เวลาไปเที่ยวโตเกียว ไม่ว่าจะไปคนเดียว เป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม แบบเน้นชิลล์ๆ ไม่อยากเสียค่าที่พักแพงๆ ประเภทของที่พักอันดับต้นๆที่มักจะนึกถึงก็คือ แคปซูล หอพัก เกสท์เฮาส์ และ โฮสเทล ถ้าพูดถึงบรรดาโฮสเทลแล้ว Sakura Backpackers Hostel ดูจะเป็นตัวเลือกที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ ทั้งความสะอาด ความปลอดภัย ที่ทางที่พักเน้นดูเเลเป็นพิเศษ และที่สำคัญ นอกจากราคาจะถูกแล้ว โลเคชั่นยังงามด้วย มาจากสนามบินฮาเนดะหรือนาริตะ นั่งรถไฟวิ่งตรง ลากกระเป๋ามาเช็คอิน แล้วก็ออกไปเที่ยวได้เลย
Sakura Hotels & Sakura Backpackers Hostel เป็นเครือที่พักที่มีให้บริการทั้งเป็นแบบ โรงแรมและหอพัก ปัจจุบันมีด้วยกันทั้งหมด 4 แห่งในโตเกียว คือที่ Ikebukuro, Hatagaya, Jimbocho และ Asakusa ในบรรดาทั้ง 4 แห่ง สาขาที่ Asakusa จะเป็นโฮสเทลเพียงแห่งเดียว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทีนี่ >>SAKURA-HOTEL<<
Sakura Backpackers Hostel Asakusa เป็นโฮสเทลที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับวัดเซนโซจิ ที่ย่านอาซาคุสะ สามารถเดินทางมาจากสนามบินฮาเนดะและนาริตะได้สะดวก เปิดให้บริการเช็คอินได้ตลอด 24 ชั่วโมง
มีให้บริการห้องพักหลายรูปแบบ ทั้ง Dorm แบบรวมชาย-หญิง และแยกชาย-หญิง รวมไปถึงห้องนอนกลุ่มแบบส่วนตัว จะมาเดี่ยว มาเป็นคู่ หรือมากันเป็นกลุ่มยกแก๊งก็ได้ ราคาเริ่มต้นเพียง 3,000 เยนต่อคนเท่านั้น ส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำ เป็นแบบใช้รวม แต่ไม่ต้องเข้าไปอาบพร้อมกัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> SAKURA ASAKUSA
บรรยากาศด้านหน้าตึก Sakura Hostel Asakusa
Reception เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเดินทางมาถึงดึกแค่ไหน จะมีพนักงานคอยรอต้อนรับตลอด แถมพูดภาษาอังกฤษได้คล่องปรื๋อ
ถ้าเลือกพักแบบ Long Stay ตั้งแต่ 1 สัปดาห์ขึ้นไป จนถึงเป็นเดือน Monthly Stay ก็จะได้รับส่วนลดพิเศษ
ที่ชั้นล่างมีตู้ขายน้ำอัตโนมัติ ไม่ต้องเดินออกไปหาซื้อที่ไหนไกล
บริเวณส่วนกลางที่ชั้นล่าง นั่งเล่นได้ มี Free Wi-Fi ให้ใช้ และมีคอมพิวเตอร์ให้บริการ
มีอาหารเช้าให้บริการทุกเช้าตั้งแต่เวลา 5.00-11.00 น. ราคา 325 เยน เป็นขนมปัง ซุป ชา-กาแฟ
ถ้าใครมาก่อนเวลาเช็คอิน เอากระเป๋าลงไปฝากไว้ที่ชั้นใต้ดินก่อน แล้วก็ออกไปเที่ยวได้ บ่ายๆก็ค่อยกลับมาเช็คอินครับ ตอนเช็คอิน เจ้าหน้าที่จะให้เราจ่ายเงินเลย เป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตก็ได้ แล้วก็จะให้ Key card พร้อมกับกระดาษที่อธิบายกฎการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น และข้าวของเครื่องใช้ต่างที่มีทั้งให้ยืมและขาย นอกจากนี้ก็จะให้ผ้าปูเตียงกับปลอกหมอนมา ให้เราขึ้นไปจัดเตียงเองด้วยครับ
ห้องนี้เป็นห้อง Dormitory สำหรับผู้ชาย มี 4 เตียง มีแค่เตียง ตู้ และเก้าอี้ 1 ตัว กับถังขยะ 1 ใบ มีที่ให้เสียบปลั้กชาร์จแบตทุกมุมห้อง วันนี้เลือกนอนเตียงล่างครับ เอาจริงๆ ก็ลำบากใจมากว่าจะเลือกเตียงบนหรือล่างดี เพราะการที่มาอยู่รวมกับคนอื่น โดยที่เราไม่รู้จักกันมาก่อน ก็ต้องมีความเกรงใจกันมากๆ ต้องพยายามเลือกที่ที่เราจะสามารถทำอะไรได้คล่องตัว หยิบของได้สะดวก ชาร์จแบตอะไรได้ง่าย
จากการที่เคยนอนที่พักประเภทนี้มาหลายที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีทั้งคนอเมริกัน ยุโรป ออสเตรเลีย และคนจีน พวกฝรั่งจะมีความเกรงใจน้อยสุดครับ ไม่รู้จะระบุชาติยังไงดี เพราะดูไม่ค่อยออก บางทีเราอาจจะต้องตื่นกลางดึก เพราะมีคนเพิ่งกลับมาจากเที่ยวกลางคืนแล้วทำเสียงดังทั่วทั้งห้อง เปิดไฟทั้งๆที่เป็นเวลาตี 3 หรือบางทีเราจะต้องตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะมีคนต้องรีบเช็คเอาท์ ไปขึ้นรถไฟให้ทัน เป็นต้น ทั้งนี้เรื่องพวกนี้ เป็นเรื่องที่ต้องทำใจครับ เราต้องกะเวลาเข้านอนและพักผ่อนให้เต็มที่ หาที่ปิดตาและที่อุดหูเอาไว้ใช้นอนตอนกลางคืนจะช่วยได้มาก ถ้ามีของมีค่าให้เอาที่ล้อกส่วนตัวไปด้วย ที่สำคัญอย่าลืม ผ้าเช็ดตัวกับอุปกรณ์อาบน้ำไปด้วยนะครับ
ส่วนอย่างอื่นก็ถือว่าดีพอใช้ได้ทีเดียว คิดว่าถ้าไม่ได้อะไรมาก ก็คงจะกลับไปพักที่นี่อีก อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปแออัดคับแคบในตู้แคปซูล (แคปซูลโฮเท็ลนี่สำหรับนอนแค่คืนเดียว จะสะดวกมากที่สุด ด้วยราคาและโลเคชั่น แต่ถ้านอนหลายคืนติดกันแนะนำเป็นโฮสเท็ล เพราะราคาใกล้เคียงกัน แต่มีพื้นที่อำนวยความสะดวกมากกว่า)
วิธีการเดินทางจากสนามบินมาสถานี Asakusa
จากสนามบินฮาเนดะ ชึ้นรถไฟสาย Keikyu Airport Express ใช้เวลา 50 นาที ค่ารถ 640 เยน
จากสนามบินนาริตะ ขึ้นรถไฟสาย Keisei Narita Sky Access ใช้เวลา 60 นาที ค่ารถ 1,240 เยน
วิธีการเดินทางมาจากสถานี Asakusa ให้ออกทางออกที่ 4 และเดินมาทางวัดเซนโซจิ เดินเข้ามาด้านในสุด ตามป้ายถนน Hanayashiki-dori 花やしき通り เดินตรงผ่านสวนนุกเข้ามา พอสุดถนนก็จะเจอกับทางแยก มีร้านอุด้งอยู่หัวมุม ให้เลี้ยวขวาไป เดินตรงอีกสักนิดก็จะเจอ Sakura Hostel แล้วครับ ใช้เวลาเดินจากสถานีประมาณ 15 นาที
ดาวโหลดเส้นทางการเดินทางได้ >>ที่นี่<<
ร้านอุด้งที่อยู่ด้านหน้าทางเดินเข้าที่พัก น่ากินมากๆ ถ้าใครมีโอกาสได้ไปชิม กลับมาบอกหน่อยนะครับว่าอร่อยรึเปล่า เพราะตอนที่ผมไปพักนี่ ออกเดินทางเช้า และกลับค่ำตลอด เลยมาไม่ทันตอนเวลาที่ร้านเปิดทำการเลย
ขึ้นชื่อว่า Sakura Hostel ทั้งที จะไม่มีต้นซากุระได้ยังไง
และถ้าพักที่นี่ นี่คือวิวที่เราจะต้องเดินผ่านทุกวัน เดินเห็นจนแอบเบื่อไปเลยละครับ 😀
ช่วงที่ซากุระบาน ถนน Nakamise ด้านหน้าวัด Sensoji นี่สวยงามจริงๆ