**อัพเดทข้อมูลล่าสุดปี 2019** การบินไทยจะกลับมาเปิดเที่ยวบินตรง กรุงเทพ – เซนได อีกครั้ง
เริ่มบิน 27 ตุลาคม 2019!! โดยจะบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ใช้เครื่องบินแบบ Boeing 777-200/300
TG 626 BKK-SDJ ออกจากกรุงเทพเวลา 23:50 น. ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และ อาทิตย์
TG 627 SDJ-BKK ออกจากเซนไดเวลา 11:15 น. ทุกวันจันทร์ พุธ และ ศุกร์
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยวญี่ปุ่น เที่ยวเซนได Travel to Sendai, Japan
อ่านรีวิวเที่ยวเซ็นไดที่นี่ >> Sendai Part 1 / Sendai Part 2 / Miyagi
หมายเหตุ: บทความนี้เป็นรีวิวของการเดินทางเมื่อปลายปีค.ศ. 2013 ครับ
เซนได (SDJ) Japan Destination ล่าสุดจากการบินไทย บินตรงสู่เมืองเซ็นได จังหวัดมิยางิ ที่เปิดให้บริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2013 โดยการบินไทยทำการบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ทางทีมงานได้มีโอกาสเดินทางไปเซนไดด้วยเที่ยวบินนี้ เลยเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันครับ
รายละเอียดเที่ยวบิน (ของปีค.ศ. 2013)
TG680 อังคาร, พฤหัส, เสาร์
ออกจาก สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา 23.59 น.
เดินทางถึง สนามบินเซนได เวลา 07.55 น. ในวันถัดไป
TG681 พุธ, ศุกร์, อาทิตย์
ออกจาก สนามบินเซนได เวลา 10.30 น.
เดินทางถึง สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา 15.40 น. ในวันเดียวกัน
มีหลายไฟลท์ที่ออกเวลาเดียวกัน ต้องตรวจสอบ Gate ที่ต้องไปดีๆ
มาถึงแล้ว Gate E1A เป็นทางออกที่หลบมุมหน่อย แต่มีป้ายบอกชัดเจน
เริ่ม Boarding ประมาณ 30 นาทีก่อนเวลาเดินทาง ต้องขึ้นรถบัสต่อไปยังเครื่องที่จอดรออยู่ที่ด้านนอก
การบินไทยใช้เครื่องบินแอร์บัส A330-300 บินไปเซนได มีทั้งหมด 299 ที่นั่ง
แบ่งเป็น Royal Silk Business 36 ที่นั่ง และ Economy 263 ที่นั่ง
ขาออกจากกรุงเทพฯ ผู้โดยสารไม่เยอะมาก
เจ้าหน้าที่ที่เคาเตอร์เชคอิน จัดให้นั่งริมหน้าต่าง คนเดียว 2 ที่เลย สบายสุดๆครับ
ภายในเครื่องจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 โซน
โซนหน้า เป็นที่นั่งชั้น Royal silk แบ่งที่นั่งแบบ 2-2-2 มีทั้งหมด 6 แถว (11-17)
โซนกลาง เป็นที่นั่งชั้น Economy แบ่งที่นั่งแบบ 2-4-2 มีทั้งหมด 17 แถว (31-47)
โซนหลัง เป็นที่นั่งชั้น Economy แบ่งที่นั่งเป็น 2-4-2 มีทั้งหมด 12 แถว (48-59)
แบ่งที่นั่งแบบ 2-3-2 มีทั้งหมด 4 แถว (60-63) และปิดท้ายด้วย 3 ที่นั่งตรงกลาง แถว 64
ตอนขาไปได้เป็นโซนกลางครับ ได้แถวที่ 39 ไม่ไกลจากห้องน้ำ และก็ไม่ไกลจากทางเข้ามากด้วย (ถ้าใครอยากนั่งใกล้ห้องน้ำ โซนกลางต้องนั่งแถวท้ายๆ 47 นะครับ ส่วนโซนหลัง นั่งแถวหน้า 48 หรือหลัง 63-64 ก็ใกล้ห้องน้ำทั้งคู่ แต่ส่วนตัว คืดว่าไม่จำเป็นต้องนั่งติดห้องน้ำขนาดนั้นก็ได้เพราะจะมีเสียงรบกวนตลอดทั้งคืน เอาเป็นว่านั่งห่างออกมาสัก 2-3 แถวก็สะดวกอยู่ดีครับ)
มี Personal TV อัดหนังเต็มเอี้ยด ดูหนังเพลินจนลืมนอนเลย
หลังจากเครื่องเทคออฟ มีบริการด้วยอาหารว่าง ช่วงที่ไปเป็นช่วงคริสต์มาสพอดี ลายทิชชู่ยังเข้ากับบรรยากาศ น่ารักดีครับ ^^ สักพักก็ปิดไฟให้ได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ แอบเห็นหลายคนเริ่มจับจองที่นั่งยาวนอนเหยียดตัวกันเลยทีเดียว
ตื่นเช้ามา ราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่งก่อนแลนด์ มีอาหารเช้าให้บริการ เป็น ออมเล็ต หรือ ข้าวต้มหมูครับ จำได้ว่าข้าวต้มหมูการบินไทยอร่อย กินประจำ มารอบนี้เลยไม่ยอมพลาดอีก ^^
ถ่ายคู่กันสักหน่อย ภาพโฆษณา Sendai ในนิตรสาร Sawasdee ฉบับเดือนธันวาคม
แสงแรกของวัน
มองเห็นเมืองเซนไดแบบลิบๆ
กัปตันพาบินออกไปมหาสมุทรแล้วค่อยหักย้อนกลับมาเพื่อทำการแลนดิ้ง วิวช่วงนี้สวยมากๆครับ
เดินทางถึงสนามบินเซนไดอย่างปลอดภัย สนามบินขนาดกลาง ไม่ใหญ่เกินไป จอดข้าง Skymark สายการบินภายในประเทศของญี่ปุ่น
หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า ก็ออกมาด้านนอกภายในเทอมินอล ร้านค้ายังไม่ค่อยเปิด แต่เคาน์เตอร์ให้บริการสอบถามข้อมูลต่างๆ เปิดแล้ว ใครที่จะติดต่อเรื่องรถโดยสารเข้าเมือง หรือทำเรื่องขอพาสเวิร์ด Free Wi-fi สามารถติดต่อได้เลย แนะนำนิดนึงว่า ที่สนามบินเซนได ไม่มีเคาเตอร์ให้เช่า Pocket Wi-fi เหมือนที่ นาริตะ หรือ คันไซ นะครับ
ยินดีต้อนรับสู่ เมืองเซนได จังหวัดมิยางิ
สำหรับใครที่ต้องการเดินทางเข้าเมืองให้ขึ้นมาที่ชั้นสอง จะมีทางเชื่อมเพื่อไปขึ้นรถไฟ Sendai Airport Access เข้าเมืองกัน ใช้เวลาประมาณ 25 นาที (มีขบวนด่วน ใช้เวลา 17 นาที ราคาเท่ากัน ขึ้นอยู่กับรอบ)
บริเวณด้านหน้าอาคารสนามบินเซนได
วิธีการเดินทางเข้าเมือง ให้ขึ้นมาที่ชั้นสอง จะมีทางเชื่อมเพื่อไปสถานีรถไฟ Sendai Airport วันที่เดินทางไปถึงเป็นวันคริสมาสพอดี เลยได้เลขวันที่สวยๆมา 25.12.25 (เป็นปีของญี่ปุ่น ปีเฮเซที่ 25)
Sendai Airport Access ราคาเที่ยวละ 650 เยน ใช้เวลาประมาณ 25 นาที (มีขบวนด่วน ใช้เวลา 17 นาที ราคาเท่ากัน) ดูข้อมูลเพิ่มเติม >> ที่นี่
สำหรับใครที่ใช้ JR East Pass ต้องทำการแลกที่ JR Ticket Office ภายในสนามบินเซนไดก่อน แต่เนื่องจากเปิด 10.00 น. ถ้าจะรอก็คงเสียเวลาน่าดู ให้นำ Exchange Order ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ในสถานี บอกว่าเราซื้อพาสมาแล้วแต่ยังแลกไม่ได้ เค้าจะให้ตั๋วใบเล็กๆมาแทน เพื่อให้เรานำไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ตอนขาออก และค่อยไปทำการแลกที่สถานี Sendai อีกที
รถออกค่อนข้างถี่ ขบวนธรรมดาสลับกับขบวนด่วน
เราจะนั่งขบวนนี้เข้าเมืองกัน เป็นขบวนสั้นๆที่เรียกกันว่า One-man
เดินทางถึงสถานี JR Sendai เป็นที่เรียบร้อย ถ้าใครต้องการซื้อหรือแลก JR East Pass จากทางออกตรงกลางให้เลี้ยวมาทางขวาสุดจะเจอกับ View Plaza เปิดให้บริการ 10 โมงเช้าเช่นกัน
มองเอาไว้ให้คุ้นตา สำหรับใครที่ไม่ได้ใช้พาส อาจจะต้องมาจิ้มๆซื้อตั๋วกันตรงนี้แน่นอน
อ่านรีวิวต่อได้ที่นี่ >> >> Sendai Part 1 / Sendai Part 2 / Miyagi
บรรยากาศเคาน์เตอร์เช็คอิน ขากลับไฟลท์เต็ม อัดแน่นไปด้วยคนญี่ปุ่นประมาณ 95% ที่กำลังจะเดินทางไปฉลองปีใหม่ที่บ้านเรา ต้องยืนรอประมาณ 30 นาทีได้ เพราะฉะนั้นขากลับต้องเผื่อเวลาไว้พอสมควรนะครับ
หลังจากเช็คอินเสร็จแล้ว ไปเข้าคิวต่อเพื่อไปผ่าน Immigration
เข้ามาประตู 3 ก็เจอเครื่องของการบินไทยจอดรออยู่เรียบร้อยแล้ว
บรรยากาศภายในอาคารขาออก โอ่โถง มีร้านกาแฟให้บริการอยู่
และมีร้าน Duty Free เล็กน้อย ถ้าใครจะซื้อของฝาก แนะนำให้ซื้อด้านนอกก่อนเข้ามาด้านในดีกว่า เพราะข้างนอกตรงเคาน์เตอร์เช็คอิน จะมีศูนย์รวมร้านค้าอยู่ ขายของเยอะกว่าในนี้มาก แต่ถ้าใครอยากซื้อขนมของฝากยอดฮิตอย่าง Royce, Shiroi koibitoหรือ Tokyo Banana ด้านในมีขายครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะหมด เพราะคนญี่ปุ่นเยอะ เลยไม่ค่อยมีใครแย่งซื้อ ^^
เก็บภาพเครื่องบินอีกรอบก่อนเข้าคิวบอร์ดดิ้ง
เคาน์เตอร์ด้านหน้า Gate 3 เจ้าหน้าที่จะให้สมาชิก Platinum กับ Gold และผู้โดยสาร Royal Silk เข้าไปก่อนตามปกติ หลังจากนั้น จะประกาศเรียกผู้โดยสารทั้งหมดเลยครับ ใครที่อยู่โซนหลังรีบไปนั่งหน้าๆเลย จะได้ไม่ต้องคิวนาน
ขากลับได้นั่งโซนหลังแถวที่ 60 ตรงกลาง ริมทางเดิน ส่วนตัวชอบที่นั่งตรงนี้ เพราะเป็นแถวที่มี 3 ที่นั่งพอดี ไม่เบียดเกินไป ลุกเดินไปไหนมาไหนสะดวก ขากลับใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมงครับ
เก็บของแล้ว ก็เดินสำรวจเครื่องกันสักหน่อยครับ
นั่งใกล้ครัว และ ห้องน้ำ เป็นที่นั่งที่กำลังพอดี ไม่ชิดด้านในเกินไป ซึ่งเป็นโซนที่คุณแอร์กับคุณสจ๊วตจะต้องทำงาน ซึ่งอาจจะมีเสียงดังบ้างในบางครั้ง
รายละเอียดที่นั่งในแต่ละมุม
บริเวณครัวหลัง
หลังจากเครื่อง Take-off มีบริการเครื่องดื่มและอาหารว่างก่อนครับ
หลังจากนั้นจึงค่อยเสิร์ฟมื้อเที่ยง เป็น ไก่หรือหมูเทอริยากิ เลือกยากมากเพราะน่าอร่อยทั้งคู่ สุดท้ายเลือกหมูมา ทั้งที่ในใจอยากกินไก่ (งงตัวเอง) อาหารเซ็ทนี้รู้สึกให้เยอะมาก มีโซบะเย็น และอาหารเครื่องเคียงเยอะแยะไปหมด ทั้งอิ่มทั้งอร่อยเลย
ระหว่างไฟลท์มีบริการเครื่องดื่มเป็นระยะๆ เพราะอากาศข้างบนจะค่อนข้างแห้ง ทางที่ดีต้องคอยจิบน้ำตลอดเวลานะครับ และก่อนจะถึง มีบริการอาหารว่างอีกรอบ เป็นแซนด์วิชไส้ชีส และ ไส้มะเขือเทศ
จบแล้วครับ สุดท้ายนี้ เที่ยวญี่ปุ่นดอทคอม ขอขอบคุณการบินไทยสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
