เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องคิดถึงความสนุกของธีมปาร์คในญี่ปุ่นที่ทั้งยิ่งใหญ่อลังการและเต็มไปด้วยสีสัน มีให้เลือกเที่ยวกันทั้งประเทศ แน่นอนว่าถ้าญี่ปุ่นเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งเมื่อไหร่ พวกเราก็พร้อมบินพุ่งตัวไปคลายความคิดถึง วันนี้เราเลยอยากแนะนำสวนสนุกสุดปังจากญี่ปุ่นที่ทั้งเที่ยวสนุกและได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ไปดูพร้อมกันเลย
1.โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
โตเกียวดิสนีย์แลนด์คือสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ใครที่ชอบดูการ์ตูนดิสนีย์รับรองว่าฟินสุด ๆ เพราะเมื่อได้เข้าไปสัมผัสแล้วต้องบอกว่าเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนการที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ใครจะมาที่นี่เราขอแนะนำให้ใช้เวลาทั้งวัน เพราะมีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ถ่ายรูปกันทั้งวันก็ไม่เบื่อ ถ้าได้ลองด้วยกล้องโพลารอยด์คู่ใจแล้วละก็ รับรองว่าฟินมาก เพราะเป็นกล้องที่สะดวกสบายสุด ๆ ถ่ายปุ๊บได้รูปปั๊บ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีขบวนพาเหรดการ์ตูนดิสนีย์, ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก อีกหนึ่งไฮไลท์ก็คงจะเป็นขนม Mickey Waffle เป็นขนมวาฟเฟิลทรงมิคกี้มีให้เลือกหลายแบบ เช่น ราดซอสเมเปิ้ล, ราดซอสช็อคโกแลต หรือจะเลือกทานคู่กับไอศครีมวานิลลาก็ดีงาม พร้อมเครื่องดื่มในธีมดิสนีย์ที่เข้ากันสุด ๆ
- ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 7,400 เยน / เด็ก (อายุ 12-17 ปี) 6,400 เยน / เด็ก (อายุ 4-11 ปี) 4,800 เยน ผู้สูงอายุ (65 ปี ขึ้นไป) 6,700 เยน
- เวลาเปิด-ปิด : วันธรรมดา 9.00-22.00 น., วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ 8.00-22.00 น.
- การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Keiyo ไปลงสถานี Maihama จากนั้นเดินต่อไม่เกิน 5 นาที
2. ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอเจแปน (Universal Studios Japan)
ยูนิเวอ์แซล สตูดิโอ เจแปน หรือที่รู้จักกันในชื่อ USJ ตั้งอยู่ที่เมืองโอซาก้า ภูมิภาคคันไซ ธีมปาร์คที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นของคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์ ประเดิมด้วยเครื่องเล่นพระเอกของ USJ ที่สนุกจนยอมต่อคิวนานแค่ไหนเราก็รอได้ อย่าง The Wizarding World of Harry Potter ตื่นตาตื่นใจไปกับโลกมหัศจรรย์ของแฮรี่ พอตเตอร์ อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ตระการตาที่จำลองโลกของเหล่าพ่อมด ออกมาได้อย่างประณีตและสมจริงทุกกระเบียดนิ้ว อย่าลืมชิม “บัตเตอร์เบียร์” เบียร์ไม่ผสมแอลกอฮอล์มีรสชาติหวานหอมจากเนย พร้อมความซ่านิดๆ
นอกจากนี้ยังมีโซนสำหรับคุณหนูๆอย่าง มินเนี่ยน พาร์ค (Minion Park) ด้วยเครื่องเล่นที่เด็กเล่นได้ผู้ใหญ่เล่นดี ที่พวกเรามาทุกครั้งต้องเล่น ตัวการ์ตูนขวัญใจเด็กๆอย่างกองทัพเจ้า Minions สุดน่ารัก อาณาจักรที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและความน่ารักสดใสของบรรดาผองเพื่อนมินเนี่ยน เรียกได้ว่าอยู่ทั้งวันเวลาก็ยังไม่พอ
- ค่าเข้า : ตั๋ว 1 วัน ผู้ใหญ่ 8,200 เยน เด็ก 5,400 เยน
- เวลาเปิด-ปิด : 9.00-20.00 น.
- การเดินทาง : จากสถานี Umeda/Osaka โดยสารรถไฟ JR ลงสถานี Universal City ใช้เวลา 11 นาที
3.ซานริโอ พูโรแลนด์ (Sanrio Puroland)
ใครที่ชื่นชอบคาแรคเตอร์ซานริโอต้องไม่พลาด เพราะภายในสวนสนุกซานริโอ พูโรแลนด์แห่งนี้ก็คือโลกของเหล่าตัวการ์ตูนซานริโอที่น่ารัก แถมยังเป็นสวนสนุกแบบในร่มถึง 4 ชั้น เหมาะกับผู้คนทุกเพศทุกวัย โดยไฮไลท์เด่น ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นแมวน้อยคิตตี้, มาย เมโลดี้ชมพูสุดคิ้วท์ หรือจะเป็นซินนาม่อนโรล และตัวการ์ตูนขวัญใจคนทั่วโลกอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีขบวนพาเหรดตัวการ์ตูน มาสคอตตัวการ์ตูนที่สามารถต่อแถวถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึกได้ด้วย
อีกอย่างก็คือร้านอาหาร คาเฟ่ต่าง ๆ ร้านขายของที่ระลึกทั้งหลายที่ตกแต่งในธีมซานริโอ พร้อมมุมถ่ายภาพสวย ๆ ที่ หลาย ๆ คนชื่นชอบ บอกเลยว่าแฟนพันธุ์แท้ต้องมา
- ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 4,400 เยน ,เด็กประถม (12-17 ปี) 4,000 เยน, เด็กเล็ก (4-11 ปี) 3,300 เยน
- เวลาเปิด-ปิด: 10.00 -17.00 น.
- การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keio ลงที่สถานี Tama-Center จากนั้นเดินต่อ 5 นาที
4.สวนสนุกเอโดะวันเดอร์แลนด์ (Edo Wonderland)
ธีมปาร์คแห่งนี้จะพาเราย้อนเวลาไปในบ้านเมืองยุคเอโดะ สวนสนุกเอโดะวันเดอร์แลนด์ตั้งอยู่ที่เมืองนิกโก้ จังหวัดโทชิกิ เหมาะมากกับการพาทุกคนในครอบครัวมาเที่ยว
ภายในสวนสนุกมีการแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ที่น่าสนใจ รวมทั้งมีการทดสอบความสามารถแบบสนุก ๆ ในเขาวงกตนินจาเหมือนที่เราเคยดูในหนังญี่ปุ่นย้อนยุค จุดเด่นอีกจุดก็คงหนีไม่พ้นการแต่งตัวย้อนยุคให้เข้ากับบรรยากาศ เรียกว่าให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปในสมัยเอโดะจริงๆ ที่สำคัญคือบรรยากาศของร้านค้า ร้านขายอาหารเครื่องดื่มที่มีอาหารและขนมแบบโบราณขายทั้งคาวและของหวาน ใครที่อยากลองย้อนยุคไปในสมัยเอโดะต้องลองมาดูสักครั้ง
- ค่าเข้า (ช่วงเช้า) : ผู้ใหญ่ 4,700 เยน / เด็ก 2,400 เยน / ผู้สูงอายุ 3,290 เยน
- ค่าเข้า (บ่ายสองเป็นต้นไป) : ผู้ใหญ่ 4,100 เยน / เด็ก 2,100 เยน / ผู้สูงอายุ 2,870 เยน
- เวลาเปิด-ปิด : 20 มีนาคม – 30 พฤศจิกายน 9.00-17.00 น. / 1 ธันวาคม – 19 มีนาคม 9.30-16.00 น.
- การเดินทาง : จากสถานี Kinugawa Onsen ต่อรถบัสประจำทางของ Tobu ไปลงที่สวนสนุก
5.ฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland)
ส่งท้ายกันด้วยความสนุกตื่นเต้นและหวาดเสียวไปพร้อม ๆ กับฟูจิคิว ไฮแลนด์ ที่นี่คือสวนสนุกที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบความโลดโผนและท้าทายเช่นคุณ
จุดเด่นของที่นี่ก็คงจะหนีไม่พ้นเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะตีลังกาแสนสนุก สนุกมันส์ไปกับรถไฟเหาะที่ทำมุมสูงชันที่สุดในโลกถึง 121 องศา และทำความเร็วสูงสุด 100 ก.ม./ช.ม. กันเลยทีเดียว ต้องบอกว่าเครื่องเล่นแต่ละอย่างของที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบความตื่นเต้น หวาดเสียวอย่างแท้จริง และอีกจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีมาก ๆ ก็คือการได้มองเห็นวิวภูเขาฟูจิเป็นฉากหลัง
- ค่าเข้า : 1,500 เยน จ่ายค่าเครื่องเล่นแยก / ตั๋วสำหรับหนึ่งวัน 5,700 เยน
- เวลาเปิด-ปิด : 9.00 -18.00 น.
- การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Fujiokyuko ลงสถานี Fujikyu-Highland และเดินต่อ 2 นาที
6.เลโก้เเลนด์ เจแปน (Legoland Japan Resort)
เลโก้เเลนด์ ธีมปาร์คเลโก้ขนาดใหญ่เอาใจสายนักต่อเลโก้ ตั้งอยู่ที่เมืองนาโกย่า สร้างขึ้นโดยบริษัทผู้ผลิตเลโก้ทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพ และความสนุกสนานในสถานที่ซึ่งเนรมิตให้อยู่ในโลกของเลโก้แบบทุกตารางนิ้ว
เลโก้เเลนด์แห้งนี้เปิดเมื่อปี 2017 เป็นสวนสนุกเลโก้แลนด์แห่งที่ 2 ในเอเชียต่อจากของมาเลเซีย ด้านในของเลโก้เเลนด์มีชิ้นส่วนของเลโก้มากกว่าหลายล้านชิ้น ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่สวนสนุกจะมีทั้งตัวต่อเลโก้ในธีมต่าง ๆ เครื่องเล่นมากมายกว่า 40 ชนิด เรื่องอาหารก็ไม่ต้องห่วงเพราะร้านอาหารเพียบ อิ่มแล้วก็ยังสามารถช้อปของระลึกจากเลโก้ไว้เป็นของฝากได้อีกด้วย เรียกได้ว่าครบสูตร
- ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ (13+) ราคา 6,900 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี 5,300 เยน
- เวลาเปิด-ปิด : 10.00-19.00 น.
- การเดินทาง : จากสถานี Nagoya นั่งรถไฟสาย Aonami ลงสถานี Kinjofuto แล้วเดินต่อไปที่สวนสนุกได้เลย
ธีมปาร์คของญี่ปุ่นนั้นมีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองแบบสุด ๆ ใครที่เป็นสายสวนสนุกต้องไม่พลาด หรือถ้าใครที่เคยมาแล้วแน่นอนว่าต้องติดใจจนอยากกลับไปเล่นอีกหลายรอบ เพราะแต่ละที่ยังคงเพิ่มดีกรีความสนุกด้วย Attractions พร้อมเครื่องเล่นใหม่ ๆ มาเอาใจแฟน ๆ กันอย่างต่อเนื่อง ญี่ปุ่นเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเมื่อไหร่ ต้องกลับไปซ้ำให้ได้เลย!