เที่ยวภูมิภาคโฮขุริขุด้วย Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass ตอน 2: Ishikawa-Fukui

รีวิวตอนต่อของทริปเจาะลึก 3 จังหวัด ในภูมิภาคโฮขุริขุ ด้วยพาสรถไฟสุดคุ้มอย่าง Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass สำหรับเส้นทางนี้เราใช้เวลาทั้งหมด 5 วัน 4 คืน บินเข้าออกจากสนามบิน Chubu Centrair และใช้พาสเดียวเที่ยวตลอดทั้งทริป

ในครั้งนี้เรามีโอกาสได้ไปลองใช้พาส Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass เที่ยวทางตอนกลางของญี่ปุ่น ที่บอกได้เลยว่าคุ้มค่ามากๆ เนื่องจากสามารถเริ่มต้นการเดินทางได้ทั้งฝั่งคันไซ จากโอซาก้า และทางฝั่งชูบุ จากเมืองนาโงยะ ก็สะดวกไม่แพ้กัน

Takayama – Hokuriku Area Tourist Pass เป็นพาสการเดินทางราคาพิเศษ ของบริษัทการเดินรถไฟ JR Central ที่สามารถใช้เดินทางท่องเที่ยวจาก Nagoya ไป Takayama และ Shirakawago รวมทั้งโซน Hokuriku อย่าง Kanazawa, Fukui ที่สามารถเดินทางต่อมาได้ถึง Kyoto และ Osaka อีกด้วย นอกจากนี้จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจระหว่างเส้นทางยังมี Gero Onsen, Kaga Onsen เป็นต้น

พื้นที่ที่ครอบคลุม

• การเดินทางทั้งรถไฟและรถบัสในขอบเขตที่กำหนดไว้
• รถไฟชินคังเซ็นสาย Hokuriku Shinkansen ที่ให้บริการระหว่างสถานี Kanazawa และสถานี Toyama
• การเดินทางด้วยรถไฟ JR ระหว่าง Osaka และ Kansai Airport
• การเดินทางด้วยรถไฟ JR ระหว่าง Takayama และ Toyama
• รถบัส ระหว่าง Shirakawago และ Shin-Takaoka วิ่งผ่าน Gokayama
• ไม่สามารถใช้ขึ้นรถไฟวิ่งตรงระหว่าง Osaka-Nagoya ได้

ข้อกำหนดในการใช้พาส Takayama – Hokuriku Area Tourist Pass

1. ใช้ขึ้นรถไฟได้ไม่จำกัด ระหว่าง Nagoya และ Takayama ทั้งขบวนธรรมดาและขบวนด่วน
ใช้ขึ้นรถไฟได้ไม่จำกัด ระหว่าง Osaka และ Kanazawa ทั้งขบวนธรรมดาและขบวนด่วน
ใช้ขึ้นรถบัสได้ไม่จำกัดระหว่าง Takayama และ Kanazawa
ใช้ขึ้นรถบัส Sarubobo ที่วิ่งในเมือง Takayama ได้ไม่จำกัด
2. สามารถทำการจองที่นั่งบนรถไฟขวนด่วน Limited Express ได้ฟรี สูงสุด 4 ครั้ง
3. พาสต้องใช้ต่อเนื่องกัน 5 วัน จากเที่ยงคืนถึงเที่ยงคืน
4. สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นแบบ Temporary Visitor เท่านั้น
5. พาส 1 ใบ สามารถใช้ได้ต่อ 1 คน ไม่สามารถโอนให้คนอื่นได้ และต้องถือพาสปอร์ตไว้กับตัวตลอดเวลา
6. ต้องซื้อพาสจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศของตัวเองก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่น

ข้อมูลเพิ่มเติมภาษาไทย >> Takayama-Hokuriku

สำหรับตอนนี้เราจะพาไปเที่ยวต่อกันที่ จังหวัดอิชิกะวะ (Ishikawa) และ จังหวัดฟุคุอิ (Fukui)

อ่านรีวิวตอนแรกที่นี่ >> เที่ยวภูมิภาคโฮขุริขุด้วย Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass ตอน 1: Gifu-Toyama

1. ตลาดปลาโอมิโจ (Omicho Ichiba Market)
เมืองคะนะซะวะ (Kanazawa), จังหวัดอิชิกะวะ (Ishikawa)

ตลาดสดขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่มากกว่า 200 ปี เริ่มมีมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1721 ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองคะนะซะวะ (Kanazawa) รวบรวมร้านค้าไว้มากมายกว่า 180 ร้าน ทั้งร้านขายอาหารสด อาหารแห้ง ผักและผลไม้ รวมถึงร้านอาหาร

หากใครมาที่นี่ต้องไม่พลาดมาลองชิมความสดอร่อยของอาหารทะเล อาทิ ปู Kano ได้ชื่อว่าเป็นปูหิมะที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงมากจากจังหวัดอิชิงะวะ หรือจะเป็นกุ้ง GASU ที่สามารถหาทานได้แถบเมืองคานาซาวะเท่านั้น นอกจากนั้นยังมี โอเด้งคานาซาวะ ปลาไหลย่าง โคร็อกเกะหลากหลายไส้และร้านข้าวหน้าปลาดิบ

ข้อมูลเพิ่มเติม

• เวลาทำการ : ตลาดสด เปิด 9.00 – 17.00 น. ร้านอาหาร เปิด 7.00 – 23.00 น.
• วันหยุด : ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน
• ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
• การเดินทาง : จากสถานี Kanazawa ทางออกด้านทิศตะวันออก โดยสารรถบัสที่จุดขึ้นรถหมายเลข 6-9 จากนั้นลงรถที่ป้าย Musashigatsuji
• เว็บไซต์

2. สวนเค็นโรคุเอ็น (Kenroku-en)
เมืองคะนะซะวะ (Kanazawa), จังหวัดอิชิกะวะ (Ishikawa)

สวนแห่งนี้มีชื่อเสียงอันโด่งในฐานะที่เป็นสวนที่มีทิวทัศน์สวยงามติดอันดับ 1 ใน 3 ของสวนญี่ปุ่นที่มีความงามมากที่สุด ร่วมกับสวนโคระคุเอ็น (Koraku-en) ในจังหวัดโอกะยามะ (Okayama) และสวนไคระคุเอ็น (Kairaku-en) ที่เมืองมิโตะ (Mito) จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki)

ที่นี่เป็นสวนญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นบริเวณรอบนอกของตรงข้ามกับปราสาทคะนะซะวะ ถูกสร้างขึ้นมาในปีค.ศ. 1676 หรือประมาณกลางศตวรรษที่ 17 จนทุกวันนี้ยังคงความสมบูรณ์แบบได้อย่างดีเยี่ยม สวนแห่งนี้จะมีความสวยงามเฉพาะตัวแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล  ฤดูใบไม้ผลิจะมีซากุระบานในฤดูหนาวจะเต็มไปหิมะ จะมีการพันเชือกเป็นทรงกรวยผูกกิ่งไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้หักเมื่อต้องรับน้ำหนักหิมะเรียกว่า Yukizuri

ข้อมูลเพิ่มเติม

• เวลาทำการ : ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมจนถึง 15 ตุลาคม 7.00-18.00 น. และตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์  8.00-16.30 น.
• วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
• ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 310 เยน, เด็กอายุ 6-18 ปี 100 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีและผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี
• การเดินทาง : จากสถานี Kanazawa ที่ป้ายเบอร์ 3 (ประตูทางออกทิศตะวันออกของสถานี) หรือ เบอร์ 5 (ประตูทางออกทิศตะวันตก) โดยสารรถบัสมุ่งหน้าไปยัง Kenroku-en และ Kodatsuno ใช้เวลาประมาณ 13 นาที ลงที่ป้ายจุดจอด Kenroku-en-Shita หรือ Kanazawa Castle Park และเดินอีกประมาณ 5 นาที
• เว็บไซต์

3. ปราสาทคะนะซะวะ (Kanazawa Castle)
เมืองคะนะซะวะ (Kanazawa), จังหวัดอิชิกะวะ (Ishikawa)

ปราสาทคะนะซะวะ (Kanazawa Castle) ตั้งอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามกับสวนเคนโรคุเอ็น ทางด้านประตูอิชิคะวะ (lshikawa-mon) ได้รับการสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1583 โดยตระกูล Maeda Toshiie ซึ่งเป็นลูกน้องสนิทของไดเมียว Toyotomi Hideyoshi ปราสาทแห่งนี้จึงได้เป็นที่อยู่ของตระกูล Maeda มายาวนานกว่า 280 ปี

ตลอดช่วงเวลา ตัวอาคารต่างๆในปราสาทถูกเผาทำลายด้วยเหตุเพลิงไหม้และมีการสร้างใหม่อยู่หลายครั้ง ส่วนอาคารหลักของปราสาทนั้นถูกเพลิงไหม้ในปี ค.ศ.1602 หลังจากเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ในปี ค.ศ. 1759 ปราสาทเกือบทั้งหลังถูกไฟเผาไหม้จนหมด จะหลงเหลือก็แค่เพียงตัวโกดังอาคาร Sanjikken Nagaya ได้ถูกบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1858

ข้อมูลเพิ่มเติม

• เวลาทำการ : ช่วงวันที่ 1 มีนาคม – 15 ตุลาคม เปิดตั้งแต่ 7.00 – 18.00 น.
  ช่วงวันที่ 16 ตุลาคม – 28/29 กุมภาพันธ์ เปิดตั้งแต่ 8.00 – 17.00 น.
• วันหยุด : เปิดทุกวัน
• ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชมบริเวณสวน หากเข้าชมในบริเวณตัวปราสาท มีค่าเข้าชม 300 เยน
• การเดินทาง : จากสถานี Kanazawa ที่ป้ายเบอร์ 3 (ประตูทางออกทิศตะวันออกของสถานี) หรือ เบอร์ 5 (ประตูทางออกทิศตะวันตก) โดยสารรถบัสมุ่งหน้าไปยัง Kenroku-en และ Kodatsuno ใช้เวลาประมาณ 13 นาที ลงที่ป้ายจุดจอด Kenroku-en-Shita หรือ Kanazawa Castle Park และเดินอีกประมาณ 5 นาที
• เว็บไซต์

4. ย่านโรงน้ำชาเก่าฮิงาชิ ชายะ (Higashi Chaya)
เมืองคะนะซะวะ (Kanazawa), จังหวัดอิชิกะวะ (Ishikawa)

ย่านโรงน้ำชาเก่าฮิงาชิชายะ (Higashi Chaya) เป็นถนนโรงน้ำชาและย่านเกอิชาชื่อดังของเมืองคานาซาวะ มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่16 หรือในยุคสมัยเอโดะ ที่นี่เป็นสถานบันเทิงให้แขกผู้มาเยือน ได้เพลิดเพลินไปกับการร้องเพลงและเต้นรำของเกอิชา ตลอดสองข้างทางของถนนเส้นนี้ จะมีบ้านลักษณะเป็นเรือนไม้เก่าแก่ที่อนุรักษ์ไว้ มีอายุมากกว่า 200 ปี ตั้งเรียงติดกันเป็นทางยาวซึ่งบ้านเรือนแต่ละหลังของย่านนี้ล้วนเป็นผลพวงของสถาปัตยกรรมตั้งแต่ยุคเอโดะ

เราไปชมร้านฮาคุสะ (Hakuza) เป็นร้านจำหน่ายทองคำเปลว สินค้าประจำเมืองคานาซาว่า ภายในร้านจัดแสดงผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมายที่ทำมาจากทองคำ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ เครื่องสำอางค์ งานศิลปะ หรือแม้แต่ขนม ไฮไลท์ของร้านแห่งนี้คือโกดังเก่าแก่ที่แปะด้วยทองคำเปลวเหลืองอร่ามกว่า 20,000 แผ่น เนื่องจากในสมัยก่อน เมืองคานาซาวะนั้นมีความรุ่งเรืองมากๆ ในเรื่องของการทำเหมืองทอง อย่าพลาดชิมทาโกะยากิที่คลุมด้วยแผ่นทองคำเปลว ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและแปลกใหม่

ข้อมูลเพิ่มเติม

• การเดินทาง : จากสถานี Kanazawa โดยสารรถบัส Kanazawa Loop Bus มาลงที่ป้ายจุดจอด Hashibacho bus stop ใช้เวลาประมาณ 7 นาที ราคา 200 เยน
• เว็บไซต์

5. สถานีรถไฟคะนะซะวะ (Kanazawa Station)
เมืองคานาซาวะ (Kanazawa), จังหวัดอิชิกะวะ (Ishikawa)

สถานี Kanazawa ได้รับการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นผสานกับวัฒนธรรมแบบโบราณ จนขึ้นชื่อว่าเป็นสถานีรถไฟที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นรูปหลังคารูปโดม สร้างจากกระจกกว่า 3,019 ชิ้น โปร่งใสจนสามารถเห็นบรรยากาศภายนอก บริเวณด้านหน้าสถานีโดดเด่นด้วยซุ้มประตูไม้ทสึซุมิ ออกแบบได้อย่างสมมาตร

ภายในสถานียังมีจุดช้อปปิ้งขนาดใหญ่ มีชื่อว่า Hyakubangai Anto รวบรวมสินค้าขึ้นชื่อของเมืองคานาซาวะ ไม่ว่าจะเป็นขนมญี่ปุ่นต่างๆ ชา ของฝากและอาหารมากมาย

ข้อมูลเพิ่มเติม

• เวลาทำการ : ตั้งแต่เวลาเริ่มของรถไฟขบวนแรกจนสิ้นสุดขบวนสุดท้ายของวัน
• เว็บไซต์

6. พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ (Fukui Prefectural Dinosaur Museum), จังหวัดฟุคุอิ (Fukui)

พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุคุอิ (Fukui Dinosaur Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์วิจัยและศึกษาไดโนเสาร์ที่ดีที่สุดหนึ่งในสามของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองคัตสุยะมะ(Katsuyama) จังหวัดฟุคุอิ เปิดทำการตั้งแต่ปีค.ศ. 2000 ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางการวิจัยไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น จัดแสดงไดโนเสาร์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกไดโนเสาร์ กว่า 44 ตัว หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งในและต่างประเทศ โดยในแต่ละปีจะมีจำนวนผู้เข้าชมมากกว่าหนึ่งล้านคน อีกทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนงานวิจัยร่วมกันกับนักวิจัยชาวไทยอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม

• เวลาทำการ : 9:00 – 17:00 น.
• วันหยุด : หยุดทุกวันพุธที่ 2 และ 4 ของเดือน และ 29 ธันวาคม – 2 มกราคม
• ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 720 เยน / เด็กมัธยมปลายและนักศึกษา 410 เยน / เด็กประถมและมัธยมต้น 260 เยน
• การเดินทาง : จากสถานี Fukui โดยสารรถไฟสาย Echizen Railway Katsuyama-Eiheiji Line ไปลงที่สถานี Katsuyama ใช้เวลาประมาณ 60 นาที จากนั้นโดยสารรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง Nagaoyama ลงที่ป้ายจุดจอด Kyoryu Hakubutsukan-mae bus stop บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือนั่งแท๊กซี่ ประมาณ 10 นาที
• เว็บไซต์

7. หน้าผาโทจินโบ (Tojinbo Cliff)
เมืองซากะอิ (Sakai) จังหวัดฟุคุอิ (Fukui)

หน้าผาโทจินโบ (Tojinbo Cliff) เป็นหน้าผาที่ยื่นออกไปในทะเลญี่ปุ่นมีพรมแดนติดกับจังหวัดอิชิกะวะ (Ishikawa) สถานที่แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดฟุกุอิ อีกทั้งยังได้รับการจดทะเบียนให้เป็นสถานที่ทางธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ จุดเด่นของหน้าผาหินภูเขาไฟลาวาที่ถูกน้ำทะเลและคลื่นลมกัดเซาะโดยธรรมชาติ มีความยาวถึง 1 กิโลเมตรและสูงถึง 25 เมตร

ข้อมูลเพิ่มเติม

• เวลาทำการ : เปิดตลอดเวลา
• ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
• การเดินทาง : จากสถานีรถไฟสาย Echizen Railway Mikuni โดยสารรถประจำทาง Keifuku bus ที่มุ่งหน้าไปยัง Tojinbo ป้ายจุดจอด Tojinbo bus stop ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หรือจากสถานีรถไฟ JR Awaraonsen โดยสารรถประจำทาง Keifuku bus ที่มุ่งหน้าไปยัง Tojinbo ป้ายจุดจอด Tojinbo bus stop ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
• เว็บไซต์

8. หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ นาโงยะ ทีวี ทาวเวอร์ (Nagoya TV Tower) และอาคารโอเอซิส 21 (Oasis 21)
เมืองนาโงยะ (Nagoya), จังหวัดไอจิ (Aichi)

ข้อมูลเพิ่มเติม

• เวลาทำการ : ร้านค้าเปิดเวลา 10.00 – 22.00 น. ร้านอาหาร เปิดเวลา 10.00 – 21.00 น.
• วันหยุด : เปิดทุกวัน
• ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม
• การเดินทาง : โดยสารรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama หรือ สาย Meijo มาลงที่สถานี Sakae
• เว็บไซต์

9. ปราสาทนาโงยะ (Nagoya Castle)
เมืองนะโงะยะ (Nagoya), จังหวัดไอจิ (Aichi)

ปราสาทนาโงยะ มีความสูงทั้งหมด 5 ชั้น ปราสาทแห่งนี้ในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยของตระกูลโทกุงะวะ ก่อสร้างโดยท่านโชกุนอิเอะยะสุ ถูกใช้เป็นแนวหน้าในการป้องกันเมือง เมื่อครั้งสู้รบกับฝั่งโอซาก้า สัญลักษณ์ของปราสาทก็คือรูปสลักปลาหัวเสือทองคำ “คินชะจิ” ที่มีชื่อเสียง นับเป็นรูปสลักคินชะจิหุ้มทองเพียงหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นตั้งอยู่ด้านบนหลังคาของปราสาท เดินลงมาเรื่อยๆจะเป็นในส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้อมูลความเป็นมาของปราสาท

ภายในบริเวณเดียวกันกับตัวปราสาท เป็นที่ตั้งของพระราชวังที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นคือ พระราชวังฮมมารุ (Hommaru Palace) ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของปราสาทนะโงะยะ ล้อมรอบด้วยหอกลาง 2 หลังและป้อมปราการหอคอยหลายแห่ง พระราชวังฮมมารุ ถูกออกแบบให้เป็นที่พักอาศัยของขุนพลผู้ครองปราสาทและภายหลังได้ตกเป็นของท่านโชกุนโทกุงะวะ อิเอะยะสุ สถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในนั้นหรูหราและงดงามอย่างมาก โดยตัวอาคารทั้งหลังก่อสร้างด้วยไม้สนฮิโนกิที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ อีกทั้งภาพวาดอันวิจิตรบรรจงบนแผ่นทองคำบริสุทธิ์ อาทิเช่น รูปเสือดาว นก สัตว์มงคล ต้นไม้และดอกไม้ต่างๆมากมาย

ข้อมูลเพิ่มเติม

• เวลาทำการ : 9.00-16.30 น. (ปราสาทชั้นในสุดเข้าได้ถึงเวลา 16.00 น.)
• วันหยุด : ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม ถึง 1 มกราคม
• ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็กนักเรียน เข้าชมฟรี
• การเดินทาง : จากสถานี Nagoya โดยสารรถไฟใต้ดินสาย Meijo ลงที่สถานี Shiyakusho แล้วเดินจากทางออก 7 ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีหรือโดยสารรถบัส Me-guru ลงที่ปราสาทนะโงะยะ
• เว็บไซต์

10. ย่านช้อปปิ้งโอสุ (Osu Shopping Street)
เมืองนะโงะยะ (Nagoya), จังหวัดไอจิ (Aichi)

แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมอีกแห่งในนาโกย่าที่เปิดทำการมานานกว่า 400 ปีแล้ว แหล่งช้อปแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับวัด Osu Kannon เป็นศูนย์กลางความเจริญของเมืองนาโงยะ เต็มไปด้วยร้านค้ามากกว่า 400 ร้าน ทำให้สินค้าของที่นี่มีหลากหลาย ทั้งอาหาร ของใช้ ของฝาก สินค้ามือสอง แบรนด์เน คาเฟ่มากมาย เรียกว่ามาที่เดียวได้ทั้งเที่ยว ชิม ช้อปครบอย่างแน่นอน

ข้อมูลเพิ่มเติม

• เวลาทำการ : ร้านค้าจะเริ่มเปิดตั้งแต่ประมาณเวลา 12.00-18.00 น.
• วันหยุด : เปิดทำการทุกวัน
• การเดินทาง : โดยสารไฟสาย Tsurumai มาลงสถานี Osukan-Non จากนั้นเดินประมาณ 5 นาที
• เว็บไซต์

11. ศูนย์การค้าอิออน มอลล์ โทโคนาเมะ (Aeon Mall Tokoname), จังหวัดไอจิ (Aichi)

ปิดท้ายด้วยกิจกรรมยอดฮิตส่งท้ายก่อนเดินทางกลับนั่นคือกิจกรรมช้อปปิ้ง เราไปยังศูนย์การค้า Aeon Mall Tokoname ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินเซ็นแทร์ ช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่แห่งนี้เพียบพร้อมไปด้วย ร้านค้าแฟชั่น ร้านอาหาร

โซน FOOD WONDERLAND คือร้านโซน Food Court ที่รวบรวมร้านอาหารดังๆ ในญี่ปุ่น อีกทั้งยังราคาก็ไม่แพงด้วย นอกจากนั้นยังมีโซนร้านอาหาร TOKONAME Restaurant Street ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้นล่าง สำหรับใครที่ยังมีเวลาเหลือก่อนเดินทางไปสนามบินแนะนำว่าให้ลองแวะมาเดินเล่นที่นี่ เชื่อว่าน่าจะได้ของติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนทางบ้านแน่นอน

สามารถขอแผนที่ศูนย์การค้าฉบับภาษาอังกฤษได้จากที่นี่ นอกจากนั้นยังสามารถทำเรื่องขอคืนภาษี และขอข้อมูลด้านการท่องเที่ยวได้อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม

• เวลาทำการ : 10.00 – 21.00 น. เปิดทุกวัน
• การเดินทาง : จากสนามบินจุบุเซ็นแทรร์ โดยการรถฟรีชัตเติลบัสมายังศูนย์การค้า หรือโดยสารรถไฟสาย Meitetsu ลงที่สถานี Rinku Tokoname จากนั้นเดินประมาณ 1 นาที
• เว็บไซต์