ถ้าพูดถึงย่านชิตะมะจิ (Shitamachi) ย่านการค้าสำคัญกลางเมืองเก่าในยุคโชวะและเอโดะ ยกตัวอย่าง อะสะคุสะ ที่หลายคนน่าจะพอเห็นภาพ นอกจากนี้ในโตเกียวยังมีย่านเมืองเก่าอยู่หลายแห่ง อาทิ ยะนะกะ, เกาะทสึกิชิมะ ซึ่งถ้าสังเกตุย่านเหล่านี้ จะมีตรอกซอกซอยเล็กๆ ร้านค้าเก่าแก่ตั้งอยู่มานาน และยังมีกลิ่นอายของเสน่ห์เมืองเก่าย้อนยุค ที่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันให้ได้ตามไปค้นหาอยู่

และในครั้งนี้เราได้เดินทางมาที่ ชิบะมะตะ (Shibamata) อีกหนึ่งย่านชิตะมะจิ ที่จะพาเราย้อนยุคไปในสมัยโชวะ ผ่านภาพยนตร์ซีรี่ย์เรื่องดังของญี่ปุ่น มีวัดสำคัญ ร้านค้าโบราณ และร้านขนมอร่อยๆให้เลือกทานมากมาย เป็น 1 วันสบาย ที่เดินทางมาได้ง่ายๆจากอุเอโนะ

การเดินทาง: จากสถานี Keisei-Ueno ขึ้นรถไฟ Keisei Main Line ลงที่สถานี Keisei-Takasago จากนั้นเปลี่ยนขบวนเป็น Keisei Kanamichi Line ลงสถานี Shibamata รวมใช้เวลา 25 นาที

shibamata 01

ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงครึงชั่วโมงจากอุเอโนะ เราก็ได้มาถึงสถานี Shibamata แล้ว

shibamata 02

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในย่านนี้ ใช้การเดินเท้าเที่ยวได้แบบสบายๆเลย

shibamata 03

ชิบะมะตะ (Shibamata) เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ซีรี่ย์ที่ได้รับความนิยมอย่างยาวนานของญี่ปุ่น เรื่อง Otoko wa tsurai yo ออกฉายตั้งแต่ปีค.ศ.1969-1995 เป็นระยะเวลา 26 ปี จนมีชื่อเสียงโด่งดัง และมีบรรดาแฟนๆมาตามรอยกันอย่างต่อเนือง จนมีการตั้งรูปปั้นของโทระซัง (Tora San) ตัวเอกของเรื่องไว้ที่ด้านหน้าสถานี และยังมีร้านจำหน่ายของที่ระลึกจากซีรี่ย์อีกด้วย

ด้านหน้าสถานีเป็นที่ตั้งของรูปปั้น โทระซัง

shibamata 04

ไทชะคุเท็นซังโด (Taishakuten-sandou) คือถนนการค้าหลักของย่านนี้ เป็นถนนที่มุงหน้าไปยังวัดไทชะคุเท็น (Taishakuten) มีร้านค้า ร้านอาหาร เรียงราย ตลอดสองข้างทาง ซึ่งจุดนี้เป็นมุมถ่ายรูปในบรรยากาศย้อนยุคได้ดีที่สุด เพราะว่ามีอาคารโบราณที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ในสภาพที่สวยงาม รวมไปถึงร้านค้าเก่าแก่นับร้อยปีตั้งอยู่ด้วย

shibamata 05

ร้านของเล่นโบราณแห่งนี้ มีชื่อว่า Hikara Yokocho ที่ถ้ามาทีนี่ ต้องแวะให้ได้ ด้านในมีขนม ของเล่น ย้อนวันวาน และตกแต่งร้านในสไตล์เรโทร

shibamata 06

ร้านค้าหลายร้าน มีขายของที่ระลึกจากซีรี่ย์เรื่อง Otoko wa tsurai yo และ Tora san

shibamata 07

บรรยากาศในวันธรรมดาจะค่อนข้างเงียบสงบ

shibamata 08

Monden ร้านนี้ขายขนมที่ทำจากจากมันอิโมะ เป็นเมนูต้องลองของย่านนี้

shibamata 09

เมื่อเดินมาจนสุดทางถนนเราก็จะได้พบกับ ประตูนิเท็นมง (Niten-mon) ทางเข้าของวัดไทชะคุเท็น

shibamata 10

ลวดลายแกะสลักบนประตูไม้ช่างวิจิตรสวยงาม เก็บรายละเอียดได้อย่างประณีต

shibamata 11

shibamata 12

วัดไทชะคุเท็น (Taishakuten) สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1629 หรือเกือบ 400 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ยุคเอโดะ จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ ประติมากรรม งานแกะสลักไม้อันวิจิตร ประดับเป็นผนังรอบวัด ลักษณะเดียวกับวัดโทโชกู ที่เมืองนิคโก้นั่นเอง (อ่านรีวิว >> เที่ยวนิคโก้) และอีกอย่างคือ แนวต้นสนซุยริวมัตสุ ที่มีอายุกว่า 500 ปี แผ่กิ่งก้านจากต้นเดียว ไปทั่วบริเวณด้านหน้าวิหารวัด ผู้คนนิยมเดินทางมาขอพรเรื่องสุขภาพกัน

shibamata 13

ด้านในวิหารมีสะพานไม้ทางเดินเชื่อมต่อไปยังอาคารพิพิธภัณฑ์ และด้านหลังมีสวนญี่ปุ่นด้วย

shibamata 14

เครื่องรางทำออกมาได้น่ารัก มีลายคาแรคเตอร์คาวาอี้ สำหรับเด็กๆ

shibamata 15

shibamata 16

กิจกรรมต่อมา เรามาที่โรงน้ำชา Yamamoto-tei จิบชาทานขนม ชมความงามของสวนญี่ปุ่น ในอาคารโบราณผสมผสานความเป็นญี่ปุนและตะวันตก

  • เวลาทำการ: 9.00-17.00 น.
  • ค่าเข้าชม 100 เยน

shibamata 17

shibamata 18

ชุดชาเขียว เสิร์ฟพร้อมขนมญี่ปุ่น ชาหอมรสขมตัดกับขนมหวานได้อย่างลงตัว ชุดละ 600 เยน

shibamata 19

สวนญี่ปุ่นในฤดูร้อน ก็จะเขียวชอุ่ม สดชื่นแบบในภาพ และถ้ามาในช่วงใบไม้ร่วง ก็จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสี

shibamata 20

ก่อนเดินทางกลับ เราเดินย้อนกลับมาที่ถนนไทชะคุเท็นซังโด แวะทานอาหารที่ร้าน Toraya ซึ่งเรามีเป้าหมายคือขนมชื่อดังของเมือง นั่นก็คือ ขนมดังโงะ นั่นเอง

shibamata 21

Kusa Dango แป้งดังโงะผสมใบโยโมงิ สีออกเขียว และราดด้วยถั่วแดงกวน ห้ามพลาดเด็ดขาด

shibamata 22

ขากลับ เราก็เดินทางด้วยรถไฟ Keisei กลับไปที่อุเอโนะ เช่นเดิม

shibamata 23