ฤดูร้อนได้ผ่านพ้นไป พร้อมเข้าสู่ ฤดูใบไม้ร่วงหรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อของ “ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี” เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมาย ไม่เพียงแต่เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ชาวญี่ปุ่นเองก็ให้ความสนใจเดินทางไปชมความสวยงามของใบไม้ที่ไล่เฉดสีกันตามจุดแนะนำมากมายทั่วทั้งประเทศ

แน่นอนว่าถ้าอยากจะไปชม ความสวยงามที่ไม่ซ้ำแบบใคร ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป การเดินทางไปชมใบไม้เปลี่ยนสีตามแหล่งธรรมชาตินอกเขตตัวเมืองหลักๆ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แต่หลายคนอาจจะกังวลในเรื่องของการเดินทางที่ไม่สะดวกสบาย การคมนาคมรถสาธารณะที่เข้าไม่ถึงจุดหมายปลายทางเหล่านั้น

ปัจจุบัน การเช่ารถยนต์ขับ เริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติหรือแม้แต่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเอง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสะดวกสบาย ยืดหยุ่นกับแผนการเดินทาง ไม่ต้องกังวลกับรอบรถไฟที่มีอยู่อย่างจำกัด อีกทั้งยังช่วยประหยัดมากยิ่งขึ้นในกรณีที่เดินทางเป็นกลุ่ม

ขอแนะนำเว็บไซต์ Tabirai เว็บไซต์ที่คุณสามารถเปรียบเทียบราคารถเช่าจากบริษัทต่างๆทั่วทั้งญี่ปุ่นได้ฟรี และสามารถทำการจองรถ โดยข้อมูลที่แสดงล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลของบริษัทรถเช่าใหญ่ๆ

เว็บไซต์ Tabirai จึงเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์มากมายกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งรถเช่าก็มีคุณภาพสูง ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์นำทาง (GPS) เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษและยังมีค่าประกันภัยขั้นพื้นฐาน (CDW) และค่าภาษีรวมอยู่ในราคาค่าเช่ารถแล้ว จึงสามารถใช้บริการได้อย่างอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่บานปลาย อีกทั้งการค้นหารถยนต์ที่ต้องการหรือทำการจองทางหน้าเว็บไซต์ก็ทำได้แบบง่ายดายไม่ยุ่งยาก

สามารถทำการจองได้ที่นี่ >> TABIRAI

และในครั้งนี้ เราขอแนะนำ 11 สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เราอยากจะให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้ลองขับรถกินลมชมวิวไปสัมผัสกับอีกหนึ่งความสวยงามของฤดูกาลที่ธรรมชาติได้สรรค์สร้างเอาไว้ได้อย่างงดงาม

1. สวนฮิตาจิ ซีไซต์ (Hitachi seaside Park) ตั้งอยู่ที่เมือง ฮิตะชินะกะ (Hitachinaka) จังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki) ในภูมิภาคคันโต สวนสวยที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี โดยจุดเด่นของสวนแห่งนี้ที่เป็นที่รู้จักคงจะหนีไม่พ้นดอกเนโมฟิล่าสีฟ้าสดใสและต้นโคเคียที่จะเปลี่ยนสีจากเขียวสดไปเป็นพุ่มสีแดงในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ปลายเดือนกันยายน – กลางเดือนตุลาคม
Mapcode : 47 236 733*33


2. คุโระกะวะ อนเซน (Kurogawa Onsen) ตั้งอยู่ที่เมือง มินะมิโอกุนิ (Minamioguni) เขตอะโสะ  (Aso) จังหวัดคุมะโมโตะ (Kumamoto) ในภูมิภาคคิวชู เมืองอนเซนชื่อดังของจังหวัดคุมะโมโตะทางตอนเหนือของภูเขาไฟอะโซะ ผ่อนคลายไปกับน้ำพุร้อนอนเซนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมายจากธรรมชาติพักผ่อนในเรียวกังแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมทานอาหารอร่อยๆ พร้อมชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีก็ช่วยชาร์จพลังให้ออกไปใช้ชีวิตต่อได้อย่างเต็มที่

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ต้นเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
Mapcode : 440 542 618*58


3. อิคาโฮะ อนเซ็น (Ikaho Onsen) ตั้งอยู่ที่เมือง ชิบุคะวะ (Shibukawa) จังหวัดกุนมะ (Gunma) ในภูมิภาคคันโต หมู่บ้านน้ำพุร้อนประวัติศาสตร์ ที่มักจะถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งในบทกลอนโบราณของญี่ปุ่น นอกจากที่นี่จะเป็นต้นกำเนิดของแหล่งน้ำพุร้อนชั้นดี เต็มไปด้วยเรียวกังเก่าแก่มากมาย เอกลักษณ์อีกอย่างของหมู่บ้านน้ำพุร้อนแห่งนี้คือบันไดหิน 360 ขั้นที่มีอายุมากกว่า 400 ปี อีกทั้งสะพานข้ามแม่น้ำสีแดงสดพร้อมการแสดงไฟในช่วงกลางคืน อีกทั้งร้านอาหาร ร้านขายของพื้นเมืองและร้านขายของที่ระลึกเต็มสองข้างทางให้เลือกชิมเลือกช้อปอีกด้วย

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: กลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
Mapcode : 94 875 128*66


4. วัดรุริโคจิ (Rurikoji Temple) ตั้งอยู่ในจังหวัดยะมะงุจิ (Yamaguchi) ในภูมิภาคชูโงะกุ (Chugoku) วัดในพุทธศาสนาเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 ชั้นที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 ของเจดีย์ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้รับการจัดตั้งให้เป็นสมบัติของชาติ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางมาชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้ที่ สวนโกซันซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณวัดได้อีกด้วย

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
Mapcode : 93 671 357*28


5. วัดเอเคนจิ (Eikenji Temple) ตั้งอยู่ในเมืองฮิกะชิโอมิ (Higashiomi) จังหวัดชิงะ (Shiga) ในภูมิภาคคันไซ วัดเก่าแก่ในพุทธศาสนานิกายรินไซ ในอดีตเคยใช้เป็นโรงเรียนสอนศาสนา วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านของการเป็นจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคคันไซ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
Mapcode : 67 715 098*52


6. เส้นทางฮะขุซัง (Hakusan White Road) เป็นเส้นทางถนนคดเคี้ยวตามแนวเขากว่า 33.3 กิโลเมตรระหว่างเมืองฮะคุซัง (Hakusan) จังหวัดอิชิคะวะ (Ishikawa) และเมืองชิระคาวะโก (Shirakawago) จังหวัดกิฟุ (Gifu) ในภูมิภาคชุบุ ถนนสายนี้จะสวยงามที่สุดในช่วงของฤดูใบไม้ร่วงที่ทั้งทิวเขาจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันสลับกันของใบไม้ รวมถึงยังมีน้ำตกอีกหลายแห่ง อาทิเช่น น้ำตกอุบางาตากิ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ปลายเดือนกันยายน – กลางเดือนตุลาคม
Mapcode : 41 338 307*44


7. เมืองอิซุมิ (Izumi) ตั้งอยู่ในเมืองอิซุมิ (Izumi) จังหวัดโอซะกะ (Osaka) ในภูมิภาคคันไซ เมืองเล็กๆที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติและแหล่งที่อยู่ของเหล่าซามูไรในอดีต พร้อมแหล่งชมวิถีชีวิตของเหล่าบรรดานกกระเรียนอพยพ โดยเฉพาะในช่วงของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
Mapcode: 10 516 544*44

8. ชิโอะบะระ อนเซ็น (Shiobara Onsen) ตั้งอยู่ที่เมือง นะสุชิโอะบะระ (Nasu-Shiobara) จังหวัดโทะชิิงิ (Tochigi) ในภูมิภาคคันโต เมืองน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในหุบเขา เต็มไปด้วยโรงแรมขนาดใหญ่ และที่พักเรียวกังแบบญี่ปุ่นแท้ๆ อีกทั้งธรรมชาติของป่าไม้และภูเขาห้อมล้อมรอบอยู่ให้ความรู้สึกได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีสะพานแขวนสำหรับคนเดินเหนือแม่น้ำที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามอีกด้วย

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน
Mapcode: 548 188 199*77


9. น้ำตกริวซุ (Ryuzu Waterfalls) ตั้งอยู่ที่เมืองนิกโก้ (Nikko) จังหวัดโทะชิงิ (Tochigi) ในภูมิภาคคันโต น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาตินิกโก้ ด้วยลักษณะทางธรรมชาติที่น้ำตกถูกแบ่งออกเป็นสองสายด้วยหินก้อนใหญ่ ทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีในชื่อของน้ำตกหัวมังกร ที่มีความสูงกว่า 210 เมตร โดยในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี น้ำตกแห่งนี้จะมีทัศนียภาพที่สวยงามเป็นพิเศษ จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมาย

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ปลายเดือนกันยายน-กลางเดือนตุลาคม
Mapcode: 735 024 616*36


10. คะวะจิ อนเซ็น (Kawaji Onsen) ตั้งอยู่ที่เมืองนิกโก้ (Nikko) จังหวัดโทะชิงิ (Tochigi)  ในภูมิภาคคันโต แหล่งน้ำพุร้อนอนเซ็นแห่งนี้ผุดขึ้นบริเวณจุดรวมของแม่น้ำสองสาย คือแม่น้ำคินุกาวะและแม่น้ำโอะจิคะ ทำให้เกิดเป็นแหล่งน้ำพุร้อนไหลพาดผ่าน เต็มไปด้วยที่พักแบบเรียวกังและโรงแรมมากมาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี บริเวณทิวเขาแห่งนี้จะสวยงามยิ่งขึ้นด้วยทัศนียภาพของใบไม้ที่เปลี่ยนไล่เฉดสีกันอย่างงดงาม

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ต้นเดือนตุลาคม-กลางเดือนพฤศจิกายน
Mapcode: 367 774 655*28


11. โจซังเค อนเซ็น (Jozankei Onsen) ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโร (Sapporo) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ในภูมิภาคฮอกไกโด เมืองน้ำพุร้อนแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) เพียง 1 ชั่วโมงจากตัวเมืองซัปโปโร แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามทางธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ เรียวกังบางแห่งที่เปิดให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เข้าพักสามารถเข้ามาทดลองแช่น้ำพุร้อนในราคาไม่แพงอีกด้วย อีกทั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง นักท่องเที่ยวมากมายยังนิยมเดินทางมาชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีตามแนวหุบเขา

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน
Mapcode: 708 755 854*28


เท่านี้การเดินทางทริปต่อไปของคุณก็จะสนุก ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพียงแค่จองรถเช่ากับเว็บไซต์ Tabirai เส้นทางท่องเที่ยวของคุณก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป… แล้วไปขับรถเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยกันนะ!!

เช่ารถทั่วญี่ปุ่นกับ Tabirai >> Rental Cars Around Japan

เช่ารถขับในฮอกไกโด >> Rental Cars in Hokkaido

เช่ารถขับในโอกินาวา >>  Rental Cars in Okinawa

เช่ารถขับในคิวชู >> Rental Cars in Kyushu