อีกหนึ่งสถานที่คุ้นเคยที่ปีหนึ่งๆ จะได้มีโอกาสกลับมาเยือนปีละหลายๆหน ไม่ว่าจะมาทำงาน มาเที่ยวเอง โอซาก้ายังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เราไม่เคยเบื่อ ด้วยความคุ้นชิน เที่ยวเองก็ง่าย ร้านอร่อยไม่ต้องพูดถึง ก็ที่นี่ได้สมญานามว่าเป็นครัวของญี่ปุ่นนี่นา เพราะฉะนั้นสำหรับเราแล้ว “เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน”
มาถึงสนามบินคันไซ รอบนี้เราใช้ รถไฟด่วนพิเศษ Nankai Rapi:t Airport Express เดินทางจากสนามบินคันไซถึงสถานีนัมบะ สะดวกสบายสุดๆใช้เวลาเพียง 37 นาที เพิ่มความง่ายด้วยการเตรียมตัวมาจากบ้าน ซื้อตั๋วรถไฟด่วนพิเศษผ่านแอพพลิเคชั่น Klook จากนั้นนำคิวอาร์โค้ดที่ได้รับจากอีเมล์ ก็ได้ตั๋วมาครอบครอง
คลิกเพื่อซื้อตั๋ว Nankai Rapi:t Airport Express
สำหรับการเดินทางมาโอซาก้าในครั้งนี้ เรามีจุดประสงค์หลักคือการมาเล่นเครื่องเล่น Universal Cool Japan 2019 และเน้นพักผ่อน ในแต่ละวันจึงวางแผนแบบหลวมๆ อยากไปไหนก็ไป อยากจะช้อปที่ไหน จะนั่งพักตรงไหนนานๆก็ทำได้ เลยแบ่งแผนเที่ยวออกเป็น 3 วัน เลือกอ่านกันได้จาก tab ด้านล่างนี้เลยครับ
เดินทางมาถึงสนามบินคันไซตอนเช้า เตรียมตัวเข้าสู่ตัวเมือง ขอกระซิบบอกสำหรับผู้ที่ซื้อตั๋ว รถไฟด่วนพิเศษ Nankai Rapi:t Airport Express สามารถไปออกตั๋วรถไฟตัวจริงได้ที่จุดขายตั๋วรถไฟ Nankai ที่สถานี Kansai Airportได้เลย ไม่ต้องไปเข้าคิวรอที่เค้าท์เตอร์ของ HIS ในสนามบินคันไซแล้ว
จากนั้นนำคิวอาร์โค้ดที่เราได้รับจาก Klook นำไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ออกตั๋วที่ Nankai Line Ticket Office
ได้ตั๋วมาเรียบร้อย
เดินลงไปรอที่ชานชาลาของ รถไฟด่วนพิเศษ Limited Express Rapi:t
หน้าตาของรถไฟ ด่วนพิเศษ Limited Express Rapi:t สุดหล่อ รูปร่างคล้ายหุ่นยนต์
มีรถไฟขบวนด่วน Haruka ลาย Hello Kitty สาวสวยจอดอยู่ชานชาลาข้างๆ
มาดูด้านในของรถไฟด่วนพิเศษ Rapi:t กัน
พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่
ที่นั่งภายในกว้างขวางใหญ่โต พร้อมด้วยปลั้กไฟและฟรีสัญญาณไวไฟ
ถ้าโชคดีก็จะได้เจอขบวนพิเศษ ฉลองครบรอบ 40 ปี Kinnikuman
เมื่อมาถึงสถานีนัมบะแล้ว เราเดินทางต่อไปยังโรงแรมของเราอีกเล็กน้อย ที่พักในทริปนี้คือ “The Royal Park Canvas Osaka – Kitahama” ซึ่งอยู่ในย่านคิตะฮะมะ สามารถอ่านรีวิวของโรงแรมเพิ่มเติมได้ >> ที่นี่
หลังจากฝากกระเป๋าล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราก็ออกเที่ยวตะลุยโอซาก้ากันเลย
ย่านการค้าเทนจินบาชิ (Tenjinbashisuji Shotengai) ได้ชื่อว่าเป็นย่านการค้าที่ยาวที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เรียงรายไปด้วยร้านค้ามากกว่า 600 ร้าน ภายใต้หลังคายาวครอบคลุมพื้นที่กว่า 2.6 กิโลเมตร มีอาณาเขตเชื่อมต่อตั้งแต่เขต Tenjinbashi บล็อกที่ 1 จนถึงบล็อกที่ 7 เป็นอีกย่านหนึ่งที่คนโอซาก้าเองนิยมมาเดินกันมากที่สุดแห่งหนึ่ง และกำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ร้านค้าต่างๆมากมาย ส่วนใหญ่ผู้ที่มาเดินแถบนี้จะมีทั้งคนพื้นที่เสียส่วนใหญ่
ร้าน Tamade ซุปเปอร์มาเก็ตที่ขายของกินของใช้ที่ราคาถูกมากๆ เนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอย
นอกจากร้านค้าสำหรับช้อปปิ้งแล้ว ก็ยังเต็มไปด้วยของกินราคาถูกอีกด้วย
ถูกแค่ไหน อิ่มละไม่ถึง 300 เยนเลย
ร้าน 100 เยนก็มีนะ
ใครที่ชอบทานสุกี้ชาบู แนะนำว่าต้องมาลองที่ร้าน Nabe-ya Darumado มีแบบบุบเฟต์ด้วย
ร้านขายของฝากที่ระลึกเป็นขนมญี่ปุ่นแบบพื้นบ้าน
ร้านหนังสือเก่าแก่ แบ่งครึ่งเป็นร้านสำหรับคนรักไอดอล
คาเฟ่น่ารักๆ T-Green’s
เดินมาเรื่อยๆจนสุดถนน
เจอกับร้าน Chao Chao Gyoza เราจึงรีบพุ่งตัวกันเข้าไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากเกี๊ยวซ่าซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของร้านแล้วก็ยังมีของทานเล่นชนิดอื่นๆอีกมากมาย
Chao Chao Gyoza เกี้ยวซ่าสูตรดั้งเดิมของทางร้าน
มีให้เลือกหลายหลายไส้ ทั้งเกี้ยวซ่าปู
และเกี้ยวซ่ากุ้ง
สำหรับใครที่ยังไม่อิ่ม ไม่สะใจขอแนะนำร้านข้าวหน้าเทมปุระชื่อดังของโอซาก้า อยู่ตรงกันข้าม
ความพิเศษของร้านนี้คือใครที่ชอบทานเมนไทโกะ ควรมาที่นี่เพราะเค้าให้ตักทานกับข้าวกันได้อย่างไม่อั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม ย่านการค้า “Tenjinbashisuji Shotengai”
- เวลาทำการ : แตกต่างกันตามร้านค้า
- วันหยุด : แตกต่างกันตามร้านค้า
- วิธีการเดินทาง : บริเวณย่านการค้า “Tenjinbashisuji Shotengai” สามารถเดินทางมาได้หลายวิธี
– บริเวณ Tenjinbashisuji บล้อก 1-2-3 จะตั้งอยู่ติดสถานีรถไฟใต้ดิน Minaminorimachi บนสายรถไฟ Tanimachi line และสายรถไฟ Sakaisuji line, หรือสถานี Osaka Tenmangu บนสายรถไฟ JR Tozai line
– บริเวณ Tenjinbashisuji บล้อก 4-5 จะตั้งอยู่ติดสถานีรถไฟ Temma บนสายรถไฟ JR Osaka Loop line, หรือสถานีรถไฟใต้ดิน Ogibashi บนสายรถไฟ Sakaisuji line
– บริเวณ Tenjinbashisuji บล้อก 6-7 จะตั้งอยู่ติดสถานีรถไฟใต้ดิน Tenjinbashisuji 6-chome บนสายรถไฟ Tanimachi line และ สายรถไฟ Sakaisuji line และสายรถไฟ Hankyu-Senri line - เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) : http://www.tenjin123.com/
เข้าสู่วันที่ 2 ที่โอซาก้า วันนี้เราจะพาไปสนุกสุดเหวี่ยงกันที่ Universal Studios Japan สวนสนุกชื่อดังของโอซาก้า ถึงแม้ว่าจะเป็นการเดินทางมาที่นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็จำไม่ได้ แต่ว่าครั้งนี้มีความพิเศษรออยู่แน่นอน
มุมมหาชน
เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการมาสนุกสุดเหวี่ยงที่สวนสนุก Universal Studios Japan เราได้ทำการซื้อตั๋วสำหรับเข้าสวนสนุกมาจากเว็บไซต์ Klook ซึ่งสะดวกสบายสุดๆ ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อตั๋วด้านหน้าทางเข้า แค่นำคิวอาร์โค้ดที่เราได้รับการยืนยัน และนำมาแสกนเข้าไปได้สนุกกันด้านในได้เลย
ซื้อตั๋วเข้าสวนสนุก Universal Studios Japan ล่วงหน้าได้ที่นี่
แค่เจอทางเข้าก็ตื่นเต้นแล้ว~
ความพิเศษอย่างที่เราได้กล่าวกันไปข้างต้นก็คือ ช่วงที่เราเดินทางมาจะมีเครื่องเล่นใหม่ถึง 5 ชนิด เป็นเครื่องเล่นแบบ 4D ภายใต้ชื่อ Universal Cool Japan 2019 ที่มีทั้งเจ้าหนูนักสืบโคนัน, จอมโจรลูแปง, ไททันปะทะก็อตซิลล่า และปิดท้ายด้วยเหล่าอัศวินเซเลอร์มูน
ไขคดีไปกับยอดนักสืบจิ๋วโคนันใน Detective Conan: The World
จอมโจรลูแปงพาผจญภัย กับเครื่องเล่นความเร็วสูง Lupin the Third Car Chase XR Ride
ลุ้นระทึกไปกับไลฟ์โชว์ผ่าพิภพไททันสุดสมจริงใน Attack on Titan: The Real
การโคจรมาพบกันของ Godzilla vs. Evangelion: The Real 4-D
และปิดท้ายด้วย Pretty Guardian Sailor Moon: The Miracle 4-D – Moon Palace Edition
สนุกเพลิดเพลินกันแล้ว ก็ยังมีสินค้าให้เลือกซื้อกันมากมาย ที่แน่ๆทำเอาพวกเราล้มละลายกันไปเลยทีเดียว
ตรงข้ามกับโรงละครยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ซึ่งที่นี่ก็มีของหวานที่ได้แรงบันดาลใจจากเซเลอร์มูนอีกด้วย
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ ถังป๊อปคอร์น และ กระติกน้ำ สักหน่อย
แผนที่เครื่องเล่น 4-D ภายในงาน Universal Cool Japan 2019
ขอบคุณภาพจาก USJ
วันสุดท้ายของการเดินทางในโอซาก้า เราเลือกที่จะไปเดินเล่นในย่านช้อปปิ้งที่คุ้นเคยอย่าง ย่านนัมบะ แต่ครั้งนี้เราจะพาไปสักการะพร้อมขอพรเทพเจ้ากันที่ ศาลเจ้านัมบะยะสะกะ (Namba Yasaka Shrine)
ศาลเจ้านัมบะยะสะกะ (Namba Yasaka Shrine) มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือหัวสิงโตขนาดใหญ่ เมื่อเดินเข้ามาภายในตัวศาลเจ้าจะเห็นตั้งตระหง่านอยู่บริเวณตรงกลางศาลเจ้า มีความสูง 17 เมตร ความกว้าง 11 เมตร โดยมีความเชื่อกันว่า ปากของสิงโตนั้นจะสามารถกลืนกินสิ่งไม่ดีต่างๆ และปัดเป่าความชั่วร้ายให้หายไป อีกทั้งยังนำพามาโชคลาภมาแก่ผู้ที่มาสักการะ โดยเฉพาะเรื่องของการเรียนหรือด้านการงานให้เกิดความสำเร็จตามที่มุ่งหวัง
ข้อมูลเพิ่มเติม ศาลเจ้า Namba Yasaka Shrine
- เวลาทำการ : 6.00 – 17.00 น.
- วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
- ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย
- วิธีการเดินทาง : เดินประมาณ 6 – 8 นาที จากสถานีรถไฟ Namba
- เว็บไซต์ : http://nambayasaka.jp/
ข้ามมาเดินเล่นที่ถนนยอดฮิต
ป้ายกุลิโกะที่ไม่ว่ามากี่ค
แรงยังไม่หมด มาเดินเล่นหาของอร่อยๆทานกั
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ >> หนึ่งวันสบายๆใน Osaka เดินเล่น กิน ช็อป ขอพรศาลเจ้าความรัก
ปิดท้ายกับร้านประจำที่คุ้นเคยของเรา มาญี่ปุ่นทุกครั้งต้องมีร้านนี้อยู่ในลิสอย่างต่ำ 1 มื้อ Isomaru Suisan ร้านอาหารทะลสดและปิ้งย่าง ในบรรยากาศหมู่บ้านประมง กับสไตล์ญี่ปุ่นเรโทร มีสาขาตามเมืองใหญ่ อาทิ โตเกียว, โอซาก้า, นาโกย่า แถมเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ราคาถูกใจ รสชาติถูกปาก ไปถึงญี่ปุ่นแล้วต้องไปชิมครับ ชมภาพเมนูกันได้ด้านล่าง หรือจะเข้าสู่เว็บไซต์เพื่อตรวจเช็คสาขา และรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> ISOMARU SUISAN
และอีกหนึ่งเมนูที่มาแล้วห้ามพลาดเด็ดขาดนั่นคือ กระดองปูมิโซะย่าง ชื่อญี่ปุ่นเรียกว่า Kani Miso Korasho ค่อยๆย่าๆจนเริ่มมีกลิ่นหอม ไหม้เดือดปุดๆ อย่าให้เกรียมมาก แล้วราดบนข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเทพมากครับ
หอยตัวใหญ่มากๆ
ข้าวหน้าปลาดิบรวม
ข้าวห่อสาหร่ายหน้าไข่ปลาแซลมอนพร้อมอูนิ
ข้าวหน้าปลาดิบรวม
สาหร่ายพวงองุ่นนำไปชุบแป้งทอดสไตล์เทมปุระ
ปลาชิมาฮอกเกะย่างทานกับข้าวสวยร้อนๆ
สำหรับขากลับ เราเลือกเดินทางกลับด้วย รถไฟด่วนขบวนคิตตี้ Hello Kitty HARUKA
รถไฟขบวนนี้เหมาะสำหรับคนที่บินไปหรือกลับจากสนามบินคันไซ โดยจากสนามบิน เข้าตัวเมืองโอซาก้า จอดที่สถานี Tennoji, Shin-Osaka และจอดสุดสายที่สถานี Kyoto ถ้ามีพาส JR Kansai Wide Area Pass ก็ใช้ขึ้นได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม (ที่นั่งแบบ Non-reserved เท่านั้น)
รถไฟด่วนคิตตี้ฮารุกะ มีทั้งหมด 3 ขบวน 3 ลาย อ่านรายละเอียด >> ที่นี่
KIX ↔ Tennoji = 35 นาที / 1,710 เยน
KIX ↔ Shin-Osaka = 50 นาที / 2,330 เยน
KIX ↔ Kyoto = 80 นาที / 2,850 เยน
???? ถ้าต้องซื้อตั๋วเป็นเที่ยว แนะนำให้ซื้อล่วงหน้าผ่าน Klook ประหยัดไปกว่าครึ่ง >> ซื้อได้ที่นี่