถไฟที่ต้องจองล่วงหน้า และระบุที่ันั่งแล้วเท่านั้น ตารางการเดินรถมีวันละ 3 รอบ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้

Screen Shot 2016-05-30 at 12.33.14 AM

ที่ด้านหน้าของสถานีจะพบกับบ่อออนเซนเล็กๆ สำหรับให้นักท่องเที่ยวใช้แช่เท้าคลายความเมื่อยล้า

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

จุดหมายแรก เราจะเดินทางไปกันที่โรงแรม Ibusuki Iwasaki เพื่อรับประทานอาหารกลางวันกัน โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก มีชื่อเสียงในเรื่องของหาดทรายดำออนเซ็น เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งสนามกอล์ฟ สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส รวมถึงบ่อออนเซนกลางแจ้งอีกด้วย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

อาหารกลางวันแบบไคเซกิที่ห้องอาหารของโรงแรม Ibusuki Iwasaki

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราไปเที่ยวกันต่อที่ ศาลเจ้าริวงู (Ryugu Shrine) ศาลเจ้าสีแดงริมชายทะเล ตั้งอยู่ที่บริเวณแหลมนางาซากิบานะ (Nagasakibana) จุดใต้สุดของของแผ่นดินคาบสมุทรซัทสึมะ (Satsuma) ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของนิทานตำนานอุระชิมะทาโร่ (Urashima Taro) อีกด้วย

ตามตำนานชาวประมง อุระชิมะทาโร่ ได้ช่วยเต่าตัวเล็กที่ถูกเด็กใจร้ายรังแกบนชายหาดแล้วปล่อยกลับสู่ทะเลลงไป วันถัดมาในขณะที่กำลังหาปลาอยู่ก็มีเต่ายักษ์ตัวหนึ่งว่ายน้ำมาหา และต้องการตอบแทนที่ได้ช่วยชีวิตเต่าตัวเล็กเอาไว้ ด้วยการพาไปส่งที่วังมังกรที่ทำจากทองคำทั้งหมด และได้พบกับเจ้าหญิงรูปงามแห่งวังมังกร โอโตฮิเมะ (Otohime) ซึ่งก็คือเจ้าเต่าตัวเล็กนั่นเอง

อุระชิมะทาโร่ อยู่ที่วังกับเจ้าหญิงเป็นเวลาถึงสามปี ก็อยากที่จะกลับไปดูแลแม่ที่อายุมากแล้ว องค์หญิงโอโตฮิเมะ จึงให้กล่องสมบัติ ทะมะเทะบะโคะ (Tamatebako) เพื่อช่วยคุ้มครองให้ชาวประมงปลอดภัย โดยกำชับว่าห้ามปิดกล่องสมบัตินี้เด็ดขาด เต่ายักษ์ตัวเดิมก็พาไปส่งที่ชายหาดเดิมที่จากมา แต่เมื่อไปถึงชายหาดก็พบว่าทุกๆอย่าง ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างหมดสิ้น ทุกคนที่รู้จักได้ล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว เพราะเวลาที่วัง 3 ปีมีอายุเท่ากับเวลาบนโลกมนุษยืถึง 300 ปี อุระชิมะทาโร่ รู้สึกเสียใจมาก จึงเปิดกล่องสมบัติขึ้น ทันใดนั้นเขาก็แก่ลงในทันที เพราะกล่องสมบัติใบนั้น เป็นกล่องที่เก็บอายุของเค้าไว้นั่นเอง 

วิธีการเดินทาง : โดยสารรถไฟ JR สาย Ibusuki-makurazaki ลงที่สถานี Nishi-oyama แล้วนั่งรถต่อมาอีก 15 นาที หรือโดยสารรถประจำทาง Kagoshima Kotsu Bus ที่สถานี Yamagawa มาลงที่สถานีรถประจำทาง Nagasakibana แล้วเดินต่ออีก 3 นาที

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

สถานที่ที่ชาวประมงอุระชิมะทาโร่ ได้ช่วยชีวิตเจ้าหญิงโอโตฮิเมะ ไว้ก็คือที่แหลมนางาซากิบานะ แห่งนี้นั่นเอง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ความพิเศษของศาลเจ้าแห่งนี้ที่แตกต่างจากที่อื่นก็คือให้ผู้ที่มาสักการะได้เขียนความปรารถนาของตนเองไว้บนแผ่นกาบหอยเพื่อขอพรจากเทพเจ้า ตามตำนานของเรื่อง อุระชิมะทาโร่

ศาลเจ้าริวกิว

ด้านหน้าของศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีถนนสายยาว เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ขนมหวานและอาหารอีกมากมาย
อย่าลืมชิมซอฟท์ครีมรสมะม่วงสุดอร่อยอีกด้วย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

จากแหลมนางาซากิบานะ เราสามารถเดินไปชมวิวของ ภูเขาไฟ ไคมง (Kaimon) หรือมีชื่อเสียงในนามของ “ฟูจิซังแห่งคิวชู”

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ภูเขาไฟไคมง มีทางเดินวนขึ้นไปบนเขาได้ใช้เวลาในการเดินเขา 3 ชั่วโมง ซึ่งจากด้านบนสุดของเขา จะสามารถมองเห็นแนวยาวของ เกาะคิริชิมะ (Kirishima) และเกาะนันเซ (Nansei) รวมถึงทะเลสาบซะกุระจิมะ (Sakurajima), อิเคดะ (Ikeda) อีกทั้งยังมองเห็น เกาะยะคุชิมะ (Yakushima) และเกาะโกชิมะ (Goshima) ได้ทั้งหมดด้วย เป็นวิวพาโนรามา 360 องศา ที่งดงามมาก


หลังจากเที่ยวกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ก้ได้เวลาไปยังเรียวกังที่พักของเราในคืนนี้ ที่ Ibusuki Hakusuikan ได้ชื่อว่าเป็นเรียวกังที่สวยที่สุดและดีที่สุดในเมืองอิบุซุกิเลยทีเดียว ที่พักแห่งนี้อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Ibusuki เพียง 10 นาทีด้วยการเดินทางโดยรถยนต์ (ทางที่พักมีรถชัตเทิลบัสรับส่ง)

hakusuikan

hakusuikan

ความพิเศษของที่นี่ก็คือมี ห้องอาบน้ำพุร้อนในร่ม และ กลางแจ้ง หลากหลายแบบ ที่สร้างแบบย้อนยุคไปในสมัยเอโดะ รวมทั้งการอบทรายร้อน ที่เรียกกันว่า ซุนะมุชิ (Sunamushi)

15294547

บรรยากาศภายในห้องพัก สามารถมองเห็นวิว อ่าวคาโงะชิมะ ได้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

แน่นอนกิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่ คือ การอบทรายร้อน ซุนะมุชิ ทรายร้อนที่ว่านี้เกิดขึ้นจากด้านหนึ่งของเมืองนั้น เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟไคมงดาเคะ (開聞岳) ซึ่งยังพร้อมที่จะปะทุขึ้นมาอีก นอกจากนี้ใต้พื้นดินส่วนที่ลึกที่สุดก็มีแนวน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ถูกสะสมมานานไหลอยู่ โดยมีเอนซุยคุซาบิ (塩水くさび) เป็นแนวแบ่งเขตระหว่างน้ำพุร้อนใต้ดินและน้ำทะเลอยู่ เมื่อใดก็ตามที่ระดับน้ำของทั้งสองที่สูงขึ้นเอนซุยคุซาบิก็จะปล่อยให้น้ำพุ ถ่ายเทความร้อนออกมาซึ่งจะทำให้หาดทรายร้อนขึ้น

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

การนอนอบทรายนี้เป็นที่คุ้นเคยในญี่ปุ่น มานานกว่า 300 ปีแล้ว นอกจากจะช่วยรักษาอาการป่วยตามร่างกายได้แล้ว ยังมีแร่ธาตุต่างๆจากภูเขาไฟที่ช่วยให้ผิวพรรณสวยงามยิ่งขึ้นด้วย แต่เนื่องจากทรายนั้นมีความร้อนถึง 35 องศาเซลเซียส ฉะนั้นการนอนอบทรายจึงต้องมีกติกา คือ สวมชุดยูกาตะให้เรียบร้อยก่อนการอบ และอบได้ไม่เกิน 10 นาทีเนื่องจากความร้อนอาจทำให้ผิวไหม้ได้ และยังมีพนักงานที่คอยเตรียมขุดหลุมทรายไว้ให้ด้วย หลังจากอบทรายแล้วควรจะไปนอนแช่ในน้ำอุ่น และดื่มน้ำเย็นๆสักแก้วเพื่อความสดชื่นสบายใจ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ขั้นตอนการใช้บริการบ่ออบทรายร้อนที่โรงแรม Ibusuki Iwasaki Hotel
1. หลังจากรับชุดยูกาตะและผ้าขนหนูผืนเล็กจากเจ้าหน้าที่แล้ว เชิญเปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะสำหรับอบทรายร้อน กรุณาเก็บเสื้อผ้าและชุดชั้นใน รวมทั้งของใช้มีค่าส่วนตัวไว้ในตู้ล้อกเกอร์ให้เรียบร้อย และนำผ้าขนหนูผืนเล็กติดตัวไปด้วย
2. เดินลงบันไดหรือลิฟท์ไปยังชั้น G5 ตามป้ายลูกศร Sand bath area
3. เอนตัวลงบนทราย ปูผ้าขนหนูผืนเล็กลงแทนหมอน เจ้าหน้าที่จะนำทรายร้อนมากลบตัว
4. ปกติแล้วการอบทรายร้อนใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
* ในกรณีที่มีแผล ให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้กลบทรายร้อนทับบนแผล เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายกับผิวหนังได้
* ถ้ารู้สึกว่าทรายร้อนเกินไป ขยับตัวเล็กน้อยแล้วจะรู้สึกดีขึ้น
* ถ้ารู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก สามารถลุกขึ้นจากทรายร้อนได้ทุกเมื่อ
5. หลังจากขึ้นจากการอบทรายร้อนแล้ว ลงแช่บ่อน้ำแร่กลางแจ้งได้ทั้งที่สวมชุดยูกาตะ
6. หลังจากขึ้นจากบ่อน้ำแร่กลางแจ้งแล้ว อาบน้ำล้างทรายออกในห้อง shower room ซึ่งจะมีผ้าเช็ดตัว และชุดยูกาตะแห้งเตรียมไว้ให้
7. หลังจากนั้น ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น G4 เพื่อกลับไปยังห้องล็อกเกอร์แล้วเปลี่ยนกลับเป็นชุดลำลอง กรุณาสำรวจสิ่งของมีค่าของท่านก่อนออกจากห้องล็อคเกอร์
ข้อควรระวัง
หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการอบทรายร้อน
* ความดันเลือดสูง
* ปัญหาโรคหัวใจ
* ผิวหนังบอบบาง แพ้ง่าย
* ดื่มแอลกอฮอล์มา

หลังจากพักผ่อนแช่ทราบร้อนกันอย่างสบายตัวแล้ว ถึงเวลาของมื้อเย็นสุดพิเศษ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

พิพิธภัณฑ์ห้อง Kinran ใช้เก็บเครื่องใช้พอซเซอเลนจีนภายในเรียวกัง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

มื้อเย็นวันนี้ เปลี่ยนบรรยากาศ มาลิ้มรสอาหารอิตาเลียนที่ห้องอาหาร Ristorante Fenice

Italain food

และตอนหน้าจะพาไปเที่ยวเกาะยะคุชิมะกันต่อครับ

Categories: Place To Go,Review