ภารกิจหลักของการเดินทางครั้งนี้คือการตามรอยสถานที่ที่ถูกใช้เป็นต้นแบบของภาพยนตร์อนิเมะยอดนิยมเรื่อง “BELLE เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง” ซึ่งอยู่ในจังหวัดโคจิ
พอได้ไปเจอสถานที่จริงแล้วรู้สึกประหลาดใจและประทับใจมากที่สถานที่เหล่านั้นเหมือนหลุดออกมาจากอนิเมะเลย! (ที่จริงต้องบอกว่าอนิเมะทำได้เหมือนของจริงมาก ๆ ต่างหาก) และสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ นอกเหนือจากฉากในเรื่องก็ดีงามมากเช่นกัน นอกจากนี้ยังขอจะแนะนำกิจกรรมที่สนุกสนานและร้านขนมหวานแสนอร่อยให้รู้จักกันด้วย! มารู้จักกับเสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดโคจิไปพร้อมกันเลยค่ะ
เรื่องย่อ: สึสึ เด็กสาวมัธยมปลายวัย 17 อาศัยอยู่กับพ่ออยู่ในชนบทจังหวัดโคจิ หลังจากสูญเสียแม่ไปด้วยอุบัติเหตุในวัยเด็ก ซุสุกลายเป็นคนปิดกั้นหัวใจในโลกแห่งความจริง แต่แล้วเธอกลับตัดสินใจเข้าสู่ ‘U’ โลกเสมือนจริงขนาดใหญ่ยักษ์บนอินเทอร์เน็ตโดยใช้อวาตาร์ชื่อว่า ‘เบลล์’ ด้วยเสียงร้องเพลงอันเป็นเอกลักษณ์ที่ซุกซ่อนไว้ตลอดมา ทำให้สึสึกลายเป็นที่จับตามองจากทั่วโลกในฐานะนักร้องเสียงทอง จนกระทั่งเธอได้พานพบกับตัวตนลึกลับ ชื่อ ‘ริว’ ผู้เป็นที่หวั่นเกรงของคนทั่วทั้ง ‘U’
เริ่มกันด้วยสถานที่ที่ใช้เป็นต้นแบบในภาพยนต์อนิเมะ มีทั้งหมด 4 แห่งด้วยกัน ขอเอารูปของฉากในภาพยนตร์จากเอกสารแนะนำการท่องเที่ยวภาษาไทยมาประกอบด้วยเพื่อให้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้นนะคะ รับรองว่าคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จะต้องตื่นเต้นแน่ ๆ
-สะพาน Aso Chinkabashi-
สถานที่แรกคือสะพาน Aso Chinkabashi เป็นสะพานที่ตัวละครหลัก Suzu ใช้เป็นเส้นทางไปโรงเรียนค่ะ
ภาพนี้ดูเหมือนในอนิเมะเป๊ะ ๆ เลยใช่มั้ยล่ะคะ? ที่นี่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาเขียวขจี อากาศปลอดโปร่ง ทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ตอนที่ไป มีกำลังตกปลาในแม่น้ำใสด้านล่าง เป็นใช้เวลาไปช้า ๆ ในบรรยากาศสบาย ๆ รู้สึกดีมากที่ได้มาชมวิวสะพานจากมุมต่าง ๆ และไม่พลาดเช็คอินบน SNS ด้วย
-สถานี Ino-
สถานที่ที่ 2 ก็คือสถานี Ino ที่ Suzu เปลี่ยนรถไฟที่สถานีนี้เพื่อไปยังโรงเรียนที่อยู่ในเมือง รายละเอียดต่าง ๆ เช่น ม้านั่งและเคาท์เตอร์ขายตั๋วทำออกมาได้ละเอียด ตรงกับฉากของภาพยนตร์จริง ๆ เปรียบเทียบได้เลย
-Lawson หน้าสถานี Ino-
ที่ต่อไปก็คือร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่ตั้งอยู่หน้าสถานี Ino ตรงสี่แยกและอาคารบ้านเรือนก็ดูเหมือนกันกับในอนิเมะ เหมือนจนตกใจเลยค่ะ
-สวน Hakawa-
สถานที่สุดท้ายของการตามรอยก็คือสวน Hakawa ลักษณะเด่นคือมีริมตลิ่งที่กว้างของแม่น้ำนิโยโดและมีสะพานอยู่ทางขวามือ ที่นี่คือฉากที่ปรากฏหลายครั้งในเรื่อง ทั้งตอนที่ Suzu มาร้องไห้, หัวเราะ, และร้องเพลง ซึ่งล้วนแต่เป็นฉากที่สำคัญ สามารถเดินทางจากสถานี Ino ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีโดยรถยนต์
นอกจากนี้ ในฤดูร้อนผู้คนมากมายจะมาเล่นน้ำในแม่น้ำ ปาร์ตี้บาร์บีคิว และตั้งแคมป์ หากได้ใช้เวลาที่นี่ต้องกลายเป็นความทรงจำที่ดีของฤดูร้อนแน่เลย
จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายแห่งที่ถูกใช้เป็นต้นแบบของภาพยนตร์ อยากให้ทุกคนลองมาที่นี่แล้วมาค้นหาด้วยตัวเองกันดูนะคะ นะนะมั่นใจว่าจะเป็นทริปที่สนุกแน่ ๆ
เอาล่ะ ต่อจากนี้ไปจะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดโคจิที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เริ่มกันด้วยที่นี่!
1) Niyodogawa Outdoor Center
ถ้าชอบกิจกรรมเอาท์ดอร์ต้องมาที่นี่ให้ได้! ที่นี่เป็นศูนย์สำหรับทำกิจกรรมเอาท์ดอร์ที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การพายเรือคายัคและ SUP ในแม่น้ำ Niyodo ที่สวยงาม ครั้งนี้นะนะเลือกเรือคายัคแบบคริสตัล แม่น้ำใสจนมองเห็นตัวปลาและก้นแม่น้ำเลยค่ะ
ครูผู้สอนก็ใจดีมาก สอนให้แบบไม่เครียด เฮฮา แล้วก็คอยซัพพอร์ตทุกคนเป็นอย่างดีเลยค่ะ ระหว่างที่กำลังทำกิจกรรม ครูก็ไปบังคับโดรนเพื่อถ่ายภาพและวิดีโอให้อีก!
เป็นการออกกำลังกายที่สนุกและดีจริง ๆ แต่ก็ไม่เหนื่อยเพราะมีวิวสวย ๆ ของแม่น้ำและภูเขาโดยรอบให้ชม ค่าทำกิจกรรมเพียง 6,500 เยนต่อคน! ได้พายเรือเป็นเวลาตั้ง 2 ชั่วโมงแถมได้รูปและวิดีโอกลับบ้านไปอีกด้วย สุดคุ้มเลย
2) Ikegawa Cha-en Cafe
คาเฟ่แห่งนี้อยู่ใกล้กับ Niyodogawa Outdoor Center ที่เราเพิ่งไปพายเรือกันมา หลังจากออกกำลังกายจนได้เหงื่อแล้วเราก็ต้องหาอะไรหวาน ๆ กินใช่มั้ยล่ะ!
ภายในบริเวณร้าน Ikegawa Cha-en Cafe มีไร่ชาเล็ก ๆ ที่ซึ่งเราจะได้ผ่อนคลายหลังจากออกกำลังกาย พร้อมชมน้ำสีฟ้าของแม่น้ำ Niyodo ที่ไหลผ่านอยู่ด้านข้าง
เมนูของที่นี่ก็มีมากมาย ทั้งโรลเค้ก, ไอศกรีม, ทีรามิสุ และพุดดิ้ง ฯลฯ นะนะสั่งทั้งรสมัทฉะและโฮจิฉะหลากหลายแบบมาลองค่ะ ขอบอกว่าอร่อยไปหมดทุกชิ้นเลย
3) เมือง Ikegawa – สวน Fureai
ขับรถ 5 นาทีจาก Ikegawa Cha-en Cafe ก็ถึงที่นี่แล้วค่ะ วิวที่มองเห็นจากสะพานนั้นสงบมาก ได้เห็นสีฟ้าสวย ๆ ของแม่น้ำ Niyodo ที่อยู่ข้างล่างพร้อมกับทิวทัศน์ของเมือง เป็นช่วงเวลาที่สุขสงบมากค่ะ ในฤดูใบไม้ผลิ จะมีทิวต้นซากุระที่เบ่งบานอวดดอกสวยในสวน Fureai ที่อยู่ริมแม่น้ำนะคะ อยากมาในช่วงเวลานั้นดูบ้างจัง~
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? เห็นแล้วใช่มั้ยว่ามีหลายวิธีในการเพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของจังหวัดโคจิเลยนะ แล้ววันหยุดพักผ่อนครั้งหน้า ลองวางแผนมาเต็มอิ่มไปกับธรรมชาติของจังหวัดโคจิกันน้า~
