การเดินทางในครั้งนี้ จะเป็นการใช้พาสรถไฟ JR East Pass Nagano-Niigata Area ใบเดียวอยู่ทั้งทริป พาสนี้สามารถเลือกใช้ได้อิสระ 5 วันเลือกใช้จากระยะเวลา 14 วันตั้งแต่วันที่ออกตั๋ว (ราคา 17,000 เยน ซื้อจากไทยราคาถูกกว่าซื้อในญี่ปุ่น) โดยตั้งใจจะขึ้นรถไฟ Shinkansen จากสถานี Tokyo นั่ง ชมวิวกันไปเรื่อยๆตามเส้นทางภาคตะวันออกแล้วแวะท่องเที่ยวกัน 3 จังหวัดด้วยกัน คือ นะงะโนะ (Nagano) นิอิงะตะ (Niigata) และกุนมะ (Gunma) ครับ

ดูรายละเอียดพาส >> JR EAST PASS

nagano-01

ทริปตะลุยภาคตะวันออกด้วยรถไฟ Shinkansen กับ JR East Pass Nagano-Niigata Area จากโตเกียว ตอน 1 : เมืองนะงะโนะ (Nagano) >> อ่านที่นี่

เริ่มต้นเช้าวันนี้เดินทางจากสถานี Iiyama ในจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) ด้วยรถไฟขบวนวินเทจสุดพิเศษ OYKOT Train” เพื่อไปยังสถานี Tokamachi ในจังหวัดนิอิงะตะ (Niigata)

รถไฟคันนี้เป็นรถไฟขบวนพิเศษ สำหรับชมวิวโดยเฉพาะ ชื่อของรถไฟ OYKOT เป็นการเรียงอักษรกลับจากคำว่า TOKYO เริ่มต้นการเดินทางจากสถานี Nagano ไปสิ้นสุดที่สถานี Tokamachi (เว็บไซต์ >> OYKOT Scenic Train)

นักท่องเที่ยวที่มีตั๋ว JR East Nagano-Niigata Rail Pass สามารถทำการจองที่นั่งล่วงหน้าและจ่ายเพิ่มเพียง 520 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 260 เยน สำหรับเด็ก เนื่องจากรถไฟขบวนนี้ไม่ได้วิ่งทุกวัน แนะนำให้เช็คตารางเวลาล่วงหน้าเพื่อทำการจองที่นั่งได้จาก เว็บไซต์ของ JR EAST

niigata-01

รถไฟขบวนนี้ออกแบบตกแต่งในตีมย้อนยุค ภายนอกรถไฟตกแต่งให้เป็นประตูบานเลื่อน Fusama แบบในบ้านของคุณยายชาวญี่ปุ่น (Grandma’s home) ภายในยังคงตกแต่งในความรู้สึกอบอุ่นราวกับว่าหลานๆได้กลับมาเยี่ยมบ้านคุณ ยายในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน โคมไฟ Andon น่ารักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ และบานเลื่อน Shoji บังแดดที่ออกแบบมาอย่างกลมกลืนเสมือนนั่งอยู่ในบ้าน

niigata-02

ระหว่างทางที่รถไฟทำการวิ่งจะผ่านสถานีต่างๆ และในบางสถานีรถไฟจะทำการจอดให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปถ่ายภาพกับสถานที่ท่อง เที่ยวที่น่าสนใจ อาทิเช่น สถานี Morimiyanohara จะมีเสาหลักที่บอกว่าเมื่อปีค.ศ.1945 พื้นที่บริเวณนี้เคยมีหิมะตกหนักท่วมสูงถึง 7.85 เมตร มีพนักงานคอยให้การต้อนรับพร้อมดูแลความสะดวกสบาย ช่วยถ่ายรูปให้

niigata-03

 พร้อมอาหารว่างชื่อดังอย่างข้าวปั้นทานคู่กับผักดองตามฤดูกาลเสริฟให้ฟรีอีกด้วย 

niigata-04


เดินทางมาถึงสถานี Tokamachi แวะขอข้อมูลการท่องเที่ยวที่ สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดโทคะมะจิ ที่นี่เจ้าหน้าที่สามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศได้ อีกทั้งด้านในยังมีแกลอรี่เล็กๆสมกับเป็นเมืองแห่งศิลปะอีกด้วย

niigata-05

เมืองโทคะมะจิ (Tokamachi) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดนิอิงะตะ (Niigata) เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นพื้นที่แห่งนี้มีปริมาณหิมะตกหนักมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น โดยเมืองโทคะมะจิแห่งนี้สามารถมาท่องเที่ยวได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ กิจกรรมเอ้าท์ดอร์ในช่วงฤดูร้อน เช่นเดินป่า ล่องแก่ง พายเรือแคนู ฤดูใบไม้ร่วงที่ต้นไม้ทั้งขุนเขาพร้อมใจกันเปลี่ยนสีให้กลายเป็นสีส้มและสีแดง และที่พลาดไม่ได้เทศกาลต่างๆในฤดูหนาว เล่นสกีหิมะ ชมดอกไม้ไฟในฤดูหนาวเป็นต้น

เมืองโทคะมะจิเป็นที่รู้จักกันดีในนามของ เมืองแห่งศิลปะ เอจิโกะสึมะริ (Echigo Tsumari) หรือ หมู่บ้านแห่งเทศกาลศิลปะบนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ ได้รับเลือกให้เป็นเวทีจัดงานเทศกาลศิลปะนานาชาติ Echigo Tsumari Art Triennale ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลกโดยจะมีศิลปินท้องถิ่นและศิลปินชาวต่างชาติร่วมแสดงผลงาน โดยจะจัดแสดงขึ้นทุกๆ 3 ปี นำเสนอคุณค่าของสิ่งที่มีภายในท้องถิ่นผ่านงานศิลปะ เข้าสู่เว็บไซต์ >> ECHIGO-TSUMARI

วิธีการเดินทาง จากสถานี Niigata โดยสารรถไฟ Joetsu Shinkansen ลงที่สถานี Nagaoka หรือส ถานี Echigo-Yuzawa จากนั้นโดยสารรถไฟสาย Hokuhoku มาลงที่สถานี Tokamachi (ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมง)

echigo-tsumari

พิพิธภัณฑ์แสดงศิลปะ Matsudai Nohbutai + Matsudai History Museum จัดแสดงงานศิลปะทั้งส่วนในอาคารและภายนอกอาคาร พื้นที่โดยรอบภูเขาจะจัดเป็นเส้นทางแสดงงานศิลปะทั่วทั้งบริเวณจากศิลปิน ชื่อดังหลากหลายท่านทั้งในและต่างประเทศ

niigata-12

ส่วนหนึ่งของชิ้นงานในห้องจัดแสดง

niigata-07

niigata-08

ผลงาน Relation—Blackboard Classroom, Relation—Farmer’s Work โดย Tatsuo Kawaguchi ห้องเรียนที่สร้างจากแผ่นไม้กระดานดำ

niigata-09

ผลงาน The Rice Field โดย Iiya and Emilia Kabakov ชิ้นงานที่ประกอบขึ้นด้วยบทกลอนแบบอักษรลอยตัวที่พูดถึงวิถีการทำเกษตรกรรมแบบโบราณ รูปปั้นและแลนด์สเคปของนาขั้นบันได 

niigata-10

ผลงาน Tsumari in Bloom โดยศิลปินชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น Yayoi Kusama

niigata-11

ภายในยังมีห้องอาหารแบบบุฟเฟต์ให้เลือกรับประทาน โดยอาหารที่นำมาทำการปรุงทุกชนิดจะเน้นเป็นอาหารที่มีประโยชน์เน้นไปที่ผักตามฤดูกาลเสียเป็นส่วนใหญ่ อาทิเช่น Sansai หรือผักภูเขา เห็ดชนิดต่างๆ ข้าว Koshihikari ที่ทานก็จะนำมาจากนาที่สร้างเป็นทุ่งศิลปะตรงเบื้องหน้า

niigata-06

อีกหนึ่งไฮไลท์ของ Echigo Tsumari Art ที่แอดมินชอบเป็นการส่วนตัวและไม่อยากให้พลาดชมคือผลงานของ Christian Boltanski และ Jean Kalman ผลงาน ห้องเรียนสุดท้าย หรือ The Last Class” (Saigo no Kyoshitsu) ที่เปลี่ยนโรงเรียนประถมร้างอายุกว่า 20 ปี ให้เป็นนิทรรศการในความมืด

บอกเล่าถึงเรื่องราวหลังความตาย การเดินทางของวิญญาณและดวงจิตของเด็กนักเรียนและครูที่กำลังถูกนำพาไปสู่เส้นทางแห่งสวรรค์ ซึง จริงๆแล้วภาพที่ทุกท่านเห็นเบื้องหน้านั้นจะมืดทั้งหมดเห็นเพียงแค่แสงของ หลอดไฟเท่านั้นหลอดไฟที่ศิลปินใช้แทนจิตวิญญาณของเด็กๆและครูในโรงเรียน โดยใช้พัดลมในการช่วยพัดกลิ่นของหญ้าฟางและหลอดไฟให้ขยับเขยื้อนไปมา

niigata-17

ที่ชั้นสองของตึกเรียนจะเป็นที่ตั้งของโลงแก้วขนาดแตกต่างกันเรียงรายอยู่มากมาย

niigata-16

Shedding House หรือบ้านลอกคราบ ด้วยความตั้งใจของศิลปิน Junichi Kurakake และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปะ Nihon University College of Art Sculpture Course กว่า 3,000 คน ที่ช่วยกันรังสรรค์บ้านของชาวนาเก่าที่มีอายุกว่า 200 ปีให้เป็นงานศิลปะที่น่าทึ่งโดยได้ช่วยกันแกะสลักผิวของแผ่นไม้ทุกแผ่น ทุกตารางเซนติเมตรของบ้านให้เป็นงานศิลปะชิ้นเอก ใช้เวลากว่า 2 ปีครึ่ง อีกทั้งที่นี่ยังเปิดเป็นที่พักให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถติดต่อขอเข้าพักพร้อมมีอาหารพื้นเมืองคอยให้บริการสำหรับผู้ที่เข้าพักอีกด้วย เข้าสู่เว็บไซต์ >> SHEDDING HOUSE

niigata-15

niigata-14


จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อ จากสถานี Echigo Yuzawa ขึ้นรถไฟชิงคังเซ็น ขบวน Genbi Shinkansen Toki 451 เพื่อเดินทางไปสถานี Niigata ใช้เวลาประมาณ 50 นาที

niigata-22

รถไฟขบวนพิเศษนี้มีชื่อว่า เก็นบิชิงคังเซ็น (Genbi Shinkansen) ได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลก เริ่มวิ่งให้บริการตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2016 บนสาย Joetsu Shinkansen ระหว่างสถานี Echigo-Yuzawa → Urasa → Nagaoka → Tsubamesanjo → Niigata โดยทำการวิ่งวันละ 3 รอบ

niigata-23

รถไฟขบวนนี้มีทั้งหมด 6 ตู้ขบวน โดยแต่ละขบวนจะจัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินท่านต่างๆ ที่สร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาเฉพาะรถไฟขบวนนี้แล้ว อีกทั้งด้านในรถตู้ขบวนที่ 13 ยังมีคาเฟ่ที่เสิร์ฟ Tsubame Coffee และของหวานที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น จากร้าน Romi-unie โดย Igara Shiromi

และสำหรับน้องๆหนูๆยังจะได้เพลิดเพลินกับห้องสำหรับเด็กที่จำลองขวบรถไฟชิงกันเซ็นมาวิ่งบนรางของเล่นอีกด้วย โดยตู้ขบวนหมายเลข 11 จะเป็นที่นั่งแบบระบุล่วงหน้า และ หมายเลข 12-16 จะเป็นที่นั่งแบบธรรมดา มีจำหน่ายของที่ระลึกต่างๆ อีกด้วย เข้าสู่เว็บไซต์ >> GENBI

ที่นั่งแบบไม่ต้องจองล่วงหน้าในตู้ขบวนธรรมดา

niigata-24

ภาพศิลปะภายในขบวนรถไฟ Genbi Shinkansen ตู้ขบวนที่ 13 โดย Kentaro Kobune

niigata-26

ภาพศิลปะภายในขบวนรถไฟ Genbi Shinkansen ตู้ขบวนที่ 14 โดย Naoki Ishikawa

niigata-28

ภาพศิลปะภายในขบวนรถไฟ Genbi Shinkansen ตู้ขบวนที่ 15 โดย Haruka Kojin

niigata-25

niigata-29

ขนมน่ารักๆทานคู่กับกาแฟจาก Tsubame Cafe

niigata-27


หลังจากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าขบวนศิลปะร่วมสมัย Genbi Shinkansen จากสถานี Echigo Yuzawa ก็ได้มาถึงสถานี Niigata เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมืองนิอิงะตะ (Niigata) เมืองที่แม่น้ำชินะโนะ (Shinano River) สายน้ำที่ยาวที่สุดของญี่ปุ่นไหลมาบรรจบกับทะเลญี่ปุ่น เมืองนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเมืองท่าที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารทะเล วัฒนธรรมและประเพณีที่เก่าแก่มาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในเรื่องออนเซนที่ช่วยผ่อนคลายและบำบัดโรคต่างๆอีกด้วย

เดินทางไปเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมภาคเหนือ (Northern Culture Museum) หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งคือ Former Saito Family Summer Villa คฤหาสน์ของชาวนาผู้มั่งคั่งตระกูลอิโต เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี ค.. 1882 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ตัวอาคารเป็นไม้ทั้งหลัง มีจำนวนห้องมากถึง 65 ห้อง คฤหาสน์แห่งนี้บอกเล่าเรื่องราวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์จากรุ่นสู่รุ่น ภายหลังคฤหาสน์แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ ชาติเมื่อปี ค.. 2000 เข้าสู่เว็บไซต์ >> Hoppou-Bunka

niigata-30

ภาพของท่านอิโต (Ito) และเพื่อนสนิทชาวอเมริกันผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้

niigata-31

จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือห้องโถงใหญ่ขนาด 100 เสื่อที่มีความพิเศษตรงการใช้คานไม้รับน้ำหนักทั้งหมดจึงทำให้ห้องโถง ปราศจากเสา สามารถชมวิวของสวนญี่ปุ่นได้อย่างเต็มอิ่มในทุกๆฤดู

niigata-32

บรรดาเครื่องครัวและข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน

niigata-33

บริเวณห้องโถงภายในบ้าน

niigata-34


ชมวิวเมืองนิอิงะตะแบบ 360 องศา บนชั้น 31 ของตึก Toki Messe ภายในประกอบด้วยศูนย์จัดงานประชุมขนาดใหญ่ อาคารสำนักงาน และโรงแรมด้วยความสูงถึง 125 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของทะเลญี่ปุ่น ท่าเรือของเมืองนิอิงะตะ ไปจนถึงเกาะซะโดะ (Sado Island) ไกลถึงทางฝั่งตรงข้ามทะเล เข้าสู่เว็บไซต์ >> TOKI MESSE

niigata-44


แวะทานอาหารกลางวันที่ ตลาดปลา Nigiwai Ichiba Pia Bandai ที่นี่จำหน่ายอาหารทะเลแบบสดๆในราคามิตรภาพ นักท่องเที่ยวจะเลือกซื้ออาหารทะเลกลับบ้านหรือสามารถซื้ออาหารทะเลแล้วนำมาย่างทานเองในสไตล์บาบีคิวบริเวณพื้นที่ที่จัดไว้ให้ก็ได้ เข้าสู่เว็บไซต์ >> BANDAI-NIGIWAI

niigata-45

niigata-38

niigata-35

มาถึงเมืองนิอิงะตะทั้งทีต้องไม่พลาดชิมขนมหวานขึ้นชื่อ ซะซะดังโงะ (Sasadango) ขนมดังโงะที่ห่อด้วยใบซะซะต้นเฟิร์นป่าที่มีเกิดจากภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นในอดีตที่ช่วยในเรื่องการถนอมอาหาร โดยทางร้าน Tanakaya Honten- Minato Kobo ยังมีคอร์สเวิร์คช็อปให้กับผู้ที่สนใจได้ลองห่อซะซะดังโงะด้วยตัวเองพร้อมนึ่งแล้วให้กลับไปรับประทานที่บ้านหรือเป็นของฝากได้อีกด้วย เข้าสู่เว็บไซต์ >> DANGOYA

niigata-47


เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองนิอิงะตะผ่านนิทรรศการต่างๆที่ พิพิธภัณฑ์หอประวัติศาสตร์เมืองนิอิงะตะ (Niigata City History Museum) ที่บอกเล่าประวัติความเป็นมา วิถีชีวิต การเกษตรกรรม อีกทั้งภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนในการสร้างคลองผันน้ำที่ช่วยให้เมืองก้าวข้าม ผ่านพิบัติภัยน้ำท่วม จนเหลือมาถึงภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และทางการคมนาคมขนส่ง เข้าสู่เว็บไซต์ >> NCHM

niigata-39

niigata-41

niigata-42

niigata-43

ห่างจากพิพิธภัณฑ์หอประวัติศาสตร์ไปทางด้านหลังเป็นที่ตั้งของ สะพานบันได (Bandai Bridge) สะพานข้ามแม่น้ำชินะโนะ (Shinano River) สะพานแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองนิอิงะตะ มีความยาวถึง 306.9 เมตร และมีความกว้าง 21.9 เมตร ประกอบด้วยเลนสำหรับวิ่งรถยนต์สองเลน สร้างขึ้นครั้งแรกด้วยไม้ในสมัยเมจิเมื่อราวปีค.. 1886 ได้ถูกเพลิงไหม้ในปีค.. 1908 แต่ก็พังไปเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปีค.. 1964 และได้ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 ปัจจุบันมีอายุเกือบ 90 ปีแล้ว

niigata-36


หลังจากเที่ยวกันมาทั้งวันได้เวลาเข้าพักที่โรงแรม Yukiguni No Yado Takahan Ryokan ตั้งอยู่ที่เมือง Echigo-Yuzawa เป็นโรงแรมในสไตล์ญี่ปุ่นหรือเรียวกังที่มีความเก่าแก่ มีขนาดใหญ่เพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ไม่ว่าจะเป็นห้องพักที่สะดวกสบายในสไตล์ญี่ปุ่นที่จะมีพนักงานมาบริการปูฟูกฟุตง (Futon) ให้ก่อนเข้านอน พร้อมวิวสวยของทิวเขาที่สวยงามจากระเบียงห้อง หรือจะแช่น้ำแร่อนเซ็นที่มาจากเทือกเขาที่มีส่วนผสมของซัลเฟอร์และอัลคาไลน์ค่า P.H. 9.6 ที่มีคุณสมบัติช่วยในการบำรุงผิว รักษาโรคผิวหนังและโรคเบาหวานอีกด้วย อีกทั้งยังมีมื้อค่ำแบบไคเซกิที่ใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นตามฤดูกาล เข้าสู่เว็บไซต์ >> TAKAHAN

niigata-19

ห้องพักในแบบญี่ปุ่นหลังมื้ออาหารค่ำจะมีพนักงานมาปูฟูกที่นอนฟุตงให้

niigata-20

เซทอาหารค่ำแบบไคเซกิ

niigata-21

น้ำแร่อนเซ็นที่มาจากเทือกเขา

p_01ขอบคุณภาพจาก http://www.takahan.co.jp/english.html

ลากันไปด้วยภาพสวยๆของเมืองนิอิงะตะ และรอติดตามรีวิวสุดท้ายของทริปตะลุยภาคตะวันออกด้วยรถไฟ Shinkansen กับ JR East Nagano-Niigata Area Pass จาก Tokyo ตอน 3 : เมืองกุนมะ (Gunma) กันด้วยนะครับ

niigata-18