สำหรับวันที่ 2 ของทริปไซตามะในครั้งนี้ เราะเริ่มต้นด้วยการออกเดินทางไปชมดอกพลับพลึงแดงถือเป็นสัญลักษณ์
ติดตามข้อมูลเที่ยวไซตามะได้ที่นี่ >> SAITAMA-TH
ณ สวนคินชะกุดะ (Kinchakuda) เดินเล่นท่ามกลางพรมดอกพลับพลึงแดง หรือมีชื่อเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า Higanbana (Spider Lily Heaven) บานสะพรั่
สวนคินชะกุดะ (Kinchakuda)
- เวลาทำการ: 8.30-17.00 น.
- ค่าเข้าชม: 300 เยน
- เว็บไซต์
- การเดินทาง: จากสถานี Koma เดินต่อประมาณ 15 นาที
ต่อจากนั้นเราไปเก็บองุ่นสดๆทานกันที่ ฟาร์มโคะมัตสุซะวะ (Komatsuzawa Leisure Farm) โดยเราสามารถมาเก็บองุ่นทานกันได้แบบไม่อั้น ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทางฟาร์มจะมีรถบัสรับส่งจากสถานี Yokose อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว
โดยจะมีองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ Kyoho, Chichibu ruby, Honey seedless, Shine muscat ให้เลือกชิม และตัดทานจากต้นสดๆ เพียงคนละ 1,200 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 800 เยนสำหรับเด็ก ทานได้ 30 นาที (ห่อกลับบ้านกิโลกรัมละ 1,200 เยน)
องุ่นเคียวโฮลูกโตๆหวานฉ่ำทุกลูก
กลับมาที่ส่วนกลางของฟาร์มที่เป็นจุดทานอาหาร สามารถซื้อผลไม้ตามฤดูกาลกลับเป็นของฝากได้จากที่นี่ด้วย
บรรยากาศลานทานอาหารผ่อนคลายใต้ต้นองุ่น
อาหารทานเล่นที่ไม่ควรพลาด เทมปุระเห็ดชิทาเกะ (Shiitake Tempura) ทอดสดใหม่ กรอบนอกนุ่มใหน โรยด้วยผงเกลือรสต่างๆ อาทิ เนย, มัทฉะ ราคาไม้ละ 300 เยนมี 2 ชิ้น
มื้อเที่ยงวันนี้ขอฝากท้องไว้กับ นากาชิโซเม็ง (Nagashi-soumen) อาหารยอดนิยมในช่วงฤดูร้อนของคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทานเส้นหมี่เย็นๆที่ไหลมาจากกระบอกไม้ไผ่ คืบจากนำวนเย็นฉ่ำ ทานคู่กับน้ำซอส เข้ากันได้อย่างดี (ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 400 เยน ทานได้ไม่อั้น)
สามารถสั่งปลาย่างถ่านมาทานด้วยก็ได้เช่นกัน (ปลาเทราต์ Masutsukamiマスつかみ)
ฟาร์มโคะมัตสุซะวะ (Komatsuzawa Leisure Farm)
- เวลาทำการ: สำหรับเก็บผลไม้ 10.00-16.00 น. ต้องเช็ควันทำการจากเว็บไซต์ในแต่ละเดือน
- ค่าใช้จ่าย: เก็บองุ่น 1,200 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 800 เยนสำหรับเด็ก
- เว็บไซต์
- การเดินทาง: จากสถานี Yokose มีรถบัสรับส่งเวลา 12.50 / 13.50 / 14.50 / 15.50
ล่องเรือนะกะโทโระ (Nagatoro Line Kudari) ล่องเรือสไตล์ญี่ปุ่น ในแม่น้ำอะระคะวะ (Arakawa) ลัดเลาะตามหุบเขา โดยมีนักพายเรือที่ใช้ทักษะอันน่าทึ่งในการควบคุมเรือ ตลอดระยะทางจะมีน้ำไหลเชี่ยวเป็นช่วงๆ แต่จะมีจุดที่น้ำนิ่งสงบเป็นระยะทางยาว
ตรงช่วงอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติ ที่มีชื่อเรียกว่า นะกะโทะโระ อิวะตะมิ (Nagatoro Iwadatami) ก้อนหินที่ฟอร์มตัวกลายเป็นหินก้อนยักษ์ทอดตัวเป็นระยะทางยาว 800 เมตร ที่คนญี่ปุ่นมองว่าคล้ายกับเสื่อตะตะมิ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกอนุสรณ์สถานนี้นั่นเอง
ล่องเรือนะกะโทโระ (Nagatoro Line Kudari)
- เวลาทำการ: 9.00-16.00 น. (ทุกวัน ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม-ต้นเดือนธันวาคม)
- ค่าบริการ: ขึ้นอยู่กับคอร์ส เริ่มต้น ผู้ใหญ่ 1,600 เยน เด็ก 800 เยน
- เว็บไซต์: Nagatoro
- การเดินทาง: จากสถานี Nagatoro ขึ้นรถบัสรับส่งฟรี หรือเดินประมาณ 10 นาที
การไปขอพรเรื่องเงินทอง และความร่ำรวย กันที่ ศาลเจ้าฮิจิริ (Hijiri Shrine) โดยศาลแห่งนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ที่มีการขุดพบแร่ทองแดงเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น ราวปีค.ศ.708 และต่อมาได้การสร้างเหมือง และนำแร่ทองแดงมาผลิตเป็นเหรียญ วะโดไคจิน (Wadokaijin) ที่ใช้กันแพร่หลายในช่วงยุคแรกของระบบเงินตราญี่ปุ่น
ศาลเจ้าฮิจิริ เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งเงิน ที่ชาวบ้านเคารพนับถือกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะมีชื่อเสียงสำหรับการขอพรด้านความร่ำรวย และเงินทอง มีผู้ที่มาขอพรที่นี่หลายคน ถูกรางวัลจากการเสี่ยงโชคและทำธุรกิจ ได้รับเงินมหาศาลมากมาย กลับมาเขียนคำขอบคุณแปะไว้ที่ศาลเจ้า เพื่อยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งป้ายขอพรของศาลเจ้านี้ยังเป็นลายเหรียญทองแดงใช้เป็นเงินตราในสมัยก่อน
ศาลเจ้าฮิจิริ (Hijiri Shrine)
- ค่าเข้าชม: ไม่มี
- เว็บไซต์: Wado1300
- การเดินทาง: จากสถานี Wado-Kuroya เดินประมาณ 15 นาที
ปิดท้ายทริปไซตามะ 2 วัน 1 คืน พร้อมเดินทางกลับโตเกียวด้วย รถไฟเซบุ (Seibu Railways) ขบวนด่วนพิเศษ New Red Arrow (NRA) วิ่งตรงจากสถานี Seibu Chichibu ถึงสถานี Ikebukuro ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษ
