แนะนำ 10 เมืองชิลล์ ถ่ายรูปสวย ในญี่ปุ่น เที่ยวเองง่ายจากเมืองใหญ่

ทุกวันนี้หากลองค้นหาสถานที่เที่ยวตามเว็บไซต์ต่างๆ จะพบว่าข้อมูลของการท่องเที่ยวประเทศในฝันของใครๆหลายคนอย่างญี่ปุ่น มีข้อมูลขึ้นมาให้อ่านกันจนตาลาย แต่หากลองเลือกอ่านดูจริงๆแล้วก็จะพบว่าส่วนใหญ่มักจะเป็นสถานที่เดิมๆ แลนด์มาร์คต่างๆในเมืองหลักที่ใครๆก็ต่างอยากจะไปเก็บภาพไว้ลงในโซเชียลมีเดียของตัวเอง

ถ้า โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ไปมาหมดแล้ว อยากไปที่อื่นในญี่ปุ่น วางแผนเดินทางออกห่างจากตัวเมือง ลองไปเที่ยวเมืองเล็กๆดูบ้าง รับรองว่าเมืองที่เราจะนำมาแนะนำในครั้งนี้นั้น จะทำให้คุณอยากเก็บกระเป๋า ออกไปสัมผัสญี่ปุ่นมุมใหม่กันอีกอย่างแน่นอน

…ญี่ปุ่นยังมีมุมมองใหม่ให้คุณได้ค้นหาอย่างไม่สิ้นสุด สมกับสโลแกน Japan Endless Discovery จริงๆครับ

[1] เมือง Kita-Tokachi จังหวัด Hokkaido

เมืองคิตะ-โทคะจิ (Kita-Tokachi) เมืองเล็กๆทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัดฮอกไกโด โดยมีจุดศูนย์กลางคือที่เมืองโอบิฮิโระ (Obihiro) ที่นี่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยากไปสัมผัสอากาศหนาวแบบถึงขั้วหัวใจ แน่นอนว่าในช่วงฤดูหนาวของที่นี่ต้องอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะการเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด, ซิ่งสโนว์โมบิลล์, ชมเทศกาลไซรินกะ ที่เป็นการแสดงแสงสีเสียงท่ามกลางหิมะ ทานอาหารทะเลสดๆแสนอร่อยปิดท้ายด้วยการแช่ออนเซนกลางแจ้งท่ามกลางหิมะท้าลมหนาวก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองนี้ อ่านรีวิวทั้งหมด >> ที่นี่

วิธีการเดินทาง โดยสารรถไฟ JR (ลงสถานี Obihiro) และเที่ยวบินภายในประเทศ (ลงที่ Tokachi Obihiro Airport) โดยสามารถตั้งต้นได้จากสนามบินในโตเกียว, สนามบินนิวชิโตเซะ และ สถานี Sapporo จากสนามบิน Tokachi Obihiro โดยสารรถ Airport Bus มายังสถานี Obihiro ใช้เวลา 40 นาที


[2] เมือง Kazuno จังหวัด Akita

เมืองคะสึโนะ (Kazuno) เมืองเล็กแต่มากเสน่ห์แห่งหนึ่งของภูมิภาคโทโฮขุ ตั้งอยู่ในจังหวัดอะกิตะ (Akita) มีเสน่ห์มากที่สุดในช่วงฤดูหนาว แวะตลาดเช้าฮานาวะ สัมผัสบรรยากาศการจ่ายตลาดชาวบ้านท้องถิ่น, เที่ยวพิพิธภัณฑ์ Kazuno Antler Tourist Hall ชมบรรยากาศเทศกาลพื้นเมือง”ฮานะวะ บายาชิ” ที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโดยองค์กรยูเนสโก้  ปิดท้ายด้วยการชิมอาหารพื้นเมืองที่โด่งดังของจังหวัดอะกิตะ “คิริทันโปะ” คือการนำข้าวมาเสียบไม้ปิ้งบนไฟอ่อนๆ  โดยเมนูยอดนิยมก็คือหม้อไฟคิริทันโปะร้อนๆ ทานในช่วงหน้าหนาวรับรองได้ฟีลสุดๆ อ่านรีวิวทั้งหมด >> ที่นี่

วิธีการเดินทาง ตั้งต้นจากสถานี Tokyo ขึ้นชินคันเซ็นขบวน Hayabusa ลงสถานี Morioka และต่อรถบัสด่วนไปยังสถานี Kazuno Hanawa จะได้เห็นบรรยากาศที่สวยงามตามฤดูกาลของหุบเขายุเซ และ ทิวทัศน์ชนบทวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส


[3] เมือง Tokamachi จังหวัด Niigata

เมืองโทคะมะจิ (Tokamachi) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดนิอิงะตะ (Niigata) เป็นที่รู้จักกันดีในนามของ “เมืองแห่งศิลปะ เอจิโกะสึมะริ (Echigo Tsumari) หรือหมู่บ้านแห่งเทศกาลศิลปะบนแผ่นดินอันกว้างใหญ่” ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นเวทีจัดงานเทศกาลศิลปะนานาชาติ Echigo Tsumari Art Triennale ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลกโดยจะมีศิลปินท้องถิ่นและศิลปินชาวต่างชาติร่วมแสดงผลงาน โดยจะจัดแสดงขึ้นทุกๆ 3 ปี นำเสนอคุณค่าของสิ่งที่มีภายในท้องถิ่นผ่านงานศิลปะ อ่านรีวิวทั้งหมด >> ที่นี่

วิธีการเดินทาง จากสถานี Niigata โดยสารรถไฟ Joetsu Shinkansenลงที่สถานี Nagaoka หรือสถานี Echigo-Yuzawa จากนั้นโดยสารรถไฟสายHokuhokuมาลงที่สถานี Tokamachi ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง


[4] เมือง Shibukawa จังหวัด Gunma

เมืองชิบุคะวะ (Shibukawa) ตั้งอยู่ในจังหวัดกุนมะ (Gunma) เมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งออนเซ็นอันดับหนึ่งของประเทศ เพียบพร้อมด้วยธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ อาหารแสนอร่อยและแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย หมู่บ้านประวัติศาสตร์ Ikaho Onsen ที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและเกลือซัลเฟต จึงทำให้น้ำพุร้อนของที่นี่มีสีออกน้ำตาลแดง เอกลักษณ์ของที่นี่ ก็คือบันไดหิน 365 ขั้นทอดผ่านทิวเขาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 400 ปี สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของพื้นเมือง ชิมซาลาเปามันจูออนเซนไส้ถั่วแดงชื่อดังที่ใช้ความร้อนจากน้ำพุร้อนมานึ่งจนสุกหอมได้ที่ รสชาติอร่อยอย่าบอกใคร อ่านรีวิวทั้งหมด >> ที่นี่

วิธีการเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟชินกังเซ็น สาย JR Joetsu หรือ Nagano ลงที่สถานี Takasaki  จากนั้นต่อรถบัสไปยังสถานี Shibukawa ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง


[5] เมือง Komoro จังหวัด Nagano

เมืองโคะโมะโระ (Komoro) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) เที่ยวชมย่านเมืองเก่าถนน Old Hokkoku-Kaido ย่านธุรกิจการค้าเก่าสุดคึกคักสัญลักษณ์ของเมือง, ชมพิพิธภัณฑ์ตุ้กตาเด็กผู้หญิงและชุดกิโมโน, สวนโคะโมะโระไคโคเอ็น (Komoro Kaikoen) ตั้งอยู่บริเวณซากกำแพงปราสาทที่เคยเป็นที่ตั้งของอดีตปราสาทโคะโมะโระอันยิ่งใหญ่, วัดนูโนะบิกิ คันนง (Nunobiki Kannon) ด้านบนจะเป็นที่ตั้งของวัดที่สร้างขึ้นอยู่บนหน้าผาของภูเขาหิน เป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาอะซะมะ (Mt.Asama) ที่ยิ่งใหญ่ อ่านรีวิวทั้งหมด >> ที่นี่

วิธีการเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ Shinkansen ขบวน Hakutaka ลงสถานี Sakudaira ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ แล้วต่อรถไฟ JR ธรรมดาสาย Koumi ลงที่สถานี Komoro อีกเพียง 15 นาที


[6] เมือง Miyazu จังหวัด Kyoto

เมืองมิยาสึ (Miyazu) เมืองเล็กๆทางตอนเหนือของจังหวัดเกียวโต สำหรับใครที่เบื่อเกียวโตในแบบเดิมๆ รับรองว่าการเดินทางมาที่เมืองนี้จะทำให้คุณว้าวกับสถานที่อันซีนที่เราจะแนะนำอย่างแน่นอน ชมอะมะโนะฮะชิดะเตะ (Amanohashidate) จุดชมวิวชายฝั่งทะเลที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น หรือที่รู้จักกันดีอีกชื่อหนึ่งว่า “สะพานสู่สรวงสวรรค์” สักการะศาลเจ้าโมโตะอิเซะ โคโนะ (Motoise-Kono Shrine) ศาลเจ้าที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคทันโงะ (Tango) ปิดท้ายด้วยการเดินชมหมู่บ้านชาวประมงแห่งเมืองอิเนะ (Ine) ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งของอ่าวอิเนะ ที่นี่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีจึงคงสภาพของเดิมไว้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง อ่านรีวิวทั้งหมด >> ที่นี่

วิธีการเดินทาง จากสถานี Kyoto โดยสารรถบัส Tango Kairiku Kotsu นั่งไปลงที่สถานี Amanohashidate ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 20 นาที


[7] เมือง Kochi – จังหวัด Kochi

จังหวัดโคจิ (Kochi) อยู่ในภูมิภาคชิโกกุ โดยสารรถรางชมเมืองโคจิซึ่งเป็นรถรางที่ชาวโคจิภาคภูมิใจ ชื่นชมความงามของปราสาทโคจิ ร่วมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่าน Kochi Castle Museum of History ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ปิดท้ายด้วยการเดินชม ชิม ช้อป ที่ตลาดวันอาทิตย์เมืองโคจิ หรือ Nichiyo-ichiba เป็นตลาดบนถนนที่มีประวัติศาสตร์นับตั้งแต่สมัยเอโดะยาวนานกว่า 300 ปี อ่านรีวิวทั้งหมด >> ที่นี่

วิธีการเดินทาง จากโตเกียว เดินทางด้วยเครื่องบิน จะใช้เวลาประมาณ 80 นาที และประมาณ 45 นาทีจากโอซาก้า ส่วนการเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง จากสนามบิน Kochi Ryoma ขึ้นรถ Airport Limousine Bus มาลงที่สถานี JR Kochi ใช้เวลา 33 นาที


[8] เมือง Tamana จังหวัด Kumamoto

เมืองทะมะนะ (Tamana) เมืองเล็กๆตั้งอยู่ในจังหวัดคุมะโมะโตะ (Kumamoto) ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่อยู่ใกล้เมืองหลักอย่างจังหวัดฟุกุโอกะมากที่สุด เดินชมเมืองกับทัวร์สุดพิเศษที่ไม่เหมือนที่ไหน Uronkoron Tour กิจกรรมที่สร้างให้เกิดวิถีการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เพื่อการพัฒนาสู่ความยั่งยืน เป็นการเดินชมย่านเมืองการค้าเก่า ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตการค้าขายของชาวบ้านในแบบดั้งเดิม ชมความสวยงามของวัดเร็นเกอิน ทันโจจิ (Rengein Tanjoji) ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา สักการะพระพุทธรูปสัมริดองค์ใหญ่บนยอดเขาพร้อมประสบการณ์ตีระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก อ่านรีวิทั้งหมด >> ที่นี่

วิธีการเดินทาง จากสถานี Hakata โดยสารรถไฟชิงคังเซน ลงที่สถานี Shin-Tamana ใช้เวลา 37 นาที


[9] เมือง Izushi จังหวัด Hyogo

เมืองอิซุชิ (Izushi) เมืองเล็กทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ มีประวัติศาสตร์รุ่งเรืองมายาวนานกว่า 200-300 ปี ตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ เมืองอิซุชิได้ชื่อว่าเป็นเมืองปราสาท มีสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองก็คือ Shinkoro หอนาฬิกาไม้โบราณขนาดใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1871 และ ซากปราสาทอิซุชิ (Izushi Castle Ruins) สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1504 ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขาอะริโกะยะมะ ใช้เพื่อเป็นหอสังเกตุการณ์ข้าศึกในสมัยอดีต อ่านรีวิทั้งหมด >> ที่นี่

วิธีการเดินทาง จากสถานี Osaka โดยสารรถไฟ LTD.EXP. Konotori or Hamakaze ลงที่สถานี Toyooka ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นโดยสารรถบัส Zentan Busที่หน้าสถานี JR Toyooka ใช้เวลาประมาณ 30 นาที


[10] เกาะ Miyakojima จังหวัด Okinawa

เกาะมิยะโกะ (Miyako Island) ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ห่างจากเกาะหลักไปประมาณ 300 กิโลเมตร ด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม ชายหาดสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าสดใส อีกทั้งคลื่นลมสงบ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาดำน้ำดูปะการัง แวะสักการะศาลเจ้ามิยาโกะ (Miyako Jinja) ศาลเจ้าชินโตที่ชาวเกาะมิยาโกะให้ความเคารพอย่างมาก และจุดชมวิวแห่งใหม่ Shigira Lift Ocean Sky จุดชมวิวชื่อดัง นั่งกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปชมสีสันของท้องฟ้าและท้องทะเลของเกาะมิยะโกะ อ่านรีวิวทั้งหมด >> ที่นี่

วิธีการเดินทาง จากสนามบินนาฮะ (Naha Airport)  โดยสารเครื่องบิน Japan TransOcean Air ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที