Saga: ขับรถเที่ยวซากะ 4 วัน 3 คืน ตอน 1 : Karatsu

Story & Photo by Flying Whale l วาฬมีปีก

ซากะ 4 วัน 3 คืน (ตอนที่ 1: คาราสึ)

เมื่อได้ยินชื่อ “ซากะ” ทุกคนคงต้องนึกถึง ภาพสวยๆ ในภาพยนตร์และซีรีส์ดังมากมาย (เช่น STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ เมื่อปี 2558) ที่ใช้ ซากะ เป็นฉากหลังของเรื่อง และกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ ซากะ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่สำหรับการท่องเที่ยวแล้ว วาฬเชื่อว่า หลายคนนั้น ยังขาดข้อมูลแบบจิงจังว่า ซากะ ควรเที่ยวอย่างไร อยู่ตรงไหนของญี่ปุ่น มีอะไรให้เที่ยวบ้าง หรือ เที่ยวเองยากมั้ย ฯลฯ วันนี้ วาฬมีคำตอบให้สำหรับทุกคำถามครับ รับรองว่า ครบถ้วน และครอบคลุมมากกว่าแค่การตามรอยซีรีส์อย่างแน่นอน

ซากะ (หรือ ซะงะ) เป็นจังหวัดเล็กๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู คั่นกลางระหว่างจังหวัดใหญ่อย่าง ฟุกุโอะกะ และ นะงะซะกิ ทำให้ซากะถูกแย่งชิงความสนใจไปจากนักท่องเที่ยวและมักถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่ ในความเป็นจริงแล้ว ซากะ นั้นเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก อีกทั้ง ยังเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของตัวตนที่ชัดเจนในเรื่องความเรียบง่ายและเป็นกันเองแบบสุดๆ ใครที่ใฝ่ฝันบรรยากาศการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ หรือ ชอบเที่ยวแต่เบื่อความวุ่นวายในเมืองใหญ่แล้วล่ะก็ ห้ามพลาดรีวิวนี้ด้วยประการทั้งปวงครับผม

นอกจาก ตัวตนที่มีเอกลักษณ์แล้ว ซากะ ยังมีความพิเศษในอีกหลายด้านมากๆ เรามาดูกันดีกว่าครับ ว่ามีอะไรให้ทำกันบ้างที่ซากะ

  1. ด้านศิลปะวัฒนธรรม เข้าร่วมงานเทศกาลประจำเมือง อันน่าตื่นตาตื่นใจ ได้ตลอดทั้งปี
  2. ด้านวิถีชีวิต เพลิดเพลินไปกับ การเลือกซื้อ เครื่องปั้นดินเผา เรียนรู้วิธีชงชาเขียวแบบดั้งเดิม และสัมผัสกับบรรยากาศชนบทสไตล์ญี่ปุ่นที่แสนสงบอย่างแท้จริง
  3. ด้านอาหารการกิน ชิมวัตถุดิบชั้นเลิศอย่าง ซาชิมิหมึกอิคิสึคุริ เนื้อวัวซากะ และปูทาเคะซะกิ
  4. ด้านประวัติศาสตร์ เยี่ยมชมปราสาทและโบราณสถานอันล้ำค่ามากมาย
  5. ด้านศาสนา สักการะ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์และสัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร

ทริปนี้ วาฬเลือกเช่ารถขับ (ทางเว็บไซต์ Tocoo) เพราะ มีข้อดีคือ ช่วยให้เราเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวทุกที่ ได้อย่างสะดวก ลดเวลาเดินทาง ไม่ต้องกลัวพลาดจุดสำคัญ และเป็นอิสระจากตารางรถไฟ (ซึ่งรอบรถไฟที่นี่ ก็ไม่ได้มีถี่มากนัก อีกทั้งเส้นทางรถไฟก็ยังไม่ครอบคลุมเท่าไหร่ด้วยครับ) ยิ่งถ้าไปกันหลายคนด้วยแล้ว ถือได้ว่า เป็นวิธีการเดินทางที่ประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุดเลยครับผม

วาฬจะแบ่งเนื้อหา ออกเป็น 4 ตอน ตามวันที่เดินทางจริง (1 ตอน ต่อ 1 วัน) เพื่อให้ทุกคนสามารถติดตามได้อย่างเข้าใจง่าย ไม่ต้องสับสนกับชื่อเมืองในซากะ โดยวาฬได้เรียงลำดับสถานที่ ตั้งแต่เช้า จนถึงคํ่า ตามลำดับของระยะทางและทิศทางที่เหมาะสมไว้เรียบร้อยแล้วครับผม (วาฬเดินทางระหว่างวันที่ 6 – 10 มีนาคม ตรงกับฤดูหนาว อุณหภูมิประมาณ 9 – 14 องศา)

ตอนที่ 1: วาฬเริ่มต้นที่ เมืองคาราสึ (Karatsu) ครับ เมืองแห่งนี้ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ จังหวัดซากะ สำหรับวันแรก วาฬจะเน้นเที่ยวในตัวเมืองเป็นหลัก สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด อยู่ไม่ไกลกันมาก ไม่ต้องเดินทางข้ามเมือง ทำให้ไม่เสียเวลาไปกับเดินทางเยอะ เก็บได้หลายที่ เหมาะที่จะเป็นวันแรกของการเดินทางแบบชิลล์ๆเลยครับ

สำหรับที่เที่ยวในวันแรก มี 5 ที่หลัก ตามนี้เลยครับ
1. ป่าสนดำ นิจิ โนะ มัตสึบาระ (Niji no Matsubara)
2. คาราสึ เบอร์เกอร์ (Karatsu Burger)
3. จุดชมวิวยอดเขาคางามิ (Kagamiyama Observation)
4. ปราสาทคาราสึ (Karatsu Castle)
5. น้ำตกมิคาเอริ (Mikaeri no Taki Falls)

1. ป่าสนดำ นิจิ โนะ มัตสึบาระ (Niji no Matsubara) พิกัด

ไม่ใช่แค่ป่าสนธรรมดา เพราะ ป่าสนดำ นิจิ โนะ มัตสึบาระ จัดเป็นป่าสนดำ ขนาดใหญ่ ติดอันดับ 1 ใน 3 ของป่าสนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีความยาวตลอดริมชายฝั่งที่ติดกับอ่าวคาราสึ ถึง 4.5 กิโลเมตร เดิมทีปลูกขึ้นเพื่อกันลมมรสุมอันรุนแรงจากทะเล จนทำลายพืชพรรณการเกษตรของชาวบ้านให้ได้รับความเสียหายปัจจุบัน ป่าสนดำแห่งนี้ ยังเป็นเสมือนปอดของเมืองคาราสึ เพราะภายในเต็มไปด้วยพรรณไม้เขียวขจี ที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ยอดของต้นสนดำที่สูงใหญ่ จะมีกิ่งก้านที่โค้งเข้าหากัน และเชื่อมประสานจนกลายเป็นอุโมงค์ตามธรรมชาติ ที่นอกจากจะให้ความร่มรื่นแล้ว ยังสวยงามมากๆอีกด้วย การเที่ยวชมป่าสนดำ นิจิ โนะ มัตสึบาระ วาฬแนะนำให้เช่ารถขับ กินลม ชมวิว ชิลล์ๆ จะเป็นอะไรที่ดีงามสุดๆไปเลยครับ

2. คาราสึ เบอร์เกอร์ (Karatsu Burger) พิกัด

ภายในอุโมงค์ต้นไม้ตามธรรมชาติแห่งป่าสนดำ นิจิ โนะ มัตสึบาระ (Niji no Matsubara) ยังมีร้านแฮมเบอร์เกอร์ชื่อดังประจำเมืองคาราสึ ซ่อนตัวอยู่อย่างกลมกลืน และเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นหา “คาราสึเบอร์เกอร์” เปิดขายมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ บ่งบอกถึงความเก๋าของเทคนิคและฝีมือพ่อครัวที่สืบทอดต่อกันมา ตัวร้านเป็นรถมินิบัสคันสีขาวแดงที่ดูมีเอกลักษณ์ เมนูยอดฮิตคือ “สเปเชียลเบอร์เกอร์” (Special Burger) ที่รวมไส้ทุกอย่างใส่ไว้ด้วยกัน โดยมีทีเด็ดอยู่ที่ ซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ซึ่งเคลือบเนื้อไว้ได้อย่างชุ่มฉ่ำ รสชาติไม่ต้องพูดถึงครับ ดีงาม หอม และอร่อยลงตัวแบบสุดๆไปเลยฮะ (เปิด: 10:00 – 20:00) 

หากใครขับรถมา สามารถจอดสั่งเบอร์เกอร์ให้พนักงานมาเสิร์ฟที่รถได้เลย หรือ จะลงมานั่งกินบริเวณเก้าอี้ข้างทาง เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศของป่าสนดำแบบเต็มๆ ก็ชิลล์ไม่น้อยเลยครับ

“สเปเชียลเบอร์เกอร์” (Special Burger) รวมทุกไส้ไว้ในชิ้นเดียว เมนูเด็ดของทางร้านเลยครับ

3. จุดชมวิวยอดเขาคางามิ (Kagamiyama Observation) พิกัด

ในความเห็นของวาฬ ที่นี่คือจุดชมวิวที่ดีที่สุดของจังหวัดซะงะเลยครับ เราสามารถชื่นชมกับทัศนียภาพอันงดงามของเมืองคาราสึได้ทั้งเมือง โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ ภาพความยิ่งใหญ่ของพื้นที่ป่าสนดำ นิจิ โนะ มัตสึบาระ ที่ทอดตัวยาวถึง 4.5 กิโลเมตร ตลอดริมชายหาดติดกับอ่าวคาราสึ สีสันของป่าสนและผืนน้ำที่ตัดกันอย่างสวยงามนั้น ทำให้ได้วิวที่เต็มไปด้วยความพิเศษ และแตกต่างจากวิวเมืองอื่นๆ ที่เคยเห็นมาอย่างแน่นอน ใครที่มาถึงเมืองคาราสึแล้ว ต้องขึ้นมาชมให้ได้ครับผม

วิวป่าสนดำ นิจิ โนะ มัตสึบาระ จากมุมสูง ใหญ่โต อลังการมากๆ

ก่อนจะลงจากจุดชมวิว อย่าลืมแวะ ศาลเจ้าเล็กๆ ที่ชาวคาราสึนิยมมาขอพรเรื่องความรัก โดยเชื่อกันว่า หากคนที่กำลังจะคบกัน เอามือมาวางทาบตามรอยมือนี้แล้ว จะทำให้ความปรารถนาด้านความรักเป็นจริง ด้วยน้า

4. ปราสาทคาราสึ (Karatsu Castle) พิกัด

ปราสาทคาราสึ ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองคาราสึ ตัวปราสาทนั้น ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นอยู่บนเนินเขาเล็กๆใกล้กับอ่าวคาราสึ มีความเป็นมาเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะ แต่ได้ถูกทำลายลงในช่วงปฏิรูปเมจิ จนมีการสร้างขึ้นใหม่ใน ค.ศ. 1966 โดยถอดแบบตามโครงสร้างและสถาปัตยกรรมเดิมทั้งหมด ปัจจุบันภายในมี 5 ชั้น แต่ละชั้นจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ของเมืองคาราสึ และชั้นบนสุดยังเป็นจุดชมวิวเมืองที่สวยงามมากๆอีกด้วย หากมาเที่ยวในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคม บริเวณปราสาทจะมีซุ้มดอกวิสทีเรีย (Wisteria) ให้เดินชมและถ่ายรูปกันด้วยนะครับ (เปิด 9:00 – 17:00)

การถ่ายรูปปราสาทคาราสึให้สวย นอกจากจะถ่ายจากบริเวณตัวปราสาทในระยะใกล้แล้ว วาฬแนะนำให้ลองเดินย้อนมายังสะพานไม้ ใกล้กับลานจอดรถของปราสาท แล้วถ่ายขึ้นไปจากระยะไกล จะได้ภาพมุมกว้างที่เห็นตัวปราสาทได้อลังการกว่าครับผม (แบบเดียวกับรูปของวาฬเลยฮะ)

ปราสาทคาราสึกับดอกบ๊วย

ศาลเจ้าเล็กๆ ภายในปราสาทคาราสึ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวประมง ที่มักจะมาขอพรให้เดินทางปลอดภัยและได้ปลาเยอะๆครับผม

วิวเมืองคาราสึสวยๆ จากปราสาทคาราสึครับ

วิวแม่นํ้ามัตสึอุระ (Matsuura) จากปราสาทคาราสึ

จากท่าเรือ บริเวณปราสาทคาราสึ จะมีบริการเรือข้ามฟากไปยังเกาะ ทาคาชิมะ (Takashima) เพื่อ สักการะ ศาลเจ้า ที่ว่ากันว่า มีชื่อเสียง ในเรื่องการขอเลขเด็ด อีกด้วยนะครับ ใครมีโอกาสไปพิสูจน์แล้ว กลับมาเล่าให้วาฬฟังบ้างน้า

5. น้ำตกมิคาเอริ (Mikaeri no Taki Falls) พิกัด

น้ำตกที่สวยที่สุด ติดอันดับ 1 ใน 100 ของประเทศญี่ปุ่น มีความสูงประมาณ 20 เมตร ไฮไลท์จริงๆ อยู่ที่ ช่วงเดือนมิถุนายน นักท่องเที่ยวจะได้พบกับเทศกาลดอกไฮเดรนเยีย ที่เบ่งบานอย่างพร้อมเพรียงกัน และหลากหลายสีสัน ตลอดทางเดินไปสู่น้ำตก จนถึงบริเวณจุดชมวิวน้ำตก ดอกไฮเดรนเยียเหล่านี้ จะช่วยเติมเต็มภาพของน้ำตกมิคาเอริ ให้งดงามยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวเลยครับ

บรรยากาศของซากะ มันก็จะชิลล์ขั้นสุด ประมาณนี้แหละครับ โดยเฉพาะในตัวเมือง คาราสึ สโลว์ไลฟ์กันไปทั้งเมืองเลยฮะ

วาฬใช้บริการเช่ารถผ่านเว็บไซต์ Tocoo รูปแบบจะเหมือนการใช้ Expedia หรือ Skyscanner เลย แค่เรากำหนดวันที่ไป-กลับ และสถานที่ ก็จะมีขนาดรถ รวมไปถึงศูนย์ต่างๆ มาให้เราเลือก โดยวาฬเลือกบริการของ Budget ซึ่งจะมีรถตู้ มารับเราที่สนามบินไปยังศูนย์เช่ารถ โดยใช้เวลาแค่ 5 นาที จากสนามบินเท่านั้นเอง สะดวกๆมากเลยฮะ

รถของวาฬในทริปนี้ครับผม ใหม่แกะกล่อง ประเดิมคนแรก

ส่งท้ายกันด้วย “ซาชิมิหมึกอิคิซุคุริ” ของดีของเมืองคาราสึ แต่เรายังไม่ได้กินวันนี้นะครับ รอติดตามตอนหน้าวาฬจะพาไปบุกร้านดัง ที่ทำเมนูนี้ได้อร่อยมากๆ อย่าลืมติดตามกันให้ได้น้า

Flying WhaleKaratsuKyushuSagaคาราสึคิวชูซะงะซากะวาฬมีปีกเที่ยวคิวชูเที่ยวญี่ปุ่นเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง