Hiroshima: ชมทุ่งทานตะวัน เที่ยวเกาะกระต่าย ขึ้นกระเช้าชมวิว นอกตัวเมืองฮิโรชิมะ

หากอยากจะหาสถานที่เที่ยวนอกตัวเมืองฮิโรชิมะบ้างละก็ ในรีวิวนี้จะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยว 3 แห่งที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น และกำลังต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกันมากขึ้น ทั้งทุ่งทานตะวัน ณ เมืองเซระ (Sera) เกาะกระต่าย ณ โอคุโนชิมะ (Okunoshima) และ จุดเชื่อมต่อของเส้นทางนักปั่น ณ เมืองโอโนมิจิ (Onomichi) โดยทั้งหมดนี้สามารถเดินทางไปได้สะดวกจากตัวเมืองฮิโรชิมะ

มาเริ่มต้นกันที่ ฟาร์มเซระโคเก็น (Sera Kogen Farm) ฟาร์มที่เชื่อว่าดอกไม้จะสร้างความสุขให้กับทุกคนที่ได้มาเยือน มีขนาดกว้าง 150,000 ตร.ม. มีดอกไม้สลับเปลี่ยนตามฤดูกาลให้ได้ชมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น พิงค์มอส ทิวลิป ทานตะวัน ดาเลีย

และช่วงที่ทีมงานเราเดินทางไปก็เป็นช่วงที่จัดงาน Sunflower festival พอดิบพอดี โดยปกติถ้าใครอยากชมทุ่งทานตะวัน เดินทางมาได้ตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายเดือนก.ค. ถึงสัปดาห์ที่ 3 เดือนส.ค. (ปีนี้จัดระหว่าง 3 ส.ค.-25 ส.ค. 2019)

หลายคนอาจบอกว่าทุ่งทานตะวัน บ้านเราก็มีเยอะแยะ แต่ขึ้นชื่อว่าญี่ปุ่น ต้องบอกเลยว่า เค้าจริงจังมากที่สามารถปลูกดอกทานตะวันไว้ได้มากนับล้านดอก สุดลูกหูลูกตา เดินไปร้องว้าวไป รับรองว่าเราจะได้เห็นทานตะวันหลากหลายกว่า 50 สายพันธุ์ ที่เปล่งประกายเต็มที่ที่ฟาร์มแห่งนี้แน่นอน

ทานตะวันบานแฉ่มเท่าหน้าเลย

เวลาทำการ: 9.00-17.00 น. | ค่าเข้าชม: 800 เยน | เว็บไซต์
การเดินทาง: ขับรถจากสนามบินฮิโรชิมะ ใช้เวลาเพียง 40 นาที (พิกัด)
หรือโดยสารรถบัสด่วนจากตัวเมืองฮิโรชิมะ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง

ไปเที่ยวญี่ปุ่นทุกครั้งต้องพก Pocket WiFi ญี่ปุ่น 4G จาก TRIPIZEE ไปด้วยเสมอ เพราะไม่เคยมีปัญหาเรื่องสัญญาณเลย ไม่ว่าจะไปเมืองไหนก็ตาม รับรองงานนี้แอดมินใช้เองและการันตีว่าดีจริง!! ในราคาสุดพิเศษ เพียงแค่ 150 บาทต่อวัน!!

และช่วงนี้มีโปรโมชั่น แถมฟรี 1 วัน เมื่อจองอย่างน้อย 3 วัน ใส่ Promo Code LOVETPZ1MH4 หรือ แถมฟรี 2 วัน เมื่อจองอย่างน้อย 5 วัน ใส่ Promo Code LOVETPZ2MTD ถึง 31 ธ.ค. 2019 จองได้เลย >> TRIPIZEE

แหล่งท่องเที่ยวแห่งที่สองน่าจะเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน เพราะเราจะพาไปเที่ยวเกาะกระต่าย หรือที่มีชื่อเรียกว่า โอคุโนะชิมะ (Okunoshima) 

การเดินทาง: จากสถานี Hiroshima ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นมาลงที่สถานี Mihara จากนั้นต่อรถไฟ JR สาย Kure มาลงที่สถานี Tadanoumi ใช้เวลาประมาณ 90 นาที จากนั้นเดินมาที่ท่าเรือ Tadanoumi Port เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปเกาะกระต่าย ใช้เวลา 15 นาที ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> เว็บไซต์

ในอดีตบนเกาะแห่งนี้เคยใช้เป็นสถานวิจัยและผลิตอาวุธเคมีรวมถึงแก๊สพิษ และได้เลี้ยงกระต่ายไว้เพื่อเป็นสัตว์ทดลอง เกาะแห่งนี้จึงไม่เคยปรากฎในแผนที่ช่วงสงครามโลก แต่ภายหลังสงคราม โครงการเหล่านี้ได้ถูกระงับและอาคารต่างๆได้ปิดตัวลง จนกลายเป็นที่อยู่อาศัยของกระต่ายนับตั้งแต่นั้น จนขยายพันธุ์กลายเป็นครอบครัวใหญ่อย่างทุกวันนี้

พักทานมื้อกลางวันกันก่อน โดยอาหารหลักของที่นี่จะใช้ปลาหมึกยักษ์ หรือ ทาโกะ เป็นส่วนประกอบหลัก

ว่ากันว่าบนเกาะแห่งนี้มีกระต่ายอาศัยอยู่นับพันตัว คนญี่ปุ่นเชื่อว่ากระต่ายเป็นสัญลักษณ์ของการคลอดบุตรอย่างปลอดภัย และคุ้มครองเด็กๆ จึงเป็นสัตว์อีกหนึ่งชนิดที่เป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก

ป.ล. ช่วงที่ไปอากาศร้อนสุดๆ น้องกระต่ายเลยหลบเข้าไปใต้ร่มไม้กันหมด ไม่ออกมาเดินเล่นเลย งานนี้เลยต้องแอบซุ่มตามหากันให้วุ่น เอาเป็นว่า หน้าร้อนแอดไม่ค่อยเชียร์ อยากให้มาช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะฟินกว่าแน่นอน

https://www.facebook.com/tiewyeepoon/videos/1711396998986310/

แหล่งท่องเที่ยวแห่งที่สาม จะพาไปยังสถานที่สำคัญ และเป็นที่รู้จักของนักปั่นหลายคน เพราะถ้าใครที่เคยไปปั่นจักรยานบนเส้นทางชิมานามิไคโด (Shimanami kaido) จะต้องมาเริ่มต้นที่ เมืองโอโนมิจิ (Onomichi) แห่งนี้ โดยเรามีไฮไลท์คือการขึ้นกระเช้าไปชมวิวบนยอดเขาเซ็นโคจิ (Senkojiyama Ropeway)

การเดินทาง: จากสถานี Hiroshima โดยสารรถไฟชินคังเซ็นมาบงที่สถานี Fukuyama จากนั้นเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟ JR สาย Sanyo ลงที่สถานี Onomichi (ถ้าใครจะมุ่งหน้ามาที่จุดขึ้นกระเช้าเลย ให้นั่งรถบัสลงที่ป้าย Nagae-guchi)

ค่าโดยสาร Senkojiyama Ropeway: เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 270 เยน เด็ก 130 เยน ไปกลับ ผู้ใหญ่ 430 เยน เด็ก 210 เยน
เว็บไซต์

ณ จุดชมวิวด้านบน สวนเซ็นโคจิ (Senkoji Park) ชมทิวทัศน์ของเมืองโอโนมิจิ เส้นทางนักปั่นชิมานามิไคโด พร้อมกับชมวิวของทะเลเซโตะได้แบบพาโนรามาทั้ง 360 องศา

ต้องลองซอฟท์ครีมรสส้ม ของดีประจำพื้นที่นี้ นวลนุ่มหอมอร่อย ไม่หวานเกิน

หลังจากนั้นให้เดินตามป้ายบอกทางต่อมายัง วัดเซนโคจิ (Senkoji Temple) ระหว่างทางจะได้ชมหินที่แกะสลักข้อความโบราณของนักกวี ซึ่งวัดแห่งนี้มีความเก่าแก่กว่า 1,200 ปี มีความสำคัญคือ เป็นวัดแห่งที่ 10 บนเส้นทางแสวงบุญพระโพธิสัตว์ของภูมิภาคจุโกขุ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียงของเมืองโอโนมิจิ

และมีอีกหนึ่งเส้นทางที่เชื่อมต่อกับวัดเซ็นโคจิแห่งนี้ ซึ่งจะเป็นการเดินผ่านวัดวิหารที่ตั้งอยู่ตลอดทางกว่า 25 หลัง เริ่มต้นจากประตูหินของวัดจิโคจิ (Jikoji) ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานี อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของแมวเหมียวมากมาย ที่แวะเวียนมาให้ได้ถ่ายรูปกันไม่หยุดด้วย

วัดเเห่งนี้ เปิดให้บริการตลอดเวลา ไม่มีวันหยุดทำการ และไม่เสียค่าเข้าชม

สามารถเช่าตุ๊กตาจิโซซังเขียนคำปราถนา หรือ เขียนป้ายขอพรลายริลัคคุมะได้ด้วย

นอกจากนี้อีกฝั่งยังมีจุดชมวิว ที่ปลูกต้นซากุระไว้เต็มพื้นที่ตลอดระยะทาง และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความรักอีกด้วย

ตั้งอยู่ไม่ไกลกันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองโอโนมิจิ (Onomichi City Museum of Art)