หลังจากใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มร่วงลงสู่พื้น ตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป ก็เริ่มทยอยเข้าสู่ฤดูหนาวกันแล้ว โดยจุดที่หนาวสุดจะไล่จากฮอกไกโดที่หิมะจะตกก่อนใคร ลงมายังเกาะใต้ ที่ถึงแม้จะไม่มีหิมะตกหนักมากแต่ลมหนาวก็เรียกได้ว่าทำให้เรารู้ซึ้งถึงอุณหภูมิติดลบได้อย่างดี
เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงตั้งใจเลือกเดินทางในช่วงนี้ เพราะอยากสัมผัสกับหิมะและลมหนาว ที่เรียกได้ว่าเป็นแรร์ไอเท็มของบ้านเรา ไปทั้งทีก็ขอให้ได้เจอได้โดนบ้าง แอดมินเลยรวบรวม 11 สถานที่ที่ควรไปเช็คอินสำหรับฤดูหนาวนี้ มาให้ตามไปเที่ยวกันครับ
[1] Takaragawa Onsen
ทะคะระกะวะอนเซ็น (Takaragawa Onsen) เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของ มินาคามิอนเซ็น (Minakami Onsen) ตั้งอยู่ในหุบเขาทางตอนเหนือของจังหวัดกุนมะ (Gunma) จะสวยสุดๆในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. สามารถเข้าไปแช่ออนเซ็นแบบเช้าเย็นกลับ หรือจะพักค้างคืนในเรียวกังก็ทำได้ อ่านรีวิว >> ที่นี่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟชิงคังเซ็นสาย Joetsu Shinkansen ลงที่สถานี Jomo-Kogen ใช้เวลา 75 นาที และต่อรถบัสไปที่ Minakami Onsen หลังจากนั้นโดยสารรถบัสไปยัง Takaragawa Onsen
[2] Fujisan
กระเช้าลอยฟ้าคาจิคาจิ (Kachikachiyama Ropeway) ที่จะพาไปพบกับวิวอันสวยงามของ Crackling Mountain บนความสูงกว่า 1,075 เมตรจากระดับน้ำทะเลบนจุดชมวิว ประทับใจกับภาพมุมสูงของภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากุจิโกะ อ่านรีวิว >> ที่นี่
การเดินทาง: จากสถานี Kawaguchiko เดินทางด้วย Retro Bus ลงที่ป้าย Sightseeing Boat/ Ropeway Entrance
[3] Nabananosato
สวนดอกไม้นะบะนะโนะซะโตะ (Nabana no sato) ที่เมืองคุวะนะ (Kuwana) จังหวัดมิเอะ (Mie) ติดกับจังหวัด นาโงยะ เป็นส่วนหนึ่งของธีมปาร์คนะบะนะโนะซะโตะ นอกจากจะได้สนุกกับเครื่องเล่น และชมความสวยงามของทุ่งดอกไม้ในช่วงกลางวันแล้ว เมื่อตะวันลับฟ้าจะเป็นช่วงเวลาของงานประดับไฟฤดูหนาวที่ที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ในรอบปี 2018-19 นี้ จะนำเสนอความเป็นญี่ปุ่นในธีม JAPAN! ผ่านหลอดไฟ LED นับล้านดวง ในบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก งานจะจัดระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2018 – 6 พฤษภาคม 2019 อ่านรีวิว >> ที่นี่
วิธีการเดินทาง สามารถตั้งต้นที่ สถานี Nagoya และนั่งรถบัส Meitetsu มาสถานที่จัดงานโดยตรง หรือนั่งรถไฟสาย Kintetsu มาลงที่สถานี Kuwana และขึ้นรถบัสมุ่งหน้าไป Nagashima Onsen มาลงที่ป้าย Nabana no sato
[4] Tomamu
เมื่อพูดถึง เมืองโทมะมุ (Tomamu) ในเกาะฮอกไกโด การเดินทางมาเที่ยวที่เมืองนี้ ทุกคนจะต้องมีจุดหมายเดียวคือ Hoshino Resorts TOMAMU ที่สร้างอาณาจักรอย่างครบครัน ทั้งที่พักสุดหรูแสนสบาย ร้านอาหาร อีกทั้งยังมีกิจกรรมในร่มและกลางแจ้ง โดยเฉพาะในฤดูหนาว ที่จะได้เพลิดเพลินไปกับหิมะขาวอันบริสุทธิ์ของฮอกไกโดกันอย่างเต็มที่ แบบไม่ต้องออกไปไหนเลย แค่นั่งแช่จากุซซี่ในห้องมองหิมะตกจากหน้าต่างก็ฟินสุดๆแล้ว อ่านรีวิว >> ที่นี่
การเดินทาง จากสถานี Sapporo ขึ้นรถไฟ Limited Express วิ่งตรงถึงสถานี Tomamu ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที และต่อรถชัทเทิลบัสมาที่รีสอร์ทอีก 5 นาที (หรือใครจะเดินทางมาจากสนามบินนิวชิโตเซะเลยก็ได้เช่นกัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง)
[5] Shirakawago Light up
หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวะโก (Shirakawago) จัหวัดกิฟุ (Gifu) จุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก เมื่อเห็นภาพของหมู่บ้านทรงกัชโชซุคุริ ต่างก็หลงมนต์เสน่ห์ อยากมาเยือนให้เห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง หมู่บ้านแห่งนี้จะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว โดยเริ่มต้นตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป จะมีหิมะปกคลุมขาวโพลนไปทั้งหมู่บ้าน และหากเดินทางมาในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ในช่วงเวลากลางคืนตั้งแต่ห้าโมงเย็นเป็นต้นไป จะมีการจัดงานเทศกาลประดับไฟฤดูหนาว Shirakawa-go Light Up อ่านรีวิว >> ที่นี่
การเดินทาง จากสนามบินจูบุ เซ็นแทร์ เดินทางด้วยรถไฟสาย Meitetsu ไปยังสถานี Nagoya จากนั้นต่อรถบัสที่ Meitetsu bus center วิ่งตรงไปลงชิระคะวะโก ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
[6] Kiroro
คิโรโระ (Kiroro) ชื่อนี้คุ้นหูนักท่องหิมะชาวไทยเป็นอย่างดี หลังจากที่ถูกเลือกเป็นโลเกชั่นหลัก ถ่ายทำหนังเรื่อง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” ก็โด่งดังกลายเป็น สกีเดสทิเนชั่น ขวัญใจของชาวไทย เรียกได้ว่าไปกันเป็นประจำ ต้องซ้ำทุกปี แต่คงไม่ใช่เพียงเพราะการตามรอยหนังเท่านั้นที่มัดใจ ต้องบอกว่าของเค้าดีจริง ไม่ว่าจะเป็น ปุยหิมะนุ่มคุณภาพระดับพรีเมียม ที่พักระดับ 5 ดาว คอร์สสกีที่มีให้เลือกทุกระดับตามความโปร ไม่ว่าจะเล่นเป็นมากน้อยแค่ไหน สามารถฝึกหัดได้ มีครูคนไทย ทำให้ทุกคนมาที่นี่ก็จะได้สนุกสนานไปกับพาวเดอร์สโนว์ ในฤดูหนาวอย่างแน่นอน อ่านรีวิว >> ที่นี่
การเดินทาง: จากสนามบินชินจิโตเซะ หรือ สถานี Sapporo โดยสารรถบัสวิ่งตรงมาที่ Kiroro Resort ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
[7] Ise Oharai machi
ย่าน โอฮะไรมะชิ (Oharaimachi) ตั้งอยู่ที่เมืองอิเสะ (Ise) จังหวัดมิเอะ (Mie) เป็นย่านเมืองเก่า หรือที่เรียกกันว่า เอโดะน้อย (Little Edo) บรรยากาศของอาคารบ้านเรือนสมัยก่อนถูกปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแต่ยังคงโครงสร้างดั้งเดิมเอาไว้ กลายเป็นร้านค้าขายของที่ระลึกและ ร้านอาหารประจำเมืองมากมาย แนะนำให้ลองชิม อิเสะอุด้ง (Ise Udon) อาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้ อ่านรีวิว >> ที่นี่
การเดินทาง: จากสถานี Iseshi โดยสารรถบัสเที่ยวรอบเมือง CAN Bus ลงที่ป้าย Ise Jingu Naiku Mae
[8] Toba aquarium
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ (Toba Aquarium) พิพิธภัณฑ์ที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำไว้มากที่สุดในญี่ปุ่น กว่า 1,000 ชนิด เป็นเพียงแห่งเดียวที่อนุรักษ์พะยูนเอาไว้ มีการแสดงของวอรัสแสนรู้ชวนเรียกเสียงฮา และชมความน่ารักของนกเพนกวินได้ตลอดทั้งปี อ่านรีวิว >> ที่นี่
การเดินทาง: จากสถานี Iseshi โดยสารรถไฟ JR มาที่สถานี Toba ใช้เวลา 15 นาที และเดินต่อ 15 นาที
[9] Kumano Nachi Taisha
ศาลเจ้าคุมะโนะนาจิไทชะ (Kumano Nachi Taisha) ตั้งอยู่ในจังหวัดวะคะยะมะ (Wakayama) ศาลเจ้านิกายชินโตที่ตั้งอยู่บนภูเขานาจิ สูง 350 เมตรเหนือน้ำทะเล โดยมีต้นกำเนิดตามความเชื่อโบราณโดยการสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นเพื่อบูชาน้ำตกนาจิ Nachi-no-Otaki) มีความสูง 133 เมตร และกว้าง 13 เมตร เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น อ่านรีวิว >> ที่นี่
การเดินทาง: จาก สถานี Shirahama ขึ้นรถไฟ JR สาย Kinokuni มาลงที่สถานี Nachi ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นโดยสาร Kumano Kotsu Bus ลงที่ป้าย Kumano Nachi Taisha
[10] Tosu Strawberry Farm
สวนสตรอเบอร์รี่โทสุ (Tosu Berry Forest) จังหวัดซะกะ (Saga) เปิดให้เราเข้าไปเก็บสตรอเบอร์รี่สดๆ ลูกโตๆ กินกันได้ไม่อั้นในเวลา 40 นาที กับ ราคา 1,700 เยน เท่านั้น โดยที่นี่ปลูกไว้ประมาณ 5-6 สายพันธุ์ ให้ทดลองชิมได้ไม่อั้นแบบบุฟเฟ่ต์ แถมยังสด และ สะอาด ฟิน! สุดๆ อ่านรีวิว >> ที่นี่
การเดินทาง: จากสถานี Tosu โดยสารรถแท๊กซี่ 10 นาที
[11] Hakodate Christmas Fantasy
ถ้าพูดงานคริสต์มาสที่ฮอกไกโดแล้วล่ะก็ จะไม่กล่าวถึงงานอีเวนต์ Hakodate Christmas Fantasy ที่เพิ่มเสน่ห์ในฤดูหนาว ที่เมืองฮาโกดะเตะ (Hakodate) ให้น่าหลงไหลมากยิ่งขึ้น มีจุดเด่นคือ ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ ตั้งตระหว่านอยู่ด้านหน้าอาคารโกดังอิฐแดง (Kanemori Red Brick Warehouse) บริเวณอ่าว (Bay Area)
ต้นคริสต์มาสลอยอยู่เหนือน้ำ ประดับด้วยหลอดไฟกว่า 5 หมื่นดวง พร้อมการแสดงแสงสีเสียง ช่วยให้บรรยากาศครื้นเครง นอกจากนี้บริเวณรอบๆยังมีการตั้งซุ้ม Soup Bar จำหน่ายซุปร้อนๆให้ความอบอุ่นระหว่างเดินเที่ยวชมอีกด้วย อ่านรีวิว >> ที่นี่
การเดินทาง: จากสถานี Hakodate โดยสารรถรางลงที่ป้าย Jujigai ใช้เวลา 5 นาที หรือเดินจากสถานี มาได้ ใช้เวลา 15 นาที